ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย สูเราะฮฺที่ 68 อัลเกาะลัม  (อ่าน 4525 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺที่ 68 อัลเกาะลัม (القلم   ปากกา) R3.

    ชื่อ :  นอกจากมีชื่อว่า อัลเกาะลัม (القلم) แล้ว ซูเราะฮฺนี้ยังถูกเรียกว่า “นูน” ซึ่งมาจากอักษรตัวแรกของซูเราะฮฺอีกด้วย
    ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : ซูเราะฮฺนี้เป็นหนึ่งในบรรดาซูเราะฮฺแรก ๆ ที่ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺ เนื้อหาสาระภายในแสดงให้เห็นว่าซูเราะฮฺนี้ได้ถูกประทานลงมาในตอนที่การต่อต้านท่านรอซูลุลลอฮฺได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว
    เนื้อหาสาระ : ซูเราะฮฺนี้ประกอบด้วยเรื่องสำคัญ 3 เรื่องด้วยกัน นั่นคือ การตอบข้อคัดค้านของฝ่ายตรงข้าม การตักเตือนฝ่ายต้านและการสั่งใช้ให้ท่านรอซูลุลลอฮฺอดทน
   ในตอนแรกทีเดียว ท่านรอซูลุลลอฮฺได้ถูกบอกว่า “บรรดาผู้ไม่ศรัทธาเรียกเจ้าว่าคนบ้าในขณะที่คัมภีร์ที่เจ้านำมาและความประพฤติอันงดงามของเจ้านั้นเป็นหลักฐานเพียงพอแล้วที่จะปฏิเสธการกล่าวหาเท็จของพวกเขา ในไม่ช้า พวกเขาจะได้เห็นว่า ใครที่เป็นคนบ้า ใครที่เป็นคนดี ดังนั้นจงอย่าได้ไปใส่ใจกับสิ่งที่พวกต่อต้านนำมากล่าวหาเจ้า เพราะความจริงแล้ว ทั้งหมดที่คนพวกนี้ทำไปก็เพื่อที่จะทำให้เจ้ายอมสยบต่อพวกเขา และทำให้เจ้าหันมาประนีประนอมยอมต่อพวกเขา”
   หลังจากนั้น เพื่อที่จะทำให้คนทั่วไปได้เห็นความจริง จึงได้มีการนำลักษณะอันโดดเด่นดีงามของบุคคลหนึ่งในหมู่ผู้ต่อต้านซึ่งชาวมักกะฮฺรู้ดีว่าเป็นใครขึ้นมาแสดงให้เห็นโดยไม่เอ่ยชื่อ ในตอนนั้นพวกเขาได้เห็นความประพฤติอันบริสุทธิ์และสวยงามของท่านรอซูลุลลอฮฺต่อหน้าแล้ว และทุกคนก็สามารถเห็นด้วยว่าพวกหัวหน้าชาวมักกะฮฺที่ต่อต้านท่านนั้นมีลักษณะและศีลธรรมเช่นใด
   หลังจากนั้น ในอายะฮฺที่ 17 – 33 ได้มีการยกอุทาหรณ์เรื่องของเจ้าของสวนที่อัลลอฮฺได้ประทานความโปรดปรานให้แล้วต่อมาได้เนรคุณต่อพระองค์และไม่ใส่ใจต่อคำตักเตือนของคนที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขา ผลที่ตามมาก็คือ เจ้าของสวนเหล่านั้นไม่ได้รับความโปรดปรานอีก และพวกเขาก็มาตระหนักได้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีอยู่ ได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว โดยการใช้เรื่องราวดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ ชาวมักกะฮฺได้ถูกเตือนว่า “ชาวมักกะฮฺเอ๋ย การมีนบีคนหนึ่งอยู่ในหมู่สูเจ้านั้น สูเจ้าได้ถูกทดสอบเช่นเดียวกับที่เจ้าของสวนผู้นั้นถูกทดสอบ ถ้าหากสูเจ้าไม่ฟังเขา สูเจ้าก็จะได้รับการลงโทษในโลกนี้ และการลงโทษในโลกหน้านั้นรุนแรงยิ่งกว่ามากมาย”
   หลังจากนั้น ในอายะฮฺที่ 34 – 47 บรรดาผู้ปฏิเสธได้ถูกตักเตือนด้วยคำพูดที่บางครั้งก็พุ่งตรงไปยังพวกเขา และบางครั้งพวกเขาก็ได้ถูกตักเตือนผ่านทางท่านรอซูลุลลอฮฺ คำสรุปของสิ่งที่ได้กล่าวไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ : บรรดาผู้ใช้ชีวิตของพวกเขาในโลกนี้ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าจะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีในโลกหน้าอย่างแน่นอน การที่บ่าวผู้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าจะได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกับผู้ทำผิดนั้นเป็นเรื่องที่ขัดกับเหตุผล เป็นไปไม่ได้เลยที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะเข้าใจผิดคิดว่า อัลลอฮฺจะปฏิบัติต่อพวกเขาในลักษณะที่พวกเขาต้องการ ในขณะที่พวกเขาไม่มีหลักประกันอันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ บรรดาผู้ที่ถูกเรียกร้องเชิญชวนให้ก้มกราบต่ออัลลอฮฺในโลกและพวกเขาปฏิเสธนั้น จะไม่มีวันค้อมหัวตัวเองได้ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ถึงแม่พวกเขาต้องการจะทำก็ตาม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องยืนรับความอัปยศและการถูกสาปแช่งอยู่เช่นนั้น การปฏิเสธกุรอานทำให้พวกเขาไม่สามารถรอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺ อำนาจที่พวกเขาได้รับนั้นได้หลอกลวงพวกเขา พวกเขาคิดว่าเนื่องจากพวกเขาจะไม่ถูกลงโทษถึงแม้ว่าจะปฏิเสธศรัทธาก็ตาม พวกเขาจะต้องอยู่บนหนทางซึ่งเที่ยงตรงในขณะที่พวกเขากำลังปฏิบัติตามทางแห่งความหายนะ พวกเขาไม่มีเหตุผลที่กินกับสติปัญญาใด ๆ มาคัดค้านท่านรอซูลุลลอฮฺ เพราะท่านเป็นผู้เผยแผ่สัจธรรมโดยไม่หวังผลประโยชน์ใด ๆ ท่านไม่ได้ขอสิ่งตอบแทนใด ๆ จากพวกเขาเพื่อตัวท่านเอง และพวกเขาไม่สามารถที่จะมาอ้างว่า พวกเขารู้แน่ชัดว่าท่านไม่ใช่รอซูลที่แท้จริง และก็ไม่สามารถที่จะมาอ้างว่าสิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องเท็จ
   กล่าวโดยสรุปก็คือ ท่านรอซูลุลลอฮฺได้ถูกกำชับว่า “จงอดทนต่อสิ่งที่เจ้ากำลังเผชิญในการเผยแผ่หลักศรัทธาจนกว่าการตัดสินของอัลลอฮฺจะมาถึง และจงหลีกเลี่ยงการไม่อดทนที่เป็นสาเหตุทำให้นบียูนุสเคยได้รับความเดือดร้อนมาแล้ว”


-----------------------------------------------------------------

เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)

--------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 1 – 6


   
คำอ่าน
1. นูน วัลเกาะละมิวะมายัสฏุรูน
2. มา..อัน..ตะบิเนียะอฺมะติร็อบบิกะบิมัจญนูน
3. วะอิน..นะละกะละอัจญร็อน ฆ็อยเราะมัมนูน
4. วะอิน..นะกะ ละอะลาคุลุกินอะซีม
5. ฟะสะตุบศิรุวะยุบศิรูน
6. บิอัยยิกุมุลมัฟตูน

คำแปล R1.
1. N'un. [These letters (Nun, etc.) are one of the miracles of the Qur'an, and none but Allah (Alone) knows their meanings].
2. You (O Muhammad) are not, by the Grace of your Lord, a madman.
3. And verily, for you (O Muhammad) will be an endless reward.
4. And verily, you (O Muhammad) are on an exalted standard of character.
5. You will see, and they will see,
6. Which of you is afflicted with madness?


คำแปล R2.
1. นูน ขอยืนยันกับปากกาและสิ่งที่เขาเขียนขึ้น
2. เจ้านั้นหาใช่ผู้วิกลจริต (ดังที่พวกเขากล่าวหา) ไม่ โดยความโปรดปรานแห่งองค์อภิบาลของเจ้า
3. และแท้จริงเจ้าได้รับรางวัลอัน (ยาวนาน) ไม่ขาดตอน
4. และแท้จริงเจ้าเป็นผู้ที่ตั้งอยู่บนจริยธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุด
5. แล้วเจ้าจะได้เห็นแล้วพวกเขาก็ได้เห็น(เหมือนกันในเร็ว ๆ นี้)
6. ว่าใครในหมู่พวกเจ้าที่ถูกภัยวิกลจริต


คำแปล R3.
1. นูน ขอสาบานด้วยปากกาและด้วยสิ่งที่บรรดาผู้เขียนกำลังเขียน
2. ด้วยความโปรดปรานของพระผู้อภิบาลของเจ้า เจ้าไม่ใช่คนบ้า
3. และแน่นอน สำหรับเจ้ามีรางวัลอันไม่สิ้นสุด
4. และแน่นอน เจ้านั้นถูกยกย่องให้มีลักษณะอันมีเกียรติสูงส่ง
5. ในไม่ช้า เจ้าจะได้เห็นเช่นเดียวกับพวกเขา
6. ว่าผู้ใดในหมู่สูเจ้าเสียสติ


คำแปล R4.
1. นูน ขอสาบานด้วยปากกา และสิ่งที่พวกเขาขีดเขียน
2. ด้วยความโปรดปรานแห่งพระเจ้าของเจ้า เจ้ามิได้เป็นผู้เสียสติ
3. และแท้จริงสำหรับเจ้านั้นมีรางวัลอย่างมิขาดสาย
4. และแท้จริง เจ้านั้นอยู่บนคุณธรรมอันยิ่งใหญ่
5. แล้วเจ้าจะได้เห็นและพวกเขาก็จะได้เห็น
6. ว่าผู้ใดในหมู่พวกเจ้าคือผู้วิกลจริต


คำแปล R5.
๑. นูน ขอสาบานด้วยปากกาและสิ่งที่พวกมลาอิกะห์เขาเขียนบันทึกผลงานของมวลมนุษยชาติทั้งหลายทั้งดีและชั่ว
๒. โอ้ มุฮำมัด เจ้านั้นมิใช่ผู้วิกลจริตตามที่ถูกใส่ไคล้จากพวกเนรคุณหรอก โดยความโปรดปรานแห่งองค์อภิบาลของเจ้า ความจริงแล้ว เจ้าคือศาสนทูตอันเที่ยงแท้จากองค์อภิบาล
๓. และแท้จริงเจ้าจะได้รับรางวัลอันไม่ขาดสายจากพระผู้ทรงอภิบาล
๔. และแท้จริงเจ้านั้นดำรงตนอยู่บนจริยธรรมอันยิ่งใหญ่ โดยได้มาจากคำสอนแห่งอัลกุรอาน
๕. ต่อไปแล้วเจ้าจะได้เห็น และพวกเขาก็จะได้เห็นเหมือนกันว่าในวันปรภพนั้นใครจะเป็นฝ่ายรอดพ้นอันตรายกันแน่
๖. ผู้ใดในพวกเจ้ากันแน่ที่ถูกวิกฤติกาลแห่งความวิกลจริตนั้น เจ้าหรือพวกนั้น



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 7 – 13

คำอ่าน
7. อิน..นะร็อบบะกะ ฮุวะอะอฺละมุบิมัน..ฎ็อลละอัน..สะบีลิฮี วะฮุวะ อะอฺละมุบิลมุฮฺตะดีน
8. ฟะลาตุฎิอิลมุกัซซิบีน
9. วัดดูเลาตุดฮินุ ฟะยุดฮินูน
10. วะลาตุเฏียะอฺกุลละหัลลาฟิม..มะฮีน
11. ฮัม..มาซิม..มัชชาอิม..บินะมีม
12. มัน..นาอิลลิลค็อยริมัวะอฺตะดินอะษีม
13. อุตุลลิม..บะอฺดะซาลิกะซะนีม

คำแปล R1.
7. Verily, your Lord knows better, who (among men) has gone astray from his path, and He knows better those who are guided.
8. So (O Muhammad) obey not the deniers [(of Islamic Monotheism those who belie the Verses of Allah), the Oneness of Allah, and the Messenger of Allah (Muhammad), etc.]
9. They wish that you should compromise (in Religion out of courtesy) with them, so they (too) would compromise with you.
10. And obey not everyone who swears much, and is considered worthless,
11. A slanderer, going about with calumnies,
12. Hinderer of the good, transgressor, sinful,
13. Cruel, after All that base-born (of illegitimate birth),


คำแปล R2.
7. แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้า พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งนักว่า ใครที่หลงออกไปจากทางของพระองค์ และพระองค์ทรงรอบรู้ถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางชี้นำ
8. ดังนั้นเจ้าจงอย่าเชื่อฟังจำพวกที่ว่า (ศาสดาของอัลเลาะฮฺ) เป็นผู้มุสา
9. พวกเขารู้สึกชอบใจหากเจ้าโอนอ่อน (คล้อยตามอารมณ์ของพวกเขา) แล้วพวกเขาก็จะโอนอ่อน (ต่อเจ้าอย่างเสแสร้ง)
10. และเจ้าจงอย่าเชื่อฟังบรรดาผู้ชอบสาบานที่มีแต่ความอัปยศ
11. ผู้ชอบประจาน ผู้ชอบยุแหย่
12. ผู้ชอบห้ามทำความดี ผู้ชอบละเมิด ผู้ชอบทำบาป
13. ผู้หยาบคาย ยิ่งกว่านั้น เป็นผู้ที่ไร้พวก (ไม่มีใครอยากรับเป็นพวกด้วยความรังเกียจ)


คำแปล R3.
7. แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นทรงรู้ดีที่สุดถึงบรรดาผู้หลงไปจากทางของพระองค์ และทรงรู้ดีที่สุดถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในหนทางที่ถูกต้อง
8. ดังนั้น จงอย่าได้ไปปฏิบัติตามพวกปฏิเสธความจริง
9. ความจริงแล้วพวกเขาต้องการให้เจ้าโอนอ่อนผ่อนตามลงมาสักเล็กน้อย แล้วพวกเขาก็จะยอมโอนอ่อนผ่อนตาม
10. จงอย่าปฏิบัติตามผู้ชอบสบถสาบานที่ต่ำช้า
11. ผู้นินทาและกล่าวร้ายผู้อื่น
12. ผู้ขัดขวางความดีและผู้ฝ่าฝืน
13. ผู้ชั่วช้าหยาบคายและผู้กดขี่ และเหนืออื่นใดเป็นผู้ต่ำช้าโดยกำเนิด


คำแปล R4.
7. แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้นพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่หลงจากทางของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง
8. ดังนั้นเจ้าอย่าได้ปฏิบัติตามบรรดาผู้ปฏิเสธเลย
9. พวกเขาใคร่ที่จะเห็นว่า หากเจ้าอ่อนข้อ แล้วพวกเขาก็จะอ่อนข้อตาม
10. และเจ้าอย่าปฏิบัติตามทุกคนที่เป็นนักสาบานที่ต่ำช้า
11. ผู้นินทาตระเวนใส่ร้ายผู้อื่น
12. ผู้ขัดขวางการทำความดี ผู้อธรรมทำร้ายบาปหนา
13. เป็นคนหยาบคายเลวทราม ยิ่งกว่านั้นยังเป็นคนต่ำช้าแปลกปลอม


คำแปล R5.
๗. แท้จริงพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้า พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งเกี่ยวกับบุคคลที่ได้หลงไปจากแนวทางของพระองค์และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งเกี่ยวกับบรรดาปวงชนที่ได้รับทางชี้นำ คือทางแห่งอัลอิสลาม
๘. ดังนั้นเจ้าจงอย่าเชื่อฟังพวกเนรคุณที่ใส่ไคล้ความเท็จแก่ศาสนาอิสลาม
๙. พวกเขาดีใจยิ่งนักหาดพวกเจ้ายอมโอนอ่อนต่อพวกเขา พวกเขาก็จะโอนอ่อนต่อเจ้า โดยไม่ตำหนิและขัดขวางการทำงานเผยแพร่ของเจ้า
๑๐. และเจ้าอย่าเชื่อฟังทุกคนที่ชอบสาบานในเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญ
๑๑. ที่ชอบนินทา อีกทั้งชอบยุแหย่
๑๒. ที่ชอบห้ามความดีงาม มิให้ผู้คนสนใจกระทำ อีกทั้งล่วงละเมิดและชอบทำความผิด
๑๓. ที่มีจิตใจอันหยาบกระด้าง ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นลูกที่ไม่ปรากฏบิดาที่แน่นอน บุคคลดังกล่าวได้แก่ อัลวะลีด บิน มุฆีเราะห์ หรือ อะบูยะฮัล ซึ่งในยามเยาว์วัย บิดาไม่ยอมรับเป็นบุตร จนอายุประมาณ สิบแปดปีจึงยอมรับ




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 14 – 16

คำอ่าน
14. อัน..กานะซามาลิว..วะบะนีน
15. อิซาตุดลาอะลัยฮิอายาตุนา กอละอะสาฏีรุลเอาวะลีน
16. สะนะสิมุฮู อะลัลคุรฺฏูม

คำแปล R1.
14. (He was so) because he had wealth and children.
15. When Our Verses (of the Qur'an) are recited to him, he says: "Tales of the men of old!"
16. We shall brand him over the nose!


คำแปล R2.
14. เป็นเพราะเขาเป็นผู้มีทรัพย์อันมั่งคั่งและบุตรบริวารกระนั้นหรือ ? (จึงได้กล่าวตำหนิและใส่ร้ายศาสนาของเรา)
15. และเมื่อบรรดาโองการของเราได้ถูกอ่านแก่เขา เขาก็กล่าวว่า นี้เป็นนิยายปรัมปราของบรรพชน
16. (คนที่มีลักษณะตามที่กล่าวมานั้น) เราจะประทับเครื่องหมาย (แห่งความอัปยศ) แก่เขาไว้บนงวง (คือจมูก) ของเขา


คำแปล R3.
14. เพียงเพราะว่าพวกเขามั่งคั่ง มีทรัพย์สินและมีลูกมาก
15. เมื่ออายะฮฺของเราได้ถูกอ่านให้เขาฟัง เขากล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องปรัมปรามาตั้งแต่โบราร”
16. ในไม่ช้า เราจะตีตราเขาบนปลายจมูก


คำแปล R4.
14. โดยถือว่าเขาเป็นผู้มีทรัพย์สินและมีบุตรหลานมาก
15. เมื่ออายาต (อัลกุรอาน) ทั้งหลายของเราถูกสาธยายแก่เขา เขากล่าวว่าเป็นนิยายเหลวไหลสมัยก่อน
16. เราจะตีตราเขาบนปลายจมูก


คำแปล R5.
๑๔. โดยแท้จริงเขาเป็นผู้มีทรัพย์สินมั่งคั่งและมีบรรดาบุตร บริวารมากมาย
๑๕. เมื่อบรรดาโองการของเราถูกอ่านให้เขาฟัง เขาก็กล่าวว่า เป็นนิยายปรัมปราของบรรพชน
๑๖. คนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาแล้วนั้น ต่อไปเราจะทำเครื่องหมายแก่เขาไว้บนงวงจมูก ให้ประสบความอัปยศไปจนตลอดชีวิต ซึ่งปรากฏว่าสงครามบะดัรบุคคลดังกล่าวนั้นถูกเฉือนดั้งจมูกจนปรากฏเป็นแผลเป็นไปจนตาย



ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
ความรู้ทั้งนั้น...อ่านกันจนตาแฉะหมดล๊ะ...
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 17 – 20

คำอ่าน
17. อิน..นาบะเลานาฮุม กะมาบะเลานา..อัศหาบัลญัน..นะติ อิซอักสะมู ละยัศริมุน..นะฮา มุศบิหีน
18. วะลายัสตัษนูน
19. ฟะฏอฟะอะลัยฮา ฏอ...อิฟุม..มิรฺร็อบบิกะ วะฮุมนา...อิมูน
20. ฟะอัศบะหัต กัศเศาะรีม

คำแปล R1.
17. Verily, we have tried them as we tried the people of the garden, when they swore to pluck the fruits of the (garden) in the morning,
18. Without saying: Insha' Allah (if Allah will).
19. Then there passed by on the (garden) something (fire) from your Lord at night and burnt it while they were asleep.
20. So the (garden) became black by the morning, like a pitch dark night (in complete ruins).


คำแปล R2.
17. แท้จริง เราทดสอบพวกเขา เหมือนเช่นที่เราได้ทดสอบบรรดาชาวสวน เมื่อพวกเขาได้สาบานว่า พวกเขาจะเก็บผลไม้ของสวนนั้นในยามเช้า
18. โดยพวกเขาไม่เผื่อการยกเว้น (ตามความประสงค์ของอัลเลาะฮฺเลย)
19. ดังนั้น จึงมีภัยพิบัติหนึ่งจากองค์อภิบาลของเจ้าได้วานเวียนบนสวนนั้น โดยพวกเขากำลังนอนหลับ
20. แล้วสวนนั้นก็แปรสภาพประดุจดังสวนที่ถูกเก็บผลผลิตไปแล้ว (ไม่เหลือไว้เลย)


คำแปล R3.
17. เราได้ทดสอบพวกเขา (ชาวมักกะฮฺ) เช่นเดียวกับที่เราได้ทดสอบเจ้าของสวนแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาสาบานว่าจะเก็บผลไม้ในสวนของพวกเขาในตอนเช้า
18. และพวกเขาไม่ได้มีข้อยกเว้นใด ๆ ไว้
19. ดังนั้น ในขณะที่พวกเขาหลับในตอนกลางคืน หายนะภัยจากพระผู้อภิบาลของเจ้าก็ได้มาทำลายสวนนั้น
20. จนเหมือนกับได้ถูกเก็บเกี่ยวไปเรียบร้อยแล้ว


คำแปล R4.
17. แท้จริงเราได้ทดสอบพวกเขา ดั่งเช่นที่เราได้ทดสอบบรรดาเจ้าของสวน เมื่อพวกเขาสาบานว่าจะเก็บเกี่ยวผลของมันในยามรุ่ง
18. และพวกเขามิได้กล่าวคำว่า “อินชาอัลลอฮฺ”
19. ดังนั้น การลงโทษจากพระเจ้าของเจ้าก็ได้มาทำลายสวนนั้น ขณะที่พวกเขากำลังนอนหลับอยู่
20. ครั้นในตอนเช้า มันก็กลายเป็นเช่นถูกตัดอย่างราบเรียบ


คำแปล R5.
๑๗. แท้จริงเราได้ทำการทดสอบพวกเขาประดุจเดียวกับที่เราได้ทดสอบบรรดาเจ้าของสวนเมื่อพวกเขาได้สาบานว่าพวกเขาจะลอบเก็บผลไม้ของมันในเวลาเช้า เพื่อป้องกันมิให้คนยากจนรู้เห็นจะได้ไม่ต้องถูกขอโดยคนยากจนเหล่านั้น และเป็นการหลบหลีกมิต้องบริจาคผลเหล่านั้นแก่คนจน เหมือนเช่นบิดาของเขาเคยกระทำมาเป็นประเพณี
๑๘. และพวกเหล่านั้นไม่คัดออกในคำสาบานของเขาด้วยคำกล่าวว่า “อินซาอัลเลาะห์” หากอัลเลาะห์ทรงประสงค์
๑๙. ดังนั้นจึงได้มีการลงโทษอย่างหนึ่งจากพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้ามาห้อมล้อมสวนนั้นไว้ คือมีไฟลงมาเผาผลาญสวนจนมอดไหม้หมดสิ้นขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่
๒๐. แล้วมันก็กลายเป็นสวนที่หมดพืชและถูกเผาผลาญมองดูดำทะมึนประดุจกลางคืน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 21 – 27

คำอ่าน
21. ฟะตะนาเดามุศบิหีน
22. อะนิฆดูอะลาหัรฺษิกุม อิน..กุน..ตุมศอริมีน
23. ฟัน..เฏาะละกู วะฮุม ยะตะคอฟะตูน
24. อัลลายัดคุลัน..นะฮัลเยามะอะลัยกุม..มิสกีน
25. วะเฆาะเดาอะลาหัรฺดิน..กอดิรีน
26. ฟะลัม..มาเราะเอาฮา กอลู..อิน..นาละฏอ...ลลูน
27. บัลนะหฺนุ มะหฺรูมูน

คำแปล R1.
21. Then they called out one to another as soon as the morning broke,
22. Saying: "Go to your tilth in the morning, if you would pluck the fruits."
23. So they departed, conversing in secret low tones (saying),
24. No Miskin (poor man) shall enter upon you into it today.
25. And they went in the morning with strong intention, thinking that they have power (to prevent the poor taking anything of the fruits therefrom).
26. But when they saw the (garden), they said: "Verily, we have gone astray,"
27. (Then they said): "Nay! Indeed we are deprived of (the fruits)!"


คำแปล R2.
21. ครั้นแล้วพวกเขา (ชาวสวนเหล่านั้น)ต่างก็เพรียกหาซึ่งกันและกัน (อย่างสุดระทม)  เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ (อันเป็นเวลาที่พวกเขาตั้งใจจะเก็บเกี่ยวผลผลิต
22. (บางคนในพวกเขาพูดว่า)  "พวกท่านจงไปที่ไร่นาของพวกท่านแต่เช้าเถิด หากพวกท่านต้องการจะเก็บผลผลิต"
23. แล้วพวกเขาก็ออกไป พร้อมกับพวกเขากระซิบกระซาบกันว่า
24. "ในวันนี้ขออย่าให้มีผู้อนาถาคนใดเข้าไปพบพวกท่านในสวนนั้นเลย (เพื่อจะได้ไม่ต้องแบ่งปันผลผลิตแก่เขา)"
25. และพวกเขาได้ไปแต่เช้า โดยพวกเขา (คิดว่า) เป็นผู้สามารถที่จะ (เข้าไปอย่าง) โดดเดี่ยว (ไม่พบกับคนอนาถาคนใด
26. ครั้นเมื่อพวกเขาได้มองเห็นสวนนั้น พวกเขาก็รำพึงว่า "แท้จริงพวกเราเป็นผู้หลงทางเสียแล้ว"
27. (แต่เมื่อเขาหยุดคิดจนมั่นใจว่า สวนนี้เป็นของเขา เขาก็พูดต่อไปว่า) "(มิใช่หลงทางหรอก)หากทว่า พวกเราเป็นพวกที่ถูกห้าม (ขากอัลเลาะฮฺมิให้ได้รับผลของมัน)"

 
คำแปล R3.
21. ในตอนเช้า พวกเขาต่างพากันร้องตะโกนต่อกันว่า
22. “ไปยังที่เพาะปลูก ของพวกท่านโดยเร็วถ้าหากพวกท่านต้องการจะเก็บผลไม้”
23. ดังนั้นพวกเขาจึงพากันออกไปและต่างกระซิบกันว่า
24. “อย่าให้พวกคนยากจนเข้าไปในสวนวันนี้”
25. พวกเขาได้เร่งรีบออกไปแต่เช้า โดยตั้งใจว่า ไม่ให้มีสิ่งใดเหมือนกับว่าพวกเขามีอำนาจ (ที่จะเก็บผลไม้)
26. ในเมื่อพวกเขาเห็นสวน พวกเขาได้กล่าวว่า “เราหลงทางแล้ว
27. เปล่าเลย พวกเราหมดสิทธิ์แล้วต่างหาก”


คำแปล R4.
21. ดังนั้นพวกเขาจึงกู่ตะโกนให้ตื่นแต่เช้าตรู่
22. จงเข้าไปในสวนของพวกท่านในตอนเช้าตรู่เถิด หากพวกท่านต้องการจะเก็บผลไม้
23. แล้วพวกเขาพากันออกไป แล้วพวกเขาพูดกระซิบซึ่งกันและกันอย่างเบา ๆ
24. ว่า วันนี้อย่าได้ให้คนยากจนขัดสนสักคนหนึ่ง เข้าไปหาพวกท่านในสวนนั้น
25. และพวกเขาก็ได้ออกไปแต่เช้า ตั้งใจว่าจะเก็บผลไม้ให้หมดก่อนที่ยากจนจะเข้าไปในสวน
26. ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นสวน (อยู่ในสภาพที่ถูกทำลาย) พวกเขาก็กล่าวขึ้นว่าแท้จริงพวกเราหลงทางเสียแล้ว
27. (บางคนกล่าวว่า) เปล่าดอก พวกเราถูกหวงห้ามสิทธิ์เสียแล้ว


คำแปล R5.
๒๑. จากนั้นพวกเขาก็เรียกชวนกันในยามเช้า ที่พวกเขาตั้งใจจะออกไปเก็บผลของสวนซึ่งกลายเป็นเถ้าถ่านดำมืดหมดแล้ว
๒๒. โดยมีบางคนพูดว่า พวกท่านจงไปยังไร่ของพวกเราในยามเช้าเถิด หากพวกท่านเป็นผู้มุ่งเก็บผลของมันจริง
๒๓. แล้วพวกเขาทั้งหมดก็ออกไปเพื่อเก็บผลของสวนดังกล่าว โดยพวกเขาต่างซุบซิบกันว่า
๒๔. ในวันนี้ขออย่าให้คนอนาถาได้เข้ามาในสวนเพื่อพบพวกท่าน ขอแบ่งผลอินทผลัม
๒๕. และพวกเขาได้ออกไปแต่เช้า โดยมุ่งที่จะใช้อำนาจ โดยเชื่อว่าสามารถจะหนีเร้นจากพวกคนอนาถาดังกล่าวเหล่านั้นได้
๒๖. ครั้นเมื่อพวกเขาได้มองเห็นมัน มีสภาพถูกทำลายย่อยยับ เหลือเป็นเถ้าถ่านเช่นนั้น พวกเขาก็กล่าวว่าแท้จริงพวกเราล้วนเป็นพวกหลงทางทั้งสิ้น เพราะสวนนี้มิใช่สวนของเรา
๒๗. แต่ความเป็นจริงพวกเราเป็นพวกที่ถูกหวงห้ามมิให้ได้รับผลจากการเพาะปลูกของเราเองจากสวนนั้น เพราะเราคิดหวงห้ามต่อพวกคนยากจนเหล่านั้น


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 28 – 33

คำอ่าน
28.  กอละเอาสะฏุฮุม อะลัมอะกุลละกุม เลาลาตุสับบิหูน
29. กอลู สุบหานะร็อบบินา..อิน..นากุน..นาซอลิมีน
30. ฟะอักบะละบะอฺฎุฮุม อะลาบะอี..ยะตะลาวะมูน
31. กอลูยาวัยละนา..อิน..นากุน..นาฏอฆีน
32. อะสาร็อบบุนา..อัย..ยุบดิละนา ค็อยร็อม..มินฮา..อิน..นา..อิลาร็อบบินารอฆิบูน
33. กะซาลิกัลอะซาบ, วะละอะซาบุลอาคิเราะติอักบัรฺ, เลากานูยะอฺละมูน

คำแปล R1.
28. The best among them said: "Did I not tell you: why do you not say: Insha' Allah (if Allah Will)."
29. They said: "Glory to our Lord! Verily, we have been Zalimun (wrong-doers, etc.)."
30. Then they turned, one against another, in blaming.
31. They said: "Woe to us! Verily, we were Taghun (transgressors and disobedient, etc.)
32. We hope that our Lord will give us in exchange a better (garden) than this. Truly, we turn to our Lord (wishing for good that He may forgive our sins, and reward us in the hereafter)."
33. Such is the punishment (in this life), but truly, the punishment of the hereafter is greater, if they but knew.

คำแปล R2.
28. ผู้ทรงคุณธรรมของพวกนั้นพูดแก่พวกเขาว่า “ก็ฉันมิได้บอกแก่พวกท่านไว้แล้วดอกหรือ (เมื่อพวกท่านคิดหวงห้ามไม่ยอมแบ่งส่วนให้แก่คนอนาถา) ว่า “ไฉนพวกท่านจึงไม่สดุดีความบริสุทธิ์ (แด่อัลเลาะฮฺ)
29. พวกนั้นจึงกล่าวว่า “องค์อภิบาลของเราทรงบริสุทธิ์โดยแท้ อันที่จริงพวกเราเป็นพวกฉ้อฉล”
30. จากนั้นพวกเขาต่างหันมาประณามซึ่งกันและกัน
31. พวกนั้นพูดว่า โอ้ ความหายนะของเรา แท้จริงพวกเรานี้ล้วนเป็นพวกที่ละเมิด (คำสอนพระเจ้าทั้งสิ้น)”
32. หวังว่าองค์อภิบาลของเราคงจะเปลี่ยนแปลงสวนที่ดีกว่านั้นแก่เราเป็นแน่ แท้จริงพวกเราต่างก็มุ่งแสวงหาต่อพระองค์
33. เช่นนั้นแหละคือการลงโทษทัณฑ์ (ในโลกนี้) และการลงโทษทัณฑ์ในโลกหน้านั้นย่อมยิ่งใหญ่กว่า หากแม้นพวกเขารู้


คำแปล R3.
28. ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่ของพวกเขาคนหนึ่งกล่าวว่า “ฉันไม่ได้บอกพวกท่านหรือว่าทำไมพวกท่านไม่สดุดีอัลลอฮฺ?”
29. พวกเขาจึงกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริงเราเป็นผู้อธรรม”
30. แล้วพวกเขาก็หันไปตำหนิต่อกันและกัน
31. ในที่สุดพวกเขาได้กล่าวว่า “วิบัติแล้วเรา แท้จริงพวกเราเป็นผู้ฝ่าฝืน
32. บางทีอาจเป็นการดีที่พระผู้อภิบาลของเราจะให้สวนที่ดีกว่านี้แก่เรา แท้จริงเราจะกลับไปหาพระผู้อภิบาลของเรา”
33. นั่นเป็นการลงโทษ และการลงโทษแห่งโลกหน้านั้นยิ่งใหญ่กว่ามากนักหากพวกเขารู้

คำแปล R4.
28. คนที่มีสติปัญญาคนหนึ่งในหมู่พวกเขากล่าวว่า ฉันมิได้บอกพวกท่านดอกหรือว่า ทำไม่พวกท่านจึงไม่กล่าวสดุดีแด่อัลลอฮฺ
29. พวกเขาจึงกล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้าของเรา แท้จริงเรานั้นเป็นผู้อธรรม
30. แล้วบางคนในหมู่พวกเขาก็หันไปต่อว่าซึ่งกันแล้วกัน
31. พวกเขากล่าวว่าความหายนะประสบแก่เราแล้วเพราะเราเป็นผู้ละเมิดฝ่าฝืน
32. บางทีพระเจ้าของเรา จะทรงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีกว่าให้แก่เรา แท้จริงเราหวังในความอภัยต่อพระเจ้าของเรา
33. เช่นนั้นแหละการลงโทษ และแน่นอนการลงโทษในปรโลกนั้นยิ่งใหญ่นัก หากพวกเขาล่วงรู้

(นักตัฟซีรฺกล่าวว่า “มีชายมุสลิมคนหนึ่งพำนักอยู่ใกล้เมืองศ็อนอาอ์ นครหลวงของประเทศเยเมนชายคนนั้นมีสวนแปลงหนึ่งที่เต็มไปด้วยอินทผลัม พืชพันธุ์และผลไม้นานาชนิด เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวเขาจะเรียกคนยากจนขัดสนให้มารับส่วนแบ่งของพวกเขา อย่างครบสมบูรณ์พร้อมกับเลี้ยงดูให้เกียรติแก่พวกเขาอย่างเต็มที่ ครั้นเมื่อ เจ้าของสวนแห่งนี้ได้ตายไปลูกชายสามคนก็ได้รับมรดกจากบิดาของพวกเขา ชายสามคนซึ่งเป็นเจ้าของสวนแปลงนั้นได้กล่าวขึ้นว่า บัดนี้เรามีลูกหลานมากมาย ทรัพย์สินที่เรามีอยู่ก็น้อย เราไม่สามารถที่จะแบ่งสวนของพวกยากจนขัดสนเช่นที่บิดาของเราได้กระทำไปแล้ว เขาก็ได้ปรึกษาหารือกันและตกลงที่จะไม่แบ่งส่วนให้แก่คนยากจนขัดสน และตกลงที่จะเก็บเกี่ยวพืชผลในเวลาเช้าตรู่เพื่อมิให้ใครได้รู้เห็นและพวก เขาก็ได้สบถสาบานที่จะกระทำเช่นนั้นในเวลากลางคืน อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ส่งไฟเข้าไปเผาผลาญสวนของพวกเขา ต้นอินทผลัม พืชพันธุ์และผลไม้ได้ถูกเผาผลาญอย่างราบเรียบ รุ่งเช้าพวกเขาได้ออกไปยังสวนของพวกเขา เมื่อเดินเข้าไปพวกเขาไม่พบอะไรเลย ก็คิดกันว่าคงเดินผิดทางเสียแล้ว ต่อมาก็เป็นที่ประจักษ์ว่าพวกเขากำลังเดินอยู่ในสวนของพวกเขาและตระหนักกันว่า อัลลอฮฺตะอาลา ทรงลงโทษพวกเขา เพราะพวกเขา เจตนาอันชั่วช้าของพวกเขา พวกเขาจึงเสียใจและขออภัยโทษกลับเนื้อกลับตัวหลังจากความพินาศได้ประสบแก่ พวกเขาแล้ว ตั้งแต่อายะฮฺที่ 17 ถึง33 คือเรื่องของชาวสวนที่ได้เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงทดสอบพวกเขาด้วยการให้นิอฺมะฮฺอย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องด้วยพวกเขาไม่ขอบคุณพระองค์ด้วยการแบ่งสรรปันส่วนให้แก่คนยากจนขัดสน พระองค์จึงทรงลงโทษพวกเขาอย่างทันตาเห็นและพวกเขาก็ขออภัยโทษสำนึกผิดของพวกเขา แต่หลังจากได้สูญเสียนิอฺมะฮฺไปหมดสิ้นแล้ว อัลลอฮฺตะอาลาทรงนำเรื่องของชาวสวนมากล่าวไว้ เพื่อเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์แก่พวกกุฟฟารกุเรช หวังว่าพวกเขาคงจะสำนึกผิดและขออภัยโทษ เช่นเดียวกับที่ชาวสวนได้กระทำมาแล้ว การลงโทษเช่นนี้ ซึ่งได้ประสบแก่ชาวสวนจะประสบแก่พวกกุเรช และแน่นอนการลงโทษในปรโลกจะยิ่งใหญ่และรุนแรงยิ่งกว่าการลงโทษในโลกนี้ หากพวกเขารู้และเข้าใจ อิบนฺอับบาสกล่าวว่า อุทาหรณ์นี้สำหรับชาวมักกะฮฺ ขณะที่พวกเขาออกไปทำสงครามบัดรฺ พวกเขาสาบานว่าจะไม่กลับสู่นครมักกะฮฺจนกว่า พวกเขาจะฆ่ามุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรดาสาวก ขณะที่พวกเขาออกไปพวกเขาก็ดื่มเหล้าร้องรำทำเพลง โดยมีนักร้องหญิงร่วมไปด้วย อัลลอฮฺตะอาลา ทรงทำให้พวกเขาผิดหวัง คือพวกเขาถูกฆ่าและถูกจับเป็นเชลย ในที่สุดก็ประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศ เช่นเดียวกับชาวสวนที่ออกไปในสวนโดยตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเก็บเกี่ยวพืชผล ในสวนของพวกเขา แล้วพวกเขาก็ผิดหวัง)

คำแปล R5.
๒๘. ได้มีผู้ทรงคุณธรรมที่สุดในหมู่พวกเขาพูดว่า ก็ข้ามิได้บอกกับพวกท่านแล้วหรือว่า พวกท่านอย่าหวงห้ามต่อบรรดาคนยากจน ไฉนเล่าพวกท่านจึงไม่ขอลุแก่โทษต่ออัลเลาะห์ ให้ทรงนิรโทษแก่พวกท่านเสีย เนื่องจากที่ท่านคิดร้ายต่อคนยากจน
๒๙. พวกเขาจึงกล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แห่งพระผู้ทรงอภิบาลของเรา แท้จริงพวกเรานี้ล้วนเป็นพวกที่ฉ้อฉลทั้งสิ้น
๓๐. จากนั้นพวกเขาต่างคนต่างก็หันเข้าหากันเพื่อประณามกันเอง และซัดทอดความผิดแก่กันและกัน ซึ่งเป็นธรรมดาของคนที่รู้ว่าตัวเองได้ทำผิดไปแล้ว
๓๑. พวกเขากล่าวว่า โอ้ความพินาศของเรา แท้จริงพวกเราล้วนเป็นผู้ทุจริตในสิทธิอันชอบธรรมของคนยากจน
๓๒. หวังว่าพระผู้ทรงอภิบาลของเราคงจะเปลี่ยนสวนที่ดีกว่านั้นแทนให้แก่พวกเรา แท้จริงพวกเราขอมุ่งหวังในพระผู้ทรงอภิบาลแก่พวกเรา
๓๓. เช่นนั้นแหละ คือการลงโทษที่จักประสบแก่ทุก ๆ ผู้ที่ทำผิดบทบัญญัติของอัลเลาะห์ และแท้จริงการลงโทษในวันปรภพจะยิ่งใหญ่กว่าการลงโทษในโลกนี้มากมายนัก หากแม้นพวกเขารู้



ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
แวะเข้ามาอ่าน ก่อนเข้านอน...
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
แวะเข้ามาอ่าน ก่อนเข้านอน...

ตีห้านี่นะ
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio

ตีห้าประเทศไหนละ

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มุฟตี อยู่ไหนล่ะ
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
มุฟตี อยู่ไหนล่ะ



ผมอยู่อียิปต์ คับ...เมืองไทยตี 5...แต่ที่อียิปต์ ตี 12 เที่ยงคืน คับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 02, 2010, 03:56 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มุฟตี อยู่ไหนล่ะ



ผมอยู่อียิปต์ คับ...เมืองไทยตี 5...แต่ที่อียิปต์ ตี 12 เที่ยงคืน คับ..

ดีจังมีโอกาสได้ไปเรียนอียิปต์ด้วย..
ม.ในฝันเราเลย  แต่พระเจ้าไม่อิซิน sad:  mycry
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อุสฮอแล้วยังล่ะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged