ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย สูเราะฮฺที่ 69 อัลหากเกาะฮฺ  (อ่าน 3497 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 :salam:

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ ที่ 69 อัลหากเกาะฮฺ - (วันสุดท้ายที่จะเกิดแน่นอน)

เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 52 อายะฮฺ
บทนำ (R3.)
ชื่อ : ชูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า (الحاقة)ซึ่งเป็นคำเริ่มต้นซูเราะฮฺ
ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : นี่เป็นหนึ่งในซูเราะฮฺแรก ๆ ที่ๆด้ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺ เนื้อหาของเรื่องแสดงให้เห็นว่า มันได้ถูกประทานลงมาเมื่อการต่อต้านท่านรอซุลุลลอฮฺได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ยังไม่รุนแรงนัก ในหนังสือมุสนัดอะหมัด มีฮะดีษหนึ่งจากอุมัรกล่าวว่า: “ก่อนการเข้ารับอิสลาม วันหนึ่งฉันได้ออกจากบ้านมาด้วยความต้องการที่จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ท่านรอซุลุลลอฮฺ แต่ท่านได้เข้าไปในมัสญิดอัล-ฮะรอมก่อนหน้าฉัน เมื่อฉันได้ไปถึงฉันก็พบว่าท่านกำลังอ่านซูเราะฮฺ อัล-ฮากเกาะฮฺอยู่ในการนมาซ ฉันได้ยืนฟังอยู่ข้างหลังท่าน ในขณะที่ท่านอ่านกุรอานอยู่นั้น ฉันแปลกใจถึงความคมคายและความไพเราะทางด้านภาษาเหลือเกิน ทันใดนั้นฉันก็มีความคิดผุดขึ้นมาว่าท่านจะต้องเป็นบทกวีดังที่พวกกุเรชกล่าวหา ในตอนที่ท่านอ่านถ้อยคำที่ว่า : “นี่คือวจนะของรอซูลผู้ทรงเกียรติ มันไม่ใช่คำพูดของกวี” ฉันได้พูดกับตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่กวี เขาก็ต้องเป็นพวกพ่อมดหมอผี แต่เมื่อท่านได้อ่านถ้อยคำตรงที่ว่า “และก็มิใช่คำพูดของพ่อมดหมอผี แต่น้อยนักที่สูเจ้าจะไตร่ตรอง มันเป็นวะฮีย์จากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก”  เมื่อได้ยินเช่นนั้น อิสลามก็เข้ามาลึกในหัวใจของฉันแล้ว” ฮะดีษนี้ของอุมัร แสดงให้เห็นว่า ซูเราะฮฺนี้ได้ถูกประทานลงมาก่อนหน้าการเข้ารับอิสลามของเขาเป็นเวลานาน เพราะแม้แต่หลังเหตุการณ์นี้ผ่านไปนานแล้วก็ตาม เขาก็ยังไม่ศรัทธาและยังคงได้ประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นผลดีต่ออิสลามหลายครั้ง จนกระทั่งในที่สุด น้องสาวของเขาเองได้ทำให้เขาต้องยอมจำนนต่อความศรัทธาในอิสลามอย่างสิ้นเชิงในบ้านของเขาเอง (สำหรับรายละเอียด กรุณาดูบทนำของซูเราะฮฺมัรยัมและบทนำของซูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ)1
เนื้อหาสาระที่สำคัญ: ตอนที่ 1 (อายะฮฺที่ 1 – 37) เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกหน้า และตอนที่ 2 (อายะฮฺที่ 38 – 52) เป็นเรื่องเกี่ยวกับกุรอานในฐานะที่เป็นวะฮีย์ของอัลลอฮฺและการเป็นศาสนทูตของท่านรอซุลุลลอฮฺ
   ตอนที่หนึ่ง เริ่มต้นด้วยการยืนยันว่า การฟื้นคืนชีพและโลกหน้าเป็นความจริงที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากนั้นในอายะฮฺที่ 4 -12 ก็ได้มีการกล่าวว่า กลุ่มชนต่าง ๆ ที่ปฏิเสธเรื่องโลกหน้าในอดีตนั้น ในที่สุดก็ต้องรับการลงโทษจากอัลลอฮฺ ในอายะฮฺที่ 13 – 17 ได้มีการพูดถึงการเกิดขึ้นของวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ในอายะฮฺที่ 18 – 37 ได้พูดถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดชีวิตที่สองไว้สำหรับมนุษยชาติหลังจากชีวิตนี้ ในที่กล่าวมานี้ เราได้ถูกบอกว่า วันนั้นมนุษย์ทั้งหมดจะปรากฏในศาลของพระผู้อภิบาลของพวกเขาซึ่งจะไม่มีความลับใด ๆ ถูกซ่อนเร้นเอาไว้ได้ บันทึกของมนุษย์แต่ละคนจะถูกวางไว้ในมือของเขา บรรดาผู้ที่ใช้ชีวิตในโลกด้วยความตระหนักว่า วันหนึ่งพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า และผู้ที่ทำความดีในโลกเพื่อเตรียมสิ่งที่ดีไว้ในโลกหน้าจะได้รับความยินดี เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกเขาได้รับการตอบแทนด้วยสวรรค์อันนิรันดร ในทางตรงข้าม บรรดาผู้ไม่ยอมรับสิทธิของอัลลอฮฺและไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่พวกเขาพึงมีต่อมนุษย์ก็จะไม่มีใครช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากการถูกอัลลอฮฺลงโทษไปได้ และพวกเขาจะถูกจับโยนลงไปในนรก
   ในตอนที่สอง (อายะฮฺที่ 38 – 52) บรรดาชาวมักกะฮฺผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ถูกบอกว่า : “สูเจ้าคิดว่ากุรอานนี้เป็นคำพูดของกวีหรือพ่อมดหมอผี ในขณะที่มันเป็นวะฮีย์ที่อัลลอฮฺได้ประทานมาทางรอซูลผู้ทรงเกียรติรอซูลเองไม่มีอำนาจที่จะมาเพิ่มหรือลดคำพูดใดในนั้นได้ ถ้าหากเขาสร้างสิ่งใดขึ้นมาในนั้น เราจะตัดเส้นเลือดคอของเขา เพราะนี่คือสัจธรรมที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ และบรรดาผู้ที่ถือว่ามันเป็นเรื่องเท็จจะต้องเสียใจและสำนึกผิดในที่สุด


1. อินชาอัลลอฮฺ จะได้นำเสนอในคำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ มัรยัม

เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺอานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)

----------------------------------------------------------------------

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 07, 2010, 04:46 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 1 – 3


 
คำอ่าน
1. อัลหากเกาะฮฺ
2. มัลหากเกาะฮฺ
3. วะมาอัดรอกะมัลหากเกาะฮฺ

คำแปล R1.
1. The reality (i.e. the Day of Resurrection)!
2. What is the Reality?
3. And what will make you know what the reality is?


คำแปล R2.
1. กาลเวลาที่ต้องปรากฏ
2. อะไรคือกาลเวลาที่ต้องปรากฏ
3. และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้ารู้ว่า อะไรคือกาลเวลาที่ต้องปรากฏ ?


คำแปล R3.
1. หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
2. อะไรคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ?
3. และอะไรที่เจ้ารู้ว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ?


คำแปล R4.
1. สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน (วันกิยามะฮฺ)
2. สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนั้นคืออะไร
3. และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนั้นคืออะไร


คำแปล R5.
๑. วันปรภพซึ่งต้องอุบัติขึ้นแน่
๒. อะไรคือสภาพโกลาหลของวันปรภพ
๓. และอะไรที่ทำให้เจ้ารู้ โอ้มุฮำมัด ว่าอะไรคือวันปรภพ



สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 4 – 8


คำอ่าน
4. กัซซะบัตสะมูดุวะอาดุม..บิลกอริอะฮฺ
5. ฟะอัม..มาสะมูดุฟะอุฮฺลิกูบิฏฏอฆิยะฮฺ
6. วะอัม..มาอาดุน..ฟะอุฮฺลิกูบิรีหิน..ศ็อรฺเศาะรินอาติยะฮฺ
7. สัคเคาะเราะฮาอะลัยฮิม สับละยาลิว..วะษะมานิยะตะอัยยามิน หุสูมัน..ฟะตะร็อลก็อวฺมะฟีฮาศ็อรฺอา, กะอัน..นะฮุมอะอฺญาซุนัคลิน คอวิยะฮฺ
8. ฟะฮัลตะรอละฮุม..มิม..บากิยะฮฺ

คำแปล R1.
4. The Thamud and the 'Ad people (branded) as false the stunning Calamity!
5. But the Thamud,- they were destroyed by a terrible storm of thunder and lightning!
6. And the 'Ad, they were destroyed by a furious wind, exceedingly violent;
7. He made it rage against them seven nights and eight days in succession: so that thou couldst see the (whole) people lying prostrate in it’s (path), as they had been roots of hollow palm-trees tumbled down!
8. Then seest thou any of them left surviving?


คำแปล R2.
4. พวกสะมู๊ด (ยุคนบีซอลิห์) และอ๊าด (ยุคนบีฮูด) ได้ว่าวันกิยามะฮฺที่ทำให้หัวใจสะท้านเป็นเรื่องเท็จ
5. ดังนั้น (ทั้งสองพวกจึงถูกลงโทษ) กล่าวคือ พวกสะมู๊ดได้ถูกทำลายล้าง ด้วยเสียงกัมปนาทอันรุนแรงที่สุด
6. และส่วนพวกอ๊าดได้ถูกทำลายล้างด้วยลมหนาวอันรุนแรงที่สุด
7. พระองค์ทรงบังคับให้ลมนั้นให้ปะทะพวกเขาเจ็ดคืนแปดวันติดต่อกัน (หากว่าเจ้าอยู่ในที่เกิดเหตุ) เจ้าก็จะเห็นพวกนั้นล้มตายอยู่ในนั้นคล้ายกับว่าพวกเขาคือทางอินทผลัมที่ร่วงตกลงมา
8. แล้วเจ้าเห็นผู้ใดจากพวกเขาที่มีชีวิตรอดอยู่ได้บ้างหรือ ?


คำแปล R3.
4. ชาวษะมูด และชาวอ๊าดได้ปฏิเสธการเกิดขึ้นของความหายนะแบบฉับพลันมาแล้ว
5. ชาวษะมูดได้ถูกทำลายโดยภัยพิบัติอันรุนแรง
6. ส่วนชาวอ๊าดนั้นถูกทำลายโดยพายุรุนแรงโหมกระหน่ำ
7. อัลลอฮฺได้ทรงให้มันพัดกระหน่ำใส่พวกเขาเป็นเวลาเจ็ดคืนแปดวันต่อเนื่องกัน (ถ้าหาสูเจ้าอยู่ที่นั่น) เจ้าก็จะได้เห็นพวกเขานอนตายเกลื่อนกลาดเหมือนกับลำต้นอินทผลัมกลวง
8. ตอนนี้เจ้าเห็นผู้ใดในหมู่พวกเขาเหลือรอดบ้างไหม ?


คำแปล R4.
4. พวกซะมูดและพวกอ๊าดได้ปฏิเสธวันกิยามะฮฺ
5. พวกซะมูด ถูกทำลายด้วยเสียงกำปนาทที่น่ากลัว
6. ส่วนพวกอ๊าด ถูกทำลายด้วยลมพายุที่หนาวเหน็บ และเสียงดังก้อง
7. พระองค์ทรงให้อภัยนั้นเกิดขึ้นแก่พวกเขา เจ็ดคืนกับแปดวันต่อเนื่องกัน แล้วเจ้าจะเห็นหมู่ชนนั้นนอนตายอยู่เช่นนั้นประหนึ่งต้นอินทผลัมที่กลางล้ม ระเนระนาด
8. แล้วเจ้าเห็นอะไรบ้างหลงเหลือสำหรับพวกเขา


คำแปล R5.
๔. พวกสะมู๊ดและพวกอ๊าดได้กล่าวหาว่า วันปรภพเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น สะมู๊ดนั้นเป็นประชาชนของนบีซอลิห์ อยู่ ณ สถานที่มีชื่อว่า “วาดิลกุรอ” ใดล้เมืองมดีนะห์ ส่วนอ๊าดนั้นเป็นประชนของนบีฮูดมีที่อยู่ชื่อ “อะฮ์ก๊อฟ” อยู่ระหว่างอัมมานกับหะดอรอเมาติ ประเทศเยเมน ซึ่งคนทั้งสองพวกนั้น อัลเลาะห์ได้ลงโทษพวกเขาด้วยการทำลายล้างจนหมดสิ้น
๕. แท้จริงอันพวกสะมู๊ด พวกเขาถูกทำลายล้างด้วยเสียงแผดกัมปนาทของยิบรีลจนพวกเขาสิ้นใจตาย
๖. และส่วนพวกอ๊าดพวกเขาก็ถูกทำลายล้างด้วยลมพายุอันสนั่นก้องอีกทั้งรุนแรง
๗. พระองค์ทรงบังคับมันให้กระหน่ำเหนือพวกเขาถึงเจ็ดคืนและแปดวันติดต่อกันดังนั้นเจ้าจึงเห็นคนพวกนั้นสิ้นใจตายในช่วงเวลาดังกล่าวจนหมดสิ้นคล้ายกับว่าพวกเขาเป็นต้นอินทผลัมที่ล้มลงมาเรียงรายเต็มไปหมด
๘. แล้วเจ้าเห็นผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่สำหรับพวกเขาหรือ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 10:57 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮที่ 9 – 12

คำอ่าน
9. วะญา...อะฟิรฺเอานุวะมัน..ก็อบละฮู วัลมุอ์ตะฟิกาตุบิลคอฏิอะฮฺ
10. ฟะอะศ็อวฺเราะสูละร็อบบิฮิม ฟะอะเคาะซะฮุม อัคซะตัรฺรอบิยะฮฺ
11. อิน..นาลัม..มาเฏาะฆ็อลมา...อุ หะมัลนากุม ฟิลญาริยะฮฺ
12. ลินัจญอะละฮาละกุม ตัซกิเราะเตา..วะตะอิยะฮา..อุซุนู..วาอิยะฮฺ

คำแปล R1.
9. And Fir'aun (Pharaoh), and those before him, and the cities overthrown [the towns of the people of [Lout (Lot)] committed sin,
10. And they disobeyed their Lord's Messenger, so He punished them with a strong punishment.
11. Verily! When the water rose beyond its limits [Nuh's (Noah) Flood], we carried you (mankind) in the floating [ship that was constructed by Nuh (Noah)].
12. That we might make it a remembrance for you, and the keen ear (person) may (hear and) understand it.


คำแปล R2.
9. และ (นอกจากนั้น) ฟิรเอาน์และคนสมัยก่อนจากเขาและบรรดาชาวเมืองที่ถูกถล่ม (คือยุคนบีลู๊ฏ) โดยเหตุที่ทำความผิด (อันรุนแรงของพวกนั้น)
10. กล่าวคือพวกเขาได้ฝ่าฝืนศาสนทูตแห่งองค์อภิบาลของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงลงโทษพวกเขาอย่างร้ายแรงที่สุด
11. แท้จริงเรา เมื่อน้ำได้ท่วมอย่างรุนแรง (ในสมัยนบีนูห์) เราก็ได้บรรทุกพวกเจ้าไว้ในเรือที่วิ่งได้
12. เพื่อเราจะได้ทำให้มันเป็นเครื่องเตือนสติแก่พวกเจ้า และเพื่อบรรดาหูที่ยอมรับฟัง จะได้ฟังเอาความเข้าใจไว้


คำแปล R3.
9. และความผิดอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกันนี้อีกที่ฟิรฺเอาน์และคนก่อนหน้าเขาและเมืองที่ถูกคว่ำได้กระทำ
10. พวกเขาไม่เชื่อฟังรอซูลของพระผู้อภิบาลของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง
11. เมื่อน้ำท่วมสูงขึ้นผิดปกติ เราได้นำสูเจ้าทั้งหลาขึ้นมาไว้ในเรือลำใหญ่
12. เพื่อที่เราจะได้ทำให้เหตุการณ์นี้เป็นการตักเตือนสำหรับสูเจ้าและเพื่อที่หูที่สำเหนียกจะได้จำ


คำแปล R4.
9. ฟิรเอานฺและพวกก่อนหน้าเขา และพวกมุอฺตะฟิกาต (เมืองของพวกลูฏซึ่งถูกพลิกแผ่นดิน) ได้กระทำความผิด
10. พวกเขาได้ฝ่าฝืนต่อร่อซูลแห่งพระเจ้าของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงทรงลงโทษพวกเขาอย่างหนัก
11. เมื่อน้ำท่วมสูงขึ้น แท้จริงเราได้บรรทุกพวกเจ้าไว้ในเรือของนูหฺ
12. เพื่อเราจักได้ทำให้มันเป็นเครื่องเตือนสติแก่พวกเจ้า และหูที่สำเหนียกจะได้จดจำมันไว้อย่างแม่นยำ


คำแปล R5.
๙. และฟิรเอาน์รวมทั้งคนในยุคก่อนเขาและบรรดาชาวมุตะกิฟะฮ์ในยุคของนบีลูฏซึ่งบ้านเมืองดังกล่าวถูกถล่มทะลายจนชาวเมืองทุกคนตายหมดสิ้น พวกที่กล่าวนามมานี้ ได้นำมาซึ่งความผิดอันมหันต์
๑๐. กล่าวคือพวกเขาได้ฝ่าฝืนศาสนาทูตแห่งองค์พระผู้อภิบาลของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงจัดการลงโทษพวกเขาอย่างเหลือล้นเหนือกว่ากลุ่มชนอื่นใด
๑๑. แท้จริงเรานั้น เมื่อครั้งที่น้ำได้เอ่อล้นในสมัยนบีนูห์ น้ำท่วมเต็มหน้าแผ่นดินเราก็บรรทุกพวกเจ้าในสมัยนั้นในเรือใหญ่ ซึ่งพวกที่อยู่ในเรือรวมกับนบีนูห์ปลอดภัยจากอุทกภัยดังกล่าว
๑๒. ทั้งนี้เพื่อเราจะทำให้มันเป็นข้อคิดสำหรับพวกเจ้าและให้หลายคนที่มีหูเพื่อรับฟังโดยไร้อคติจะได้จดจำไว้บอกเล่าสืบต่อกันมา




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺ ที่ 13 – 18
 

คำอ่าน
13. ฟะอิซานุฟิเคาะฟิศศูริ นัฟเคาะตู..วาหิดะฮฺ
14. วะหุมิละติลอัรฺฎุ วัลญิบาลุ ฟะดุกกะตา ดักกะเตา..วาหิดะฮฺ
15. ฟะเยามะอิซิว..วะเกาะอะติลวากิอะฮฺ
16. วัน..ชักเกาะติสสะมา...อุ ฟะฮิยะเยามะอิซิว..วาฮิยะฮฺ
17. วัลมะละกุอะลา..อัรฺญา...อิฮา วะยะหฺมิลุ อัรฺชะร็อบบิกะ เฟาเกาะฮุม เยามะอิซิน..สะมานิยะฮฺ
18. เยามะอิซิน..ตัวะอฺเราะฎูนะ ลาตัคฟามิน..กุมคอฟิยะฮฺ

คำแปล R1.
13. Then when the trumpet will be blown with one blowing (the first one),
14. And the earth and the mountains shall be removed from their places, and crushed with a single crushing,
15. Then on that Day shall the (great) event befall,
16. And the heaven will split asunder, for that Day it (the heaven will be frail (weak), and torn up,
17. And the angels will be on its sides, and eight angels will, that day, bear the Throne of your Lord above them.
18. That Day shall you be brought to judgments, not a secret of you will be hidden.


คำแปล R2.
13. ครั้นเมื่อการเป่าลงในสังข์ครั้งหนึ่ง
14. และแผ่นดินและขุนเขาถูกแบกขึ้น (ให้ออกจากที่เดิมของมัน) แล้วมันทั้งสองก็ถูกทลายลงครั้งเดียว (ราบเป็นหน้ากลอง)
15. ดังนั้นในวาระนั้นเอง วันกิยามะฮฺก็ได้อุบัติขึ้น
16. และฟากฟ้าแตกออก แล้วในวาระนั้นมันก็อ่อนแอ (และพังทลาย)
17. ขณะนั้นมลาอิกะฮฺก็ประจำอยู่ ณ มุมต่าง ๆ ของมัน (ฟากฟ้า) และมีแปดมลาอิกะฮฺแบกบัลลังก์แห่งองค์อภิบาลของเจ้าเหนือพวกเหล่านั้นในวันนั้น
18. ในวันนั้นพวกเจ้าก็ถูกเสนอตัว (เพื่อการสอบสวน) ไม่มีสิ่งเดียวที่ซ่อนเร้น (ต่ออัลเลาะฮฺ)จากพวกเจ้าทั้งมวล


คำแปล R3.
13. ดังนั้นเมื่อแตรได้ถูกเป่าขึ้นครั้งหนึ่ง
14. แผ่นดินและภูเขาก็จะถูกยกขึ้นกระแทกกันเป็นเสี่ยง ๆ ในทีเดียว
15. ในวันนั้นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้จะเกิดขึ้น
16. ในวันนั้นท้องฟ้าจะแตกออกและระบบของมันจะหลุดออกจากกัน
17. บรรดามลาอิกะฮฺจะอยู่ข้าง ๆ นั้นและมลาอิกะฮฺจำนวนแปดองค์จะทูนบัลลังก์ของพระผู้อภิบาลของสูเจ้าไว้
18. นั่นเป็นวันที่สูเจ้าจะถูกนำมา ไม่มีความลับใด ๆ ของสูเจ้าที่จะถูกซ่อนเร้นอีกต่อไป


คำแปล R4.
13. ครั้นเมื่อเสียงเป่าครั้งแรกถูกเป่าขึ้นโดยสังข์ (เป็นสัญญาณแจ้งให้ทราบถึงวันกิยามะฮฺ)
14. แผ่นดินและเทือกเขาจะถูกยกขึ้นแล้วมันทั้งสองจะถูกกระแทกกันแตกกระจายเป็นผุยผง
15. ในวันนั้นวันกิยามะฮฺก็จะเกิดขึ้น
16. และชั้นฟ้าก็จะแยกออก แล้วมันก็จะอ่อนกำลังลงอย่างไม่เป็นระเบียบในวันนั้น
17. และมะลักก็จะปรากฏอยู่บนเวหาและ (มะลาอิกะฮฺ) จำนวนแปดท่านจะทูนบัลลังก์แห่งพระเจ้าของเจ้าไว้เบื้องบนพวกเขาในวันนั้น
18. วันนั้นพวกเจ้าจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าพระองค์ ไม่มีความลับอันใดจะถูกปิดบังแก่พวกเจ้า


คำแปล R5.
๑๓. ครั้นเมื่อมีการเป่าสังข์เป็นครั้งแรก เป็นการบอกเหตุว่าวันปรภพได้เริ่มขึ้นแล้ว
๑๔. และแผ่นดินรวมทั้งภูเขาทั้งหลายถูกยกออกจากที่ตั้งแล้วมันทั้งสองก็ถูกละลายรวมเป็นครั้งเดียวกันกลายเป็นผุยผง
๑๕. ดังนั้นในวันนั้น เหตุการณ์ของปรภพได้อุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
๑๖. และฟากฟ้าได้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนั้นในวันนั้น มันจึงชำรุดทรุดโทรม ระบบต่าง ๆ ของมันทุกสิ่งทุกอย่างสับสนและร่วงหล่นจากที่อยู่
๑๗. และมวลมาลาอิกะห์ต่างก็ประจำอยู่ ณ มุมต่าง ๆ ของมัน เพื่อรอรับคำบัญชาของอัลเลาะห์ให้จัดการกับโลกในวาระต่อไป และทำการแบกทูนบัลลังก์แห่งองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าเหนือพวกเหล่านั้นในวันนั้นโดยแปดมลาอิกะห์
๑๘. ในวันนั้นพวกเจ้าถูกนำตัวมาเพื่อทำการสอบสวน ซึ่งสิ่งซ่อนเร้นจากพวกเจ้าจะไม่สามารถซ่อนเร้นจากอัลเลาะห์ได้เลย ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างประจักษ์แจ้งสำหรับอัลเลาะห์



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 19 – 24

คำอ่าน
19. ฟะอัม..มามัน อูติยะกิตาบะฮู บิยะมีนิฮี ฟะยะกูลุ ฮา...อุมุกเราะอูกิตาบิยะฮฺ
20. อิน..นีเซาะนัน..ตุ อัน..นี มุลากินหิสาบิยะฮฺ
21. ฟะฮุวะฟีอีชะติรฺรอฎิยะฮฺ
22. ฟีญัน..นะติน อาลิยะฮฺ
23. กุฏูฟุฮา ดานิยะฮฺ
24. กุลู วัชเราะบู ฮะนี...อัม..บิมา..อัสลัฟตุม ฟิลอัยยามิลคอลิยะฮฺ

คำแปล R1.
19. Then as for Him who will be given his record in his right hand will say: "Take, read my record!
20. "Surely, I did believe that I shall meet my account!"
21. So he shall be in a life, well-pleasing.
22. In a lofty Paradise,
23. The fruits in bunches whereof will be low and near at hand.
24. Eat and drink at ease for that which you have sent on before you In days past!


คำแปล R2.
19. แท้จริงผู้ที่ถูกให้หนังสือ (บันทึกความประพฤติ) ของเขาด้วยมือขวาของเขาก็จะกล่าว (ด้วยความยินดี)ว่า “พวกท่านทั้งหลายมาสิ พวกท่านจงอ่านหนังสือ (บันทึกความประพฤติ) ของฉันนี้เถิด”
20. “แท้จริงฉันเองมีความมั่นใจว่า จะต้องได้พบกับการสอบสวนความประพฤติของฉันเป็นแน่ (ในวันหนึ่งข้างหน้า)”
21. แท้จริงเขาผู้นั้นมีความเป็นอยู่ที่เขาพึงพอใจ
22. ภายในสวรรค์อันสูงส่ง
23. ผลไม้ของมันอยู่ใกล้ (กับมือของเขา)
24. (พวกเขาได้รับคำสั่งว่า) “พวกเจ้าจงกินและจงดื่มอย่างอุดมสมบูรณ์เถิด เพราะเหตุแห่งความประพฤติที่พวกเจ้าได้กระทำผ่านพ้นไปในกาลเวลาที่ล่วงไปแล้ว (ที่สากลโลก)


คำแปล R3.
19. หลังจากนั้น คนที่ได้รับบันทึกในมือขวาของเขาจะกล่าวว่า “นี่ไงมาอ่านบันทึกของฉันสิ
20. ฉันรู้ว่าฉันจะได้รับบัญชีของฉันอย่างแน่นอน”
21. แล้วเขาจะมีชีวิตอันบรมสุข
22. ในสวนสวรรค์อันสูงส่ง
23. ที่ผลไม้กระจายให้เด็ดอยู่แค่เอื้อม
24. (คนเหล่านี้จะถูกบอกว่า) “จงกินและดื่มอย่างมีความสุขในฐานะรางวัลตอบแทนสำหรับสิ่งที่สูเจ้าได้ทำไว้ในวันที่ผ่านมา”


คำแปล R4.
19. ส่วนผู้ที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องขวาของเขา เขาจะกล่าวว่า มาอ่านบันทึกของฉันซิ
20. ความจริงฉันนึกทีเดียวว่า ฉันจะได้พบบัญชีของฉัน
21. แล้วเขาจะมีความเป็นอยู่อย่างสุขสำราญ
22. ในสวนสวรรค์อันสูงส่ง
23. การเด็ดผลไม้ของมันอยู่แค่เอื้อมมือ
24. พวกเจ้าจงกิน จงดื่ม อย่างเกษมสำราญ เพราะสิ่งที่พวกเจ้าได้ปฏิบัติไว้ในวันเวลาที่ได้ผ่านมา


คำแปล R5.
๑๙. ดังนั้นผู้ใดซึ่งหนังสือบันทึกความประพฤติของเขาถูกให้ด้วยมือขวาของเขา เขาก็จะพูดขึ้นด้วยความดีใจกับบรรดาผองเพื่อนและครอบครัว ว่า เอาไปสิ พวกท่านจงอ่านบันทึกของฉันสิ
๒๐. แท้จริงฉันมั่นใจเสมอว่า ที่จริงฉันจะต้องมาประสบกับการสอบสวนในวันปรภพ ดังนั้นฉันจึงมุ่งมั่นประกอบแต่ความดีงาม เพราะกลัวจะถูกสอบสวน
๒๑. อัลเลาะห์ตรัสว่า แท้จริงเขาผู้รับบันทึกด้วยมือขวานั้น ได้อยู่ในชีวิตอันมีแต่ความยินดีปรีเปรม คือชีวิตแห่งสวรรค์ไม่มีวันตายอีกตลอดไป เป็นชีวิตอมตะที่มีความสุขโดยสม่ำเสมอและผู้อยู่ในนั้นจะไม่ต้องขับถ่ายและพ้นโรคภัยทุกชนิด
๒๒. ในสวรรค์อันสูงตระหง่าน
๒๓. มวลผลไม้ของสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่ว่าเขาจะนั่งยืนนอนเขาก็เอื้อมเก็บมากินได้โดยสะดวก
๒๔. มีผู้ประกาศแก่พวกชาวสวรรค์ว่าพวกเจ้าจงรับประทานและจงดื่มให้สมบูรณ์เถิดเพื่อตอบแทนเนื่องเพราะสิ่งที่พวกเจ้าได้ระทำผ่านมาในช่วงเวลาที่พ้นมาแล้วในสากลโลก จากบรรดาความดีงามต่าง ๆ



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 25 – 29

คำอ่าน
25. วะอัม..มามันอูติยะกิตาบะฮู บิชิมาลิฮี ฟะยะกูลุยาลัยตะยี ลัมอูตะกิตาบิยะฮฺ
26. วะลัมอัดริมาหิสาบิยะฮฺ
27. ยาลัยตะฮา กานะติลกอฎิยะฮฺ
28. มา..อัฆนา อัน..นี มาลิยะฮฺ
29. ฮะละกะอัน..นี สุลฏอนิยะฮฺ

คำแปล R1.
25. But as for him who will be given his record in his left hand, will say: "I wish that I had not been given my record!
26. "And that I had never known, how my account is?
27. "I wish, would that it had been my end (death)!
28. "My wealth has not availed me,
29. "My power and arguments (to defend myself) have gone from me!"


คำแปล R2.
25. และส่วนผู้ที่ถูกให้หนังสือ (บันทึกความประพฤติ) ของเขาด้วยมือซ้ายของเขาก็จะพูด (ด้วยความเสียใจ) ว่า “โอฉันน่าจะไม่ได้รับหนังสือของฉันเลย (จะดีกว่า)”
26. “และฉันไม่รู้เลยว่า อะไรคือการสอบสวนความประพฤติของฉัน”
27. “โอ้ น่าจะเป็นความตายที่ผ่านพ้นเด็ดขาด (โดยไม่ต้องฟื้นขึ้นมาอีก)”
28. “ทรัพย์สมบัติของฉันป้องกันฉันมิได้เลย”
29. ความสามารถของฉันได้สูญหายไปจากฉันสิ้นเชิง”

 
คำแปล R3.
25. ส่วนผู้ที่ได้รับบันทึกในมือซ้ายของเขานั้น เขาจะกล่าวว่า “ฉันไม่อยากที่จะได้รับบันทึกของฉัน
26. และไม่อยากจะรู้ว่าบัญชีของฉันเป็นอย่างไร
27. อยากจะให้ความตาย (ที่ฉันได้รับในโลก)เป็นอันสิ้นสุด
28. วันนี้ทรัพย์สินของฉันไม่สามารถช่วยเหลืออะไรฉันได้เลย
29. อำนาจของฉันก็หมดสิ้นแล้ว”


คำแปล R4.
25. ส่วนผู้ที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องซ้ายของเขา เขาจะกล่าวว่า ฉันภาวนาที่จะไม่ให้บันทึกของฉันถูกนำมายื่น
26. และไม่รู้เสียเลยว่าบัญชีของฉันจะเป็นเช่นใด
27. โอ้ หากว่าความตายได้เกิดขึ้นเสียก็จะดี
28. ทรัพย์สมบัติของฉันไม่ได้คุ้มกันแก่ฉันเลย
29. อำนาจของฉันก็ได้สูญสิ้นไปจากฉันแล้ว


คำแปล R5.
๒๕. และส่วนผู้ที่ถูกให้บันทึกของเขาด้วยมือซ้ายของเขา เขาก็จะกล่าวด้วยความเสียใจว่า โอ้ความหวังของฉัน ฉันน่าจะไม่ถูกให้บันทึกนี้เลย
๒๖. และฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าอะไรคือการสอบสวนของฉันเพราะในสากลโลกนั้นฉันไม่ศรัทธาในคำเตือนของ ศาสนทูต
๒๗. โอ้ความตายน่าจะขาดตอนไปนานแล้ว โดยไม่ต้องมีการฟื้นขึ้นมาอีกเช่นในวันนี้
๒๘. อันทรัพย์สินของฉันไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ฉันเลย มันช่วยฉันไม่ได้และไม่สามารถป้องกันฉันให้พ้นจากการลงโทษของอัลเลาะห์
๒๙. อันอำนาจเกียรติยศของฉันที่เคยมีเมื่อครั้งกระโน้นได้สูญหายไปจากฉันแล้วโดยสิ้นเชิง มันช่วยอะไรฉันไม่ได้จริง ๆ


สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 30 – 37



คำอ่าน
30. คุซูฮุ ฟะฆุลลูฮฺ
31. ษุม..มัลญะหีมะ ศ็อลลู
32. ษุม..มะฟัสิลสิละติน ซัรอุฮา สับอูนะ ซิรออัน..ฟัสลุกู
33. อิน..ฮู กานะลายุอ์มินุบิลลาฮิลอะซีม
34. วะลายะหุฎฎุ อะลาเฏาะอามิลมิสกีน
35. ฟะลัยสะละฮุลเยามุฮาฮุนาหะมีม
36. วะลาเฏาะอามุน อิลลามินฆิสลีน
37. ลายะอ์กุลู อิลลัลคอฏิอูน

คำแปล R1.
30. (It will be said): "Seize him and fetter him,
31. Then throw him In the blazing Fire.
32. "Then fasten him with a chain whereof the length is seventy cubits!"
33. Verily, he used not to believe in Allah, the most Great,
34. And urged not on the feeding of Al-miskin (the poor),
35. So no friend has he here this day,
36. Nor any food except filth from the washing of wounds,
37. None will eat except the Khati'un (sinners, disbelievers, polytheists, etc.).


คำแปล R2.
30. (มลาอิกะฮฺรักษานรกได้รับคำสั่งว่า) “พวกเจ้าจงจับตัวเขาไว้เถิด แล้วจงคล้องตรวนเขาไว้ด้วย”
31. “หลังจากนั้นพวกเจ้าจงเผาเขาไว้ในนรก”
32. “หลังจากนั้นจงนำเขาเข้าไปล่ามไว้ในโซ่เหล็กที่วัดความยาวได้เจ็ดสิบศอกเถิด”
33. “เพราะแท้จริงเขาไม่ยอมศรัทธากับอัลเลาะฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่”
34. “และเขาไม่กำชับ (ตัวเองและคนอื่น) ให้เลี้ยงอาหารแก่คนอนาถา”
35. “ดังนั้น ในวันนี้จึงไม่มีญาติสนิทสำหรับเขา ณ ที่นี้เลย”
36. “และไม่มีอาหาร (อื่นใดสำหรับเขา) เว้นแต่จากน้ำหนอง”
37. “ไม่ (มีผู้ใด)กินมัน นอกจากบรรดาผู้กระทำความผิดเท่านั้น”


คำแปล R3.
30. (จะมีคำสั่งว่า) “จงเอาตัวเขาไปและล่ามโซ่คอเขาไว้”
31. แล้วโยนเขาเข้าไปในนรก
32. แล้วล่ามเขาไว้ด้วยโซ่ยาวเจ็ดสิบศอก
33. เพราะเขาไม่ศรัทธาในอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่
34. และเขาไม่ส่งเสริมการเลี้ยงอาหารคนยากจน
35. ดังนั้น เขาจะไม่มีเพื่อแท้ใด ๆ ในวันนี้ที่นี่
36. และไม่มีอาหารใด ๆ นอกจากของเสียที่ไหลออกมาจากแผล
37. ไม่มีใครกินมันนอกจากผู้ทำบาป”


คำแปล R4.
30. (จะมีคำบัญชาแก่มะลาอิกะฮฺว่า) จงนำเขาไป แล้วจำตรวนเสีย
31. แล้วโยนเขาเข้ากองไฟนรก
32. แล้วล่ามโซ่เขา ซึ่งความยาวของมันเจ็ดสิบศอก
33. แท้จริง เขามิได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ผู้ยิ่งใหญ่
34. และเขามิได้ส่งเสริมให้อาหารแก่คนขัดสน
35. ดังนั้น วันนี้เขาจะไม่มีมิตรสนิท ณ ที่นี้
36. และไม่มีอาหารอย่างใด นอกจากน้ำหนองที่ไหลมาจากแผลของชาวนรก
37. ไม่มีผู้ใดกินมัน นอกจากบรรดาผู้กระทำความผิด


คำแปล R5.
๓๐. จากนั้นได้มีคำบัญชาแก่มลาอิกะห์ว่า พวกเจ้าจงรับตัวเขาไปเถิดแล้วพวกเจ้าจงล่ามโซ่ตรวนไว้
๓๑. หลังจากนั้นพวกท่านจงส่งเขาเข้าไปในนรกเสีย
๓๒. หลังจากนั้น ในโซ่ตรวนของนรกนั้นซึ่งมีความยาวถึงเจ็ดสิบศอกพวกเจ้าจับเขาล่ามไว้เถิด
๓๓. เพราะว่าแท้จริงเขาเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ในโลกเขาไม่ศรัทธากับอัลเลาะห์ผู้ทรงยิ่งใหญ่
๓๔. และเขาไม่กำชับในการให้อาหารแก่คนยากจน เพราะเหตุดังกล่าวนี้เขาจึงต้องถูกลงโทษ
๓๕. แท้จริงในวันนี้ เขาจะไม่มีเพื่อนสนิทที่คุ้มกันแก่เขาได้ ณ ที่นี้
๓๖. และเขาไม่มีอาหารอื่นใด ที่จะนำมารับประทานนอกจากน้ำหนองของชาวนรก
๓๗. จะไม่ดื่มมันยกเว้นบรรดาผู้กระทำความผิดเท่านั้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 17, 2012, 11:01 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 38 – 43
 

คำอ่าน
38. ฟะลาอุกสิมุ บิมาตุบศิรูน
39. วะมาลาตุบศิรูน
40. อิน..นะฮุ ละก็อวลุเราะสูลิน..กะรีม
41. วะมาฮุวะบิก็อวลิชาอิรฺ, เกาะลีลัม..มาตุอ์มินูน
42. วะลาบิก็อวลิกาฮิน, เกาะลีลัม..มาตะซักกะรูน
43. ตัน..ซีลุม..มิรฺร็อบบิลอาละมีน

คำแปล R1.
38. So I swear by whatsoever you see,
39. And by whatsoever you see not,
40. That this is verily the word of an honoured Messenger [i.e. Jibrael (Gabriel) or Muhammad which he has brought from Allah].
41. It is not the word of a poet, little is that you believe!
42. Nor is it the word of a soothsayer (or a foreteller), little is that you remember!
43. This is the Revelation sent down from the Lord of the 'Alamin (mankind, jinns and All that exists).


คำแปล R2.
38. แท้จริงข้ายืนยันด้วยสิ่ง (เปิดเผย) ที่พวกเจ้ามองเห็น
39. และสิ่ง (เร้นลับ) ที่พวกเจ้ามองไม่เห็น
40. แท้จริงอัลกุรอานนั้น เป็นคำแห่งศาสนทูตผู้มีเกียรติ (ซึ่งได้รับมาจากอัลเลาะฮฺ)
41. และมันหาใช่คำพูดของกวีคนใดไม่ น้อยเหลือเกินที่พวกเจ้าศรัทธา
42. และมิใช่คำพูดของนักพยากรณ์คนใด น้อยเหลือเกินที่พวกเจ้าสำนึก
43. (อัลกุรอาน) ถูกลงมาจากองค์อภิบาลแห่งโลกทั้งหลาย


คำแปล R3.
38. ไม่เลย ฉันขอสาบานด้วยสิ่งทั้งหลายที่สูเจ้าเห็น
39. และด้วยสิ่งที่สูเจ้ามองไม่เห็น
40. ว่านี่คือวจนะของรอซูลผู้ทรงเกียรติ
41. มันไม่ใช่ถ้อยคำของกวี แต่น้อยนักที่สูเจ้าศรัทธา
42. และมันไม่ใช่คำพูดของพวกพ่อมดหมอผี แต่น้อยนักที่สูเจ้าไตรตรอง
43. มันคือสิ่งที่ถูกประทานมาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก


คำแปล R4.
38. เปล่าเลย ข้าขอสาบานต่อสิ่งที่พวกเจ้ามองเห็น
39. และสิ่งที่พวกเจ้ามองไม่เห็น
40. แท้จริงอัลกรุอานนั้นคือคำกล่าวของร่อซูลผู้ทรงเกียรติ
41. และมิใช่คำกล่าวของนักกวี ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าศรัทธา
42. และไม่ใช่คำกล่าวของนักพยากรณ์ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าใคร่ครวญ
43. เป็นการประทานมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก


คำแปล R5.
๓๘. แท้จริงข้าสาบานกับสิ่งที่พวกเจ้ามองเห็น
๓๙. และสิ่งที่พวกเจ้ามองไม่เห็นจากสรรพสิ่งทั้งปวง
๔๐. แท้จริงอัลกุรอานนั้นเป็นคำพูดแห่งศาสนทูตผู้ทรงเกียรติ ซึ่งเขาได้รับถ่ายทอดมาจากอัลเลาะห์โดยมีญิบรีลเป็นผู้สื่อ
๔๑. และสิ่งนั้นหาใช่คำพูดของกวีไม่ เพียงน้อยเท่านั้นเองที่พวกเจ้าศรัทธา
๔๒. และมิใช่คำพูดของหมอดู เพียงน้อยเท่านั้นเองที่พวกเจ้ามีสำนึก
๔๓. อัลกุรอาน ถูกประทานลงมาจากพระผู้ทรงอภิบาลแห่งโลกทั้งหลาย



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 44 – 47

คำอ่าน
44. วะเลาตะก็อววะละอะลัยนา บะอฺฎ็อลอะกอวีล
45. ละอะค็อซนามินฮุ บิลยะมีน
46. ษุม..มะละเกาะฏ็ออฺนา มินฮุลวะตีน
47. ฟะมามิน..กุม..มินอะหะดินอันฮุ หาญิซีน

คำแปล R1.
44. And if he (Muhammad) had forged a false saying concerning us (Allah),
45. We surely should have seized him by his right hand (or with power and might),
46. And then certainly should have cut off his life artery (Aorta),
47. And none of you could withhold us from (punishing) him.


คำแปล R2.
44. และมาตรแม้นเขา (มุฮำมัด) ได้กุคำพูดบางคำพูดบางคำพูดขึ้นโดยพาดพิงถึงเรา
45. แน่นอนเราก็ต้องจัดการลงโทษเขาโดยอำนาจของเรา
46. หลังจากนั้น เราก็จักตัดเส้นหัวใจของเขา (ให้ตายไปเสีย)
47. ซึ่งแน่นอนที่สุด ไม่มีคนใดจากพวกเจ้าที่จะขวางกั้นเขาไว้ได้


คำแปล R3.
44. และถ้าเขา (นบี) กุสิ่งใดขึ้นมาและอ้างว่ามาจากเรา
45. เราจะจับเขาที่มีขวา
46. และตัดเส้นเลือดคอของเขา
47. แล้วจะไม่มีผู้ใดในหมู่สูเจ้าสามารถยับยั้งเราได้


คำแปล R4.
44. และหากเขา (มุฮัมมัด) เสกสรรกล่าวคำเท็จบางคำแก่เราแล้ว
45. เราก็จะจับเขาด้วยความมั่นคง
46. แล้วเราก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไปจากเขา
47. ดังนั้นจะไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเป็นผู้คุ้มกันเขาได้


คำแปล R5.
๔๔. และหากมุฮำมัด เขาได้แสร้งพูดเท็จแก่เราเพียงบางคำพูดสอดแทรกเข้าไปปะปนกับถ้อยคำของเรา
๔๕. แน่นอนเราก็ต้องเอาโทษต่อเขาอย่างแข็งกล้า
๔๖. หลังจากนั้นเราจะตัดขาดเส้นหัวใจของเขาให้ตายไป
๔๗. แล้วมีผู้ใดจากพวกเจ้าบ้างไหมที่จะขัดขวางเขาได้ มิให้ต้องได้รับโทษทัณฑ์ดังกล่าวนั้น



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลหากเกาะฮฺ อายะฮฺที่ 48 – 52

คำิ่อ่าน
48. วะอิน..นะฮู ละตัซกิเราะตุลลิลมุตตะกีน
49. วะอิน..นะฮูละนะอฺละมุ อัน,,นะ มิน..กุม..มุกัซซิบีน
50. วะอิน..นะฮู ละหัสเราะตุน อะลัลกาฟิรีน
51. วะอิน..นะฮูละหักกุลยะกีน
52. ฟะสับบิหฺบิสมิร็อบบิกัลอะซีม

คำแปล R1.
48. And verily, this Qur'an is a reminder for the Muttaqun (pious - see V.2:2).
49. And verily, we know that there are some among you that belie (this Qur'an). [Tafsir At-Tabari,Vol. 29, Page 68]
50. And indeed it (this Qur'an) will be anguish for the disbelievers (on the Day of Resurrection).
51. And verily, it (this Qur'an) is an absolute truth with certainty.
52. So glorify the Name of Your Lord, the Most Great.


คำแปล R2.
48. และแท้จริงกุรอานนั้น เป็นเครื่องเตือนใจแก่บรรดาผู้ยำเกรงทั้งปวง
49. และแท้จริงเรารู้ดีว่า มีบางส่วนของพวกเจ้านั้นเป็นพวกที่ว่า (อัลกุรอาน)เป็นความเท็จ
50. และแท้จริงอัลกุรอานจักเป็นเหตุให้เกิดความเศร้าตรมแก่พวกไร้ศรัทธา (เนื่องเพราะเขาไม่ยอมรับศรัทธา)
51. และแท้จริงอัลกุรอานเป็นสัจธรรมที่มั่นใจโดยแท้
52. ดังนั้นเจ้าจงแซ่ซร้องพระบพิตรธิคุณในพระนามแห่งพระองค์อภิบาลอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเถิด


คำแปล R3.
48. แท้จริง นี่เป็นสิ่งตักเตือนสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง
49. และเรารู้ว่าบางคนในหมู่สูเจ้าปฏิเสธมัน
50. สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธนั้น มันเป็นสาเหตุแห่งความสิ้นหวัง
51. และแน่นอน นี่คือสัจธรรมอันชัดเจน
52. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงสดุดีพระนามของพระผู้อภิบาลผู้ทรงยิ่งใหญ่ของสูเจ้า


คำแปล R4.
48. และแท้จริงอัลกุรอานนั้นเป็นข้อเตือนสติแก่บรรดาผู้ยำเกรง
49. และแท้จริงเรารู้อย่างแน่นอนว่ามีบรรดาผู้ปฏิเสธอัลกุรอานในหมู่พวกเจ้า
50. และแท้จริงอัลกุรอานนั้น เป็นการเศร้าโศกเสียใจแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
51. และแท้จริงอัลกุรอานนั้นคือความจริงอันเที่ยงแท้แน่นอน
52. ดังนั้นเจ้าจงให้ความบริสุทธิ์ด้วยพระนามแห่งพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่


คำแปล R5.
๔๘. และแท้จริงอัลกุรอานเป็นคำเตือนสติแก่บรรดาผู้ยำเกรง
๔๙. และแท้จริงเราย่อมรอบรู้ว่า มีบางคนจากพวกเจ้าเป็นพวกที่ใส่ไคล้ว่าเป็นความเท็จ
๕๐. และแท้จริง อัลกุรอานจะนำความทุกข์ระทมอันยิ่งใหญ่ประสบแก่บรรดาจำพวกเนรคุณ
๕๑. และแท้จริงอัลกุรอานเป็นสัจธรรมแห่งความมั่นใจ
๕๒. ดังนั้น โอ้มุฮำมัด เจ้าจงแซ่ซร้องสดุดีพระบริสุทธิคุณในพระนามแห่งพระผู้ทรงอภิบาลอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเถิด



(صدق الله العظيم) ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ
จบสูเราะฮฺที่ 69 อัลหากเกาะฮฺ


 

GoogleTagged