ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย สูเราะฮฺที่ 68 อัลเกาะลัม  (อ่าน 4597 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ salsabeela

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พ่อข้ายากจน
>>>>>>>>>>>>>>Tidakkah ini Darulharbi.?.?<<<<<

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 34 – 41

คำอ่าน
34. อิน..นะลิลมุตตะกีนะ อิน..ดะร็อบบิฮิม ญัน..นาติน..นะอีม
35. อะฟะนัจญฺอะลุลมุสลิมีนะ กัลมุจญฺริมีน
36. มาละกุม กัยฟะตะหฺกุมูน
37. อัมละกุมกิตาบุน..ฟีฮิตัดรุสูน
38. อิน..นะละกุม ฟีฮิละมาตะค็อยยะรูน
39. อัมละกุมอัยมานุน อะลัยนาบาลิเฆาะตุน อิลาเยามิลกิยามะติ อิน..นะละกุมละมาตะหฺกุมูน
40. สัลฮุม อัยยุฮุม..บิซาลิกะซะอีม
41. อัมละฮุม ชุเราะกา...อุ ฟัลยะอ์ตูบิชุเราะกา...อิฮิม อิน..กานูศอดิกีน

คำแปล R1.

34. Verily, for the Muttaqun (pious and righteous persons - see V.2:2) are gardens of delight (Paradise) with their Lord.
35. Shall we then treat the (submitting) Muslims like the Mujrimun (criminals, polytheists and disbelievers, etc.)?
36. What is the matter with you? How judge you?
37. Or have you a book through which you learn?
38. That you shall have all that you choose?
39. Or you have oaths from us, reaching to the Day of Resurrection that yours will be what you judge.
40. Ask them, which of them will stand surety for that!
41. Or have they "partners"? Then let them bring their "partners" if they are truthful!


คำแปล R2.
34. แท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น มีสวรรค์อันบรมสุข (เตรียมไว้ให้) ณ องค์อภิบาลของพวกเขา
35. แล้วสมควรหรือที่เราจะทำ (กับ) พวกมีศรัทธาเหมือนเช่นบรรดาคนบาป
36. พวกเจ้ามีเหตุผลใด? พวกเจ้าจะตัดสินอย่างไร?
37. หรือว่าพวกเจ้ามีคัมภีร์หนึ่ง (จากอัลเลาะฮฺ) ซึ่งพวกเจ้าศึกษาในนั้น?
38. เพราะมีสิ่งที่พวกเจ้าพึงเลือกอยู่ในนั้น(เฉพาะบางตอนที่ชอบ)กระนั้นหรือ?
39. หรือว่าพวกเจ้ามีข้อสัญญาอันลึกซึ้งกับเราตราบถึงวันกิยามะฮฺ ซึ่งแน่นอนสำหรับพวกเจ้าย่อมได้รับ (ผลตอบแทน) สิ่งที่พวกเจ้าตัดสินไว้ ?
40. เจ้าจงถามพวกเขาเถิด คนใดของพวกเขาบ้าง ที่รับประกันในเรื่องนั้นได้ (ว่าจะได้รับเหมือนกับผู้ที่มีศรัทธาได้รับในวันกิยามะฮฺ)
41. หรือว่าพวกเขามีบรรดาหุ้นส่วน (ทางความคิดที่เหมือน ๆ กัน) พวกเขาก็จงนำบรรดาหุ้นส่วนของพวกเขามาสิ หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง


คำแปล R3.
34. แน่นอน สำหรับผู้เกรงกลัวพระเจ้านั้นคือสวนสวรรค์อันบรมสุขที่พระผู้อภิบาลของพวกเขา
35. ดังนั้น จะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้เชื่อฟังเช่นเดียวกับที่เราปฏิบัติต่อผู้ทำผิดกระนั้นหรือ?
36. เกิดอะไรขึ้นกับสูเจ้า สูเจ้าตัดสินเช่นนั้นได้อย่างไร?
37. หรือสูเจ้ามีคัมภีร์ที่สูเจ้าศึกษา
38. ซึ่งในนั้นมีสิ่งที่สูเจ้าเลือกไว้สำหรับตัวเอง?
39. หรือสูเจ้ามีสัญญาที่ผูกพันเราจนกระทั่งถึงวันฟื้นคืนชีพว่าสูเจ้าจะได้รับสิ่งที่สูเจ้าเรียกร้องต้องการ?
40. จงถามพวกเขาซิว่า คนไหนในหมู่พวกเจ้าจะประกันสิ่งนี้?
41. หรือพวกเขา มีภาคี พระเจ้าอื่น ๆ (ที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้)? หากเป็นเช่นนั้นก็จงให้พวกเขานำเอาภาคีพระเจ้าของพวกเขามา ถ้าหากพวกเขาแน่จริง


คำแปล R4.
34. แท้จริง สำหรับบรรดาผู้ยำเกรง ณ ที่พระเจ้าของพวกเขานั้นคือสวนสวรรค์หลากหลายแห่งบรมสุข
35. ดังนั้นจะให้เราปฏิบัติแก่บรรดาผู้นอบน้อมเสมือนกับเราปฏิบัติแก่บรรดาผู้กระทำผิดกระนั้นหรือ ?
36. เกิดอะไรขึ้นแด่พวกเจ้า ? ทำไมพวกเจ้าจึงตัดสินเช่นนั้น
37. หรือว่าที่พวกเจ้ามีคัมภีร์ไว้สำหรับอ่าน ?
38. ซึ่งในคัมภีร์นั้นมีสิ่งสำหรับพวกเจ้าที่พวกเจ้าจะเลือกเอาได้
39. หรือว่าพวกเจ้าสัญญาผูกพันกับเราจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮฺว่า แท้จริงสำหรับพวกเจ้านั้นจำได้ตามที่พวกเจ้าตัดสินเอาไว้
40. มุฮัมมัดจงถามพวกเขาดูว่า คนใดในหมู่พวกเขาจะเป็นหัวหน้าในการตัดสินเรื่องนั้น
41. หรือว่าพวกเขามีหุ้นส่วนกับอัลลอฮฺก็จงให้พวกเขานำหุ้นส่วนเหล่านั้นของพวกเขามา ถ้าหากพวกเขาสัตย์จริง


คำแปล R5.
๓๔. แท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงอัลเลาะห์ ณ พระผู้ทรงอภิบาลของพวกเขานั้นมีสวรรค์อันบรมสุขถูกเตรียมไว้
๓๕. แล้วเราจะบันดาลให้หมู่ชนมุสลิมมีสภาพเหมือนเช่นหมู่ชนที่ทำผิดกระนั้นหรือ
๓๖. อะไรเป็นเหตุผลของพวกเจ้า โอ้ชาวมักกะห์ผู้เนรคุณพระเจ้า พวกเจ้าตัดสินอย่างไรเล่า ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่พวกเจ้าพูดนั้นล้วนผิดความจริงทั้งสิ้น จะเป็น การคัดค้านเรื่องฟื้นคืนชีพก็ดีและปฏิเสธฐานะศาสดาของนบีมุฮำมัดและอื่น ๆ ก็ดี
๓๗. หรือว่าพวกเจ้ามีบรรดาคัมภีร์ซึ่งพวกเจ้าสามารถจะศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ในนั้น ที่จริงพวกเจ้าไม่มีสิ่งนั้นเลย
๓๘. แท้จริงสำหรับพวกเจ้าในคัมภีร์นั้นมีสิ่งที่พวกเจ้าพึงเลือกเฟ้นออกมาเชื่อถือปฏิบัติกระนั้นหรือ
๓๙. หรือว่าพวกเจ้าได้รับสัญญาอันมั่นคงเหนือเรา ตราบถึงวันปรภพว่า แท้จริงเจ้ามีสิทธิในสิ่งที่พวกเจ้าพึงตัดสินตามใจชอบของพวกเจ้า
๔๐. โอ้นบีมุฮำมัด เจ้าจงถามพวกนั้นดูเถิดว่า ผู้ใดในพวกเขาเล่าที่รับประกันในสิ่งนั้นได้ว่าเป็นความจริงดั่งที่พวกเขาอ้างไว้
๔๑. หรือว่าพวกเขามีบรรดาหุ้นส่วนที่มีความคิดในแนวเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาก็จงนำบรรดาหุ้นส่วนของพวกเขามารับประกันสิ หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง ในการตัดสินดังกล่าวนั้น



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 42 – 47


คำอ่าน
42. เยามะยุกชะฟุ อัน..สากิว..วะยุดเอานะ อิลัสสุญูดิ ฟะลายัสตะฏีอูน
43. คอชิอะตันอับศอรุฮุม ตัรฮะกุฮุมซิลละฮฺ, วะก็อดกานูยุดเอานะ อิลัสสุญูดิ วะฮุมสาลิมูน
44. ฟะซัรฺนี วะมัย..ยุกัซซิบุบิฮัลหะดีษิ สะนัสตัดริญุฮุม..มินหัยษุลายะอฺละมูน
45. วะอุมลีละฮุม อิน..นะกัยตีมะตีน
46. อัมตัสอะลุฮุม อัจญร็อน..ฟะฮุม..มิม..มัฆเราะมิม..มุษเกาะลูน
47. อัมอิน..ดะฮุมุลฆ็อยบุ ฟะฮุมยักตุบูน

คำแปล R1.
42. (Remember) the Day when the shin shall be laid bare (i.e. the Day of Resurrection) and they shall be called to prostrate (to Allah), but they (hypocrites) shall not be able to do so,
43. Their eyes will be cast down, ignominy will cover them; they used to be called to prostrate (offer prayers), while they were healthy and good (in the life of the world, but they did not).
44. Then leave Me alone with such as belie this Qur'an. We shall punish them gradually from directions they perceive not.
45. And I will grant them a respite. Verily, My Plan is strong.
46. Or is it that you (O Muhammad) ask them a wage, so that they are heavily burdened with debt?
47. Or that the Ghaib (unseen here in this Verse it means Al-Lauh Al-Mahfuz) is In their hands, so that they can write it down?


คำแปล R2.
42. (จงระลึกเถิดถึง) วันที่มีแต่ความวิกฤติและพวกเขาถูกเรียกให้ทำการกราบ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถ (ที่จะทำอย่างนั้นได้)
43. ดวงตาของพวกเขาละห้อย พร้อมความอดสูได้ครอบงำพวกเขาไว้ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเคยถกเรียกให้ทำการกราบ (แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมกราบ) ในขณะพวกเขามีสภาพปลอดภัยเป็นปกติ (ในโลกดุนยา)
44. ดังนั้นพวกเจ้าจงปล่อยข้า และผู้ที่ว่าอัลกุรอานนี้เป็นสิ่งเท็จเถิด ต่อไปเราจักทยอยพวกเขา (สู่การลงโทษ) โดยพวกเขาไม่รู้
45. และข้าจักประวิงแก่พวกเขา แท้จริงแผนการของข้าย่อมมั่นคงเสมอ
46. หรือว่าเจ้าขอค่าตอบแทนจากพวกเขา (ในการประกาศศาสนา) พวกเขาจึงเป็นผู้หนึ่งจากลูกหนี้ที่รู้สึกรับภาระหนักหนา?
47. หรือพวกเขามี (ความรู้ใน) สิ่งลี้ลับแล้วพวกเขาก็คัดลอกออกมา?


คำแปล R3.
42. เมื่อวันที่ความทุกข์ยากมาถึงและผู้คนถูกเรียกให้มาก้มกราบ พวกเขาจะไม่สามารถก้มกราบได้
43. ตาของพวกเขาจะละห้อย พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพหมดหวังอย่างน่าเวทนา แต่เมื่อพวกเขาอยู่ในสภาพที่ดี พวกเขาเคยถูกเรียกให้มาก้มกราบ  (แต่พวกเขาไม่ยอมทำ)
44. ดังนั้น โอ้นบี จงปล่อยเรื่องผู้ปฏิเสธคำพูดนี้ไว้ให้ฉัน เราจะนำพวกเขาไปสู่ความหายนะทีละขั้นโดยที่พวกเขาคิดไม่ถึง
45. ฉันจะผ่อนผันให้พวกเขา แท้จริงแผนการของฉันนั้นยิ่งใหญ่นัก
46. หรือเจ้าขอสิ่งตอบแทนจากพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้รับโทษที่ไม่สมควรจะได้รับ?
47. พวกเขามีความรู้ในเรื่องสิ่งเร้นลับที่พวกเขาบันทึกไว้กระนั้นหรือ?


คำแปล R4.
42. วันที่หน้าแข้งจะถูก เลิกขึ้น (ในวันกิยามะฮฺ พระเจ้าจะมาตัดสินคดี หน้าแข้งของพระองค์จะถูกเลิกขึ้น) และพวกเขาจะถูกเรียกให้มาสุญูด แต่พวกเขาไม่สามารถจะสุญูดได้
43. สายตาของพวกเขาจะละห้อย ความต่ำต้อยจะปกคลุมพวกเขา และแน่นอนพวกเขาเคยถูกเรียกให้มาสุญูดแล้วขณะที่พวกเขายังอยู่ในสภาพที่ ปลอดภัยดี
44. ดังนั้นจงปล่อยให้ข้าเถิด สำหรับผู้ที่ปฏิเสธต่ออัลกุรอาน เราจะนำพวกเขาลงสู่ (การลงโทษ) ทีละขั้น โดยที่พวกเขาไม่รู้
45. และข้าจะประวิงเวลาให้แก่พวกเขาแท้จริงอุบายของข้านั้นแข็งแรงนัก
46. หรือว่าเจ้าได้ขอค่าตอบแทนจากพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงแบกภาระหนักเพราะมีหนี้
47. หรือว่าพวกเขารู้ในสิ่งเร้นลับ แล้วพวกเขาก็บันทึกเอาไว้


คำแปล R5.
๔๒. จงระลึกเถิดวันซึ่งถูกเปิดจากความอุตสาหะของทุกคนด้วยความทุกข์และความวิกฤติอันใหญ่หลวงที่อุบัติขึ้นในวันนั้นซึ่งได้แก่วันปรภพและพวกเขาถูกเรียกให้ทำการกราบกรานแต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะก้มลงกราบได้ เพราะความโกลาหลในวันนั้น
๔๓. ดวงตาของพวกเขาละห้อยและความอัปยศเข้าครอบงำพวกเขาโดยสิ้นเชิงทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ในสากลโลกนั้นพวกเขาก็เคยถูกเรียกให้ทำการกราบกรานโดยพวกเขาเป็นผู้มีสภาพปกติทุกประการ แต่พวกเขาก็หาได้กราบจามที่ถูกเรียกร้องไม่
๔๔. ดังนั้น โอ้นบีมุฮำมัด เจ้าจงปล่อยข้าไว้ให้จัดการแก่ผู้ที่ใส่ความเท็จแก่ถ้อยคำอัลกุรอานนี้เถิด ต่อไปเราจักผ่อนทยอยการลงโทษแก่พวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้
๔๕. และจักเนิ่นเวลาแก่พวกเขาออกไปอีกมิให้พวกเขาตายเร็ว ๆ แท้จริงแผนการของข้านั้นย่อมมั่นคงเสมอ
๔๖. หรือว่าเจ้าขอค่าตอบแทนจากพวกเขา พวกเขาจึงต้องแบกภาระอันหนักที่จะชำระค่าตอบแทน ความจริงเจ้าก็ไม่ได้ค่าตอบแทนใด ๆ จากพวกเขาเลย
๔๗. หรือพวกเขามีความรู้ในสิ่งลี้ลับที่ปรากฏในเลาฮุลมะฮ์ฟูซ (แผ่นจารึกการปฏิบัติ) แล้วพวกเขาก็เขียนคัดลอกออกมาจากนั้น


หมายเหตุของผู้นำเสนอ : โปรดสังเกตการให้ความหมายของอายะฮฺที่ 42 จาก R1. และ R4.จะแปลตรงตัว ส่วน R2., R3 & R5. จะแปลแบบตีความ หน้าที่ของคนด้อยความรู้อย่างเราก็คือ ต้องเอียะติกอดว่า "และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์" อัลอิคลาศ 112:4


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลเกาะลัม อายะฮฺที่ 48 – 52


คำอ่าน
48. ฟัศบิรฺลิหุกมิร็อบบิกะ วะลาตะกุน..กะศอหิบิลหูติ อิซนาดาวะฮุวะมักซูม
49. เลาลาอัน..ตะดาเราะกะฮู เนียะอฺมะตุม..มิรฺร็อบบิฮี ละนุบิซะบิลอะรอ...อิ วะฮุวะมัซมูม
50. ฟัจญตะบาฮุร็อบบุฮู ฟะญะอะละฮู มินัศศิลิหีน
51. วะอี..ยะกาดุลละซีนะกะฟะรู ละยุซลิกูนะกะ บิอับศอริฮิม ลัม..มาสะมิอุซซิกเราะ วะยะกูลูนะอิน..นะฮู ละมัจญนูน
52. วะมาฮุวะอิลลาซิกรุลลิลอาละมีน

คำแปล R1.
48. So wait with patience for the decision of your Lord, and be not like the companion of the fish, when he cried out (to us) while he was in deep sorrow. (See the Qur'an, Verse 21:87).
49. Had not a grace from his Lord reached him, he would indeed have been (left In the stomach of the fish, but we forgave him), so he was cast off on the naked shore, while he was to be blamed.
50. But his Lord chose him and made him of the righteous.
51. And verily, those who disbelieve would almost make you slip with their eyes through hatredness when they hear the reminder (the Qur'an), and they say: "Verily, he (Muhammad) is a madman!"
52. But it is nothing else than a reminder to all the 'Alamin (mankind, jinns and all that exists).


คำแปล R2.
48. ดังนั้น เจ้าจงอดทนเพื่อกฎแห่งองค์อภิบาลของเจ้าเถิด และเจ้าอย่าเป็นเช่น (นบียูนุส) ผู้ถูกปลากลืนไว้ เมื่อเขาได้วอนขอด้วยความเศร้าตรมเป็นที่สุด (ขณะเมื่ออยู่ในท้องปลา)
49. หากแม้นความโปรดปรานจากองค์อภิบาลของเขา มิได้มาประสบแก่เขาแล้วไซร้ แน่นอนเขาต้องถูกขว้าง (ออกไปจากท้องปลา) กับแผ่นดินอันเปล่าเปลี่ยว (ณ ชายทะเล) โดยเขาถูกประณาม (เนื่องในความผิดของเขา)
50. ครั้นแล้วองค์อภิบาลของเขา ก็ได้เลือกเฟ้นเขาไว้ แล้วทรงแต่งตั้งเขาให้เป็น (ศาสดา)ผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ประพฤติความดี
51. และแท้จริงบรรดาจำพวกไร้ศรัทธาเกือบจะทำความพลาดพลั้งแก่เจ้า เพราะบรรดาสายตาของพวกเขา (ที่มองอย่างประสงค์ร้ายต่อเจ้า) เมื่อพวกเขาได้ยินอัลกุรอาน และพวกเขากล่าวว่า “แท้จริงเขา (มุฮัมมัด) เป็นคนวิกลจริต”
52. ทั้ง ๆ ที่ความจริงอัลกุรอานมิใช่อื่นใดเลย นอกจากเป็นข้อเตือนใจชาวโลกทั้งมวล


คำแปล R3.
48. ดังนั้น จงอดทนรอคำบัญชาของพระผู้อภิบาลของเจ้า และจงอย่าเป็นดังเช่นคนของปลา (นบียูนุส) เมื่อเขาร้องออกมาด้วยระทมทุกข์
49. หากมิใช่ความเมตตาจากพระผู้อภิบาลของเขามายังเขาแล้ว เขาก็คงจะถูกโยนไปยังทุ่งโล่งและถูกตำหนิแล้ว
50. ดังนั้น พระผู้อภิบาลของเขาได้เลือกเขาและรวมเขาไว้ในบรรดาผู้ทำความดี
51. เมื่อบรรดาผู้ปฏิเสธได้ยินคำตักเตือน (กุรอาน) พวกเขาได้เขม็งมองเจ้าเหมือนกับพวกเขาคอยจับผิดเจ้า และพวกเขากล่าวว่า “เขาเป็นคนบ้าแน่ ๆ “
52. ถึงแม้ว่ามันเป็นคำตักเตือนต่อผู้คนของโลก


คำแปล R4.
48. ดังนั้น เจ้า (มุฮัมมัด) จงอดทนต่อไปเถิดต่อบัญชาของพระเจ้าของเจ้า และอย่าเป็นดั่งเช่นเจ้าของปลา
(นะบียูนุส) ขณะที่เขาวิงวอนเขาอยู่ในสภาพที่ระทมทุกข์
49. หากมิใช่เพราะความเมตตาจากพระเจ้าของเขามีมายังเขาแล้ว เขาคงถูกเหวี่ยงไปยังที่โล่งเตียน และเขาจะถูกตำหนิด้วย
50. แต่พระเจ้าของเขาได้ทรงคัดเลือกเขา และทรงทำให้เขาอยู่ในหมู่ผู้กระทำความดี
และบรรดาผู้ปฏิเสธ ศรัทธานั้นแทบจะทำให้สายตาของพวกเขาจ้องเขม็งไปยังเจ้า เมื่อพวกเขาได้ยินอัล
กุรอานพวกเขาก็กล่าวว่าแท้จริงเขาเป็นคนบ้าแน่ ๆ
52. แต่อัลกุรอานนั้นมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่ประชาชาติทั้งหมด

คำแปล R5.
๔๘. ดังนั้น โอ้นบีมุฮำมัด เจ้าจงอดทนเถิดต่อการตัดสินของพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้า และเจ้าอย่าเป็นเช่นนบียูนุสผู้ถูกปลากลืนไว้ในท้องเมื่อเขาได้วอนขอต่อองค์พระผู้ทรงอภิบาลในท้องปลานั้นโดยเขาต้องกล้ำกลืนกับความทุกข์ตรมเป็นที่สุด
๔๙. มาดแม้นไม่มีความโปรดปรานจากพระผู้ทรงอภิบาลของเขามาประสบแก่เขา แน่นอนที่สุด เขาก็คงถูกปลาคายทิ้งแล้วทอดทิ้งไว้ ณ ท้องทุ่งริมทะเลโดยที่เขาถูกตำหนิ
๕๐. ต่อมาพระผู้ทรงอภิบาลของเขาได้เลือกเฟ้นเขาไว้แล้ว พระองค์ก็ทรงบันดาลเขาให้เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาคนดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสนทูต
๕๑. และแท้จริงบรรดาจำพวกไร้ศรัทธาเกือบจะผลักเจ้าให้ล้มลงด้วยสายตาของพวกเขา ที่จ้องมองอย่างประสงค์ร้าย เมื่อพวกเขาได้ยินอัลกุรอาน และพวกเขากล่าวว่า แท้จริงเขา(มุฮำมัด)เป็นคนวิกลจริตโดยแท้
๕๒. ทั้ง ๆ ที่อัลกุรอานนั้นหาใช่อื่นใดไม่ นอกจากเป็นคำเตือนแก่ชาวโลกทั้งหลาย



(صدق الله العظيم) ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ
จบสูเราะฮฺที่ 68 อัลเกาะลัม

 

GoogleTagged