พี่น้องเชื่อว่า อัลเลาะฮ์ตะอาลา อยู่ด้านบน หรือ อยู่ทุกหนทุกแห่ง

[As-Zaleek]

แต่มีคำกล่าวว่า "อาชาอิเราะฮ์ เชื่อว่า อัลเลาะฮ์ตะอาลา อยู่ทุกหนทุกแห่ง" ทั้งๆที่ "อัลเลาะฮ์ตะอาลาอยู่ด้านบน"

ดังนั้นหากได้ยินว่า อัลอะชาอิเราะฮ์ เชื่อว่า อัลเลาะฮ์มีอยู่ในทุกสถานที่ทุกหนทุกแห่งนั้น  ผมก็ขอตอบสั้นๆ ว่า

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

كَبُرَتْ كَلِمَةً تَخْرُجُ مِنْ أَفْوَاهِهِمْ إِنْ يَقُولُونَ إِلَّا كَذِبًا

“เป็นคำกล่าวที่น่าเกลียดอย่างยิ่งที่ออกมาจากปากของพวกเขา  โดยที่พวกเขามิได้กล่าวสิ่งใดนอกจากความโกหก” อัลกะฮ์ฟิ 5

อย่าลืมว่า สิ่งที่วะฮาบีใส่ร้ายอะฮ์ลิสซุนนุะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น  ยังคงมีการสอนใส่ร้ายกับในหมู่วะฮาบีกันเอง มันเป็นภาระกิจที่วะฮาบีต้องทำ  เพราะอุดมการณ์ของวะฮาบีคือไม่ต้องการปรับความเข้าใจกับแนวทางอื่น จึงใช้ทุกช่องทางสามารถจะโกหกได้  และยังมีการบิดเบือนตำราของอุลามาอฺ  นั่นเพราะอะไร

ผมเคยได้อ่านที่ใหนสักแห่งจากคนอาหรับแต่จำไม่ได้แล้ว   เขาบอกว่า  การที่วะฮาบีโกหกใส่แนวทางอื่นและบิดเบือนตำราเพื่อให้เข้าทางแนวทางวะฮาบีนั้น  เป็นสิ่งอนุญาตเพราะสิ่งกล่าวถือว่าเป็นการทำสงครามหรือการญิฮาดอย่างหนึ่ง  ซึ่งการญิฮาดอนุญาตให้มีการหลอกลวงหรือหลอกล่อได้  เพื่อให้ตกหลุมพรางที่ตนเองต้องการจากฝ่ายศัตรู  ส่วนชีอะฮ์ก็จะใช้เหมือนกันแต่ใช้ในนามของ ตะกียะฮ์...

[As-Zaleek]

 

การร่ำเรียนจากผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ว่าอนุญาตให้โกหกต่อแนวทางอื่นได้นั้น  ทำให้จิตใจมัวหมองในที่สุด

ท่านอิบนุมัสอูดกล่าวว่า  ท่านนบี(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า

إن الصدق يهدي إلى البر ، وإن البر يهدي إلى الجنة ، وإن الرجل ليصدق حتى يكتب عند الله صديقا ، وإن الكذب يهدي إلى الفجور ، وإن الفجور يهدي إلى النار ، وإن الرجل ليكذب حتى يكتب عند الله كذابا

"แท้จริงความสัจจริงนำไปสู่ความดีงามและแท้จริงความดีงามนำไปสู่สวรรค์ และชายคนหนึ่งพูดจริง จนกระทั่งเขาได้ถูกบันทึก ณ ที่อัลลอฮ์ว่า เขาเป็นผู้สัจจริง  และแท้จริงการโกหกนำไปสู่ความชั่วและความชั่วนำไปสู่นรก และชายคนหนึ่งทำการโกหกจนทั่งถูกบันทึกไว้ ณ ที่อัลเลาะฮ์ว่า เขาเป็นจอมโกหก" รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม

[Beechern]

ผมไม่คิดว่าพวกเค้า(บางคน)นั้นโกหก แต่ผมคิดว่าพวกเค้า(บางคน)นั้นจิตใจคับแคบ และหรือหยิ่งผยองมากกว่าครับ
มีน้องคนนึงที่ไปร่ำเรียนกับกลุ่มความคิดดังกล่าว ได้ chat กับผมว่า "ขอให้พวกเราอยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรง"
ลองดูดุอาอ์ก็รู้แล้วละครับ ว่าจิตใจคับแคบ(ขอให้กลุ่มตัวเอง) ประกอบกับหยิ่งที่คิดว่าตัวเองถูกต้องโดยไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น
หลายๆครั้งผมใช้แนวทางของเค้าไปห้ามปรามการกระทำที่เลยเถิดเกี่ยวกับอัลเลาะฮ์ตะอาลา กลับได้รับการตอบกลับอย่างหยิ่งยโสและโอหัง
นี่แหละ ผมว่า ต้องจับมาอบรมตะเซาวุฟให้หนักเลยคนพวกนี้
วัลลอฮุอะอฺลัม

[As-Zaleek]

เห็นด้วยกับท่าน beechern อย่างยิ่ง  ที่เล่าประสบการณ์จริงให้ได้ทราบครับ

[ILHAM]

เรื่องนิสัยของวัฮบีตั้งไว้ก่อน เพราะมันไม่มีดีเหลืออยู่แล้ว
หวังว่าท่านบี้เฉินจะเข้าใจตัวอย่างที่ผมยกมา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อกระทู้ท่าน

[AUZULODEEN]

 
ผมเคยไปละหมาดที่มัสยิด(วัฮบี)หลายครั้งเพราะใกล้ที่ทำงาน อิหมามที่นั่นจะมองผมแปลกๆทุกครั้ง(เวลาขึ้นคุตุบะมีเหน็บแนมด้วย) เพราะผมทำไม่เหมือนเค้า แต่ผมก็ทักและยิ้มให้ตลอด ผมไม่สนว่ามัสยิดนี้จะเป็นสายไหน เพราะผมคิดว่าเวลาผมมาละหมาดที่มัสยิดผมมีความสุข(ส่วนตัว)

[sunny]

เป็น(ส่วนใหญ่)แบบนั้นจริงๆครับ ไม่ค่อยยอมรับความหลากหลายหรือทัผสนะที่ต่างจากตนเอง

[Beechern]

เรื่องนิสัยของวัฮบีตั้งไว้ก่อน เพราะมันไม่มีดีเหลืออยู่แล้ว
หวังว่าท่านบี้เฉินจะเข้าใจตัวอย่างที่ผมยกมา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อกระทู้ท่าน

ฮ่าๆๆ เข้าใจมันเข้าใจอยู่แล้ว แต่ตลกด้วยนี่สิ ^__^
ว่าแต่ เดี๋ยวไปถามบัลกิสก่อนนะ ว่าขี่คออยู่รึเปล่า เบื้องบนที่ว่าเนี่ย

[AUZULODEEN]

เดี๋ยวไปถามบัลกิสก่อนนะ ว่าขี่คออยู่รึเปล่า เบื้องบนที่ว่าเนี่ย

แปลว่าอะไร

[...]

ไปถามอิลฮามโด่

มาถามเราไซหล่าว 

[ILHAM]

ดีที่ไม่คิดว่าอยู่บนหลังคาโรงงาน

[napa]

ลูกน้องทำงานอยู่ชั้นบน แต่หัวหน้านั่งทำงานชั้นล่าง เวลานำเสนองาน มีแต่บอกว่าให้นำเสนอขึ้นมาตามลำดับ ไม่เคยเห็นมีไครบอกว่าให้นำเสนอลงมาเลยพับผ่าสิ

[ILHAM]

วัฮบีไม่มีศิลปะในการพูด ไม่เข้าใจถ้อยคำอันสวยงามของกุรอาน

[Beechern]

ตอนนี้เริ่มเข้าใจมากขึ้น เมื่อพิจารณาที่อ.Azhary แนะนำในเรื่องของ รูปธรรม กับ นามธรรม
การยึดแต่เพียงรูปธรรมอย่างเดียวนั้นไม่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับการยึดเพียงนามธรรมอย่างเดียวก็ไม่สมบูรณ์
แต่ผมเห็นว่า ฮิกัม ของอิบนิอะฏออิลลาฮ์ที่อ.Azhary ได้แนะนำมานั้น ประสานระหว่างรูปธรรมกับนามธรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด (สำหรับผม)
เช่นเดียวกับคำตอบทุกๆครั้งที่อ.Azhary ได้นำเสนอ ก็ไม่เคยทิ้งรูปธรรมแล้วอิงนามธรรมเพียงอย่างเดียว และก็ไม่เคยทิ้งนามธรรมแล้วอิงรูปธรรมเพียงอย่างเดียวเช่นกัน
แต่ส่วนใหญ่ในสังคม อิงไปทางรูปธรรม ทาง Logic ซะหมด กลายเป็นนักตีความตัวอักษรไปซะงั้น

[Al Fatoni]

อย่าลืมว่า สิ่งที่วะฮาบีใส่ร้ายอะฮ์ลิสซุนนุะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น  ยังคงมีการสอนใส่ร้ายกับในหมู่วะฮาบีกันเอง มันเป็นภาระกิจที่วะฮาบีต้องทำ  เพราะอุดมการณ์ของวะฮาบีคือไม่ต้องการปรับความเข้าใจกับแนวทางอื่น จึงใช้ทุกช่องทางสามารถจะโกหกได้  และยังมีการบิดเบือนตำราของอุลามาอฺ  นั่นเพราะอะไร

...

            ในข้อความแดงนั้น เป็นส่วนที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เพราะเกือบทุกครั้งที่อ่านหนังสืออกีดะฮ์ของพวกนี้ มักจะต้องมีการพาดพิงกับอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ในทางที่ไม่ดี หรือเข้าข่ายใส่ร้ายอยู่เสมอ และมีหลายเล่มที่พยายามหนักหนา ในการพิสูจน์ให้ผู้อ่านรู้ว่า ที่จริงแล้วนั้น อัลอะชาอิเราะฮ์กับมุอ์ตะซิละฮ์นั้นไม่ได้แตกต่างอะไรเลย หากแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน นี่ถือเป็นการใส่ร้ายอย่างใหญ่หลวงที่ไม่อาจให้อภัยได้จริงๆ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการทำให้อัลอะชาอิเราะฮ์ไม่ได้อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ เพราะมีอกีดะฮ์เหมือน หรืออันเดียวกับมุอ์ตะซิละฮ์ แต่กลุ่มมุอ์ตะซิละฮ์ก็คือกลุ่มบิดอะฮ์ ผมยังอนาจใจไม่หาย ว่าทำไมพวกนี้ไม่รู้อะไรเลยหรือ ว่ากลุ่มที่ต่อต้านมุอ์ตะซิละฮ์อย่างสุดเหวี่ยงตลอดมานั้นก็คือ อัลอะชาอิเราะฮ์เอง แล้วด้วยเหตุอันใดหรือ ที่จะต้องเอาอกีดะฮ์ของศัตรูตัวเองมาเป็นอกีดะฮ์ของตัวเองซะงั้น มันเหมือนกันหลับตาปิดหูพูด ชี้โน้นชี้นี่ว่าเป็นนั่นนี่ แต่ไม่รู้ว่าชี้อะไรไปบ้าง ดีไม่ดี ก็ชี้เข้าหาตัวเองนั่นแหละ ว่า...ซะเองโดยไม่รู้ด้วย

             และรู้สึกว่าจะเป็นคำพูดที่สวยหรูมากที่ว่า เราจะต้องถือศีลอดวันอะเราะฟะฮ์และออกอีดพร้อมกันทั่วโลก เพื่อสร้างความเป็นเอกฉันท์แห่งอิสลามให้ชาวโลกได้รับรู้ แต่เรากลับมากัดกันเองในเรื่องปลีกย่อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้จักจบ แล้วตกลงความสมานฉันท์อยู่ตรงไหนครับ อยากทราบจริงๆ ผมว่าหลักการอิสลามไม่ได้ขัดแย้งกันเลย แต่ที่ขัดแย้งก็คือความคิดของคนและความมีมานะฐิติที่มีอยู่ในตัวทุกคน - วัลลอฮุอะอ์ลัม