ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อแบ่งแยกระหว่างญิน ชัยฏอน และอิบลีส โดย เชค อะฏียะฮฺ ซ็อกรฺ ปราชญ์แห่งอียิปต์  (อ่าน 3610 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด




อะไรคือการแบ่งแยกระหว่างญิน ,ชัยฏอนและอิบลีส ?? และทำไมอัลลอฮฺ ตะอาลา ถึงได้สร้างพวกเขาขึ้นมา ??  โดย เชค อะฏียะฮฺ ซ็อกรฺ ปราชญ์แห่งอียิปต์



ตอบ....   

ท่านอิมามอัล-กุรตุบีย์ ได้กล่าวไว้ในตำราตัฟซีรของท่าน ในซูเราะห์ อัล-ญิน ว่า แท้จริงบรรดานักปราชญ์ได้มีความเห็นที่ขัดแย้งกันถึงที่มาเดิมๆ ของญิน ซึ่งท่านอิมาม หะซัน อัล-บัศรีย์ กล่าวว่า แท้จริงญินนั้น เป็นลูกหลานของอิบลีส ส่วนมนุษย์นั้น เป็นลูกหลานของอาดัม และในบรรดาพวกเขาทั้งหลายเหล่านี้นั้น ต่างก็มีทั้งที่เป็นผู้ศรัทธาและมีทั้งที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาเหล่านั้นต่างได้รับการตอบแทนทั้งในความดีและความชั่ว ฉนั้น หากว่าในหมู่พวกเขาเป็นผู้ที่มีความศรัทธา ดังนั้น พวกเขาก็คือวะลียุลลอฮฺ และถ้าหากว่าในหมู่พวกเขาเป็นผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น พวกเขาคือ ชัยฏอน


ท่านอิบนุ อับบาส กล่าวว่า ญิน ก็คือ ลูกหลานของบรรดาญินทั้งหลาย พวกเขาไม่ใช่ชัยฏอน และพวกเขามีการเสียชีวิตเช่นกัน ส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นผู้ที่ศรัทธา และส่วนหนึ่งจากพวกเขาเป็นกาฟิร แต่ชัยฏอนนั้น พวกเขาเป็นลูกหลานของอิบลีส และพวกมันทั้งหลายจะไม่ตาย นอกจากพวกมันจะตายไปพร้อมกับอิบลีส


และซูเราะฮฺ อัล-นาส ท่านเกาะตาดะฮฺ กล่าวอธิบายว่า แท้จริงส่วนหนึ่งจากญินนั้นคือ ชัยฏอน และแท้จริงส่วนหนึ่งจากมนุษย์ ก็คือ ชัยฏอน เช่นกัน และท่านเกาะตาดะฮฺ ได้สนับสนุนทัศนะของท่าน หะซัน อัล-บัศรีย์ ซึ่งอัลลอฮฺทรงตรัสว่า

وكذلك جعلنا لكل نبي عدوا شياطين الإنس والجن

“และในทำนองนั้นแหละเราได้ให้มีศัตรูขึ้นแก่นบีทุกคน คือ บรรดาชัยฏอนมนุษย์ และญิน” ซูเราะฮฺ อัล-อันอาม : 112


ท่าน อัด-ดุมัยรีย์ ได้กล่าวไว้ในตำรา حياة الحيوان الكبرى เกี่ยวกับเรื่องของญิน ว่า แท้จริงเป็นที่รู้กันว่าบรรดาญินทั้งหมดนั้น เป็นลูกหลานของอิบลีส และบางคนกล่าวว่า ญิน กับ อิบลีส นั้นเป็นคนละจำพวกกัน และไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า แท้จริงญินนั้นมีการสืบทอดลูกหลาน และญินที่ปฏิเสธศรัทธานั้นจะถูกเรียกว่า ชัยฏอน ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า

أفتتخذونه وذريته أولياء من دوني وهم لكم عدو

“แล้วพวกเจ้าจะยึดเอามันและวงศ์วานของมัน เป็นผู้คุ้มครองอื่นจากข้ากระนั้นหรือหรือ? ทั้งๆ ที่พวกมันเป็นศัตรูกับพวกเจ้า”  ซูเราะฮฺ อัล-กะฮฺฟฺ : 50


ท่านมุหัดดิษ อัช-ชะบะลีย์ ได้กล่าวไว้ในตำรา آكام المرجان في أحكام الجان หน้าที่ 6 ว่า แท้จริงญินรวมทั้งบรรดามะลาอิกะฮฺและสิ่งอื่นๆ จากพวกเขาล้านแล้วแต่เป็นสิ่งที่ถูกปกปิดเอาไว้จากประสาทสัมผัสแห่งการมองเห็น ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

وجعلوا بينه وبين الجنة نسبا

“และพวกเขากล่าวอ้างความสัมพันธ์ (ทางเครือญาติ) ระหว่างพระองค์กับพวกญิน”   ซูเราะฮฺ อัศ-ศอฟาต : 158


แท้จริงบรรดามุชริกีนได้เรียกบรรดามะลาอิกะฮฺว่า ลูกสาวของอัลลอฮฺ และท่าน อัช-ชะบะลีย์ กล่าวว่า บรรดาชัยฏอนทั้งหลายนั้น พวกเขาคือ ญินที่ทำความผิดและพวกเขาเป็นลูกหลานของอิบลีส ซึ่งพวกเขาปฏิเสธศรัทธา พวกเขาเย่อหยิ่งจองหองและหลงผิด ท่าน อัล-เญาฮารีย์ กลาวว่า ผู้ที่ชอบการทะเลาะวิวาท หยิ่งผยองลำพองตนและฝ่าฝืนคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะมาจากญินหรือมนุษย์หรือสัตว์ ล้วนแล้วแต่เป็นชัยฏอนทั้งสิ้น และชาวอาหรับจะเรียกงูว่า ชัยฏอน


และทั้งหลายเหล่านี้ คือ สิ่งที่ถูกกล่าวขึ้นเกี่ยวกับญิน ,บรรดาชัยฏอนและอิบลีส ส่วนหิกมะฮฺในการสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา คือ เพื่อทดสอบลูกหลานของอาดัมว่าพวกเขาจะตอบรับคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺหรือตอบรับคำสั่งใช้ของชัยฏอน ดังนั้น ถ้าหากว่าการศรัทธาได้เกิดขึ้นภายหลังจากการต่อสู้เอาชนะชัยฏอนมาได้ เขาผู้นั้นก็จะได้รับผลตอนแทนที่ยิ่งใหญ่ เพราะแท้จริงแล้วผลลัพธ์จากความเหนื่อยยาก จากความพยามยามและอุตสาหะ นั่นคือ ผลานิสงค์ตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า

والذين جاهدوافينا لنهدينهم سبلنا وإن الله لمع المحسنين

“และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา  และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย” ซูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 69


การใช้ชีวิตอยู่ในดุนยาจำเป็นจะต้องมีสมรภูมิแห่งการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ดังเช่นการสร้างอาดัมของอัลลอฮฺนั้นได้มีการวางกฎเกณฑ์และการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมเอาไว้ระหว่างการภักดีและการไม่เชื่อฟัง และด้วยกับหลุมพลางเหล่านี่คือ สิ่งที่ชัยฏอนอ้างว่า มันคือ สมรภูมิแห่งการล้างแค้นที่อาดัมเป็นต้นเหตุทำให้มันถูกขับไล่ออกจากสวรรค์อันเนื่องจากไม่ก้มกราบ (السجود) ต่อท่านอาดัม ดังโองการของอัลลอฮฺในอัลกุรอาน ที่ว่า

قال فبما أغويتني لأقعدن لهم صراطك المستقيم

“มันกล่าวว่า ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ตกอยู่ในความหลงผิด แน่นอนข้าพระองค์จะนั่งขวางกั้นพวกเขา ซึ่งทางอันเที่ยงตรงของพระองค์”  ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 16


ثم لآتينهم من بين أيديهم ومن خلفهم وعن أيمانهم وعن شمائلهم ولا تجد أكثرهم شاكرين

“แล้วข้าพระองค์จะมายังพวกเขา จากเบื้องหน้าของพวกเขา และจากเบื้องหลังของพวกเขาและจากเบื้องขวาของพวกเขา และจากเบื้องซ้ายของพวกเขา และพระองค์จะไม่พบว่าส่วนมากของพวกเขานั้น เป็นผู้ขอบคุณ”  ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 17


และอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทรงเตือนมนุษย์ให้ระวังจากการเชื่อฟังชัยฏอน ดังโองการที่ว่า

ألم أعهد إليكم يا بني آدم أن لاتعبدوا الشيطان إنه لكم عدومبين

“ข้ามิได้บัญชาพวกเจ้าดอกหรือ โอ้ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย! ว่าพวกเจ้าอย่าได้เคารพบูชาชัยฏอนมารร้าย แท้จริงมันนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้า”   ซูเราะฮฺ ยาซีน : 60


إن الشيطان لكم عدوفاتخذوه عدوا

“แท้จริง มารชัยฏอนนั้นเป็นศัตรูกับพวกเจ้า ดังนั้น พวกเจ้าจงถือว่ามันเป็นศัตรู”  ซูเราะฮฺ ฟาฏิร : 6


ดังนั้น ความพยายามของชัยฏอนเพื่อให้คนอื่นทำบาปได้นั้นสำหรับมันแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและสมควร ดังนั้น ชัยฏอนมันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลอกล่อมนุษย์ในทุกๆ ฝีก้าวแห่งการใช้ชีวิตของมนษย์


แท้จริงปราชญ์ท่านหนึ่งได้ถูกถามว่า ทำไมอัลลอฮฺถึงได้สร้างอิบลีสขึ้นมา ?? และเขาได้ตอบว่า “เพื่อให้เรานั้นได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺด้วยกับการขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้พ้นจากชัยฏอนและให้พ้นจากการยั่วยุของมัน” ดังนั้น ในการไปถึงยังทุกๆ ความดีนั้น มักจะมีสิ่งที่ไม่ดีซ่อนเร้นอยู่เสมอ นอกสะจากว่ามันจะมากหรือน้อยเท่านั้น


ดู ตำรา الفتاوى من أحسن الكلام في الفتاوى والأحكام  โดย เชค อะฏียะฮฺ ซ็อกรฺ ปราชญ์แห่งอียิปต์  เล่มที่1 หน้าที่ 89



วัลลอฮุ ตะอาลา อะอฺลา วะ อะอฺลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 12, 2013, 02:55 AM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 :salam:

ชัยค์ อะฏียะฮ์ ซ็อกร์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮุตะอาลา) เป็นปราชญ์มุฟตีแห่งอียิปต์อย่างแท้จริง  ท่านตอบปัญหาศาสนาเหมือนกับมีตำราของตรงหน้า  ผู้ที่โทรศัพท์มาถามปัญหาศาสนาท่านชัยค์อะฏียะฮ์ทางโทรทัศน์นั้น  ถามยังไม่ทันจบ  ท่านก็ตอบให้อย่างครอบคลุมจนผู้ถามกระจ่างจนไม่มีอะไรจะถาม

มีวันหนึ่ง  ท่านได้มาสอนอบรมนักศึกษาปริญญาโทและด็อกเตอร์ที่หอพักนักศึกษานานาชาติ  เมื่อท่านสอนเสร็จ  ผมเห็นท่านชัยค์อะฏียะฮ์  เดินทางกลับบ้าน  โดยไม่มีใครติดตามเลย  ปรากฏว่าท่านไม่มีรถส่วนตัว  แต่ท่านขึ้นรถเมล์ที่แน่นไปด้วยผู้โดยสาร  แน่นอนว่าที่นั่งบนรถเมล์ไม่มีให้เหลือ  แต่เมื่อท่านยืนในรถเมล์  ผู้คนนั่งอยู่เห็นเชคอะฏียะฮ์  ก็ตกใจรีบลุกให้เชคนั่ง  พอกระเป๋ารถเมล์จะมาเก็บค่าโดยสาร  เมื่อพบว่าเป็นท่านเชค  ก็ไม่กล้าเก็บตังค์

ท่านสงบเสงี่ยม  สมถะ  และน่าเกรงขามมาก ๆ  ท่านไปใหนมาใหนคนเดียว  เพราะท่านมีอัลเลาะฮ์อยู่ในความรู้สึกของท่านเสมอนั่นเอง!   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً


ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
จากที่อ่านเรื่องญินกับชัยฏอนมา ผมเลยคิดว่า อิบลีส ก็เป็นญิน เหมือนที่ท่านนบีอาดัมเป็นมนุษย์ และทั้งสองต่างถูกทดสอบ แต่ท่านนบีอาดัมเลือกทางที่ถูก อิบลีสเลือกทางที่ผิด ท่านนบีอาดัมเลือกที่จะขออภัย แต่อิบลีสเลือกจะถลำลึก และไม่กลับตัว จึงมีสภาพอย่างที่เรารับรู้

ไม่ทราบผมเข้าใจถูกไหม เพราะผมคิดแบบนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
:salam:

ชัยค์ อะฏียะฮ์ ซ็อกร์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮุตะอาลา) เป็นปราชญ์มุฟตีแห่งอียิปต์อย่างแท้จริง  ท่านตอบปัญหาศาสนาเหมือนกับมีตำราของตรงหน้า  ผู้ที่โทรศัพท์มาถามปัญหาศาสนาท่านชัยค์อะฏียะฮ์ทางโทรทัศน์นั้น  ถามยังไม่ทันจบ  ท่านก็ตอบให้อย่างครอบคลุมจนผู้ถามกระจ่างจนไม่มีอะไรจะถาม

มีวันหนึ่ง  ท่านได้มาสอนอบรมนักศึกษาปริญญาโทและด็อกเตอร์ที่หอพักนักศึกษานานาชาติ  เมื่อท่านสอนเสร็จ  ผมเห็นท่านชัยค์อะฏียะฮ์  เดินทางกลับบ้าน  โดยไม่มีใครติดตามเลย  ปรากฏว่าท่านไม่มีรถส่วนตัว  แต่ท่านขึ้นรถเมล์ที่แน่นไปด้วยผู้โดยสาร  แน่นอนว่าที่นั่งบนรถเมล์ไม่มีให้เหลือ  แต่เมื่อท่านยืนในรถเมล์  ผู้คนนั่งอยู่เห็นเชคอะฏียะฮ์  ก็ตกใจรีบลุกให้เชคนั่ง  พอกระเป๋ารถเมล์จะมาเก็บค่าโดยสาร  เมื่อพบว่าเป็นท่านเชค  ก็ไม่กล้าเก็บตังค์

ท่านสงบเสงี่ยม  สมถะ  และน่าเกรงขามมาก ๆ  ท่านไปใหนมาใหนคนเดียว  เพราะท่านมีอัลเลาะฮ์อยู่ในความรู้สึกของท่านเสมอนั่นเอง!   


อ่านแล้วทำให้นึกถึงคุณลักษณะของท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ...
เพราะท่านรอซูลุ้ลลอฮฺนั้นใช้ชีวิตแบบสมถะ ไม่ถือตัว สงบเสงี่ยม

ผู้คนรักท่าน เคารพท่าน เกรงขามท่าน
แม้ท่านจะมิได้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างรอซู้ลท่านอื่นๆก่อนหน้านี้...

แต่ท่านเป็นความรักความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮฺทรงส่งมาในยุคสุดท้ายนี้...

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...

ทำให้รู้สึกว่า...การประกาศว่าเรานั้นเดินตามแนวทางของท่านรอซุลุ้ลลอฮฺหรือไม่
อาจไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วาจากล่าวประกาศออกไปเลย...
หากการกระทำและคุณลักษณะบ่งบอกออกมาว่าใช่...
ภาพนั้นจะฉายชัดออกมาด้วยรัศมีแห่งอีหม่าน...
ซึ่งเป็นอะไรที่ฉายชัดไปถึงหัวใจคนรอบข้างที่ได้สัมผัสพบเจอ...
อินชาอัลลอฮฺ...

และเท่าที่อ่านในประวัติ...ไม่พบเจอเลยว่า...บรรดารอซุ้ล
ที่อัลลอฮฺทรงส่งมานั้นจะอิจฉาหรือใส่ร้ายต่อกัน...
บรรดารอซู้ลต่างให้เกียรติกันและกัน ไม่อิจฉาต่อกัน
หรือประกาศว่าตนนั้นดีกว่าเลย...

จึงเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของบรรดาผู้นำทุกคน
ซึ่งเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺที่ถูกส่งมายังเรา...



วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 09, 2013, 09:45 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged