ก็มีเพื่อนส่งลิ้งค์นี้มาให้อ่านดูนะ จากเว็บมรดกอิสลาม แกไม่สบาย อยากให้ผู้รู้ทั้งหลายช่วยกันชี้แจงหน่อย เพราะบังอะสันได้ตอบโต้บังอัลอัซฮะรีย์เรื่องที่บังเค้านำเสนอว่า "อิมามอัลบุฅอรีย์ตีความศิฟัตอัลลอฮฺ" มาดูรายละเอียดกัน ข้างล่างนี้เลย
_______________________________
บังอะสันกล่าวและนำเสนอว่าอาจารย์อัลอัชารีย์อ้างว่า
อิมามบุคอรีย์ได้ทำการตีความไว้ในบทว่าด้วยเรื่อง ตัฟซีรซูเราะฮฺ อัลเกาะซ๊อซว่า
كُلُّ شَيْءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجْهَهُ إِلَّا مُلْكَهُ
ความว่า"ทุกๆ สิ่งนั้นพินาจสิ้น นอกจาก وَجْهَهُ พระพักตร์ของพระองค์(อิมามบุคคอรีย์ตีความว่า)นอกจากอำนาจการปกครองของพระองค์"
แต่อัลาบานีย์บอกว่า การตีความ(ของท่านอัลบุคอรีย์)อย่างนี้ ผู้ไม่ใช่มุสลิมได้กล่าวกัน??
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=22.0...................
คุณครูอัลอัชอารีย์ พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะ การตีความข้างต้น ไม่ใช่อิหม่ามบุคอรี เป็นผู้ตีความ แต่ท่านได้รายงานมาจากคำพูดของผู้อื่นอีกที่ คือ รายงานจาก ผู้มีนามว่า มุอฺมัร และ มุอฺมัร ถูกระบุในรายงาน อัลนุสฟีย์ ดังที่ท่านหาฟิซอิบนุหะญัร กล่าวว่า
قوله : إلا وجهه : إلا ملكه . في رواية النسفي وقال معمر فذكره ، ومعمر هذا هو أبو عبيدة بن المثنى ، وهذا كلامه في كتابه مجاز القرآن لكن بلفظ إلا هو ، كذا نقله الطبري عن بعض أهل العربية ، وكذا ذكره الفراء
คำตรัสของพระองค์ที่ว่า “ นอกจากพระพักต์ของพระองค์” หมายถึง นอกจากอำนาจปกครองของพระองค์ ในรายงานหนึ่งของ อัลนุสฟีย์ ระบุว่า "และ มุอฺมัรได้ กล่าว" แล้วเขา(นุสฟีย)ได้ระบุมัน และ มุอฺมัรคนนี้ คือ อบูอุบัยดะฮ บิน อัลมุษันนา และนี้คือคำพูดของเขา ในหนังสือของเขา คือ “คำอุปมาอุปมัยในอัลกุรอ่าน” แต่ ด้วยถ้อยคำที่ว่า “ยกเว้น พระองค์” ในทำนองเดียวกัน อัฏอ็บรีย์ ได้รายงานมันจาก ชาวอาหรับบางคน และในทำนองนั้น อัลฟะเราะฮอฺ ได้ระบุมันไว้ – ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 8 หน้า 505
อิหม่ามอิบนุกะษีร กล่าวว่า
وَقَالَ مُجَاهِدٌ وَالثَّوْرِيُّ فِي قَوْلِهِ : ( كُلُّ شَيْءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجْهَهُ ) أَيْ : إِلَّا مَا أُرِيدَ بِهِ وَجْهُهُ وَحَكَاهُ الْبُخَارِيُّ فِي صَحِيحِهِ كَالْمُقَرِّرِ لَهُ
และมุญาฮิด และอัษเษารีย์ กล่าวในคำตรัสของอัลลอฮที่ว่า(ทุกสิ่งย่อมพินาศนอกจากพระพักตร์ของพระองค์) หมายถึง เว้นแต่ สิ่งที่ถูกให้มีจุดประสงค์ เพื่อพระพักต์ของพระองค์ด้วยมัน และ อัลบุคอรีย์ได้รายงานมันในเศาะเฮียะของเขา เสมือนหนึ่งว่า เป็นผู้ยอมรับมัน – ดูตัฟสีรอิบนุกะษีร เล่ม 6 หน้า 262
…………….
ท่านอิบนุกะษีร ได้รายงานว่า อิหม่ามบุคอรี ยอมรับ ความหมายที่ว่า “إِلَّا مَا أُرِيدَ بِهِ وَجْهُه จึงแสดงให้เห็นว่า ท่านยอมรับในสิฟัต الوجه แก่อัลลอฮ
และท่านอิหม่ามบุคอรี ยังได้ นำหะดิษ ที่ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า أعوذ بوجهك ) .) ฉันขอความคุ้มครอง ด้วยพระพักต์ของพระองค์ท่าน มาประกอบคำอธิบายอายะฮอัลกุรอ่านอายะฮดังกล่าวด้วย ดังรายละเอียดข้างล่าง
ท่านอิหม่ามบุคอรี กล่าวว่า
باب قول الله تعالى { كل شيء هالك إلا وجهه } / القصص 88
حدثنا قتيبة بن سعيد حدثنا حماد بن زيد عن عمرو عن جابر بن عبد الله قال لما نزلت هذه الآية { قل هو القادر على أن يبعث عليكم عذابا من فوقكم } . قال النبي صلى الله عليه وسلم ( أعوذ بوجهك ) . فقال { أو من تحت أرجلكم } . فقال النبي صلى الله عليه وسلم ( أعوذ بوجهك ) . قال { أو يلبسكم شيعا } . فقال النبي صلى الله عليه وسلم ( هذا أيسر )
บทว่าด้วยคำตรัสของอัลลอฮ ตะอาลาที่ว่า(ทุกสิ่งย่อมพินาศนอกจากพระพักตร์ของพระองค์) อัลเกาศอศ/88 กุตัยบะฮ บินสะอีด ได้เล่าเราว่า หัมมาด บินเซด จากอัมริน จาก ญาบีร บิน อับดุลลอฮ ได้กล่าวขณะที่อายะฮนี้ลงมา( จงกล่าวเถิด พระองค์คือ ผู้ทรงสามารถส่งการลงโทษจาก จากเบื้องบนของพวกเจ้า ) ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า (ฉันขอความคุ้มครอง ด้วยพระพักต์ของพระองค์ท่าน) แล้วเขากล่าว(ถึงอายะฮดังกล่าวต่อไปว่า) หรือจากใต้เท้าของพวกเจ้า ) แล้วท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม (ฉันขอความคุ้มครอง ด้วยพระพักต์ของพระองค์ท่าน) เขากล่าว(อายะฮดังกล่าวต่อไปว่า) “หรือ ให้พวกท่านปนเปกันโดยมีหลายพวกเจ้า”แล้วท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ นี้ มันเบาที่สุด” – เศาะเฮียะอัลบุคอรีย์ หะดิษหมายเลข 6971 ว่าด้วยเรื่อง อรรถาธิบายอัลกุรอ่าน
…………..
หาฟีซอิบนุหะญัร กล่าวว่า
قال ابن بطال : في هذه الآية والحديث دلالة على أن لله وجها وهو من صفة ذاته ، وليس بجارحة ولا كالوجوه التي نشاهدها من المخلوقين ، كما نقول إنه عالم ولا نقول إنه كالعلماء الذين نشاهدهم
อิบนุบัฏฏอ็ล กล่าวว่า “ ในอายะฮนี้และอัลหะดิษ เป็นหลักฐานแสดงบอกว่า อัลลอฮ ทรงมีพระพักต์ และมันคือ คุณลักษณะ ของซาตของพระองค์ และมันไม่ใช่อวัยวะ และ ไม่ใช่ดังเช่น บรรดาใบหน้า ทีเราเห็นมัน จากบรรดามัคลูค ดังสิ่งที่เรากล่าวว่า แท้จริงทรงเป็นผู้รู้ และเราจะไม่กล่าวว่า ดังเช่น บรรดาผู้รู้ที่เราเห็นพวกเขา (หมายถึง ทรงมีสิฟัตรู้ แต่ไม่เหมือนสิฟัตการรู้ของมัคลูค) - ฟัตหุลบารีย์ เล่ม เดียวกัน
อิหม่ามอิบนุญะรีร อธิบายว่า
يَقُولُ تَعَالَى ذِكْرُهُ : وَلَا تَعْبُدُ يَا مُحَمَّدُ مَعَ مَعْبُودِكَ الَّذِي لَهُ عِبَادَةُ كُلِّ شَيْءٍ مَعْبُودًا آخَرَ سِوَاهُ . وَقَوْلُهُ : ( لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ ) يَقُولُ : لَا مَعْبُودَ تَصْلُحُ لَهُ الْعِبَادَةُ إِلَّا اللَّهُ الَّذِي كَلُّ شَيْءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجْهَهُ
อัลลอฮ ผู้ซึ่ง การสรรเสริญพระองค์สูงส่งยิ่ง ตรัสว่า “ และ โอ้มุหัมหมัด เจ้าอย่าง เคารพภักดี(อิบาดะฮ) ผู้ที่ถูกเคารพภักดีอื่นๆจากพระองค์ พร้อมกับ ผู้ที่เป็นมะอฺบูด(ผู้ที่ถูกเคารพภักดี)ของเจ้า ผู้ซึ่ง ทุกสิ่งเคารพภักดีต่อพระองค์ และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า( ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์) หมายถึง พระองค์ตรัสว่า “ ไม่มีผู้ถูกเคารพภักดีใดๆ ที่สมควรอิบาดะฮ ต่อ เขา ยกเว้น อัลลอฮ ผู้ซึ่ง ทุกสิ่งย่อมพินาศนอกจากพระพักตร์ของพระองค์ – ดูตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 88 ซูเราะฮอัลเกาะศอศ
.................
เช็คอัลบานีย์ ไม่เชื่อว่า จะเป็นการตีความของอิหม่ามบุคอรีโดยตรง แต่ท่านรายงานจากผู้อื่น ท่านไม่ได้กล่าวว่า อิหม่ามบุคอรีย์ ไม่ใช่มุสลิมอย่างที่ชีอะฮและ ครูอัลอัชอารีย์ ใส่ร้ายท่าน
ดูการใส่ร้ายของชีอะฮ ต่อเช็คอัลบานีย์ในเรื่องเดียวกัน ตามลิงค์ข้างล่างนี้
http://www.alameli.net/books/index.php?id=1486__________________________
ฝากผู้รู้ช่วยชี้แจงด่วนนะครับ