เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

จริงหรือไม่ ? ที่ เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงเป็น นบี เพราะมี มัวะญีซาต

<< < (27/39) > >>

min-min:



เราคิดว่าเราสื่อไม่ดีเอง เลยทำให้หลายคนเข้าใจว่าเราฟันธงเรื่องความเชื่อพวกนี้
เอาเป็นว่าเราคิดคล้่ายๆ คำนำพวกนี้น่ะค่า


BaE HoK:
ประเทศไทยไม่มีศาสนาพุทธหรอก
เป็นแค่ พราหมณ์ สวมบทบาทพุทธ
เรื่องพระพุทธรูปนี่มีชาวพุทธสักกี่คนที่รู้ว่า
เพิ่งปั้นขึ้นช่วงหลังประมาณ 700 ปีหลังพุทธกาล
ชาวไทยรับมารับรูปปั้นมาด้วย

ต่อมาไหว้พระพุทธรูปอย่างเดียวไม่พอ
คนไทยก็พัฒนาต่อ มาเป็นไหว้พระเครื่องห้อยคอสมัยอยุธยา

มาสมัยรัตนโกสินทร์ ก็ปั้นจตุคามรามเทพ
เทพอะไรที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มีบันทึกในพระไตรปิฎกเลย
ดันบอกกันว่า เป็นพระโพธิสัตว์
จนกระทั่งรูปคน ก็ปั้นขึ้นมาบูชากันแล้ว

นี่แหละคนไทยพุทธ
เมื่อไหร่จะกลับไปอ่านพระไตรปิฎกกันเสียที
จะได้ไม่ต้องเอาอะไรมาห้อยคอให้หนักซะเปล่าๆ
ในพระไตรปิฎก ไม่มีเรื่องของพระพุทธรูป
พระเครื่อง ของขลัง วัตถุมงคลเลยซักนิด

ประเทศไทยนี่แหละ พุทธศาสนาลัทธิเถรวาท
แต่เนื่องจากมีการผสมผสานระหว่างคนหลายเชื้อชาติ
หลายศาสนา อยู่ร่วมกัน จนมันหลอมรวมจนแยกออกไม่ได้เลย
เช่น น้ำมนต์ก็ไม่ใช่พุทธ เทพเจ้าต่างๆ ก็ไม่ใช่
เพราะพุทธไม่มีพระเจ้า มีแต่องค์ศาสดา
ส่วนการทำรูปเคารพก็เหมือนกัน 
สร้างราว พศต.ที่ 6 - 7 ช่วงแรกไม่มีใครกล้าปั้น เพราะกลัว
จึงทำเป็นสัญญลักษณ์แทน เช่น ธรรมจักร
การสร้างรูปเคารพ เริ่ม ขึ้นในอินเดีย ในรูปแบบของศิลปะแบบคันธาระ
หน้าตาจะออกทาง กรีกโรมัน เพราะก่อนหน้านั้น
จอมทัพอเล็กซานเดอร์ยกทัพมาที่อินเดีย พอกลับ มีทหารบางคนไม่กลับ
อาศัยที่อินเดียก็เลยมีการสร้าง(คล้ายๆ กับการสร้างเทพเจ้าของฝรั่ง)
บางทฤษฏี บอกเป็นแบบศิลปะแบบมถุรา
เพราะหน้าพระพุทธรูปแบบแขก อินเดียสร้าง
แต่ถ้าลองวิเคราะห์ ผู้รู้บอกว่า น่าจะเป็นศิลปะแบบคันธาระสร้างก่อน
เพราะถ้าแบบมถุรา ที่มีช่วงอายุใกล้กัน สร้างก่อน
ก็น่าจะมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่น่าจะเกิดใกล้เคียงกัน

ส่วนเรื่องพระห้อยคอนั้น น่าจะมีมาก่อน
เพียงแต่ไม่นิยมนำมาห้อยคอ จากการค้นพบ
จะพบว่า มีการทำพระพิมพ์ มาตั้งแต่สมัยทวารวดีแล้ว
นิยมทำด้วย ดินเผา+โลหะ และมีจารึกข้างหลังเป็นภาษาบาลีว่า
"เยธมมา" หมายถึง การดับทุกข์(ไม่ต้องเกิด)
จึงทำให้เชื่อว่าจุดมุ่งหมายในการทำพระพิมพ์
ก็เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา ซึ่งตามความเชื่อบอกว่ามีอายุ 5,000 ปี

สมัยศรีวิชัยก็มีการทำพระพิมพ์เหมือนกัน
โดยใช้ ดินดิบ(ดินเหนียว) นำไปผึ่งแดดให้แห้ง(ไม่เผา)
และมีการนำกระดูกของผู้ตายที่เผาแล้วมาผสมกับดินแล้วปั้นเป็นพระพิมพ์
เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย

ส่วนเรื่อง พระโพธิสัตว์ นั้น
มาจาก พุทธศาสนาลัทธิมหายาน
(พวกมหายานจะเรียก เถรวาท ว่า หินยาน = ยานอันคับแคบ)
เกิดหลังเถรวาท ประมาณ 500ปีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
มหายานจะมี พระอาทิพุทธเจ้าใหญ่สุด และมี
พระธยานิพุทธเจ้าประจำทิศอีก 5 ทิศ
โดยปัจจุบัน พระธยานิพุทธเจ้าที่สำคัญที่สุด คือ
พระอมิตาภะ ประจำทิศตะวันตก จะบรรดาลให้มีพระมนุษยพุทธเจ้า
มีนามว่า ศากยมุนี หรือที่เรารู้จักคือ พระโคตมะ
ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าของเรานั่นเอง
และจะบรรดาลให้มีพระธยานิโพธิสัตว์ นามว่า อวโลกิเตศวร
ลงมาช่วยอีกองค์ หรือ ที่จีนเรียก กวนอิม นั่นเอง
ความเชื่อ เรื่องโพธิสัตว์ มีมากมาย ในอินเดีย เป็นผู้ชาย
ญี่ปุ่น เป็นผู้ชาย จีนเป็นผู้หญิง เป็นต้น

(ทั้งหมดทั้งปวงมันเริ่มทำให้ผมคิดว่าการศึกษาเรื่องนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระครับ  วัสลาม)

hiddenmin:
^
^

แจ้งที่มาให้ถูกต้องชัดเจนก่อนจะโพสกระทู้ถัดไป ไม่งั้นจะขอลบโพสนี้นะ

BaE HoK:
พูดกับใครคับ
กระทู้ไหนคับ
งงคับ
ถ้าหากจะสื่อสารกับผมก็ควรเรียกชื่อผมนะคับ จะได้รุตัว
อยู่ๆคุณก็พูดขึ้นมาลอยๆ ขู่ว่าจะลบด้วย
ผมว่าคนในเวบนี้มีอาการแบบนี้หลายคนนะ..(ยังงงอยู่ว่าทำผิดอะไร !!)

al-firdaus~*:
 :salam:

เรากังวลนะคะ เกี่ยวกับการนำบทความใดๆมาลง แล้วไม่อ้างแหล่งที่มา
มันจะเกิดปัญหาการละเมิดค่ะ  ซึ่งทางเราไม่ได้จำกัดสิทธิท่านสมาชิกในการโพสต์ใดๆเรยนะคะ
แค่ขอนิดส์นึงตรงนี้ เพื่อเว็บจะได้ไม่มีปัญหากับเว็บที่นำมาอ้างอิงน่ะคะ
ที่มาของอาการขู่จะลบซึ่งคุณ BaE HoK งงๆนั้น  มันมาจากตรงนี้ค่ะ
คือมันไม่ได้มีอะไรมาก  จึงเรียนมาเพื่อทราบค่ะ


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version