ผู้เขียน หัวข้อ: อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาแห่งอิสลาม  (อ่าน 1123 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com

 :salam:

อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาของมุสลิม


อีดิ้ลอัฏฮานั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นวันแห่งการลำลึกอัลลอฮ(ซ.บ) ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทำการทดสอบบุคคลที่ได้ชื่อว่า นบี บุคคลที่ได้ชื่อว่าบิดาของมวลมนุษยชาติ รองลงมาจากนบีอาดัม(อ.ฮ) นั่นก็คือนบีอิบรอฮีม(อ.ฮ)
   หลังจากที่อิบรอฮีม ได้อพยพครอบครัวจาก มาซีรไปยัง ปาเลสไตล์ พร้อมกับครอบครัวและคนรับใช้ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก จากวัยอันล่วงเลยมานับว่ามาก ถ้าจะให้กำเนิดบุตรโดยธรรมดาทั่วไป เป็นไปได้ยาก ภรรยา(นางซาร่า)ผู้ที่ได้ชื่อว่าเห็นใจสวามี เลยมีความคิดที่จะยกบริวาลหญิงคนนึงซึ่งนางเป็นคนเลือกเอง อีกทั้งอุปนิสัยใจคอสมบูรณ์เพียบพร้อม ชื่อว่า(นางฮายาร) และอิบรอฮีมก็ตอบรับ จนในที่สุดนางก็ได้กำเนิดบุตรขึ้นมาคนนึงซึ่งนามว่า(อิสมาแอล)
   จากความตื้นตันใจของอิบรอฮีมที่มีต่ออิสมาแอลได้ไม่นาน สตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียหลวง ย่อมมีความรู้สึกลึกๆอยู่ในใจ พยายามข่มมันใว้ แต่จิตใจของมนุษย์คนนึง ก็ไม่พ้นที่จะเกิดความอิจฉา ถึงแม้นจะพยายามข่มใจมากเท่าไร ด้วยตักเดรและฮิกมัตของอัลลอฮ(ซ.บ) ก็เลยวะฮยูให้อิบรอฮีมและฮายารพร้อมทั้งลูกน้อย จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ต่างถิ่น
   จากการเดินทางอันไกลแสนไกล ข้ามวันข้ามคืน ที่พวกเขารอนแรม จนในที่สุดก็มาถึงสถานที่นึง อิบรอฮีมพร้อมทั้งภรรยาและลูกน้อย ก็หยุดพัก จาการรอนแรมมาตั้งหลายวันเสบียงที่เตรียมมาก็นับว่าเหลืออยู่น้อยนิดเดียว อิบรอฮีมผู้เป็นพ่อ ก็รีบขึ้นอูฐ ทำท่าที่จะหันหลังกลับและทิ้งภรรยาและลูกน้อยใว้เพียงลำพังแม่ลูกโดยไร้ซึ่งคำล่ำลา แต่หารู้ไม่ว่าน้ำตาที่คลอเบ้าปากก็พร่ำวอนภาวนาต่ออัลลอฮ(ซ.บ)ว่าโปรดจงคุ้มครองภรรยาและบุตรอันเป็นที่รักด้วย ภรรยาซึ่งสังหรใจและไม่คิดว่าผู้เป็นสามีจะกล้าทิ้งตนเองและลูกน้อยที่กำลังแบเบาะได้ลงคอ นางก็รีบเดินตามหลังอูฐของอิบรอฮีม พร้อมทั้งพูดว่า  “โอ้สวามีที่รัก ท่านจะไปใหนหรือ? ท่านจะทิ้งเราใว้ในสถานที่น่ากลัวเยี่ยงนี้เหรอ?”
   ไม่มีใครสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามลำพังโดยปราศจากเสบียงและน้ำ ในทะเลทรายที่เวิ้งว้างและแห้งแล้ง รแห้งแล้งจนเสมือนว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆที่จะสามารถดำเนินชีวิตได้ในที่แห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ลูกอ่อนซึ่งแบเบาะ จากความร้อนของดวงอาทิตย์ในตอนกลางวัน และแสนจะเยือกเย็นในเวลากลางคืน ใครเล่าที่จะทานทนได้   
 อิบรอฮีมผู้เป็นบิดานั้นรู้อยู่เต็มอกถึงสิ่งเหล่านั้น และเอ่ยวาจาขึ้นมาอย่างสุขุมพร้อมทั้งน้ำตาของลูกผู้ชาย ที่แน่นสุมอยู่ในอก แต่ก็ไม่วายที่จะหยุดและเห็นใจต่อคำร้องขอของนางฮายาร เพียงแต่กล่าวขึ้นมาว่า นี่เป็นความประสงค์ของอัลลอฮ(ซ.บ) อีกทั้งพูดให้กำลังใจแก่ภรรยา ว่าให้ยอมรับในตักเดร และอดทน นางฮายารได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว และหวังว่าพระองค์ทรงคุ้มครองเราทั้งสองแม่ลูก”
   อิบรอฮีมหลังจากที่ทิ้งภรรยาและลูกจนลับไปกับสายตา ท่ามกลางทะเลทรายที่อันตราย ร้อนแดดแผดเผา ข้ามภูเขาและหน้าผาเป็นร้อยเป็นพัน แต่ในใจก็หวั่นต่อลูกและเมียทั้งสอง ที่เปรียบเสมือนกับดวงตาดวงใจ สามารถที่จะตายแทนได้ ถ้าหากพระองค์ต้องการ แต่ด้วยความยาเก็นและตออัตต่ออัลลอฮ(ซ.บ) และไม่คิดที่จะเก็บเสบียงใว้เลยสักนิด ทั้งหมดนั้นทิ้งใว้ให้ลูกให้เมียหมดสิ้น  ด้วยความที่จิตใจที่สูงส่งของความเป็นนบี ท่านต้อมข่มความบอบช้ำในจิตใจ ต้องทรมานกับการทำใจพลัดพรากจากลูกและเมียอันเป็นที่รัก ชีวิตนี้มีลูกชายเพียงคนเดียวอีกทั้งยังต้องปล่อยให้ทรมาน โดยไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง  ทำได้อย่างเดียวคือดุอาอ์ต่อพระองค์อัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
“โอ้พระองค์อัลลอฮ ข้าพระองค์ได้ทิ้งลูกและเมียของข้าพระองค์ ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง ปราศจากซึ่งไม้ฟืนและผลไม้ โอ้อัลลอฮ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ทำการอิบาดัต ได้โปรดทำให้ดลจิตดลใจเหล่ามวลมนุษย์ สนใจต่อพวกเขา และโปรดประทานริสกีและผลไม้ที่สมบูรณ์ให้แก่พวกเขา เผื่อว่าพวกเขาจะได้ชูโกรต่อสิ่งเหล่านั้นต่อพระองค์

 -อัลฮัมดุลิ้ลลาฮกระผมได้แปลหนังสือนี้ขึ้นมา จากหนังสือ Rangkaian Cerita dalam Al-qur-an ของ Bey Arifin
ตีพิมพ์ที่ Bandung ประเทศ Indonesia เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องศรัทธาชนทั้งหลาย อีกทั้งประจวบเหมาะกับไกล้วัน อิด อัฏฮา ซึ่งพี่น้องของเราทั่วทุกมุมโลกต่างไปเสาะแสดงหาผลบุญที่นครมักกะฮ อย่างน้อยเพื่อสื่อให้รู้ถึงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นของเมืองมักกะเมืองแห่งศักดิ์สิทธ และอินชาอัลลอฮจะกล่าวถึงการทดสอบจากอัลลอฮที่มีต่อนบีที่จะจะทำการเชือดคอลูกของตัวเองอันเป็นที่รัก ซึ่งเป็นที่มาของการเชือดกุรบาน

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
Re: อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาแห่งอิสลาม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พ.ย. 13, 2010, 08:10 PM »
0
 :salam:
ความเป็นห่วงต่อลูกและภรรยาอันเป็นที่รักมันสุมอยู่ในอกผ่านวัน ผ่านเดือน ผ่านปี แต่ด้วยความตออัตต่อคำบรรชาของอัลลอฮ(ซ.บ) จนกล้าที่จะทิ้งคนที่รักทั้งสอง ให้อยู่ในความคุ้มครองของพระองค์  อิสมาแอลลูกรัก คือบุตรชายคนเดียวที่ตัวเองเฝ้าคอยมานาน ตั้งแต่หลังชีวิตการแต่งงานจนกระทั่งอายุล่วงเลยมาจนเกือบปลายชีวิต แต่พอถือกำเนิดขึ้นมา เวลาที่ใกล้ชิดกัน นับว่าน้อยมาก อิบรอฮีมเลยส่งตัวแทนของตนเพื่อไปสืบข่าวของสองแม่ลูก ว่าเป็นอยู่กันอย่างไร เมื่อทราบข่าวจากสายสืบว่าสองแม่ลูกน้อย มีชีวิตที่สุขสบายและปลอดภัย น้ำตาของท่านก็ใหลอาบสองแก้มพร้อมทั้ง ซุยูด ฉูโกรต่ออัลลอฮ(ซ.บ) ที่ทรงคุ้มครอง และรับดุอาอ์ที่ท่านเคยขอใว้
   จากตาน้ำที่พระองค์อัลลอฮทรงประทานให้แก่สองแม่ลูก เลยทำให้ที่แห่งนั้น กลายเป็นโอเอซิสในทะเลทราย ผู้คนที่เดินทางค้าขายต่างก็แวะมาหยุดพัก จนกลายเป็นแหล่งชุมชน ตามประเพณีของชาวอาหรับแล้ว เขาจะให้เกรียติแก่เจ้าของบ่อน้ำ คือนางฮายารและอิสมาแอลนั่นเอง จนในที่สุดเมืองแห่งนี้เริ่มขยายตัวและเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา และในที่สุดก็ได้ชื่อว่า “บักกะฮ”หรือ “มักกะฮ” และตาน้ำแห่งนั้นคือตาน้ำ “ซัมซัม” นั่นเอง
   เมื่ออัลลอฮ(ซ.บ)ทรงอณุญาติให้อิบรอฮีม สามารถที่จะไปเยี่ยมเยือนแม่ลูกที่เคยทิ้งได้ อิบรอฮีมก็มิรอช้าเดินทางรอนแรมไปยังมักกะฮ ท่านมีความฉงนใจยิ่งนัก เพราะความแตกต่างของสถานที่แห่งนี้ จากที่เคยเป็นทะเลทรายอันแห้งแล้งยากเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะสามารถดำรงชีวิตกันได้ แต่ ณ บัดนี้กลายเป็นเมืองใหญ่ขึ้นมา อิยรอฮีมได้สอบถามคนที่เดินผ่านหน้าก็ถามถึงบ้านของฮายารและอิสมาเอล และได้รู้อีกว่าสองแม่ลูกนั้นเป็นบุคคลสำคัญของเมืองแห่งนี้ อีกทั้งพระอง๕ทรงประทานริสกี ที่เป็นแพะและแกะจำนวนมากมายแก่คนทั้งสอง เมื่อทั้งสามคนได้เจอกันต่างโอบกอดกันอย่างคิดถึง และกล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮ “อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮ.....................วาลิ้ลลาฮอิลฮัม”
   

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
Re: อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาแห่งอิสลาม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พ.ย. 13, 2010, 11:01 PM »
0
เมื่อทั้งสามได้เจอกันและทำการสรรเสริญต่ออัลลอฮ ณ ที่แห่งนั้น มีชื่อว่า “ทุ่งอารอฟะฮ” ซึ่งอยู่นอกเมืองมักกะฮ เมื่อตะวันไกล้จะลับขอบฟ้า ทั้งสามก็เดินทางกลับมายังทีพัก แต่ความมืดปกคลุมเสียก่อน เลยทำให้ต้องหยุดพักอยู่ที่ สถานที่หนึ่งชื่อว่า “มุสดะลิฟะฮ”(ในอัลกุรอ่านระบุว่าเป็นมัสยิดดิ้ลฮารอม) ทั้งสามก็ได้หลับพักผ่อน อิบรอฮีมได้เกิดนิมิตขึ้นมา ว่าอัลลอฮ(ซ.บ)ทรงรับสั่งให้เชือดอิสมาแอลเพื่อเป็นการพลีแก่พระองค์ ทันใดนั้นอิบรอฮีมก็ตกใจตื่น พร้อมทั้งเล่าถึงนิมิตนั้นแก่อิสมาแอล “โอ้ลูกรัก เมื่อคืนข้าฝันว่า อัลลอฮทรงตรัสแก่ข้าให้เชือดเจ้าเพื่อเป็นการพลี เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร? อิสมาแอลตอบอย่างไม่ลังเลว่า “โอ้พ่อข้า ถ้าเป็นความประสงค์ของพระองค์ จงปฏิบัติเถิด ข้าพร้อมจะน้อมรับสิ่งนั้น ถึงแม้นว่าเป็นชีวิตของข้าก็ตาม”


ซุเราฮอัศศอฟฟาต
 102. ครั้นเมื่อเขา (อิสมาอีล) เติบโตขึ้นไปไหนมาไหนกับเขา (อิบรอฮีม) ได้แล้ว (*1*) อิบรอฮีมได้กล่าวขึ้นว่า “โอ้ลูกเอ๋ย ! แท้จริงพ่อได้เห็นในขณะฝันว่า (*2*) พ่อได้เชือดเจ้า จงคิดดูซิว่าเจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร? “ เขากล่าวว่า “โอ่พ่อจ๋า! พ่อจงปฏิบัติตามที่พ่อได้ถูกบัญชามาเถิด หากอัลลอฮฺทรงประสงค์ พ่อจะเห็นฉันว่า ฉันอยู่ในหมู่ผู้มีความอดทน” (*3*)

(1)  นักตัฟซีรกล่าวว่า เมื่อเขาอายุได้ 13 ปี
(2)  คือได้รับบัญชาจากอัลลอฮฺ
(3)  คือปฏิบัติตามบัญชาและยินดีปรีดาต่อลิขิตของอัลลอฮฺ



   จากคำพูดของท่านทั้งสอง มนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนบี ย่อมหนีไม่พ้นจาการทดสอบ ครั้งแล้วครั้งเล่า ความตักวา และเชื่อมั่นในตักเดรจากพระผู้เป็นเจ้าย่อมมาก่อน ถึงแม้นว่าต้องขื่นขมสักเพียงใดก็ตาม ความโศกเศร้าต่อพ่อบังเกิดเกล้าไม่ยอมเข้ารับอิสลาม ถูกเผาไฟที่ร้อนระอุ อดทนในการรอคอยจากความต้องการมีบุตร แถมเมื่อได้มาก็ต้องทอดทิ้งกลางทะเลทราย แต่ครั้งนี้โดนทดสอบโดยการที่จะเชือดคอลูกในไส้ซึ่งเพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นาน การทดสอบครั้งนี้มันช่างหนักหนาเสียจริง ในหน้าแผ่นดินนี้จะมีใครเหรอที่จะต้องประสบชะตากรรมเยี่ยงนี้
   เมื่อทั้งสองได้สั่งเสียกันเป็นเรียบร้อย โดยทั้งสองมิได้บอกกล่าวแก่ภรรยาถึงภารกิจในครั้งนี้ ทั้งสองก็เดินผ่านภูเขาและตีนเขลูกหนึ่งชื่อว่า “มีนา” ก็เจอะกับผู้ชายคนนึง เสมือนกับเขารู้ถึงเป้าหมายของอิบรอฮีมและอิสมาแอล ผู้ชายคนนั้นก็ทำการเกลี้ยกล่อม และยกเหตุผลต่างๆนาๆ เพื่อทำการขัดขวางภารกิจของคนทั้งสอง แต่อิบรอฮีมและอิสมาแอล รู้แล้วว่า คนคนนั้นเป็นชันตอนแปลงร่างลงมาเพื่อเกลี้ยกล่อมและขัดขวาง ทั้งสองเลยหยิบก้อนหิน และขว้างจนตาย ที่แห่งนี้ชื่อว่า “ยุมรัต เอาลา”
   เมื่อทั้งสองเดินทางต่อไปอีกไม่ไกลมากนัก ก็เจอะเจอกับบุรุษอีกท่านนึง และบุรุษผู้นั้นก็ได้ทำการเกลี้ยกล่อมสองพ่อลูกเหมือนบุรุษคนแรก อิบรอฮีมและอิสมาแอล ก็หยิบก้อนหินขว้างบุรุษนั้นจนตาย(ชัยตอน) และที่แห่งนั้นคือ “ยุมรัต วุสตอ”
   เม่พ่อลูกทั้งสองเดินทางมาถึงทุ่งมีนา อิบรอฮีมก็ชักมีดออกมา มีดเล่มนี้เป็นมีดที่ท่านลับมาอย่างดี เพื่อไม่ให้เป็นการทรมานหากเชือด ก่อนที่อิลมาแอลจะนาบคอลงไปบนหิน ท่านก็ขอต่อพ่อของท่านอีกว่าให้มัดมือและเท้าให้แน่น เพื่อเป็นการลดการทรมาน พร้อมทั้งขอให้พ่อนำเสื้อที่ตัวเองไส่ ไปมอบให้แก่มารดา เพื่อเก็บใว้ดูต่างหน้าเมื่อยามที่คิดถึง และคอของอิสมาแอลก็นาบลงไปที่หินพร้อมแล้วที่จะถูกเชือด 
   ทันใดนั้นปรากฏเสียงหนึ่งขึ้นมา เสียงนั้นคือมาลาอีกัต กล่าวว่า “โอ้อิบรอฮีมเอ๋ย เจ้าพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า ผู้ทรงอภิบาล โดยผ่านความฝัน อัลลอฮจะตอบแทนในความตออัตของท่าน” มาลาอีกัตมาพร้อมทั้งตัวกิบิส(แกะภูเขา) ตัวอ้วนพี “โอ้อิยรอฮีมเอ๋ย จงเชือดกิบิสตัวนี้แทนลูกของเจ้าเถิด และจงกินเนื้อของมัน วันนี้คือวันเฉลิมฉลองของเจ้าทั้งสอง และแจกจ่ายเนื้อของมันให้แก่คนยากจน ขัดสนเพื่อเป็นการพลี”


ซูเราะฮอัศศอฟฟาต
104. และเราได้เรียกเขาว่า “โอ้ อิบรอฮีม” เอ๋ย!
105. “แน่นอน เจ้าได้ปฏิบัติถูกต้องตามฝันแล้ว” แท้จริง เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย 
106. แท้จริง นั่นคือ การทดสอบที่ชัดแจ้งแน่นอน
107. และเราได้ให้ค่าไถ่ตัวเขาด้วยสัตว์เชือดพลีอันใหญ่หลวง
108. และเราได้ปล่อยทิ้งไว้ (เกียรติคุณ) แก่เขาในกลุ่มชนรุ่นหลัง ๆ
109. ศานติจงมีแต่อิบรอฮีม



ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาแห่งอิสลาม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พ.ย. 13, 2010, 11:09 PM »
0
อายัตที่ว่า "โอ้พ่อจ๋า" เขียนว่า يا ابت ตรงนี้พิเศษ สามารถอ่านได้สองแบบ ทั้ง ยาอาบัต(กีรออัฮเรา) และ ยาอาบัฮ(กีรออัฮอื่น) เป็นที่มาของคนมลายูบางคนที่เรียกพ่อตัวเองว่า อาบัฮ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged