
อีดิ้ลอัฏฮาวันบิดาของมุสลิม
อีดิ้ลอัฏฮานั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นวันแห่งการลำลึกอัลลอฮ(ซ.บ) ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทำการทดสอบบุคคลที่ได้ชื่อว่า นบี บุคคลที่ได้ชื่อว่าบิดาของมวลมนุษยชาติ รองลงมาจากนบีอาดัม(อ.ฮ) นั่นก็คือนบีอิบรอฮีม(อ.ฮ)
หลังจากที่อิบรอฮีม ได้อพยพครอบครัวจาก มาซีรไปยัง ปาเลสไตล์ พร้อมกับครอบครัวและคนรับใช้ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก จากวัยอันล่วงเลยมานับว่ามาก ถ้าจะให้กำเนิดบุตรโดยธรรมดาทั่วไป เป็นไปได้ยาก ภรรยา(นางซาร่า)ผู้ที่ได้ชื่อว่าเห็นใจสวามี เลยมีความคิดที่จะยกบริวาลหญิงคนนึงซึ่งนางเป็นคนเลือกเอง อีกทั้งอุปนิสัยใจคอสมบูรณ์เพียบพร้อม ชื่อว่า(นางฮายาร) และอิบรอฮีมก็ตอบรับ จนในที่สุดนางก็ได้กำเนิดบุตรขึ้นมาคนนึงซึ่งนามว่า(อิสมาแอล)
จากความตื้นตันใจของอิบรอฮีมที่มีต่ออิสมาแอลได้ไม่นาน สตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียหลวง ย่อมมีความรู้สึกลึกๆอยู่ในใจ พยายามข่มมันใว้ แต่จิตใจของมนุษย์คนนึง ก็ไม่พ้นที่จะเกิดความอิจฉา ถึงแม้นจะพยายามข่มใจมากเท่าไร ด้วยตักเดรและฮิกมัตของอัลลอฮ(ซ.บ) ก็เลยวะฮยูให้อิบรอฮีมและฮายารพร้อมทั้งลูกน้อย จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ต่างถิ่น
จากการเดินทางอันไกลแสนไกล ข้ามวันข้ามคืน ที่พวกเขารอนแรม จนในที่สุดก็มาถึงสถานที่นึง อิบรอฮีมพร้อมทั้งภรรยาและลูกน้อย ก็หยุดพัก จาการรอนแรมมาตั้งหลายวันเสบียงที่เตรียมมาก็นับว่าเหลืออยู่น้อยนิดเดียว อิบรอฮีมผู้เป็นพ่อ ก็รีบขึ้นอูฐ ทำท่าที่จะหันหลังกลับและทิ้งภรรยาและลูกน้อยใว้เพียงลำพังแม่ลูกโดยไร้ซึ่งคำล่ำลา แต่หารู้ไม่ว่าน้ำตาที่คลอเบ้าปากก็พร่ำวอนภาวนาต่ออัลลอฮ(ซ.บ)ว่าโปรดจงคุ้มครองภรรยาและบุตรอันเป็นที่รักด้วย ภรรยาซึ่งสังหรใจและไม่คิดว่าผู้เป็นสามีจะกล้าทิ้งตนเองและลูกน้อยที่กำลังแบเบาะได้ลงคอ นางก็รีบเดินตามหลังอูฐของอิบรอฮีม พร้อมทั้งพูดว่า “โอ้สวามีที่รัก ท่านจะไปใหนหรือ? ท่านจะทิ้งเราใว้ในสถานที่น่ากลัวเยี่ยงนี้เหรอ?”
ไม่มีใครสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามลำพังโดยปราศจากเสบียงและน้ำ ในทะเลทรายที่เวิ้งว้างและแห้งแล้ง รแห้งแล้งจนเสมือนว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆที่จะสามารถดำเนินชีวิตได้ในที่แห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ลูกอ่อนซึ่งแบเบาะ จากความร้อนของดวงอาทิตย์ในตอนกลางวัน และแสนจะเยือกเย็นในเวลากลางคืน ใครเล่าที่จะทานทนได้
อิบรอฮีมผู้เป็นบิดานั้นรู้อยู่เต็มอกถึงสิ่งเหล่านั้น และเอ่ยวาจาขึ้นมาอย่างสุขุมพร้อมทั้งน้ำตาของลูกผู้ชาย ที่แน่นสุมอยู่ในอก แต่ก็ไม่วายที่จะหยุดและเห็นใจต่อคำร้องขอของนางฮายาร เพียงแต่กล่าวขึ้นมาว่า นี่เป็นความประสงค์ของอัลลอฮ(ซ.บ) อีกทั้งพูดให้กำลังใจแก่ภรรยา ว่าให้ยอมรับในตักเดร และอดทน นางฮายารได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว และหวังว่าพระองค์ทรงคุ้มครองเราทั้งสองแม่ลูก”
อิบรอฮีมหลังจากที่ทิ้งภรรยาและลูกจนลับไปกับสายตา ท่ามกลางทะเลทรายที่อันตราย ร้อนแดดแผดเผา ข้ามภูเขาและหน้าผาเป็นร้อยเป็นพัน แต่ในใจก็หวั่นต่อลูกและเมียทั้งสอง ที่เปรียบเสมือนกับดวงตาดวงใจ สามารถที่จะตายแทนได้ ถ้าหากพระองค์ต้องการ แต่ด้วยความยาเก็นและตออัตต่ออัลลอฮ(ซ.บ) และไม่คิดที่จะเก็บเสบียงใว้เลยสักนิด ทั้งหมดนั้นทิ้งใว้ให้ลูกให้เมียหมดสิ้น ด้วยความที่จิตใจที่สูงส่งของความเป็นนบี ท่านต้อมข่มความบอบช้ำในจิตใจ ต้องทรมานกับการทำใจพลัดพรากจากลูกและเมียอันเป็นที่รัก ชีวิตนี้มีลูกชายเพียงคนเดียวอีกทั้งยังต้องปล่อยให้ทรมาน โดยไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ทำได้อย่างเดียวคือดุอาอ์ต่อพระองค์อัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
“โอ้พระองค์อัลลอฮ ข้าพระองค์ได้ทิ้งลูกและเมียของข้าพระองค์ ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง ปราศจากซึ่งไม้ฟืนและผลไม้ โอ้อัลลอฮ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ทำการอิบาดัต ได้โปรดทำให้ดลจิตดลใจเหล่ามวลมนุษย์ สนใจต่อพวกเขา และโปรดประทานริสกีและผลไม้ที่สมบูรณ์ให้แก่พวกเขา เผื่อว่าพวกเขาจะได้ชูโกรต่อสิ่งเหล่านั้นต่อพระองค์
-อัลฮัมดุลิ้ลลาฮกระผมได้แปลหนังสือนี้ขึ้นมา จากหนังสือ Rangkaian Cerita dalam Al-qur-an ของ Bey Arifin
ตีพิมพ์ที่ Bandung ประเทศ Indonesia เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องศรัทธาชนทั้งหลาย อีกทั้งประจวบเหมาะกับไกล้วัน อิด อัฏฮา ซึ่งพี่น้องของเราทั่วทุกมุมโลกต่างไปเสาะแสดงหาผลบุญที่นครมักกะฮ อย่างน้อยเพื่อสื่อให้รู้ถึงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นของเมืองมักกะเมืองแห่งศักดิ์สิทธ และอินชาอัลลอฮจะกล่าวถึงการทดสอบจากอัลลอฮที่มีต่อนบีที่จะจะทำการเชือดคอลูกของตัวเองอันเป็นที่รัก ซึ่งเป็นที่มาของการเชือดกุรบาน