การสูบบาระกู่(الأرجيلة) หุก่มว่าอย่างไร ??

[Muftee]

Tweet

การสูบบาระกู่(الأرجيلة) หุก่มว่าอย่างไร ?? ชี้ขาดโดย เชค นูฮฺ อะลีย์ สุไลมาน อัช-ชาฟิอีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ อดีตมุฟตีย์ใหญ่แห่งประเทศจอร์แดน

"บาระกู่" อันตรายกว่า "บุหรี่"

ตอบ ..

   บัญญัติอิสลามนั้นถูกประทานลงมาเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากมาย  เช่น เพื่อให้มนุษย์รักษาไว้ซึ่งศาสนาของเขา และรักษาไว้ซึ่งการดำรงชีวิตของเขา เป้นต้น  และส่วนหนึ่งจากเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่นักนิติศาสตร์มีความเห็นตรงกันในการบัญญัติศาสนา คือ การปกป้องและรักษาชีวิต

   ดังนั้น บัญญัติอิสลามจึงได้ห้ามมนุษย์ มิให้ก่อความเจ็บปวดหรือก่อความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น และบัญญัติอิสลามยังได้สั่งใช้ให้หลีกห่างจากสิ่งชั่วร้ายและสิ่งโสมมต่างๆ

   ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์และเป้าหมายเกี่ยวกับเรื่องการสั่งใช้ให้ดำรงชีวิตด้วยความดี และสั่งใช้ให้หลีกห่างจากสิ่งโสมมเอาไว้ในอัล-กุรอานว่า ..

وَيُحِلُّ لَهُمُ الطَّيِّبَاتِ وَيُحَرِّمُ عَلَيْهِمُ الْخَبَائِثَ

“และได้ถูกอนุมัติซึ่งสิ่งดีๆ ต่างๆ แก่พวกเขา และได้ถูกห้ามซึ่งสิ่งต่างๆ ที่น่ารังเกียจเหนือพวกเขา”  (ซูเราะฮฺ อัล-อะร็อฟ : 157)

และท่านนบี(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ..

لا ضَرَرَ وَلا ضِرَارَ

“อย่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง และอย่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่น”  บันทึกโดย ท่านอิมามอะหฺมัด ในตำรา “อัล-มุสนัด” เล่มที่ 1  หน้าที่ 313

   และในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นยุคที่การแพทย์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก มีหลักฐานและข้อมูลมากมายที่ทำให้เราทราบกันดีว่า แท้จริงบุหรี่ และบาระกู่นั้น ประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นพิษเป็นภัยและเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมากมาย และในสิ่งต่างๆ เหล่านี้นั้น มิได้มีสิ่งดีๆ ชนิดใดเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย และการเสพสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ยังนำไปสู่การเป็นโรคร้ายและนำไปสู่การตายในที่สุด และนี่คือทัศนะของนักการแพทย์ทุกคน ซึ่งมีมติที่สอดคล้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าบุหรี่และบาระกู่นั้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

   ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่และไม่อนุญาตให้มีการสูบบาระกู่ และจำเป็นจะต้องหลีกห่างจากสิ่งโสมมต่างๆ เหล่านี้ และจะต้องรักษาตนเองและสังคมให้ปลอดภัยจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้

   และการหลีกห่างจากการสูบบุหรี่และการสูบบาระกู่นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่วาญิบ และมันจะไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ นอกจากเราจะต้องมีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา เสียก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นการช่วยเหลือจากผู้คนและสิ่งรอบข้างก็จะติดตามมา


วัลลอฮุ ตะอาลา อะลัม

ที่มา : http://aliftaa.jo/Question.aspx?QuestionId=652#.UpynH-LVHIU

[Muftee]

เชค นูฮฺ อะลีย์ สุไลมาน อัช-ชาฟิอีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ
อดีตมุฟตีย์ใหญ่แห่งประเทศจอร์แดน

[BasemDeen]

บุหรี่นี่ตัวดีเลย พยายามเลิกหลายครั้งแล้ว ไม่สำเร็จสักกะที
เคยพยายามเต็มที่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็กลับมาสูบอีก ตอนนั้นจำได้ว่าหงุดหงิดมาก ถึงขนาดทำร้ายคนแปลกหน้า
ตอนนี้สูบใบจากยาเส้นวันละไม่เกิน10มวน สูบน้อยกว่าแต่ก่อน (ก้นกรอง วันละประมาณ ซองครึ่ง (30ตัว))
อาจเป็นเพราะยาเส้นกว่าจะได้สูบต้องยุ่งยากมานั่งมวนๆควักๆ และก็ดูเชยๆ

[nada-yoru]

พ่อบอกว่า...ที่เลิกบุหร่ีได้นั้น ไม่ได้มาจากความรู้สึกว่ารักและหวงแหนชีวิตตัวเอง...
แต่เพราะรักลูก...จึงเลิก...เพราะทุกครั้งท่ี่ลูกมาขอเงินที่พ่อมักจะเก็บไว้ในซองบุหรี่เพื่อเก็บเงินในส่วนนั้นไว้ซื้อบุหรี่เมื่อมันหมดในคราวถัดไป
พ่อก็ต้องใจอ่อนให้ลูกเอาเงินนั้นไปซื้อขนมบ้าง ดินสอบ้าง ยางลบบ้าง...จนเลิกบุหรี่ ต่อมาก็มีเปลี่ยนเป็นยาเส้น
และก็เก็บเงินอันเล็กๆน้อยๆนั้นไว้ในซองยาเส้นเพื่อซื้อยาเส้นอีก แต่ลูกๆก็มักจะมาขอเงินในส่วนตรงนั้นเพื่อไปซื้อนั่นซื้อนี่ที่จำเป็น...
จนพ่อถึงกับถึงกับบอกตัวเองว่า...ไม่น่าเสียเงินไปกับบุหรี่และยาเส้นเลย...เงินเหล่านี้น่าจะเอาไปให้ลูกกินขนมและของมีประโยชน์ดีกว่า
เพราะบุหรี่นอกจากจะทำให้เปลืองเงินแล้ว มันไม่ใช่ของดีมีประโยชน์ เงินตรงนั้นน่าจะเอาไปทำประโยชน์
เช่น เอาไปเลี้ยงดูลูก ให้ลูกน่าจะภูมิใจกว่า...

หลังจากเมื่อคิดเช่นนั้นได้...พ่อก็เลิกมันได้จนเด็ดขาด...


พ่อเลยบอกว่า...หากเพราะความรักตัวเอง คงยังไม่เลิกสูบ...
แต่เพราะเมื่อมีความรักและห่วงใยต่อผู้อื่นมากๆ โดยเฉพาะลูก...เราก็อยากจะเลิกด้วยความเต็มใจ
และกว่าจะเลิิกได้ มันสุดจะยากเย็นแสนเข็ญ...แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้แล้ว...



เพิ่งจะได้รับรู้เรื่องนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน...เลยบอกได้คำเดียวว่า...ซึ้ง...
เพราะตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเห็นพ่อสูบบุหรี่หรือยุ่งเกี่ยวกับเหล้าหรือของไม่ดีเลย
นั่นแสดงว่า พ่อเลิกสูบมานานแล้ว...

เลยรู้สึกซึ้งกับ บุคคลที่ได้ชื่อว่า "พ่อ"

เมื่อก่อนเราอาจจะเคยมองว่าพ่อเราไม่เอาไหน ไม่เห็นดีเด่นเหมือนพ่อคนอื่นๆ
แต่พอรู้ว่าพ่อเราเลิกทำในสิ่งที่ยากขนาดนั้นได้เพื่อเรา เราก็รู้สึกดี...

บางครั้ง แม้คนๆนึงจะไม่ได้ดีพร้อมมาแต่เดิมหรือเคยทำอะไรไม่ดีมาก่อน
แต่หากว่าคนๆนั้นพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และพยายามอพยพจากสิ่งไม่ดีสู่สิ่งที่ดีกว่าได้
จึงไม่แปลกที่บุคคลนั้นจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเราได้มากมาย...จนกลายเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า "มากกว่ารัก"...