แล้วคุณล่ะ อยู่ Gen ไหนจ๊ะ
BABY BOOM GENERATION
คือกลุ่มคนที่เกิดช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ปัจจุบันมีอายุ 46 ถึง 65 ปี (เกิดก่อน 2507)
ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทิศทางขององค์กรและประเทศ
เนื่องจากปัจจุบันเป็นผู้มีอำนาจระดับสูงทั้งในองค์กรและในระดับบริหารประเทศ
เป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทค่อนข้างสูงในประเทศขณะนี้
ลักษณะเด่นของ BABY BOOM GENERATION
1. เป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน ทุ่มเทให้กับการทำงาน พวกเขามีความมุ่งมั่นสูง
ที่จะฝ่าฟันอุปสรรคในการทำงาน ให้ความสำคัญกับผลงาน
แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ
2. มีความจงรักภักดิ์ดีต่อองค์กรและสิ่งที่เขานับถือสูงมากมักจะใช้สิ่งของเดิมๆที่ตนเองชอบ
3. เคารพกฎเกณฑ์ กติกาของสังคม พวกเขาจะทำตามกฏเกณฑ์มากกว่าความชอบส่วนตัว
4. ประหยัดและอดออม ใช้จ่ายเงินที่ได้จากการเก็บออม
5. ชอบความมั่นคงปลอดภัย ไม่เปลี่ยนงานบ่อยๆ
6. แบ่งแยกชัดเจน เช่น ถูก/ผิด , รัก/เกลียด , ขาว/ดำ
GENERATION X (Extraordinary)
คือกลุ่มคนที่มีอายุประมาณ 30 – 45 ปี (เกิดช่วง 2508 – 2523)
บางทีถูกเรียกว่ากลุ่ม Baby Bust หรือ พวกยัปปี้ – Yuppie (Young Urban Professionals)
ปัจจุบันอยู่ในระดับหัวหน้างาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมีอิทธิพลในระยะ 10 ปีต่อไป
ลักษณะเด่นของ GENERATION X
1. มุ่งสร้างสรรค์ผลงาน มีความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ
พวกเขามุ่งที่จะหาวิธีทำงานใหม่ๆมากกว่าที่จะทำงานหนักๆแบบเดิม (be efficient)
2. ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุล , ไม่เชื่อว่าจะมีสิ่งใดถูกหรือผิด 100 เปอร์เซ็นต์ ,
รู้จักจัดสรรเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว (Enjoy life)
3. รักอิสระ อยากจะทำแต่สิ่งที่อยากทำ
มีความจงรักภักดิ์ดีต่อองค์กรน้อย ชอบทางเลือกใหม่ๆ กล้าเสี่ยง
4. ไม่ชอบเก็บเงิน ใช้เงินที่หามาเพื่อความสุขและความต้องการของตนเอง
5. ชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการหรือเป็นรูปแบบมากเกินไป
6. มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
Generation Y (Why I was born?)
gen Y คือ ผู้ที่กำลังก้าวเข้ามาสู่วัยทำงาน หากดูจากหลายๆตำราแล้ว
gen Y จะจัดเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 15 - 30 ต้นๆ เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมกับความสงสัย
เป็นรุ่นลูกของ gen X และมีปู่ย่าตายายเป็น gen B
เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาด้วยความเพียบพร้อม และความสับสน
Gen ' Y เป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาบ้านเมืองสงบและง่ายดายขึ้น
พวกเขาไม่รู้จักเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
พวกเขามีแม่บ้านคอยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ มีรถที่พ่อแม่ซื้อให้
เชี่ยวชาญการท่องเน็ท เคเบิลทีวี และโทรศัพท์มือถือ หรือ PDAs
ซึ่งทำให้เข้าถึงหาข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
นับแต่โมเดิร์นด็อก วงอัลเทอร์เนทีฟของเมืองไทยปรากฏตัวขึ้นเมื่อปี 1994,
เป็นเอก รัตนเรือง ทำหนังฝันบ้าคาราโอเกะ ในปี 1997 ,
แฟตเรดิโอ และอะเดย์ แมกกาซีน ในปี 2000 ,
ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้ Generation Y มีพื้นที่ของตัวเอง
สื่อต่างๆ เหล่านี้บอกว่า ทุกๆ คนสำคัญและมีหนทางของตัวเอง
การตลาดเพื่อคนส่วนใหญ่ ( mass ) นั้นเชย ( out ) ไปแล้ว
การตลาดเล็กๆ แต่ เก๋ กำลังอิน พวกเขาเปลี่ยนผ่านจาก
จิ๊กโก๋- เด็กอัลเทอร์-เด็กอินดี้ -และกลายเป็น-เด็กแนวในที่สุด
BABY BOOM มีความจงรักภักดิ์ดีต่อองค์กรสูงมาก เรียกว่าใครเหยียบหยามไม่ได้
GENERATION X เคารพในองค์กรแต่ไม่จำเป็นต้องจงรักภักดี
เขาจึงเปลี่ยนงานได้ทันทีเมื่อมีข้อเสนอดีกว่า
GENERATION Y ไม่สนใจองค์กร มีข้อสงสัยว่า ทำไมต้องมีองค์กรในเมื่อเขาพึ่งตัวเองได้
ผมอยากเห็นสังคมไทยในอีก 30-40 ปีข้างหน้า(ถ้าหากมันยังอยู่ ?)
ว่าจะเป็นอย่างไร น่าติดตามยิ่ง...