
ซูเราะฮ ฏอฮา
14. “แท้จริงข้าคืออัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า ดังนั้นเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้าและจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด เพื่อรำลึกถึงข้า
ซุเราะฮ อัล-อันอาม
162. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์ ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น
163. ไม่มีภาคีใด ๆ แก่พระองค์ และด้วยสิ่งนั้นแหละข้าพระองค์ถูกใช้ และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย
ซุเราะฮอัล-อังกาบุต
45. เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์(*1*)และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาด(*2*)นั้นจะยับยั้งการทำลามกและความชั่วและการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้น(*3*)ยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
(1) คือจงอ่านคัมภีร์อัลกุรอานเถิดมุฮัมมัดที่พระเจ้าของเจ้าได้ประทานให้แก่เจ้า และจงแสวงหาความใกล้ชิดพระองค์ด้วยการอ่านมัน และทบทวนมัน เพราะในคัมภีร์นั้นมีบทเกี่ยวกับมารยาทที่ดีงาม
(2) คือการละหมาดที่ถูกต้องทุกประการทั้งรูปแบบและการถ่อมตนจะช่วยยับยั้งการกระทำที่แลวร้ายได้
(3) การรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ สิ่งในโลกนี้ คือรำลึกถึงพระองค์ในเวลาละหมาด เวลาซื้อขาย และทุก ๆ เวลาในกิจการของท่าน
ﻮﻋﻦﺍﺒﻲﻫﺮﻴﺮﺓﺮﺿﻲﺍﷲﻋﻧﻪﻗﺎﻝﺴﻌﺖﺮﺴﻮﻝﺍﷲ﴿ﺺ﴾ﻴﻘﻮﻝارايتم لوان نهرابباب احدكم يغ تسل منه كل يوم خمس مرات هل يبق من درنه شيءقالو لايبتى من درنه شيء قال ﻔﺬلك مثل الصلوات الخمس يمحوالله بهن الخطايا
จากท่าน อบูฮุรัยเราะฮ(ร.ด) กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลลุลลอฮ(ซ,ล) ได้กล่าวว่า พวกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากว่ามีแม่น้ำสายหนึ่งอยู่หน้าบ้านคนใดคนหนึ่งในบรรดาพวกท่าน และเขานั้นได้อาบน้ำในแม่น้ำนั้นทุกวัน วันละห้าเวลา สิ่งสกปรกยังหลงเหลืออีกเหรอ? เหล่าบรรดาซอฮาบัต ตอบว่า “ไม่ครับ” แล้วท่านรอซูลได้กล่าวต่ออีกว่า “ด้วยเหตุดังนั้นแหละ อุปมาดังละหมาด ห้าเวลานั้น อัลลอฮ(ซ.บ)จะลบล้างความผผิดของเขา” (บาปเล็กที่คนนั้นมีต่ออัลลอฮ ซ.บ) (จากบุคอรีและมุสลิม)
-การละหมาดคืออีบาดัตที่บ่าวของพระองค์พึงมีต่อพระผู้อภิบาลเจ้า อัลลอฮ(ซ.บ) และถือว่าเป็นอาม้าลอีบาดัตที่สำคัญที่สุดในบรรดาอาม้าลต่างๆ ถ้าหากบุคคลหนึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใดละทิ้งละหมาด หมายความว่าผู้นั้นห่างไกลจากอัลลอฮ ซึ่งเมื่อเขาเฉยเมย ก็หมายความว่าเขาต้องมีภาระในการสอบสวนในวันกิยามัต แต่เมื่อไรที่เขายังอยู่บนพื้นฐานของครอบครัวอิสลาม และยังมิได้ มุรตัด หรือปฏิเสธต่ออัลลอฮ (ซ.บ) ไม่ว่าทั้งร่างกายและจิตใจ เขาก็ยังมีสิทธิในความเป็นอิสลาม
-การทำมักเซียต ในกรณีที่เป็นบาปเล็ก เขาสามารถที่จะลบล้างด้วยการทำละหมาด (ดังเช่นอัลกุรอ่านและอัลฮะดิษได้กล่าวใว้)แต่ถ้าหากมักเซียตนั้นคือบาปใหญ่ และมิใด้ตอบัต เขาผู้นั้นจะถูกลัคนัต จากอัลลอฮ(ซ.บ) ที่ใหนเมื่อไหร่ วัลลอฮอัคลาม นั่นคือหน้าที่ของอัลลอฮ(ซ.บ)
-การที่เขาขาดละหมาด ห้าเวลา แต่ใจของเขายังนึกที่จะละหมาดวันศุกร์ แสดงว่าบุคคลนั้น ยังมีจิตหรือสามัญสำนึกหรือเกรงกลัวต่ออัลลอฮ(ซ.บ) แม้นอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งก็ยังดีกว่าขาดแล้วขาดเลย ซึ่งก็นั่นแหละมันอยู่ที่พระองค์จะทรงดลจิตดลใจให้เขาได้รับทางนำ(ฮิดายัต)
-เมื่อเขาขาดละหมาดและพร้อมด้วยทำมักเซียต เขานั้นคือมัคโลกที่อาจกล่าวได้ว่า ต้อยตำที่สุด เพราะปศุสัตว์ ถึงแม้นไม่มีมันสมองเหมือนมนุษย์และจะไม่ถูกสอบสวน แต่พวกมันนั้นมีวิธิการทำอีบาดัตต่ออัลลอฮเสมอโดยที่มนุษย์ไม่ทราบถึงการทำอีบาดัตของพวกมันเป็นเช่นไร
ยอมรับครับสำหรับคำถามนี้ถึงแม้นจะเป็นคำถามที่สั้นแต่จริงๆแล้วยากที่สรรหาคำตอบ วัลลอฮอาคลัม