ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกปฏิบัติสิ่งที่ต้องทุ่มเทอุตสาหะย่อมประเสริฐสุด(บทเรียนฮิกัม)  (อ่าน 3695 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ท่านอิมาม อิบนุ อะฏออิลและฮ์  ได้กล่าวฮิกัมความว่า

إِذَا إِلْتَبَسَ عَلَيْكَ أَمْرَانِ ، فَأنْظُرْ أَثْقَلَهُمَا عَلىَ النَّفْسِ فَأتَّبَعَهُ فَإِنَّهُ لايَثْقُلُ عَلَيْهَا إِلا مَا كَانَ حَقًّا

ความว่า " เมื่อมีความสงสัยแก่ท่านโดยสองประการ ท่านจงพิจารณาสิ่งที่หนักกว่าจากทั้งสองที่มี(ผล)ต่อนัฟซู และจงทำตามมัน(คือสิ่งหนักกว่า) เพราะแท้จริงจะไม่รู้สึกหนักต่อนัฟซูนอกจากเป็นสิ่งที่ดีกว่า "

จุดมุ่งหมายจากสองประการนี้ หมายถึง สิ่งที่ไม่สามารถทำพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่นสองสิ่งที่จำเป็น(วายิบ) หรือสองสิ่งที่อนุญาติ(มุบะหฺ)

ตามความหมายของคำว่า (النفس) (นัฟซู) จากคำพูดของอิบนุอะฏออิลและฮฺ หมายถึง อารมณ์หรือจิตใฝ่ต่ำที่เป็นจิตของคนส่วนใหญ่เขามีกันในทุกยุคทุกสมัย

เมื่อมีสองสิ่งที่จำเป็น(วายิบ) หรือสองสิ่งที่สุนัตหรือสองสิ่งที่มุบะหฺ อยู่พร้อมกันโดยไม่สามารถทำรวมพร้อมกันได้ และไม่รู้ว่าการปฏิบัติอันใหนดีกว่ากัน ซึ่งจำเป็นแก่เขาต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง ดังนั้น เขาต้องหวนกลับไปยังจิตใจของเขาและทำการพิจารณาว่าสิ่งใดที่ยากกว่ากัน ก็ให้เลือกสิ่งนั้น และสิ่งใดที่อารมณ์ชอบปราถนาก็ให้ละทิ้งมันไป เนื่องจากจิตอารมณ์ใฝ่ต่ำนั้น จะแสวงหาสิ่งที่อารมณ์ชอบปราถนา เพราะฉะนั้น เมื่อผู้มีอารมณ์ใฝ่ต่ำจะเลือกทำสิ่งใดแล้ว เขาต้องเลือกสิ่งที่จะมาสนองและตามอารมณ์ปราถนาของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้น ภาคผลการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นวายิบหรือสุนัตก็ต้องบกพร่องไป เนื่องจากอามัลนั้นอยู่กับการเจตนาและอุตสาหะ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) วจนะไว้ว่า

أَجْرُكَ عَليَ قَدْرِ نَصَبِكَ

ความว่า " ผลการตอบแทนของท่านนั้น อยู่ที่ขนาดความอุตสาหะของท่าน "

ท่านอิบนุอิบาดกล่าวว่า " ส่วนหนึ่งจากอาริฟบิลลาฮฺกล่าวว่า เป็นเวลา 20 ปีมาแล้ว ที่หัวใจของฉันไม่เคยพึ่งพานัฟซูเลยแม้สักครั้งเดียว และการที่หัวใจพึงพานัฟซูนั้น คือการที่หัวใจตามสิ่งที่ง่ายกว่าจากอารมณ์ซึ่งพวกเขานับว่าเป็นการกลับกรอกของหัวใจ (หัวใจมุนาฟิก)" อธิบายหนังสือ หิกัม เล่ม 2 หน้า 29

ขอหยิบยกตัวอย่างดังกล่าว อาธิเช่น เขามีโอกาสไปเยี่ยมคนป่วยที่ยากจนที่ไม่ได้รับการเหลียวและอาศัยอยู่ห่างไกล และขณะเดียวกันเขาได้รับการเชื้อเชิญไปงานมงคลสมรส เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า หากตอบรับคำเชิญก็ไม่สามารถไปเยี่ยมผู้ป่วยได้ หรือหากเขาไปเยี่ยมผู้ป่วยก็ไม่สามารถไปงานมงคลสมรสได้ เมื่อเขาหวนกลับไปยังจิตใจของเขาแล้วพิจารณา ก็จะพบว่าสิ่งที่ดีที่สุดจากอันหนึ่งอันใดจากทั้งสองนั้น ส่วนมากอารมณ์จะคิดว่ามันเป็นความยากลำบาก หากไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไกลจากเมืองของตน อีกทั้งไม่ได้รับส่วนดีใด ๆที่เขาปราถนาเลย ดังนั้นอารมณ์ใฝ่ต่ำจึงคิดว่าการตอบรับคำเชิญไปงานมงคลสมรสย่อมดีกว่า เพราะมีโอกาสได้พบกับบุคคลต่าง ๆมากมายที่มีชื่อเสียง อันเป็นเหตุทำให้มีหน้ามีตาและมีความสุขไปด้วย ฉะนั้น เขาพึงรู้เถิดว่า สิ่งที่สร้างความใกล้ชิดยังความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮฺมากที่สุดก็ คือการมุ่งปฏิบัติที่ไม่มีอารมณ์ใฝ่ต่ำเข้ามาเกี่ยวข้องและการมุ่งปฏิบัติสิ่งที่อารมณ์นัฟซูรู้สึกยากลำบากที่จะกระทำมัน

ถ้าหากคนหนึ่งได้ใช้อารมณ์เลือกระหว่างตื่นละหมาดยามดึกกับการนอนอย่างสบายอยู่บนเตียงที่นุ่ม อารมณ์นัฟซูก็จะมีความกลัวที่จะลุกขึ้นตื่นและกลัวที่จะอยู่ร่วมกับบุคคลที่อัลเลาะฮฺทรงสรรญเสริญด้วยคำตรัสของพระองค์ว่า

( تتجافى جنوبهم عن المضاجع يدعون ربهم خوفا وطمعا )

ความว่า " สีข้างของพวกเขาห่างจากที่นอน เพื่อพวกเขาเฝ้าวอนขอนมัสการต่อพระองค์อภิบาลของพวกเขาเองด้วยความกลัวและความมุ่งหวัง " อัสสะญะดะฮฺ 16 และอารมณ์จะรู้สึกว่าห่างเหินจากเตียงนอนนุ่ม ๆ และความเคริบเคลิ้มฝันหวานที่ไม่มีเวลาใหนมาเทียบเทียมได้

ส่วนกรณีของผู้ที่มีจิตสงบสุข( มีจิตมุฏมะอินนะฮฺ)แล้ว ก็ให้เขาเลือกปฏิบัติสิ่งที่สะดวกและสิ่งที่จิตสงบสุขคล้อยตามได้ โดยต้องอยู่ในมุมมองของหลักชาริอัตว่า สิ่งใดที่ยังคุณประโยชน์และทำให้สภาวะจิตของเขาสูงขึ้นมากกว่า ก็ให้เลือกทำสิ่งนั้นก่อน

แต่ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า จิตที่ได้รับการบำบัดขัดเกลาของคนเรานั้น ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด หรือมีความดื่มดำในความรักต่ออัลเลาะฮฺ มีความรู้สึกที่นอบน้อมและมีความยำเกรงต่ออัลเลาะฮฺได้มีอิทธิพลเหนือจิตใจนั้นแล้วก็ตาม แต่การลดระดับของสภาวะจิตโดยการอาศัยพึ่งพาอารมณ์และแสวงหาความสุขนั้นก็ยังคงมีอยู่เสมอ เนื่องจากจิตใจของมนุษย์ก็ยังคงเป็นจิตใจของความเป็นมนุษย์ที่ยังมีความต้องการตามธรรมชาติและความปราถนาของมัน ดังกล่าวนี้ จึงทำให้ความหมายของการ ( التكليف ) ตกหนักก็ยังคงอยู่ในศักยภาพของความเป็นมนุษย์

ดังนั้น เขาอย่าเพิ่งกล่าวกับตัวเขาเอง หรือกับอาจารย์ของเขาว่า จิตใจของเขาได้รับการขัดเกลาอย่างบริสุทธิ์แล้ว เปลี่ยนไปจากที่เป็นอยู่แล้ว เพราะว่าอารมณ์ใฝ่ต่ำนั้น เมื่อได้รับสิ่งใหม่ ๆมันจะรู้สึกบริสุทธิ์ เกิดความพึงพอใจ และรู้สึกมั่นคงเสมอ แต่อย่าลืมว่าบรรดาหน้าต่างของชัยฏอนที่จะเปิดเข้าไปสู่จิตใจนั้น มันยังคงเปิดเสมอและมันจะไม่ละความพยายามกระทำสิ่งที่อัลเลาะฮฺทรงเปิดโอกาสให้มันกระทำได้ เนื่องจากชัยฏอนมันยังคงอยู่ในเส้นเลือดของมนุษย์ทั่วไป ตราบใดที่มนุษย์ยังมีลมหายใจในการดำเนินชีวิตอยู่ในโลกดุนยา

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
เพราะว่าอารมณ์ใฝ่ต่ำนั้น เมื่อได้รับสิ่งใหม่ ๆ มันจะรู้สึกบริสุทธิ์ เกิดความพึงพอใจ และรู้สึกมั่นคงเสมอ แต่อย่าลืมว่าบรรดาหน้าต่างของชัยฏอนที่จะเปิดเข้าไปสู่จิตใจนั้น มันยังคงเปิดเสมอและมันจะไม่ละความพยายามกระทำสิ่งที่อัลเลาะฮฺทรงเปิดโอกาสให้มันกระทำได้ เนื่องจากชัยฏอนมันยังคงอยู่ในเส้นเลือดของมนุษย์ทั่วไป ตราบใดที่มนุษย์ยังมีลมหายใจในการดำเนินชีวิตอยู่ในโลกดุนยา

ชัดเจนครับ   หากเราอยู่ชายฝั่งก็อย่าคิดว่าไม่มีคลื่นซัดสาด  ยิ่งกว่านั้นอาจจะมีพายุกระหน่ำเสียด้วยซ้ำ  ดังนั้นอย่าเพลอใจตนเอง


ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ส่วนกรณีของผู้ที่มีจิตสงบสุข( มีจิตมุฏมะอินนะฮฺ)แล้ว ก็ให้เขาเลือกปฏิบัติสิ่งที่สะดวกและสิ่งที่จิตสงบสุขคล้อยตามได้ โดยต้องอยู่ในมุมมองของหลักชาริอัตว่า สิ่งใดที่ยังคุณประโยชน์และทำให้สภาวะจิตของเขาสูงขึ้นมากกว่า ก็ให้เลือกทำสิ่งนั้นก่อน

.....ขอการอธิบายฮิกัมนี้ระหว่างผู้ที่มีจิตมุฏมะอินนะฮ์กับผู้ที่ไม่มีจิตระดับมุฏมะอินนะฮ์  คือทำไมจิตมุฏมะอินนะฮ์ถึงให้ปฏิบัติสิ่งที่สะดวกด้วย....ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
.....ขอการอธิบายฮิกัมนี้ระหว่างผู้ที่มีจิตมุฏมะอินนะฮ์กับผู้ที่ไม่มีจิตระดับมุฏมะอินนะฮ์  คือทำไมจิตมุฏมะอินนะฮ์ถึงให้ปฏิบัติสิ่งที่สะดวกด้วย....ขอบคุณครับ

การเลือกกระทำระหว่างผู้ที่มีจิตใฝ่ต่ำ (อัมมาเราะฮ์)  กับจิตใจที่สงบสุขมั่นคงนั้น   ไม่ได้ชี้ถึงว่าถ้าผู้มีจิตใฝ่ต่ำเลือกกระทำเช่นนั้นผิดหลักศาสนาหรือมีอันหนึ่งอันใดได้ผลบุญมากกว่าและน้อยกว่าก็หาไม่  แต่การเลือกระทำระหว่างสองสภาวะจิตใจนี้   โดยคำนึงถึงในเชิงตะเซาวุฟ  คือมีการฝึกฝนเพื่อยกระดับจิตใจให้มีความสูงส่งขึ้น 

ผู้ที่มีสภาวะจิตใจอัมมาเราะฮ์ถูกครอบงำนั้น  เขาก็ต้องตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยสนองตามจิตสำนึกอันใฝ่ต่ำนั้น  ดังนั้นเราต้องต่อสู้กับจิตใฝ่ต่ำด้วยการกระทำที่ค้านกับสิ่งที่จิตใจใฝ่ต่ำของเราชอบ  ดังนั้น  เมื่อเกิดสภาวะจิตใจที่ต่อสู้ขึ้นมา  ความพากเพียรของเราจะเกิดขึ้น  แล้วอัลเลาะฮ์ก็จะทรงตอบแทนตามขนาดที่เราบากบั่นและพากเพียรไว้และจิตใจของเขาก็จะถูกยกระดับให้สูงขึ้น  สิ่งที่เขาเคยบากบั่นพากเพียรก็เลยกลายเป็นของที่ง่ายตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย

คนที่มีจิตใจอัมมาเราะฮ์นั้น   หากจะให้เขาเลือกรับประทานอาหาร 3 มื้อในวันจันทร์กับการถือศีลอดสุนัตในวันจันทร์นั้น  แน่นอนว่าเขาจะต้องเลือกรับประทานอาหารเช้า , เที่ยง , และเย็น , ดีกว่า  เพราะอารมณ์เขาชอบอย่างนั้น (แต่ถ้าเขากินบาปไหม ขอตอบว่าไม่บาป เพราะตรงนี้ไม่ได้พูดถึงบาปหรือไม่บาป  แต่เขาพูดถึงข้อตำหนิของจิตใจ)  ดังนั้น  หากเขาต้องการที่จะให้จิตใจมีสภาวะแห่งการต่อสู้(มุญาฮะดะฮ์)  ก็ให้เขาทำการถือศีลอดเพื่อต่อต้านสยบอารมณ์ใฝ่ต่ำ  เมื่อเราต่อสู้มันเป็นประจำ  แน่นอนว่าการถือศีลอดของเราในวันจันทร์นั้น  ก็จะไม่ลำบากสำหรับเราแล้ว  เราจะชินและได้ลิ้มรสถึงสิ่งเร้นลับที่มันซ่อนอยู่ในการถือศีลอดสุนัตอันนั้น  จนในที่สุดจิตใจของเราก็จะถูกยกระดับใจโดยอัตโนมัติ

สำหรับผู้ที่มีจิตใจที่สงบสุข (มุฏมะอินนะฮ์) แล้ว   สมมุติว่าเขาจะเลือกทำอะไรที่ไม่ขัดกับหลักชะรีอัต(หลักฟิกห์)  เขาก็จะเลือกทำโดยอยู่ภายใต้สภาวะจิตที่สงบสุข   เขาจะถือศีลอดสุนัตหรือไม่ถือ  ก็ไม่ทำให้จิตใจของเขาลืมอัลเลาะฮ์ตาอาลา  มีความยำเกรง  และนอบน้อมต่อพระองค์เสมอ

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
ท่านอิบนุอิบาดกล่าวว่า
" ส่วนหนึ่งจากอาริฟบิลลาฮฺกล่าวว่า เป็นเวลา 20 ปีมาแล้ว
ที่หัวใจของฉันไม่เคยพึ่งพานัฟซูเลยแม้สักครั้งเดียว
และการที่หัวใจพึงพานัฟซูนั้น คือการที่หัวใจตามสิ่งที่ง่ายกว่าจากอารมณ์
ซึ่งพวกเขานับว่าเป็นการกลับกรอกของหัวใจ (หัวใจมุนาฟิก)"

อธิบายหนังสือ หิกัม เล่ม 2 หน้า 29



ตรึงใจกับถ้อยคำนี้มากค่ะ ตรงที่

การกลับกลอกของหัวใจ (หัวใจมูนาฟิก)

มันทำให้เห็นภาพหัวใจได้ชัดเจนขึ้นมาเลยทีเดียว
เพราะว่าใจเราก็ยังหลอกเราได้ ที่เรียกว่าหลอกใจตัวเอง...

^^

ปล.เป็นกระทู้ที่เตือนใจเราได้ดีอีกกระทู้หนึ่ง จึงขอขุดมาให้นักอ่าน
ที่ผ่านไปมาได้แวะเข้ามาอ่านค่ะ ^^

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged