ท่านอิมาม อิบนุ อะฏออิลและฮ์ ได้กล่าวฮิกัมไว้ว่า
الناس يمدحونك لما تظنونه فيك ، فكن أنت ذامّا لنفسك لما تعلمه
?บรรดามนุษย์ต่างสรรเสริญท่าน กับสิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันอยู่ในตัวของท่าน ดังนั้น ท่านจงตำหนิตัวเอง กับสิ่งที่ท่านรู้ดียิ่งจากตัวของท่าน?
ท่านชัยคุลอิสลาม อับดุลเลาะฮ์ อัชชัรกอวีย์ อธิบายว่า ?ท่านจงอย่าหลงคำเยินยอและการสรรเสริญของมนุษย์ แต่ท่านจงหวนกลับไปตำหนิตัวของท่านเอง เพื่อให้ตรงข้ามกับสิ่งที่พวกเขาคิดคาดคะเนต่อตัวท่าน ด้วยเหตุนี้ท่าน อะลี (ร.ฏ.) จึงกล่าวดุอาอ์ว่า
اللهمَّ اجعلنا خيرا مما تظنون ولا توأخذنا بما يقولون وأغفرلنا ما لا يعلمون
?โอ้ ผู้อภิบาลแห่งข้าฯ พระองค์โปรดทรงทำให้เราดีเลิศกว่าสิ่งที่พวกเขาคิด และอย่าเอาผิดเราด้วยกับสิ่งที่พวกเขากล่าว(เยินยอ) และโปรดอภัยแก่เรา กับสิ่งที่พวกเขาไม่รู้?
เพราะฉะนั้น มุสลิมจึงไม่ถูกใช้ให้ทำการโกหกต่อเพื่อนมนุษย์และไม่ถูกใช้ให้ทำการเปลี่ยนแปลงความคิดคาดคะเนของพี่น้องมุสลิมกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวของเขา แต่เขากลับถูกสั่งใช้ให้ระวังความหลงใหลจากการเยินยอและถูกใช้ให้ยึดความตระหนักอันดีของเขามาอยู่ก่อนสิ่งที่พวกเขาคาดคะเน(เกี่ยวกับตัวของท่าน) แต่หากว่าผู้เยินยอได้ทำการสรรเสริญตัวของเขาอย่างโกหก โดยทำการเยินยออย่างเลยเถิด แน่นอนว่า เป็นการตอกย้ำความโกหกและจงยับยั้งเขา ซึ่งดังกล่าวนี้ อยู่ในความหมายจากคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.) ที่ว่า
احثوا التراب فى وجوه المادحين
?พวกท่านจงโปรยดิน บนใบหน้าของบรรดาผู้ชอบเยินยอ?
ดังนั้น การสรรเสริญเยินยออย่างนี้ จึงเป็นสิ่งที่ถูกห้าม และเช่นเดียวกันกับ การสรรเสริญเยินยอที่ทำให้ผู้ถูกสรรเสริญนั้นรู้สึกหลงเกียรติและหลงตัวเองผิด เขาย่อมอยู่ในความหมายจากคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ที่เกี่ยวกับผู้ที่สรรเสริญชายคนหนึ่งว่า ?ท่านได้เชือดคอมิตรสหายของท่านแล้ว? และท่านนบี(ซ.ล.) กล่าวอีกว่า ?พวกท่านทั้งหลาย จงระวังการสรรเสริญเยินยอ เพราะแท้จริง มันเป็นการเชือด(พี่น้องของพวกท่าน)? ดู หนังสือ ชัรหฺ อัลฮิกัม เล่ม1 หน้า 108
เป็นที่ทราบดีว่า ศักยภาพของความเป็นมนุษย์นั้น ย่อมเต็มไปด้วยข้อตำหนิ ความบกพร่อง และเผชิญกับความผิดพลาดอยู่เสมอ นอกจากบรรดานบีและร่อซูล ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ถูกป้องจากความผิดและข้อตำหนิ
แต่แผนการของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อบรรดาบ่าวของพระองค์นั้น พระองค์ทรงทำให้ส่วนใหญ่จากข้อตำหนิและข้อบกพร่องต่างๆ เป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ที่ไม่มีผู้ใดรู้ได้นอกจากเจ้าของคุณลักษณะดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งหากมนุษย์ทุกคนสามารถมองเห็นและรู้ถึงข้อตำหนิ สิ่งที่บกพร่อง และความนึกคิดของคนอื่นแล้ว แน่นอนเหลือเกินว่า สายสัมพันธ์แห่งความรักใคร่กลมเกลียว การรักจักมักคุ้น การเกลื้อหนุนซึ่งกันและกัน ต้องขาดสะบั้นลงไปอย่างแน่นอน
แต่ฮิกมะฮ์(เคล็ดลับ) ที่อัลเลาะฮ์ไม่ให้มนุษย์รู้ถึงข้อตำหนิของกันและกันนั้น ย่อมเป็นปัจจัยที่นำมาซึ่งความรัก ความสมัครสมานสามัคคี และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อพวกเขาจะได้พบปะ รู้จักซึ่งกันและกัน
บรรดามนุษย์อาจจะเห็นว่า ท่านได้ทำอิบาดะฮ์ต่างๆ มากมาย แต่พวกเขาไม่รู้ถึงความบริสุทธิ์ใจของท่าน ซึ่งพวกเขาอาจจะเห็นว่า ท่านได้ทุ่มเท ให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสังคม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรับรู้สิ่งที่อยู่ภายในของท่าน ที่อาจมีความมุ่งร้าย อิจฉาริษยา โอ้อวดว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่น และต้องการดุนยา หรือพวกเขาอาจจะเห็นว่า ท่านดำรงอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง แต่พวกเขาไม่รู้ว่า สองหู สองตา และลิ้นของท่าน ได้เคยประพฤติชั่วในยามที่พวกเขาไม่เห็น เนื่องจากอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงทำให้มันเป็นความลับระหว่างท่านกับพระองค์ ดังนั้น เมื่อท่านรู้ตัวของท่านดีแล้ว ท่านจะคล้อยตามคำสรรเสริญเยินยอนั้นได้อย่างไร?
อาจจะมีบางคนกล่าวว่า ?แต่ฉันนั้น ขอกล่าวว่า อัลฮัมดุลิลลาห์ ที่ถูกปกป้องจากข้อตำหนิและความบกพร่องที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน และบรรดามนุษย์ที่ได้ทำการสรรเสริญจากภายนอกของฉันนั้น ก็สอดคล้องกับความดีที่ฉันได้ทราบดีจากตัวฉันเอง? ดังนั้น ผู้ที่มีความรู้สึกอย่างนี้ พึงทราบเถิดว่า บางครั้ง ตัวของเขาเองนั่นแหละ คือผู้ที่อัลเลาะฮ์ทรงจะทดสอบด้วยการให้มีข้อตำหนิและความบกพร่องมากที่สุด เพราะว่าเขานั้นได้ขัดคำสั่งของอัลเลาะฮ์ที่ว่า
فَلَا تُزَكُّوا أَنفُسَكُمْ هُوَ أَعْلَمُ بِمَنِ اتَّقَى
?ดังนั้น พวกเจ้าอย่ายกยอตัวของพวกเจ้าเอง พระองค์ทรงรอบรู้ผู้มีจิตยำเกรงยิ่งนัก? อันนัจญมุ 32
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
أَلَمْ تَرَ إِلَى الَّذِينَ يُزَكُّونَ أَنفُسَهُمْ بَلِ اللّهُ يُزَكِّي مَن يَشَاءُ وَلاَ يُظْلَمُونَ فَتِيلاً
?เจ้าไม่สังเกตุดอกหรือ บรรดาผู้ขจัดมนทิน(ยกยอ)ตัวเอง อันที่จริง อัลเลาะฮ์ทรงขจัดมลทิน แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และพวกเขาไม่ถูกอธรรมนักเพียงเล็กน้อยก็ตาม? อันนิซาอฺ 49
จึงดูเหมือนว่าเขาได้ทำแกล้งลืม หรือ ทำเป็นไม่รู้ ถึงธรรมชาติที่อัลเลาะฮ์ทรงสร้างสรรค์มนุษย์ให้อยู่ในสถานะภาพที่อ่อนแอ และอยู่ในสภาวะที่อารมณ์สามารถครองงำเขาได้ และเขาก็เป็นเช่นนั้นด้วย ท่านนบี(ซ.ล.) กล่าวไว้ว่า
كل بنى أدم خطاء وخير خطائين التوابون
?มนุษย์ทุกคนนั้น ย่อมกระทำผิด และผู้กระทำผิดที่ดีเลิศนั้น คือ ผู้ทำการขอลุกโทษ?
บทสรุปของฮิกมะฮ์นี้ ก็คือ การสรรเสริญเยินยอของมนุษย์ทั่วไปที่มีให้กับตัวท่านนั้น ไม่มีอะไรเลย นอกจาก เพื่อให้ท่านรำลึกเสมอว่า การที่มนุษย์สรรเสริญนั้น คืออัลเลาะฮ์ทรงปกปิดข้อตำหนิของท่าน และเมื่อท่านได้ยินคำสรรเสริญเยินยอจากพวกเขา ท่านก็จงรำลึกถึงเนี๊ยะมัตอันยิ่งใหญ่ที่อัลเลาะฮ์ทรงให้เกียรติแก่ท่าน และท่านจงกล่าวขอบคุณและสรรเสริญต่ออัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ด้วยคำว่า ?อัลฮัมดุลิลลาฮ์? !
วัลลอฮุอะลัม