เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
อยากรู้ ฮูกมของการมีแฟน หากว่าบาปแล้วทำไมเรายังทำ!!!?!?!!!
Al Fatoni:
แม้บางคนจะอ้างเหตุสารพัดว่า การมีแฟนมีผลดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่น้อยคนนักที่จะคงมั่นกับสัญญา หรืออยู่ในกรอบที่ไม่ก้าวข่ายต่อกันจนทำให้ผิดหลักศาสนา ซึ่งหากดูจากผลของการมีแฟนในปัจจุบัน จนแม้กระทั่งในหมู่มุสลิมกันเองนั้น ก็มักจะลงเอยด้วยสิ่งที่ผิดหลักศาสนา ซึ่งก็มีทั้งที่ผิดในระดับเล็กจนกระทั่งผิดในระดับใหญ่ จนกลายเป็นปัญหาสังคมประการที่ทุกฝ่ายต่างก็หนักใจ
ประกอบกับสภาพแวดล้อมความเป็นจริงนั้น สิ่งยั่วยุที่ทำให้การคบแฟนต้องลงเอยด้วยสิ่งที่ผิดศาสนานั้น ค่อนข้างจะมีอยู่อย่างมากมายและใกล้ตัวเสียยิ่งผิวหนังกับกระดูกเสียอีก เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรายอมกระทำความผิดได้นั้น นั่นก็คือการถูกสิ่งยั่วยุบางประการครอบงำ "ความคิด" ของตนนั่นเอง ซึ่งสิ่งยั่วยุนั้นก็สิ่งสถิตอยู่ในตัวเรานี่แหละ เข้าไปในความคิดของเราเสียแล้ว มันไม่ใช่อยู่ใกล้ แต่มันอยู่ในตัวเรา ความคิดของเรา และโปรดระวังเถิด เมื่อชายหญิงอยู่ด้วยกันเพียงสองคนหรือปะปนกัน สมาชิกที่จะร่วมด้วยก็คือชัยฏอน ซึ่งหน้าที่ของมันมีอะไรนั้น เราทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว - วัลลอฮุอะอ์ลัม
al-firdaus~*:
:salam:
ส่วนตัวคิดว่า เป็นแฟนกันได้นะ ต่างคนต่างให้กำลังใจกันและกัน เป็นเสมือนน้ำอ้อยชโลมหัวใจ loveit:
สำคัญ...ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของศาสนา
แต่เมื่อวันหนึ่ง ความรู้สึกมันมากเกินกว่าที่จะซอบัรกับนัฟซูได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ให้เราหยุด แล้วคิด ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ...
หากมั่นใจว่าเขาหรือเธอคือคนที่ใช่ แล้วเราไม่อาจหักห้ามใจในการทำอะไรๆที่ไม่ควรทำ
ก็ในเมื่อความรู้สึกมันเอ่อล้นกับความรักของกันและกัน อยากอยู่เคียงข้างกัน และที่สำคัญ เราสองคนไม่อยากทำผิด
เป็นแฟนกัน ได้ศึกษานิสัยกันและกันมา ความผูกพันธ์มันมี แบบว่า ขาดเธอว์แล้วฉันคงขาดใจ
แบบนี้ แต่งงานคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ myGreat:
ไม่ต้องรออะไรให้พร้อมมากมาย แค่ปรึกษาผู้ใหญ่ บอกเหตุผลให้เขารับฟัง โดยเฉพาะเหตุผลทางศาสนา
ทุกอย่างมีอุปสรรคก็จริง แต่เราต้องเอาศาสนามาเป็นที่ตั้ง อย่าเอานัฟซูเหนืออิหม่าน อันนี้เตือนทั้งเราและผู้ใหญ่ที่เราไปปรึกษาค่ะ
วันนี้ยังไม่พร้อม อดทนอีกหน่อยได้ไหม ถ้าไม่ได้ แต่งดีกว่านะคะ รอไม่ไหวแล้วล่ะค้าบบบ yippy:
ถ้าว่าเราอดทนกับนัฟซูได้ อัลฮัมดุลิลละฮ์ กำหนดการณ์ของอัลลอฮ์ตะอาลาต้องมีมาอย่างแน่นอน
คนเป็นผู้ใหญ่ก็เช่นกันควรมีเหตุผล ลูกหลานมาปรึกษาว่ามีแฟนอยากแต่งงาน (แบบว่า คนนี้จริงจังมากๆแล้ว ที่ผ่านมาทั้งสิบคนนั้นมันไม่ใช่) oh:
ผู้ใหญ่รู้ทั้งรู้ว่าความรู้สึกของวัยหนุ่มสาวมันเหมือนภูเขาไฟที่รอปะทุ Oops:
จะให้ห่างกัน แล้วตั้งหน้าเรียนให้จบ ก็กระไรอยู่ (ถ้าคู่รักทำได้ ก็ไม่มีตัณหา เอ้ย ปัญหา)
แต่ส่วนใหญ่ยากมากๆค่ะ คือพวกเขาสองคนก้าวข้ามอะไรเด็กๆไปแล้ว พวกเขามีความรู้สึกที่คนเป็นผู้ใหญ่ก็เข้าใจดี
แต่ผู้ใหญ่มองข้ามไป อะไรๆถึงได้เละเทะเช่นทุกวันนี้ sad:
อูย...ยาวจัง ไม่รู้จะต้องกับหัวข้อมั้ย ::)
GeT:
โหลดถามตอบปัญหา
การเป็นเพื่อนและแฟนระหว่างชายหญิง
ILHAM:
ห่างกัน ก็หาใหม่แลก๊ะ 555
tatcha_jah ~♪:
สมัยตอนดิฉันเด็กๆ...คนที่มีแฟน(โดยไม่ได้แต่งงาน)จะโดนประณาม
ผู้หญิงที่ออกตัวว่ามีแฟนแล้ว(โดยไม่ได้แต่งงาน)จะถูกตีตราว่าหน้าด้าน
ดาราที่เป็นพระเอกนางเอกก็ยังต้องบอกว่าตัวเองไม่มีแฟน
แต่สมัยนี้
มันกลับตรงกันข้ามอย่างสุดโต่ง
ดังนั้น
ดิฉันจึงคิดว่า
ที่เขามีแฟนทั้งๆที่รู้ว่าบาปก็เพราะการเปลี่ยนแปลงของสังคม
สมัยนี้ใครๆก็มีแฟน ใครๆก็ทำกัน ไม่มีสิแปลก ( ขี้เหร่หรือไงถึงไม่มีใครเอาประมาณนั้น)
ซึ่งเรื่องการมีแฟนถือว่าเป็นค่านิยมอย่างหนึ่ง
เพราะคนในสังคมต่างยอมรับการที่ผู้หญิงผู้ชาย(หรือเพศที่345...) จะคบกันเชิงชู้สาว
โดยการยอมรับของคนในสังคม...ทำให้สมาชิกในสังคมมองว่าการมีแฟนเป็นเรื่องปกติ
ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมปฏิบัติกัน
จนทำให้เรื่องไม่ดี เรื่องน่าละอาย เรื่องผิดบาป กลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทำกัน
ตัวอย่างอื่นๆก็เช่น
การใส่กางเกงขาสั้น ใส่เสื้อสายเดี่ยว
การไม่เคารพผู้อาวุโส
การผิดเพศ
การเป็นนักร้อง(สมัยก่อนสมัยก่อนไม่เป็นที่นิยมเพราะเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน)
นางเอกละครแก่นเซี้ยว...ยิ่งร้ายก็ยิ่งดี(ผู้หญิงสมัยนี้จึงมีนิสัยมีการแสดงออกแบบร้ายๆ)
ภาพยนต์ลามกที่ผู้ชมมองว่าเป็นศิลปะ
สาเหตุทั้งหมดก็เพราะสังคมเกิดการพลวัตร
แต่ที่สำคัญ
เพราะมนุษย์ควบคุมตนเองไม่ได้
และคล้อยตามสังคมอย่างไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ เหมือนไม้หลักปักขี้เลน
ไปตามการหล่อหลอมจากสังคม
ทั้งๆที่ลืมไปว่า
แมลงวันทั้งฝูงที่รุมตอมขี้....มันไม่ได้หมายความว่าขี้จะหอม
เช่นเดียวกันกับใครๆที่มีแฟนกัน.....มันก็ไม่ได้หมายความว่าถูกต้อง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version