ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้ ฮูกมของการมีแฟน หากว่าบาปแล้วทำไมเรายังทำ!!!?!?!!!  (อ่าน 4368 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ muzaheh

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 157
  • เพศ: ชาย
  • eVerything mUst Go...
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวเตือนไว้ว่า "แน่นอนอย่างยิ่ง พวกท่านจะปฏิบัติตามแนวทางของกลุ่มชนก่อนหน้าพวกท่านคืบตามคืบ ศอกตามศอก ตามจนกระทั่งว่า หากพวกเขาเข้าลงรูแย้ พวกท่านก็จะตามพวกเขาเข้ารูแย้เช่นกัน" บรรดาเศาะหาบะฮกล่าวถามว่า "พวกเราจะตามพวกยะฮูดีย์และนัศรอนีย์ใช่ไหม?" ท่านนบีตอบว่า "แล้วจะมีพวกไหนอีกล่ะ!" (อัล-บุคอรีย์ : 3269 มุสลิม : 2669)
...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ...

ออฟไลน์ ZikR

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 58
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน ?  ::) ::) ::)

มีกิ๊กได้ 555

เเรงหล่าวเเบอิลฮาม

ไม่อย่างนั้นเเน่นอน.....อินชาอัลลอฮ ^^

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
สิ่งที่เมื่อทำแล้ว จะเป็นการเปิดประตูสู่ความเสียหายได้มากกว่า สิ่งนั้นก็ย่อมเป็นที่ต้องห้ามได้ ในหนึ่งกรณีเหล่านั้น ก็คือ การมีแฟนในสภาวะแวดล้อมอย่างในปัจจุบันนี้ - วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

almuminoon

  • บุคคลทั่วไป
ทำอย่างไรให้วันนี้ ได้ผลบุญเต็มเม็ด เต็มหน่วย 
 
อัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ

วันนี้ เราบวชกัน ใช่หรือเปล่า

วันนี้ เราแสวงหาความหวังว่า สิ่งที่เคยผิดพลาด และขอต่ออัลลอฮทรงอภัยให้ฉันเถิด

แต่แน่นอน อย่าลืมว่าวันนี้

จะต้องสำรวมหัวใจ และคำพูดให้มากที่สุด

ดูแล และระมัดระวัง การใช้ชีวิตวันนี้ ให้มากที่สุด

สิงใดที่เป็นเรื่องไร้สาระ สิ่งใดที่เป็นสิ่งต้องห้าม จงออกห่างให้มากที่สุดนะครับพี่น้อง

ช่วยๆกันย้ำตัวเอง และตักเตือนพี่น้องในบ้าน และเพื่อนร่วมห้อง ร่วมงานกันนะ

หวังไว้ว่า เราและท่านทั้งหลาย จะได้รับความโปรดปราน ได้รับการอภัยโทษ ก่อนหน้านี่ หนึ่งปีและปีที่จะถึง

ด้วยเหตุที่เราและท่านทั้งหลาย สำรวมในทุกวินาทีของการใช้ชีวิตกันวันนี้

สิ่งใดที่มันเคยชิน คนไหนที่เคยเข้าใกล้แล้วนั่น ถูกเค้าเรียก แฟน หรือคนรู้ใจ ก็ละไว้ก่อนแล้วกันนะ

ยาซากัลลอฮฮุคอยรอน ทุกๆท่าน ที่ตามอ่านครับ

วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ


http://www.iqraforum.com/forum/index.php/topic,3829.msg22776.html#msg22776

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ติดตามอ่าน....?
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
 :salam:

การมีแฟน

อัลลอฮ ซ.บ ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาแยกได้เป็นสองเพศคือหญิงและชาย ในการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคนล้วนกำเนิดมาภายใต้ครอบครัว พ่อแม่พี่น้องและรวมกันเป็นชุมชน การเรียนการสอนในครอบครัวซึ่งเป็นอิสลามนั้นวางระบบระเบียบใว้อย่างลงตัว เด็กที่กำลังเติบโตขึ้นมาก่อนที่จะถึงวัย(อาเกรบาเลก)นั้นผู้ปกครองควรที่จะใส่คุณธรรมและจริยธรรมในรูปของอัลอิสลาม เพราะวัยนี้เป็นวัยที่สมองและสติปัญญายังไม่สมบูรณ์ การคบค้าระหว่างต่างเพศนั้นยังไม่เป็นที่สำคัญ ความรักความชอบนั้นจะอยู่ในรูปแบบของความบริสุทธิ(Innocence) ซึ่งทางด้านกายภาพนั้นยังไม่พร้อม รักในวัยเด็กจึงเป็นเพียงแค่ความปลาบปลื้มในหัวใจ
   เมื่อเขาย่างเข้าในวัยรุ่นการพัฒนาทางด้านร่างกายก็พัฒนาตามไปด้วย ผู้ปกครองจึงควรให้ความใจใส่เป็นยิ่งยวด ในวัยนี้สติปัญญาความรับผิดชอบชั่วดีเริ่มที่จะใช้การ อีกทั้งการจดบันทึกความดีและความชั่วในการกระทำ อัลลอฮจะเริ่มบังคับใช้ ทางด้านกายภาพก็เช่นเดียวกัน เริ่มเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงเริ่มปรากฏ แต่โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเร็วกว่าผู้ชาย วัยนี้จึงกล่าวได้ว่าเป็นวัยที่อันตราย อีกทั้งยุคสมัยนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี การสื่อสารหรือสื่อต่างๆพวกเขาสามารถที่จะเสพได้อย่างง่ายดาย ถ้าผู้ปกครองไม่ใกล้ชิดและให้อบรมตักเตือนหรือคอยสอดส่องพฤติกรรมเขาก็จะรับเอาวัฒนธรรมต่างๆที่นอกเหนือจากวัฒนธรรมอิสลามเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เช่นการเลียนแบบการแต่งกายที่ล่อแหลมเปิดเผยเอารัต หรือเลียนแบบวัฒนธรรมการคบเพื่อนต่างเพศจากศาสนาอื่น(การใกล้ชิดสนิทสนมและการไปใหนมาใหนด้วยกันสองต่อสองเป็นเรื่องปรกติในสังคมทุกวันนี้)

    โอ้นบีเอ๋ย(รวมถึงบรรดาอุมมัต) จงกล่าวแก่บรรดาภรรยาของพวกเจ้า และบุตรสาวของเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกเขาดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลลอฮทรงเป็นผู้อภัยทรงเมตตาเสมอ (ซูเราะฮอัลอะฮซาบ ๕๙)
 การกระทำผิดในหลักศาสนาของเด็กในวัยนี้สว่นมากมาจากแรงกระตุ้นของอารมณ์ เพราะในวัยนี้อารมณ์ของพวกเขานั้นแปรเปลี่ยนได้ง่าย เพราะเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงจากเด็กเข้าสู่ผู้ใหญ่ ทางออกที่ดีคือต้องอยู่ภายใต้การดูแลเป็นพิเศษจากผู้ปกครองหรือครูบาอาจารย์ทีเด็กอยู่ในความครอบครองของเขา
   เมื่อย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่หรือเข้าสู่รั้วมหาลัยโดยส่วนมากผู้ปกครองจะให้ความอิสระในการดำรงชีวิตเพราะถือว่าพวกเขาสามารถที่จะใช้สติปัญญารับผิดชอบชั่วดีได้ แต่ในหลักการอิสลามพวกเขานั้นจะต้องประพฤติและปฏิบัติภายใต้ขอบเขตหลักชาริอัต  การมีแฟนหรือเพื่อนต่างเพศเป็นเรื่องปกติธรรมดา โดยในรูปแบบของอัลอิสลาม ความรักหรือความพึงพอใจในเพศตรงข้ามเป็นเรื่องปรกติของปุถุชนทั่วไป แต่อิสลามห้ามในเรื่องของความใกล้ชิด แตะเนื้อต้องตัว หรือกระทั่งห้ามอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองคน เพราะชัยตอนสามารถที่จะทำการยุแหย่ หรือล่อลวงให้คนคนนั้นกระทำผิด หรือบาปใหญ่(การซินา) โดยการใช้เครื่องมือทีมาจากความรัก และความใกล้ชิดนั้น


قل للموءمنين يغض امن ابصرهم ويحفص افروجهم,دالك أزكىلهم ,إن الله خبيربمايصنعون

จงกล่าวเถิด แก่บรรดามุอมิน ให้เขาลดสายตาของพวกเขาต่ำลง และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา(อวัยวะเพศ) นั่นเป็นการบริสุทธิยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮทรงรอบรู้สิ่งที่เขากระทำ (อัลนูร ๓๐)


ซูเราะฮอัลอิสรอฮ
32. และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี(*1*)แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า(*2*)

(1)  ”อย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี” สำนวนนี้มีความลึกซึ้งมากกว่า “ท่านอย่าผิดประเวณี” เพราะสำนวนแรกห้ามถึงการชี้แนะแนวทางที่จะนำไปสู่การผิดประเวณี เช่น การลูบคลำ การจูบ การมองอย่างมีตัณหา หรือการกระทำอื่นๆ ที่จะชักนำไปสู่การผิดประเวณีดังนั้นการห้ามมิให้เข้าใกล้จึงมีความหมายลึกซึ่งกว่าการห้ามมิให้กระทำ
(2)  คือทางไปสู่นรก


ซูเราะฮอัลฟุรกอน
68 และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามใว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอย่างมหันต์

69 การลงโทษในวันกิยามัตจะถูกเพิ่มเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ

70 เว้นแต่ผู้กลับเนื้อกลับตัว และศรัทธาและประกอบความดี เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี และอัลลอฮเป็นผู้ทรงให้อภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ท่าน Rachyds มีสิ่งดีๆมามอบแก่พวกเราอยู่เสมอ  mycool:
ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนทุกความดีงามค่ะ อามีน

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
ท่าน Rachyds มีสิ่งดีๆมามอบแก่พวกเราอยู่เสมอ  mycool:
ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนทุกความดีงามค่ะ อามีน
กดไลค์ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
สมัยตอนดิฉันเด็กๆ...คนที่มีแฟน(โดยไม่ได้แต่งงาน)จะโดนประณาม
ผู้หญิงที่ออกตัวว่ามีแฟนแล้ว(โดยไม่ได้แต่งงาน)จะถูกตีตราว่าหน้าด้าน
ดาราที่เป็นพระเอกนางเอกก็ยังต้องบอกว่าตัวเองไม่มีแฟน

แต่สมัยนี้
มันกลับตรงกันข้ามอย่างสุดโต่ง

ดังนั้น
ดิฉันจึงคิดว่า
ที่เขามีแฟนทั้งๆที่รู้ว่าบาปก็เพราะการเปลี่ยนแปลงของสังคม
สมัยนี้ใครๆก็มีแฟน  ใครๆก็ทำกัน   ไม่มีสิแปลก ( ขี้เหร่หรือไงถึงไม่มีใครเอาประมาณนั้น)

ซึ่งเรื่องการมีแฟนถือว่าเป็นค่านิยมอย่างหนึ่ง
เพราะคนในสังคมต่างยอมรับการที่ผู้หญิงผู้ชาย(หรือเพศที่345...)  จะคบกันเชิงชู้สาว
โดยการยอมรับของคนในสังคม...ทำให้สมาชิกในสังคมมองว่าการมีแฟนเป็นเรื่องปกติ
ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมปฏิบัติกัน
จนทำให้เรื่องไม่ดี  เรื่องน่าละอาย  เรื่องผิดบาป  กลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทำกัน

ตัวอย่างอื่นๆก็เช่น 

        การใส่กางเกงขาสั้น  ใส่เสื้อสายเดี่ยว

        การไม่เคารพผู้อาวุโส       

        การผิดเพศ
     
        การเป็นนักร้อง(สมัยก่อนสมัยก่อนไม่เป็นที่นิยมเพราะเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน) 

        นางเอกละครแก่นเซี้ยว...ยิ่งร้ายก็ยิ่งดี(ผู้หญิงสมัยนี้จึงมีนิสัยมีการแสดงออกแบบร้ายๆ)

        ภาพยนต์ลามกที่ผู้ชมมองว่าเป็นศิลปะ
 
สาเหตุทั้งหมดก็เพราะสังคมเกิดการพลวัตร
แต่ที่สำคัญ
เพราะมนุษย์ควบคุมตนเองไม่ได้
และคล้อยตามสังคมอย่างไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์   เหมือนไม้หลักปักขี้เลน
ไปตามการหล่อหลอมจากสังคม

ทั้งๆที่ลืมไปว่า
แมลงวันทั้งฝูงที่รุมตอมขี้....มันไม่ได้หมายความว่าขี้จะหอม
เช่นเดียวกันกับใครๆที่มีแฟนกัน.....มันก็ไม่ได้หมายความว่าถูกต้อง

       

อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

เห็นด้วยกับข้อความด้านบนตรงที่ว่า การมี "แฟน"นั้น เป็น "ค่านิยม"
เพราะคำๆนี้เพิ่งจะมามีบัญญัติศัพท์ใช้เมื่อไม่นานมานี้เอง
สมัยรัตนโกสินทร์ต้นๆยังไม่มีเลย...แถมคำว่า "กิ๊ก" ก็เพิ่งจะมาบัญญัติศัพท์ใช้กัน
ในหมู่วัยรุ่นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง...

ดังนั้น...สิ่งใหม่เหล่านี้แน่นอนว่า มันเป็นค่านิยมไปตามกลไกของสังคม
แล้วแต่ว่า คนในสังคมในยุคนั้นๆ เขามีค่านิยมกันเช่นไร
และยุคนั้น มีกลุ่มชนใดเป็น "มหาอำนาจ"

เพราะกลุ่มชนที่มีอำนาจอยู่ในยุคนั้นๆ จะพยายามกำหนดกลไก
ของสังคม กำหนดค่านิยมต่างๆให้เป็นไปตามที่ตนปรารถนา
และกำหนดมาตรฐานให้ผู้อื่นตาม...

ส่วนตัวเรานั้น...เราต้องคิดและมอง ไตร่ตรองว่า
ตัวเรานั้น เราใช้อะไรเป็นมาตรฐาน
ในการดำเนินชีวิตของตนเอง
เรามีอะไรเป็นบรรทัดฐานให้กับการเดินทางของชีวิตตัวเอง

หากเรายึด "อิสลาม" เป็นมาตรฐาน เป็นบรรทัดฐาน เป็นธรรมนูญแล้ว
กลไกใดๆที่จะมีมาใหม่ๆ ก็ไม่อาจล้ม"ธง"ของเราลงได้...
ในเมื่อเราเลือกที่จะปัก "ธงแห่งอัลอิสลาม"ลงไปในหัวใจแล้ว...

แน่นอนว่า...เราอาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นคนแปลก
หรืออาจจะถูกมองว่าเป็นคนบ้า ไปบ้างในบางครั้ง...

เพราะว่า...เมื่อเราทำอะไรตามมาตรฐานของเราที่เรายึดเอาไว้อย่างมั่นคง
ท่ามกลางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอนั้น...เราย่อมต้องกลายเป็นคนแปลกหน้า
ในกลุ่มชนในแต่ละยุคที่เราก้าวผ่านอย่างแน่นอน...
และแน่นอนว่า ไม่ว่าเราจะหอบกายและใจของเราไปอยู่ยังจุดใดของโลกนี้
ไม่ว่าแต่ละจุดที่เราไปยืนอยู่ สังคมและกลไกของสังคมนั้นๆจะเป็นเช่นไร
หากเรามี "จุดยืน"ของเราอยู่แล้ว...เราก็ยืนอยู่บนจุดน้ัน พยามอย่างที่สุด
ที่จะยืนหยัดบนจุดยืนดังกล่าวให้ได้...

แน่นอนว่า...เราจะสามารถไปยืนอยู่ ณ จุดใดๆบนโลกนี้ได้อย่างไม่หวาดหวั่น
และไม่หวั่นกลัวต่อความผันผวนภายนอก...และยากที่สังคมที่เราไปอยู่
จะกลืนกินเราได้ ในเมื่อเรามีมาตรฐานในการดำเนินชีวิตของเราอยู่แล้ว
และเรารู้ว่าเรากำลังเดินไปที่ใด เรามีเป้าหมายใดในชีวิต...
การมุ่งสู่เป้าหมายอย่างมาดมั่น จะทำให้เราสามารถยืนหยัดบนจุดยืน
ท่ามกลางความผันแปรของสังคมได้ไม่ยากนัก...

ปลาที่อ่อนแอ จะไม่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำได้ฉันใด
คนที่ปล่อยให้ความอ่อนแอภายในมีอิทธิพลเหนือจิตใจ
ก็มิอาจพาตัวเองทวนกระแสสังคมไปสู่แสงสว่างที่แท้จริงได้ฉันนั้น...

เราทุกคนเกิดมาอ่อนแอ...
และสามารถเข้มแข็งได้ หากเรามีความยำเกรงเป็นที่ตั้ง

และเมื่อเราทำผิดพลาดเนื่องจากความอ่อนแอของเรา
เราจึงต้องขออภัยโทษ...อัลลอฮฺคือผู้ทรงอภัยยิ่ง อีกทั้งยังทรงเมตตายิ่ง...


วันนี้...หากเราไม่กำหนดมาตรฐานหรือไม่วางแผน
ให้กับชีวิตของตัวเองเอาไว้เพื่อเป็นแนวทางที่จะก้าวเดิน

วันพรุ่งนี้...คนอื่นๆก็จะก้าวเข้ามากำหนดมาตรฐาน
และวางแผนให้กับชีวิตของเราเอง...

เราอยากเลือกเอง หรืออยากให้คนอื่นเลือกให้
ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้ว...

แน่นอนว่า...การศึกษาหาความรู้นั้นสำคัญยิ่ง...
แล้วความรู้เช่นใดเล่า ที่จะนำเราสู่แสงสว่างแท้จริง...

หยุดคิดสักนิดนึงว่า...ความรู้ที่เรากำลังแสวงหาอยู่ในวันนี้
ใครเป็นผู้กำหนดหลักสูตรให้เราศึกษา...

แน่นอนว่า...ผู้กำหนดหลักสูตรให้เราเรียนนั้น
ย่อมมีบทบาทสำคัญ

แล้วเราจะเลือกศึกษาตามหลักสูตรของใคร...

หลักสูตรจากผู้ที่สร้างเราและทุกสรรพสิ่งมา...

หรือว่า...ศึกษาตามหลักสูตรของมหาอำนาจในยุคนั้นๆ...

ใครหน้าไหนก็บังคับหรือกำหนดทั้งหมดของชีวิตเราไม่ได้
หากเราไม่ยอม

เว้นแต่ผู้นั้นคืออัลลอฮฺ...เพราะแท้จริงแล้ว

อัลลอฮฺนั้นได้ล้อมชีวิตของเราเอาไว้หมดแล้ว...

และบางครั้ง...การที่เราแข็งขืน อาจจะถูกมองว่าเป็นคนแข็งๆ
แต่ขอให้เราแข็งเถิด หากว่าแท้จริงแล้วความแข็งนั้น
จะเป็นเกราะป้องกันหัวใจเราไม่ให้อ่อนไหวได้...

เพราะแท้จริงแล้ว...ความอ่อนแอกับความอ่อนไหวจะเป็นมิตร
ที่ติดตามกันไปทุกที่...

ซึ่งใจที่เข้มแข็งก็หาใช่ว่ามันจะไม่อ่อนโยน...

จงอ่อนโยน แต่อย่าอ่อนไหว...
จงเข้มแข็ง แต่อย่าแข็งกระด้าง...
(พ่อข้าน้อยสอนสั่งมาตลอด
เพราะว่า ข้าน้อยคือ ลูกสาวท่ีต้องเดินทางไกล
และอยู่นอกบ้านเสมอๆ ไม่ค่อยได้อยู่ในสายตาท่าน)

และอย่าได้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว อย่ามองดอกบัวเป็นกงจักร

แล้วอย่าเป็นบัวที่แล้งน้ำ เพราะบัวที่ไม่มีรากใบมันจะมอง
ให้สวยงามและมีความหมายได้อย่างไร

เพราะคนเราย่อมต้องไม่ลืมว่าเรานั้นเป็นใคร แล้วมาจากไหน
ดอกบัวสวยชูช่อโผล่พ้นโคลนตมเหนือผืนน้ำให้ผู้คนชื่นชมได้
ก็เพราะมีรากใบคอยช่วยและเจือจุนอยู่เบื้องล่าง...





สุดท้้ายไม่ท้ายสุด...สำหรับ ความหมายของคำว่า "แฟน"
มันคงไม่ลึกซึ้งเท่ากับ ความหมายของคำว่า "อะรูซะตี"

^^



วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 17, 2013, 12:37 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged