ผู้เขียน หัวข้อ: เรายอมจำนนท์เป็นทาสบ่าวต่ออัลเลาะฮ์แล้วหรือยัง?  (อ่าน 4839 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
 

ความเป็นทาสต่ออัลเลาะฮ์


ท่านทั้งหลาย พึงทราบเถิดว่า   ในศักยภาพของความเป็นมนุษย์นั้น  ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม  แท้จริงแล้ว  เขาก็คือบ่าวที่ถูกครอบครอง  หรือเป็นข้าทาสของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) นั่นเอง    พระองค์ทรงตรัสว่า

{إِنْ كُلُّ مَنْ فِي السَّماواتِ وَالأَرْضِ إِلاّ آتِي الرَّحْمَنِ عَبْداً، لَقَدْ أَحْصاهُمْ وَعَدَّهُمْ عَدّاً، وَكُلُّهُمْ آتِيهِ يَوْمَ الْقِيامَةِ فَرْداً}


ความว่า " ไม่ว่า  ทุกๆ คนที่อยู่ในฟากฟ้าและแผ่นดิน  นอกจากต้องมาสู่องค์ผู้ทรงเมตตา  โดยความเป็นบ่าว (ด้วยกันทั้งนั้น)  แน่นอนที่สุด  พระองค์ได้จำกัดพวกเขาเอาไว้  และพระองค์ใด้นับจำนวนพวกเขาได้อย่างครบถ้วน  และพวกเขาทั้งหมด  จะต้องมาสู่พระองค์ในวันชาติหน้า  อย่างตัวคนเดียว " มัรยัม 93-95

นั่นคือ  ศักยาภาพในความเป็นมนุษย์    เราจึงเป็นผู้ที่ไม่มีอะไร  ดังนั้นเราอย่างโอหัง  โอ้อวดว่าตัวเองนั้นใหญ่  เราเกิดมาในโลกดุยานี้ก็มมาแต่ตัว  แต่เมื่อจากดุนยานี้ไป  ก็ไปพร้อมกับอะมัลอิบาดะฮฺ    ดังนั้น  ผลที่ตามมาจากการยอมในศักยาภาพของเป็นมนุษย์ ก็คือมีการยอมจำนนท์และแสดงความเป็นบ่าวที่มีต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)นั้น  คือการทำอิบาดะฮฺ  ตราบใดที่เรายังคงเป็นสิ่งที่ถูกครอบครองของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   และภาระกิจของบ่าวบนผืนแผ่นดินนี้  ก็คือ  การทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   อัลเลาะฮฺทรงตรัสว่า

 
{يا أَيُّها النّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ}


ความว่า " โอ้บรรดามนุษย์ทั้งหลาย  พวกเจ้าจงทำการอิบาดะฮฺต่อองค์อภิบาลของพวกเจ้า  ผู้ทรงสร้างพวกเจ้า  และบรรดาบุคคลที่อยู่ก่อนพวกเจ้าเถิด  เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความยำเกรง "  อัลบะกอเราะฮฺ 21

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้  จะเกิดขึ้นได้  ก็ด้วยเหตุ  สอง  ประการ  ด้วยกัน คือ

1.   เขาต้องมีความเป็น العبودية  คือมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
2.   เขาต้องมีการทำอิบาดะฮฺ  العبادة

ซึ่งการทำอิบาดะฮฺก็คือ  การกระทำที่แสดงออกให้เห็นทางภายนอก   สำหรับ อัลอุบูดียะฮฺนั้น  คือความรู้สึกทางจิตใจว่าเราเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  มีความรู้สึกในการนอบน้อมยอมจำนนท์ต่อพระองค์    มีความรู้สึกว่าเรานั้นไม่มีอะไร    มีความรู้สึกว่าเรานั้นอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์    ดังนั้น  ความรู้สึกของความเป็นบ่าวที่มีต่อพระองค์นั้น  จึงเป็นบ่อเกิดของความเกรงกลัว  และทำให้มีความรักต่อพระองค์    นั่นคือคำว่า  อัลอุบูดียะฮฺ      หากว่าเราไม่มีความเป็น  อัลอุบูดียะฮฺ  ไม่มีความรู้สึกในความเป็นบ่าวแล้ว  แน่นอนว่าเราย่อมไปไม่ถึงความพึงพอพระทัยและความเมตตาต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)

 ขออัลเลาะฮฺ ทรงเมตตาต่อท่าน อุมัร  (ร.ฏ.)  เนื่องจากท่านได้กล่าวในทุกวโรกาศกับตัวท่านเองเสมอว่า

(‏ويحك ياعمر كل الناس خير منك‏) 


"  โอ้อนิจจา  อุมัรเอ๋ย   มนุษย์ทุกคน  ย่อมดีกว่าเจ้า "
 

ดังกล่าวนั้น  ย่อมชี้ให้เห็นถึงความนอบน้อมถ่อมตน  และเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเป็นบ่าวของท่านอุมัรที่มีต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
:
และ อิมาม  ชาฟิอีย์  ของเรา  ท่านกล่าวว่า 
   
لشر الناس إن لم تعفُ عني    يظن الناس بي خيراً وإني
   

" บรรดามุนษย์คิดว่า ฉันนั้นดี   แต่แท้จริงแล้ว ฉันเป็นมุษย์ที่ชั่ว  หากพระองค์อัลเลาะฮฺไม่ทรงอภัยให้แก่ฉัน "

ดังนั้น  การที่เรามีความรู้สึกเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ   จะทำให้เกิดผลตามมา  นั่นก็คือ  มีการทำอิบาะฮฺ  ต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  หากเราได้พิจารณาถึง  ตึกอาคารสูงตระหง่านหรือบ้านที่เราอาศัยอยู่นั้น  เราจะพบว่า  สิ่งก่อสร้างเหล่านี้  ย่อมมีฐานเสาเข็มรองรับอยู่  เพื่อทำให้ตึกอาคารหรือบ้านเรือนนั้น  มีความมั่นคง  ไม่พังล้มครืนลงมา  ฉันท์ใดฉันท์นั้น  ความรู้สึกในความเป็นบ่าวต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  ก็คือพื้นฐานสำคัญในการทำอิบาดะฮฺให้มีความมั่นคงและสม่ำเสมอ   และมันก็คือสิ่งที่ผลักดันให้เขาทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)อย่างไม่เบื่อหน่าย

เมื่อเราหวนกลับมาพิจารณาในตัวของเรา  ในขณะนี้   เรามีความรู้สึกว่าเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)แล้วหรือยัง  ? หากเราบอกว่า ฉันรู้สึกว่าเป็นบ่าวเป็นทาสของอัลเลาะฮฺ  แต่เราไม่ทำละหมาด หรือขาดละหมาด ก็แสดงว่าเราโกหกตัวเองและโกหกอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   หากเรายังขาดละหมาด  หรือกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  ก็เหมือนกับว่าเรายังไม่ยอมจำนนท์ในความเป็นบ่าวต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  ทั้งที่แผ่นดินที่เราอยู่นี้  ก็ของพระองค์  ปัจจัยยังชีพที่เราบริโภคก็เป็นของพระองค์   ลมหายใจเข้าออกก็เป็นของพระองค์   แล้วเราจะไม่ยอมจำนนท์เป็นบ่าวและน้อมรับในการทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)อีกหรือครับ ?   

วัลลอฮุอะลัม

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ดังนั้น  การที่เรามีความรู้สึกเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ   จะทำให้เกิดผลตามมา  นั่นก็คือ  มีการทำอิบาะฮฺ  ต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  หากเราได้พิจารณาถึง  ตึกอาคารสูงตระหง่านหรือบ้านที่เราอาศัยอยู่นั้น  เราจะพบว่า  สิ่งก่อสร้างเหล่านี้  ย่อมมีฐานเสาเข็มรองรับอยู่  เพื่อทำให้ตึกอาคารหรือบ้านเรือนนั้น  มีความมั่นคง  ไม่พังล้มครืนลงมา  ฉันท์ใดฉันท์นั้น  ความรู้สึกในความเป็นบ่าวต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  ก็คือพื้นฐานสำคัญในการทำอิบาดะฮฺให้มีความมั่นคงและสม่ำเสมอ   และมันก็คือสิ่งที่ผลักดันให้เขาทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)อย่างไม่เบื่อหน่าย

คมครับน้อง

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
 

ความเป็นทาสต่ออัลเลาะฮ์


ท่านทั้งหลาย พึงทราบเถิดว่า   ในศักยภาพของความเป็นมนุษย์นั้น  ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม  แท้จริงแล้ว  เขาก็คือบ่าวที่ถูกครอบครอง  หรือเป็นข้าทาสของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) นั่นเอง    พระองค์ทรงตรัสว่า

{إِنْ كُلُّ مَنْ فِي السَّماواتِ وَالأَرْضِ إِلاّ آتِي الرَّحْمَنِ عَبْداً، لَقَدْ أَحْصاهُمْ وَعَدَّهُمْ عَدّاً، وَكُلُّهُمْ آتِيهِ يَوْمَ الْقِيامَةِ فَرْداً}


ความว่า " ไม่ว่า  ทุกๆ คนที่อยู่ในฟากฟ้าและแผ่นดิน  นอกจากต้องมาสู่องค์ผู้ทรงเมตตา  โดยความเป็นบ่าว (ด้วยกันทั้งนั้น)  แน่นอนที่สุด  พระองค์ได้จำกัดพวกเขาเอาไว้  และพระองค์ใด้นับจำนวนพวกเขาได้อย่างครบถ้วน  และพวกเขาทั้งหมด  จะต้องมาสู่พระองค์ในวันชาติหน้า  อย่างตัวคนเดียว " มัรยัม 93-95

นั่นคือ  ศักยาภาพในความเป็นมนุษย์    เราจึงเป็นผู้ที่ไม่มีอะไร  ดังนั้นเราอย่างโอหัง  โอ้อวดว่าตัวเองนั้นใหญ่  เราเกิดมาในโลกดุยานี้ก็มมาแต่ตัว  แต่เมื่อจากดุนยานี้ไป  ก็ไปพร้อมกับอะมัลอิบาดะฮฺ    ดังนั้น  ผลที่ตามมาจากการยอมในศักยาภาพของเป็นมนุษย์ ก็คือมีการยอมจำนนท์และแสดงความเป็นบ่าวที่มีต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)นั้น  คือการทำอิบาดะฮฺ  ตราบใดที่เรายังคงเป็นสิ่งที่ถูกครอบครองของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   และภาระกิจของบ่าวบนผืนแผ่นดินนี้  ก็คือ  การทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   อัลเลาะฮฺทรงตรัสว่า

 
{يا أَيُّها النّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ}


ความว่า " โอ้บรรดามนุษย์ทั้งหลาย  พวกเจ้าจงทำการอิบาดะฮฺต่อองค์อภิบาลของพวกเจ้า  ผู้ทรงสร้างพวกเจ้า  และบรรดาบุคคลที่อยู่ก่อนพวกเจ้าเถิด  เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความยำเกรง "  อัลบะกอเราะฮฺ 21

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้  จะเกิดขึ้นได้  ก็ด้วยเหตุ  สอง  ประการ  ด้วยกัน คือ

1.   เขาต้องมีความเป็น العبودية  คือมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
2.   เขาต้องมีการทำอิบาดะฮฺ  العبادة

ซึ่งการทำอิบาดะฮฺก็คือ  การกระทำที่แสดงออกให้เห็นทางภายนอก   สำหรับ อัลอุบูดียะฮฺนั้น  คือความรู้สึกทางจิตใจว่าเราเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  มีความรู้สึกในการนอบน้อมยอมจำนนท์ต่อพระองค์    มีความรู้สึกว่าเรานั้นไม่มีอะไร    มีความรู้สึกว่าเรานั้นอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์    ดังนั้น  ความรู้สึกของความเป็นบ่าวที่มีต่อพระองค์นั้น  จึงเป็นบ่อเกิดของความเกรงกลัว  และทำให้มีความรักต่อพระองค์    นั่นคือคำว่า  อัลอุบูดียะฮฺ      หากว่าเราไม่มีความเป็น  อัลอุบูดียะฮฺ  ไม่มีความรู้สึกในความเป็นบ่าวแล้ว  แน่นอนว่าเราย่อมไปไม่ถึงความพึงพอพระทัยและความเมตตาต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)

 ขออัลเลาะฮฺ ทรงเมตตาต่อท่าน อุมัร  (ร.ฏ.)  เนื่องจากท่านได้กล่าวในทุกวโรกาศกับตัวท่านเองเสมอว่า

(‏ويحك ياعمر كل الناس خير منك‏) 


"  โอ้อนิจจา  อุมัรเอ๋ย   มนุษย์ทุกคน  ย่อมดีกว่าเจ้า "
 

ดังกล่าวนั้น  ย่อมชี้ให้เห็นถึงความนอบน้อมถ่อมตน  และเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเป็นบ่าวของท่านอุมัรที่มีต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
:
และ อิมาม  ชาฟิอีย์  ของเรา  ท่านกล่าวว่า 
   
لشر الناس إن لم تعفُ عني    يظن الناس بي خيراً وإني
   

" บรรดามุนษย์คิดว่า ฉันนั้นดี   แต่แท้จริงแล้ว ฉันเป็นมุษย์ที่ชั่ว  หากพระองค์อัลเลาะฮฺไม่ทรงอภัยให้แก่ฉัน "

ดังนั้น  การที่เรามีความรู้สึกเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ   จะทำให้เกิดผลตามมา  นั่นก็คือ  มีการทำอิบาะฮฺ  ต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  หากเราได้พิจารณาถึง  ตึกอาคารสูงตระหง่านหรือบ้านที่เราอาศัยอยู่นั้น  เราจะพบว่า  สิ่งก่อสร้างเหล่านี้  ย่อมมีฐานเสาเข็มรองรับอยู่  เพื่อทำให้ตึกอาคารหรือบ้านเรือนนั้น  มีความมั่นคง  ไม่พังล้มครืนลงมา  ฉันท์ใดฉันท์นั้น  ความรู้สึกในความเป็นบ่าวต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  ก็คือพื้นฐานสำคัญในการทำอิบาดะฮฺให้มีความมั่นคงและสม่ำเสมอ   และมันก็คือสิ่งที่ผลักดันให้เขาทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)อย่างไม่เบื่อหน่าย

เมื่อเราหวนกลับมาพิจารณาในตัวของเรา  ในขณะนี้   เรามีความรู้สึกว่าเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)แล้วหรือยัง  ? หากเราบอกว่า ฉันรู้สึกว่าเป็นบ่าวเป็นทาสของอัลเลาะฮฺ  แต่เราไม่ทำละหมาด หรือขาดละหมาด ก็แสดงว่าเราโกหกตัวเองและโกหกอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)   หากเรายังขาดละหมาด  หรือกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  ก็เหมือนกับว่าเรายังไม่ยอมจำนนท์ในความเป็นบ่าวต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)  ทั้งที่แผ่นดินที่เราอยู่นี้  ก็ของพระองค์  ปัจจัยยังชีพที่เราบริโภคก็เป็นของพระองค์   ลมหายใจเข้าออกก็เป็นของพระองค์   แล้วเราจะไม่ยอมจำนนท์เป็นบ่าวและน้อมรับในการทำอิบาดะฮฺต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)อีกหรือครับ ?   

วัลลอฮุอะลัม

والسلام



เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องที่สุดเลยค่ะปู่อัลฯ...........เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
 salam

เพิ่งเจอกระทู้นี้

ก็เลยเพิ่งได้อ่าน

แต่ก็อัลฮัมดูลิลลาฮ์

     สงสัยอ่ะ

ว่าทำไมมันไม่ขึ้นข้อความเวลาที่คลิกไปที่กระทู้ที่ยังไม่ได้อ่าน

 ::)
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

sara

  • บุคคลทั่วไป
หากเราคิดว่าเรายอมจำนน  และคิดเสมอว่าเราคือบ่าวของพระองค์

แต่การกระทำเรามีเผลอในการหลงลืมพระองค์ ไม่มอบหมายต่อพระองค์

อันนี้   จะเข้าค่าย   มุนาฟิก   หน้าไหว้หลังหลอก   เลย?ค่ะ


 sad:                   :-[                                      boulay:


อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ วะอัชฮะดุอันนะมูฮำมะดัรร่อซูลุลลอฮ               


ชุกรอนจร้า   เอากระทู้เตือนใจดีๆๆมาลงอีกนะ บัง              myGreat:                 loveit:

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
เพราะมนุษย์อ่อนแอ

จึงมักถูกทดสอบด้วยกับการหลงลืมอยู่บ่อย ๆ (เข้าเนื้อแฮะ)

ดังนั้นก่อนนอนก็ควรอิสติฆฟารเยอะ ๆ

     มนุษย์ที่ขึ้นชื่อว่าสมบูรณ์แบบอย่างท่านศาสดามูฮัมหมัด  ซ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวาซัลลัมยังกระทำเลย

แล้วมนุษย์ที่อ่อนแออย่างพวกเราไม่คิดจะกระทำมันบ้างเลยหรือ

 ::)
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

sara

  • บุคคลทั่วไป
อัซตักฟิรุลลอฮัลอะซีมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 loveit:     loveit:    loveit:

ออฟไลน์ Molto

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 109
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

วันนั้นเรานั่งกันอยู่  แล้วบังอัซฮะรีบอกว่า  อัลเลาะฮ์ทรงยิ่งใหญ่  ทรงเกรียงไกรยิ่ง  ดังนั้นเราจงทำอิบาดะฮ์ด้วยกับสิ่งที่ไม่มีอยู่ที่พระองค์

บังเขาถามว่า  เราต้องทำอิบาดะฮ์ด้วยกับสิ่งที่ไม่อยู่ที่อัลลอฮ์มันคืออะไร? พวกเราตอบกันไม่ได้   ก็เลยต้องยอม

เฉยคำตอบก็คือบังเขาบอกว่า "ความต่ำต้อยความเป็นทาสบ่าวไม่มีอยู่ที่อัลลอฮ์  ดังนั้นเราต้องทำอะมัลอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ด้วยความรู้สึกต่ำต้อยความนอบน้อมและความเป็นทาสบ่าว"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 23, 2009, 10:42 AM โดย Molto »

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ในทุกลมหายใจเข้า และออก เรายอมจำนนท์ต่อพระองค์หรือยัง?

ออฟไลน์ binti

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 261
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อัลฮัมดุลิลลาฮ์

ที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ แบบนี้
อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
salam

วันนั้นเรานั่งกันอยู่  แล้วบังอัซฮะรีบอกว่า  อัลเลาะฮ์ทรงยิ่งใหญ่  ทรงเกรียงไกรยิ่ง  ดังนั้นเราจงทำอิบาดะฮ์ด้วยกับสิ่งที่ไม่มีอยู่ที่พระองค์

บังเขาถามว่า  เราต้องทำอิบาดะฮ์ด้วยกับสิ่งที่ไม่อยู่ที่อัลลอฮ์มันคืออะไร? พวกเราตอบกันไม่ได้   ก็เลยต้องยอม

เฉยคำตอบก็คือบังเขาบอกว่า "ความต่ำต้อยความเป็นทาสบ่าวไม่มีอยู่ที่อัลลอฮ์  ดังนั้นเราต้องทำอะมัลอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ด้วยความรู้สึกต่ำต้อยความนอบน้อมและความเป็นทาสบ่าว"

ขอบคุณมากครับ
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ความรู้ที่ได้จากเว็บนี้ ในทุกๆด้าน  ทุกๆความคิดเห็นของทุกๆคนที่ผ่านมา
ในเรื่องการอ่านอัลกุรอาน  ละหมาดฟัรดู ละหมาดสุนัต ซิกรุลลอฮ์  ซอลาวาตนบี  ฯลฯ ในทุกๆกระทู้ของเว็บนี้
ทำให้รอมฎอนปีนี้ ถือศีลอดด้วยความอิ่มอร่อย (ในการทำอามัลอิบาดะฮ์) ...
โดยเฉพาะมุมตะเซาวุฟ และไฟล์เสียงฮิกัม ขัดเกลาจิตใจเราเพื่อต้อนรับรอมฎอนนี้ได้มากมายเรยทีเดียว
ทำอิบาดะฮ์ เพื่อแสวงหาความพึงพอใจ ณ อัลลอฮ์ และหวังให้พระองค์อภัยให้แก่เรา ...
เรายอมจำนนท์เป็นทาสบ่าวต่ออัลเลาะฮ์แล้วหรือยัง?
สุดท้ายแล้ว เรายังคงเป็นบ่าวที่ต่ำต้อย ความผิดบาปก็ยังมีอยู่  อิสติฆฟารให้มากๆ

Qortubah

  • บุคคลทั่วไป

จะจำนนท์ไปอีกนานม้าย?  ;D




ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด

จะจำนนท์ไปอีกนานม้าย?  ;D





 salam

ผิดซีนรึเปล่า 

นั่นหน่ะหน้าที่ฮาม  กับน้องชาห์เค้า 

แต่เอ...ชาห์หายไป  (ทำหน้าที่ที่จำเป็นกว่าอยู่รึเปล่าน้อ?)

     ยอมจำนนแต่ไม่อยากจำนนท์แล้ว

 cool2:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

 

GoogleTagged