ผู้เขียน หัวข้อ: เราจะคิดถึง นึกถึง รำลึกถึง อัลลอฮ์ ให้ได้ตลอดเวลา หรือนานที่สุด อย่างไร ?  (อ่าน 9973 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

อัสลามุอลัยกุม ฯ ผู้รู้และสมาชิกเว็บทุกท่าน วันนี้มีคำถาม

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาปราณียิ่ง

คำถาม........(1) เราจะคิดถึง นึกถึง รำลึกถึง อัลลอฮ์   ให้ได้ตลอดเวลา หรือนานที่สุด อย่างไร ?

..................(2.) เมื่อข้อที่หนึ่งทำได้ แล้วจะทำอย่างไร ให้เราได้รีบเข้าสู่การปฏิบัติอาม้าลอย่างกระตือรือร้น

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
بسم الله الرحمن الرحيم

ผมขอตอบข้อที่ 1 ก่อนนะครับ

อยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพสักนิดว่า  การที่เราจะรำลึกถึงบุคคลหนึ่งอย่างสม่ำเสมอนั้น  เราต้องมีความรู้สึกรักเขาก่อนนะครับ  รับรองว่าหากผู้ใดมีความรู้สึกกับบุคคลหนึ่งก็จะระลึกนึกถึงเขาอย่างสม่ำเสมอ

หากจะถามว่าทำอย่างไรให้เรารักอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮูวะตะอาลา   ผมขอแนะนำให้ไปอ่านกระทู้เรื่องความรักคืออะไรครับ  เพราะได้อธิบายถึงคำนิยามเรื่องความรักที่มีต่ออัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์ไว้อย่างพอสังเขปแล้ว

การซิกุรุลลอฮ์  เป็นอีกสื่อหนึ่งที่ทำให้เรารำลึกต่ออัลเลาะฮ์อย่างสม่ำเสมอ   คนเราเวลาชอบฟังอะไร  ชอบอ่านอะไรสักอย่าง  หรือชอบพูดถ้อยคำใดสักอย่างหนึ่งเป็นประจำ   การฟังก็จะติดหูเราแล้วเข้าใจถึงหัว  เช่นชอบฟังเพลงโปรด    อ่านหนังสือที่ชื่นชอบเป็นประจำ  เวลาว่าง ๆ ก็จะนึกถึงเนื้อหาตำราเล่มนั้นเพราะมีบางถ้อยคำที่ลึกซึ้ง  ชอบพูดคำว่ารักและคิดถึงที่ออกมาจากใจ   เราก็จะจำถ้อยคำนั้น ๆ อย่างไม่เสื่อมคลาย

ฉันท์ใดฉันท์นั้นครับ  การซิกรุลลอฮ์อย่างสม่ำเสมอ  ต้องการไปยังการฝึกฝน  เนื่องจากอารมณ์ใฝ่ต่ำของเราไม่ชอบ  หากฝึกฝนมั่นเพียรซิกรุลลอฮ์เป็นประจำเราก็สามารถพิชิตอารมณ์ใฝ่ต่ำของเรา   เมื่อนั้นเราก็จะชอบกล่าวซิกรุลลอฮ์  จากลิ้นก็เข้าสู่หัวใจ   กล่าวเป็นประจำทุก ๆ วัน  อัลเลาะฮ์ก็จะอยู่ในจิตใจของเราได้นาน

บางท่านอาจจะนึกว่าเราจะกล่าวซิกรุลลอฮ์ตลอดได้อย่างไรในเรื่องเราต้องทำงานกับผู้คนทั้งหลาย  จะเอาเวลาใหนไปซิรุลลอฮ์   ก็ขอตอบว่า  ซิกรุลลอฮ์มี 2 รูปแบบ

1. ซิกรุลลอฮ์ด้วยลิ้น

2. ซิกรุลลอฮ์ด้วยใจ

หากซิกรุลลอฮ์ด้วยลิ้นและใจพร้อมกัน  ย่อมประเสริฐ  เพราะได้อะมัลทั้งลิ้นและหัวใจ   แต่ทว่าหากเราต้องปะปนทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ  ก็ให้เราทำการซิกรุลลอฮ์ด้วยใจ  เช่น กล่าว "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"  ในใจ   ดังนั้น  การกล่าว "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" ในใจนั้น  จะมีประสิทธิ์ผลมากกว่า  เพราะเราไม่ลืมความหมายและความลึกซึ้งของมันอย่างแน่นอน   เพราะบางทีลิ้นเรากล่าวว่า "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"  แต่จิตใจของเราคิดถึงแต่คนอื่น นึกแต่เรื่องการงาน  ก็มีถมไปครับ 

ดังนั้น  การกล่าว "ลาอิลาฮะอิลัลลอฮ์" ในใจ  จะช่วยให้เราอยู่ร่วมกับคนอื่นได้สะดวก   เรานั่งร่วมกับพวกเขา  แต่จิตใจของเราซิกิร "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"  แถมยังปลอดภัยเรื่องริยาด้วย   และเมื่อเราทำการซิกิรดังกล่าวเป็นประจำ ๆ  เราก็จะรำลึกถึงอัลเลาะฮ์อย่างสม่ำเสมอโดยอัตโนมัติ    และเราสามารถซิกรุลลอฮ์ในใจได้เป็นพัน ๆ หมื่น ๆ ครั้งแต่วัน

และในฮิกัมหนึ่ง  ซึ่งผมได้นำเสนออธิบายความว่า

 ดังนั้น  วิธีการขจัดอารมณ์ใฝ่ต่ำและการทำให้อิบาดะฮ์มีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลเลาะฮ์ ตะอาลา  นั้น   ต้องกลับไปหาพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของอารมณ์ใฝ่ต่ำนั้นเอง  เพราะฉะนั้น  จึงไม่มีปัจจัยใดที่ทำให้เขาหลุดพ้นจากมันไปได้  นอกจาก  ต้องรำลึกถึงอัลเลาะฮ์อย่างสม่ำเสมอ  จิตคิดว่าพระองค์ทรงเห็นเราอยู่ตลอดเวลา  ด้วยการซิกรุลเลาะฮ์ให้มากๆ  แต่การซิกรุลเลาะฮ์ในที่นี้ คือการซิกรุลลอฮ์ในใจ  เพราะการซิกิรในใจ  จะไม่มีการโอ้อวดที่เป็นเหตุของจิตใฝ่ต่ำแต่อย่างใด  ยิ่งไปกว่านั้น  การซิกิรในใจ  ยังถือว่าเป็นการมุญาฮะดะฮ์ต่อสู้ภายใน  ( الجهاد الخفى ) ซึ่งเป็นอิบาดะฮ์ที่บริสุทธิ์และเป็นยาบำบัดจิตใจอีกด้วย

อัลเลาะฮ์ทรงตรัส ความว่า

وَاذْكُر رَّبَّكَ فِي نَفْسِكَ تَضَرُّعاً وَخِيفَةً

"และเจ้าจงรำลึกถึงองค์อภิบาลของเจ้า  อยู่ในจิตใจของเจ้าโดยความนอบน้อม  และโดยเกรงกลัว"  อัลอะร๊อฟ 205

วัลลอฮุอะลัม 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ญาซากัลลอฮ์ฮูค๊อยรอ อาจารย์อัชอารีย์

.....หลังจากที่ได้ถามคำถามไปแล้ว ผมก็กลับไปทบทวน ก็นึกได้ว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งได้กล่าวไว้เหมือนกัน แต่ด้วยความหลงลืมและความไม่เอาใหนหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ จึงลืมระลึกไป ดังนั้นจึงขอนำสิ่งที่ได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนั้นมาเสนอเพิ่มเติมจากสิ่งที่อาจารย์อัชอารีย์ได้กล่าวไว้ (ผมไม่ใช่ผู้รู้ แต่ขอเป็นแค่เครื่องถ่ายเอกสาร ซีร๊อกให้ได้อ่านสำหรับบุคคลที่อัลเลาะฮ์ ให้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ดีกว่าผม แต่ก็ไม่หมดหวังในอัลเลาะฮ์ จะพยายามต่อไป อินชาอัลลอฮ์)

ท่านจะคิดถึงอัลเลาะฮ์นานๆได้หรือไม่

...........คำถามนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีหลักวิชานี้ คำตอบก็คือ สมมติว่าท่านนี้เกิดรักชอบกับผู้หญิงคนหนึ่ง และผู้หญิงคนนี้ก็รักชอบกับท่านอยู่เหมือนกัน ตัวท่านเองและคนรักของท่านเป็นคนที่กลัวผีอย่างมากทีเดียว ขนาดไม่กล้าเดินในที่เปลี่ยวหรือที่มืดๆ และเมื่อความรักของท่านงอกงามจนอดทนไม่ใหว ถ้าไม่ได้พบกันในคืนนี้แล้ว ท่านก็จะตรอมใจจนนอนไม่หลับแน่ ท่านก็เลยฝากจดหมายไปให้กับคนรัก โดยนัดพบกันตรงที่ๆเหมาะสมที่สุดคือหลังป่าช้า คนรักของท่านก็ตอบจดหมายมาว่าตกลงเราจะพบกันเวลาเที่ยงคืนในคืนนี้ เมื่อทั้งสองคนลงจากบันไดบ้านเดินไปที่นัดพบหลังป่าช้า ซึ่งต้องใช้เวลาเดินประมาณยี่สิบนาที ทั้งๆที่ทั้งท่านและเธอนั้นกลัวผีเป็นที่สุด แต่ทำไมทั้งท่านและเธอจึงไปยังที่นัดพบในป่าช้าได้โดยไม่รู้สึกกลัวผี เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ความรักของท่านและเธอมันเต็มเปี่ยมระหว่างที่เดินยี่สิบนาทีนั้น ทั้งท่านและเธอไม่รู้สึกกลัวผี และเพราะในจิตใจของท่านเวลานั้น ฟ่านาฮ์หลุดพ้นจากจิตว่าบรรดาผีทั้งหลายไม่มีเหลืออยู่แล้ว ที่มีเหลืออยู่ในจิตของท่านก็คือ ตัวคู่รักของท่านเท่านั้น และเช่นเดียวกันเธอเองก็เพ่งเล็งฟ่านาฮ์ออกไปจากจิตว่าผีทั้งหลายมันไม่มีเหลือ แต่ที่เหลืออยู่ในจิตใจของเธอนั้นก็คือตัวท่านเท่านั้น นี้แหละเป็นอุทธาหรณ์ว่าทั้งท่านและเธอฟ่านาฮ์ผีออกจากจิต โดยจิตของท่านคิดถึงเธอ และจิตของเธอก็คิดถึงท่านอยู่นานถึงยี่สิบนาทีได้ แต่ทำไมท่านคิดถึงอัลเลาะฮ์ในละหมาดตั้งแต่ตั๊กบี้รถึงให้สลาม ใช้เวลาเพียงประมาณห้านาทีไม่ได้ นั้นก็เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านยังไม่ซาบซึ้งต่ออัลเลาะฮ์

...........การที่จะให้ซาบซึ้งต่ออัลเลาะฮ์นั้น จะต้องให้มีการฝึกจิต เพราะว่าตั้งแต่ท่านเกิดมาตั้งแต่เล็กๆ จิตของท่านจะจับอยู่แต่ภาพโลก จิตก็เลยวนเวียนอยู่แต่ภาพโลก สนิมของภาพโลกจึงจับติดกรังในจิตใจของท่าน ยากนักที่จะกวาดล้างให้ออกไปได้

...........แต่เมื่อก่อนหน้าโน้น จิตของท่านทั้งหมดยอมรับต่ออัลเลาะฮ์ว่าเป็นพระเจ้าดังได้มีคำกล่าวในเรื่องของนบีอาดำ ซึ่งกาลครั้งหนึ่งอัลเลาะฮ์ได้เอาหยดน้ำอสุจิเป็นจุดเล็กๆหรืออนูซึ่งต่อไปจะเป็นพวกมนุษย์รวมทั้งตัวท่านด้วยออกจากกระดูกสันหลังของท่านนบีอาดัม แล้วอัลเลาะฮ์(ซุบฮาฯ)ได้กล่าวแก่บรรดาหยดอสุจิหรืออนูเหล่านั้นว่า

الست بر بكم قالو بلى
มีความว่า "จริงหรือป่าว ว่าข้าคือพระเจ้าของเจ้า" บรรดาพวกเขาเหล่านั้นก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใช่แล้ว ท่านเป็นพระเจ้าของพวกข้าพเจ้า"

...........ท่านร่อซู้ล(ซ๊อลฯ) กล่าวไว้มีความว่า เมื่อเด็กท่านมานั้นมีจิตที่บริสุทธิ์ แต่พ่อแม่ของเขาทำให้เขาเป็นนัสรอนี เป็นย่าฮูดี เป็นม่ายูซี นี้แหละเป็นหลักฐานอย่างเด่นชัดเป็นอย่างดีแก่ท่านแล้วว่า เมื่อท่านเกิดมานั้นมีจิตใจที่บริสุทธิ์ คือยึดมั่นต่ออัลเลาะฮ์และจิตซาบซึ้งต่ออัลเลาะฮ์ แต่พอท่านเกิดมาแล้ว โสตประสาททุกส่วนของตัวท่านก็เริ่มรับเอาโลกมาไว้ในจิต ดังเช่น เมื่อตาของท่านเริ่มเปิดมองเห็นก็เห็นภาพโลก ภาพโลกนั้ก็เข้าไปจับในจิต และเมื่อหูของท่านเริ่มได้ยินก็ได้ยินเสียงจากโลก มักเข้าไปจับในจิต และเมื่อจมูกของท่านเริ่มได้กลิ่นของโลกมันก็เข้าไปจับในจิต และเมื่อลิ้นของท่านได้ชิมรสของโลก มันก็เข้าไปจับในจิต และเมื่อมือหรืออวัยวะของท่านเริ่มได้สัมผัสกับโลก มันก็เข้าไปจับในจิต ดังนั้นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสทั้งหลายของโลกจึงเขาไปจับในจิตของท่านโดยทางปัจจัยโสตประสาทรับการสัมผัสทางอวัยวะของท่านทั้ห้าอย่าง คือ รูปภาพของโลกเข้าทางสายตาของท่าน รสชาติของโลกเข้าทางลิ้นของท่าน กลิ่นของโลกเข้าทางจมูกของท่าน เสียงของโลกเข้าทางหูของท่าน และสัมผัสของโลกเข้าทางผิวหนังของท่าน โสตประสาทการรับสัมผัสปัจจัยการรับสัมผัสทั้งห้าของท่าน ก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของท่านทั้งหมดกับสิ่งที่ได้สัมผัสกับมันดังกล่าวนั้น มันก็พรั่งพูกันเข้าไปประกบอยู่ในห้วงลึกในจิตของท่านตั้งแต่เมื่อท่านเล็กๆ จนกระทั่งเติบใหญ่มีอายุจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉนั้นรูป รส สัมผัส กลิ่นเสียงของโลกก็ได้สะสมอยู่ในจิตของท่านมากมาย เป็นขยะกองมหึมา และเป็นสนิมจับตรึงในจิตของท่าน จนกระทั่งหัวใจของท่าน ตาใจของท่าน ใกล้จะบอดเต็มที่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ท่านจงเยียวยารักษา กระเทาะสนิม กวาดขยะ ออกจากจิตของท่าน โดยเร็วเสียตั้งแต่บัดนี้ ด้วยการปฏิบัติอะม้าลจากหลักวิชานี้ ซึ่งการปฏิบัตินั้น จะได้กล่าวถึงต่อไป อินชาอัลเลาะฮ์

...........อัลเลาะฮ์(ซุบฮาฯ)ได้กล่าวในหะดีษกุดซีย์ต่อท่านรอซู้ล(ซ๊อลฯ)ว่า
فرغ قلبك لان قلبك بيتى اسكن فيه
มีความว่า "โอ้มูฮัมหมัดเอ๋ย เจ้าจงทำให้หัวใจของเจ้าให้ว่าง เพราะว่าแท้จริง หัวใจของเจ้านั้นเป็นบ้านของข้า เพื่อข้าจะได้อยู่ในนั้น"

...........บ้านดังกล่าวนี้ก็คือหัวใจหรือจิตใจนั้นเอง นี้เป็นหลักฐานอันเด่นชัดแล้วว่า ถ้าท่านมีสนิมของโลก มีขยะของโลกอยู่ในจิตแล้ว ท่านก็จะไม่มีความซาบซึ้งต่ออัลเลาะฮ์ ดังนั้นขอให้ท่านพยายามกระเทาะสนิมของท่านให้หลุดจากจิตไปเรื่อยๆ พยายามกวาดขยะให้ออกจากใจไปเรื่อยๆ ถ้าท่านพยายามอย่างจริงๆแล้ว ถึงแม้จะเป็นวันละนิดวันละหน่อยก็ตามเถิด ภายในเวลาไม่นาน สนิมหรือขยะก็จะค่อยๆออกไปจากจิตของท่านจนหมดสิ้น ต่อไปอีกไม่นานผมจะให้ฆ้อนเล่มใหญ่ ซึ่งเป็นฆ้อนวิเศษแก่ท่านเพื่อให้ท่านกระเทาะสนิมใจ และจะให้ไม้กวาดวิเศษแก่ท่าน เพื่อให้ท่านกวาดขยะออกจากจิต (อาลี บินยูนุส ไชยา มักกะฮ์ ผู้บรรยาย อับดุลวาฮับ บินอะหมัด เหร่ามัด ไชยา มักกะฮ์ ผู้เรียบเรียง 2541: 44-47)

เอกสารอ้างอิง

อาลี บินยูนุส ไชยา ,อับดุลวาฮับ บินอะหมัด เหร่ามัด ไชยา ผู้เรียบเรียง. ทางนำไปสู่อัลเลาะฮ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: ส.วงศ์เสงี่ยม. 2541
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 29, 2007, 10:25 AM โดย isma-il »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดีมากครับ     เรื่องแบบนี้ต้องอยู่ที่การลิ้มรสนะครับ  หากล้มรสได้มากเพียงใดก็สามารถถ่ายทอดได้มากเท่านั้น   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะไลกุ้ม.....ถูกใจกระทู้นี้มากครับ....รู้สึกว่าจะต้องนำไปปฏิบัติกันบ้างแล้วล่ะ...ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบแทน..ครับ

ออฟไลน์ plaster_13

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

ญาซากัลลอฮฺสำหรับความรู้ที่นำเสนอให้

ไม่ทราบว่าสิ่ง  คุณ  isma-il  ได้นำเสนอไว้

จากหนังสือเล่มหนึ่งของท่าน อาลี บินยูนุส ไชยา ,อับดุลวาฮับ บินอะหมัด เหร่ามัด ไชยา ผู้เรียบเรียง. ทางนำไปสู่อัลเลาะฮ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: ส.วงศ์เสงี่ยม. 2541

ยังมีเนื้อหาอีกไหม  ถ้ามีอยากให้คุณ isma-il   นำเสนอเพิ่มเติม

ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่พี่น้องชาวซุนนะห์สติวเด้นทุกๆคน

วัสลาม

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
เราจะคิดถึง นึกถึง รำลึกถึง อัลลอฮ์ ให้ได้ตลอดเวลา หรือนานที่สุด อย่างไร ?

              ตอบ เมื่อเรารำลึกถึงความโปรดปรานจากทุกสิ่งที่เราได้รับ และวนกลับไปคิดอีกทีว่า ทั้งหมดนั้นมันมาได้อย่างไร - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
ซิเกรเยอะๆ  ซิเกรด้วยใจ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 salam

ขอบคุณผู้นำเสนอทุกท่่านค่ะ

 loveit: loveit: loveit:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
 salam

ผู้ที่ซิเกรย่อมอยู่ใกล้ชิด กับผู้ที่ถูกซิเกร  และผู้ที่ถูกซิเกรก็จะอยู่กับเขาตลอดไป
ลักษณะนี้ เป็นสิ่งเฉพาะสำหรับผู้ทำซิเกรเท่านั้น  ดังที่อัลเลาะฮ์ตะอาลา ได้กล่าวไว้ว่า

"แท้จริงอัลเลาะฮ์ พร้อมกับบรรดาผู้ยำเกรง"

"และอัลเลาะฮ์ พร้อมกับผู้อดทน"

"และแท้จริงอัลเลาะฮ์ ทรงพร้อมกับบรรดาผู้มีคุณธรรม"

"เจ้าอย่าเสียใจ แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงพร้อมกับเรา"

ความใกล้ชิดเหล่านี้ อัลเลาะฮ์ทรงหลั่งไหลให้แก่บ่าวของพระองค์อยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่บ่าวระลึกถึงพระองค์
แต่ผู้ที่ทำซิเกร จะมีความพร้อมอันเป็นพิเศษเกินไปจากที่กล่าวมา  หะดิษกุดซีย์ ที่ว่า

"ฉันพร้อมกับบ่าวของฉัน  ตราบเท่าที่บ่าวของฉันระลึกถึงฉัน และเคลื่อนไหวริมฝีปากทั้งสองของเขากล่าวนามฉัน"

และอีกหะดิษหนึ่งที่ว่า

"ผู้นึกถึงฉัน เป็นผู้ที่อยู่ในสภาของฉัน ผู้ขอบคุณฉันเป็นผู้ที่เยี่ยมเยือนฉัน  ผู้ภักดีฉัน เป็นผู้ที่ฉันไม่ให้เขาท้อแท้ต่อเมตตาของฉัน
หากพวกเขาสารภาพผิดฉันก็จะรักพวกเขา เพราะแท้จริงฉันรักบรรดาผู้สารภาพผิด และฉันรักบรรดาผู้สะอาด
และหากพวกเขาไม่ยอมสารภาพผิด  ฉันจะเป็นแพทย์ผู้รักษาอาการของพวกเขา ฉันจะทดสอบโรคของพวกเขา
ให้ประสบกับภัยต่างๆ เพื่อฉันจะชำระพวกเขาให้สะอาดพ้นมลทินทั้งปวง"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 23, 2010, 09:16 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 salam

 
اعوذبالله من الشيطان الرجيم



ดังนั้นพวกเจ้าจงรำลึกถึงข้าเถิด ข้าก็จะรำลึกถึงพวกเจ้า และจงขอบคุณข้าเถิด และจงอย่าเนรคุณต่อข้าเลย

อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 :152

ออฟไลน์ AUZULODEEN

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 625
  • เพศ: ชาย
  • ทุกๆชีวิตต้องได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
 salam

พยายามต่อไป อินชาอัลลอฮ์
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และเราจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

ออฟไลน์ khata

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 209
  • เพศ: หญิง
  • ซอบัร ซอบัรและซอบัร
  • Respect: +5
    • ดูรายละเอียด
 salam

ญาซากัลลอฮฺฮุคอยร๊อนค่ะ..

การที่เราจะรำลึกถึงอัลลอฮฺตลอดเวลา ทุกคนได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺ(ซ.บ.)วิธีการของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกัน แต่ก็เป็นหนึ่งเดียวคือ มีความรักต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง..

ถ้าเป็นวิธีของกระแตคือ ขอดุอาอ์จากอัลลอฮฺ ให้เราดำรงมั่นในความยำเกรงต่อพระองค์ และนอบน้อม ต่อพระองค์ ขอบคุณต่อความโปรดปรานของพระองค์ ขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ ตลอดเวลา..

ที่เรากระทำเช่นนี้อยู่ตลอด เราจะไม่หลงลืมพระองค์เลย..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 24, 2010, 03:15 PM โดย khata »
ฉันไม่มีอะไรพิเศษหรอก หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์ให้ฉันเป็น

ฉันจะขอยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺจนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

เราจะรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ตะอาลาในทุกเวลาอย่างไร?  ก่อนอื่นเราต้องรู้จักคำว่า เวลา เสียก่อน ว่าบ่าวนั้นมีเวลาเท่าไหร่?

บ่าวผู้ศรัทธาจะมีอยู่ 4 เวลา

1. เวลาฏออัตต่ออัลเลาะฮ์

2. เวลาทำการฝ่าฝืน

3. เวลาที่สุขสบาย

4. เวลาที่ได้รับบะลา(การทดสอบ)

เมื่ออยู่ในช่วงเวลาฏออัดต่ออัลเลาะฮ์  ก็จงมีจิตใจปีติยินดีต่อพระองค์อยู่ตลอดในขณะทำอิบาดะฮ์ที่ได้ทรงชี้นำเรามีเรี่ยวแรงในการภักดีต่อพระองค์, แต่เมื่อเราพลาดพลั้งไปกระทำความผิดหรือฝ่าฝืน  ก็ให้เรารีบกลับไปหาอัลเลาะฮ์ด้วยการเตาบะฮ์สารภาพโทษ, เมื่อสุขสบายดีก็จงมีจิตใจปีติเบิกใจด้วยการชุโกร(ขอบคุณ)ต่ออัลเลาะฮ์, เมื่อเราได้รับบะลา  ก็จงอดทนและวอนขอและร้องทุกข์ต่อพระองค์ให้ปลดเปลื้องจากการทดสอบนั้น

ดังนั้นการรำลึกถึงอัลเลาะฮ์  จึงรำลึกได้เลยรูปแบบ  ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ  จิตใจปีติยินดีและรำลึกถึงพระองค์(ในละหมาด เป็นต้น)   หรือรำลึกในรูปแบบการเข้าหาอัลเลาะฮ์ด้วยการเตาบะฮ์  หรือรำลึกพระองร์ด้วยจิตใจเบิกบานเนื่องด้วยการชุโกร หรืออดทนด้วยจิตใจร้องทุกข์และวอนขอต่อพระองค์ให้เราพ้นภัย

ซึ่งเรื่องนี้  ผมเคยคุฏบะฮ์วันศุกร์ที่มัสยิดหน้ารามฯ 53 แต่ไม่รู้ว่ามีการบันทึกไฟล์ไว้หรือเปล่า?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 24, 2010, 02:57 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
แปลกเหมือนกันเนอะ เวลาฝ่าฝืน เราก็นึกถึงอัลลอฮ ทั้งๆที่บางครั้งก็นึกถึงขณะฝ่าฝืน 5555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged