ผู้เขียน หัวข้อ: ตรรกศาสตร์ก็เรียนแล้ว ยังต้องตีความอีกหรือ? ตอน อัลลอฮฺอยู่เหนืออรัช  (อ่าน 11950 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด

 :salam:


ลองฟังกันดูว่าจริงหรือที่แปลอัลกุรอานในส่วนเกี่ยวกับอัลลอฮฺและอรัช แบบวาฮาบียะฺฮฺนั้นบิดอะฮฺ

โดย อ อาลี  เสือสมิง

http://www.alisuasaming.com/index.php/3-perisai/1257-perisai-p-090-091

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 :salam:


อ.อะลี ปฏิเสธการให้ความหมาย สถิต  แต่ อ.อลี ให้ความหมายว่า  สูงเหนือ...ส่วนฮะกีกัตไ่ม่รู้อย่างไร...ซึ่งตรงนี้ถือว่าโอเค น่ะ...

แต่พอเวลา อ.อะลี อ้างหลักฐานและเหตุผลเพื่อยืนยันหลักอะกีดะฮ์ดังกล่าวนั้น  มันทะแม่งๆ ไม่ค่อยสมเหตุัสมผล  เช่น อ้างหลักฐานที่ว่านบีขึ้นไปรับวะฮีคืนอิสรอเมี๊ยะรอจญ์  อ้างว่าธรรมชาติมนุษย์เชื่อว่าอัลเลาะฮ์อยู่เหนือข้างบน  อ้างเรื่องการที่ผู้ละหมาดก้มศีรษะให้มองไปที่สถานที่สุยูด  อ้างเรื่องการขอดุอาไปสู่ฟากฟ้า  และชอบอ้างฝ่ายตรงข้ามว่า ปฏิเสธซีฟัตอุลุ้ (คุณลักษณะสูงส่ง  ทั้งที่ไม่มีใครหรอกที่ปฏิเสธว่าอัลลอฮ์ไม่มีซีฟัตสูงส่ง) แต่เขาปฏิเสธในเรื่องการให้ความหมายแบบสูงมีสถานที่และทิศ...

และไปวิจารณ์หนังสืออะกีดะฮ์อัลฏอฮาวี ที่ใช้คำว่า  محيط بكل شيء وما فوقه  แล้วบอกว่าเหนืออะรัชนั้นไม่มีอะไรแล้ว นอกจากอัลลอฮ์  แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่เป็นเช่นนั้น  เพราะมีฮะดีษนบีระบุว่า บันทึกของอัลลอฮ์อยู่เหนืออะรัช  ซึ่งพระองค์ก็ทรงห้อมล้อมในการรู้อย่างครอบคลุม...

...เราจะสังเกตุได้ว่า อ.อะลี สอนหนังสือเปอรีไซย์  แต่เอาหนังสือชัรห์อะกีดะฮ์อัฏฏอหาวียะฮ์ ฉบับ ของ อิบนุ อะบีล อิซ (ที่วะฮาบีพยายามเผยแพร่กันอยู่) มาเป็นคู่มือในการค้นคว้าเพื่อนำมาสอน  การอธิบายก็เลยต้องเป็นดังเช่นฉะนี้...

...ถ้าเราจะวิจารณ์วิเคราะห์การสอนเรื่องอะกีดะฮ์ของ อ.อะลี ในเรื่องดังกล่าวนี้  มันคงจะไม่เป็นการดี  ทางที่ดีลบกระทู้ไปก็น่าจะดีน่ะ  เดี๋ยวจะไปกระทบกระทั่งกัน...
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

อ อาลี ยังอธิบายถึงการตีความคำว่า  อิสตาวา  เป็น อิสเตาลา  ว่า  คำว่าอิสเตาลา หมายถึงการมีอำนาจซึ่งอำนาจนั้นได้มาจากการแย่งชิงผู้อื่นมา แล้วอัลลอฮฺไปแย่งชิงอำนาจใครมาหรือถึงได้แปลกันอย่างนั้น

ขณะเดียวกัน อ อาลี กล่าวว่าสลัฟซฮลิฮฺมิได้ ให้ความหมายว่าสถิตย์   hehe

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

:salam:

อ อาลี ยังอธิบายถึงการตีความคำว่า  อิสตาวา  เป็น อิสเตาลา  ว่า  คำว่าอิสเตาลา หมายถึงการมีอำนาจซึ่งอำนาจนั้นได้มาจากการแย่งชิงผู้อื่นมา แล้วอัลลอฮฺไปแย่งชิงอำนาจใครมาหรือถึงได้แปลกันอย่างนั้น

ขณะเดียวกัน อ อาลี กล่าวว่าสลัฟซฮลิฮฺมิได้ ให้ความหมายว่าสถิตย์   hehe

คุณ supportsunnah คร้าบ  คำว่า อัลอิสติวา นั้น  อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ไม่ได้กล่าวอธิบายยืนยันไว้ในอัลกุรอานหรืออัลฮะดีษที่ซอเฮีียะห์ว่า มันคือ ความหมาย อุลุ้ว "สูงเหนือ" แม้สักบทเดียว ไม่มีกล่าวยืนยันว่า อัลอิสติวา มีความหมายว่า นั่งสถติประทับ แม้สักบทเดียว  และไม่มีระบุยืนยันว่า มีความหมาย อิสเตาลา อำนาจ ปกครอง สักบทเดียว  แต่อัลลอฮ์ทรงตรัสเฉยๆว่า  "อิสติวา"...

เมื่อเป็นอย่างนี้  เราจะทำอย่างไรดี?...แต่แนวทางที่พวกเรา ณ ที่นี้คือ  "อัลลอฮ์ทรงอิสติวา ที่เหมาะกับความยิ่งใหญ่และเกียรติของพระองค์ โดยมอบหมายการเจาะจงความหมายคำว่าอิสิตวาไปยังอัลลอฮ์(ซ.บ.)" (นี่คือแนวทางสะลัฟส่วนใหญ่ที่พวกเราทีมงานในเว็บนี้ยึดถือ) หรือจะกลับไปยังการ อิจญฺติฮาด(วินิจฉัย)ของบรรดาอุลามาอฺ  ซึ่งอุลามาอฺบางท่านวินิจฉัยอธิบายว่า มันคือ อุลุ้ว  สูงเหนือ  สูงส่ง   บางกลุ่มอธิบายว่า อิสติวาอคือ สถิตนั่งประทับเหนือ  อุลามาอฺบางกลุ่มอิจติฮาดอธิบายบอกว่า อิสติวาอ อำนาจเหนือ...

เมื่อเราพิจารณาถึงการอิจญฺติฮาด(วินิจฉัย)ของอุลามาอฺในการให้ความหมาย อิสติวา  นี้  ที่ใกล้เคียงความถูกต้องที่สุด (ที่ใช้คำว่า ใกล้เคียงความถูกต้องที่สุด  เพราะไม่กล้าฟันธง 100 เปอร์เซ็นว่าความหมายใดคือความหมายตามเป้าหมายที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์)  ความหมายที่ใกล้เคียง  คือ อุลุ้ว สูงส่งเหนือ และความหมาย อิสเตาลา อำนาจเหนือ  นี่คือการให้ความเป็นธรรมของปวงปราชญ์ที่ทำการวินิจฉัยในการอธิบายความหมาย..

ทำไมล่ะ  อัลเลาะฮ์อยู่สูงเหนือ  ตามหลักภาษาอาหรับก็ยืนยันได้เหมือนกับว่า การอยู่สูงเหนือนั้นแบบมีสถานที่อยู่ก็ได้  หรืออัลลอฮ์ทรงนั่งประทับบนบัลลังก์  ตามหลักภาษาก็ยืนยันเช่นกันว่า มีการนั่งสัมผัสกับมัคโลค(คืออะรัช)   แตุ่ถ้าหากคัดค้านว่า  อัลเลาะฮ์อยู่สูงเหนือแบบไม่มีสถานที่  หรืออัลลอฮ์นั่งประทับแบบไม่ได้สัมผัสกับอะรัช

เราก็บอกได้เหมือนกันว่า  อัลลอฮ์ทรงอำนาจโดยไม่ต้องไปแย่งชิงอำนาจใครเพราะไม่มีใครที่มีอำนาจทำให้อัลลอฮ์ต้องมาแย่งชิง...!

แต่เวลาให้ความหมายว่า สถิต อ.อะลี  ให้การปฏิเสธ  แต่ไม่ยอมวิจารณ์สักนิด  ทำไมถึงไม่วิจารณ์  ทั้งที่การให้ความหมายว่า อัลลอฮ์ทรงสถิตเหนือบัลลังก์  มันบิดอะฮ์ร้ายแรงยิ่งกว่า  ความหมาย อัลลอฮ์ทรงอำนาจปกครองเหนือบัลลังก์...!

ดังนั้นเรื่องอะกีดะฮ์  เราก็ไม่อยากพาดพิง อ.อะลี  เพราะเป็นทัุศนะส่วนตัวของอาจารย์ที่ทุ่มเทในการศึกษาอย่างสุดความสามารถเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว...แต่เมื่อคุณ supportsunnah เอาการอธิบายเรื่องอะกีดะฮ์ของ อ.อะลี มาโพสในเว็บนี้ ก็ต้องถูกวิเคราะห์อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น...

ดังนั้น ทีหลังหากเป็นเรื่องอะกีดะฮ์ที่มีการอธิบายที่คิลาฟนั้น  ก็เป็นสิทธิ์ของสมาชิกในเว็บนี้ต้องชี้แจงแถลงใขแบบพาดพิง ...
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
หากจะอ้างว่า เราเรียกและศรัทธาในศิฟาตของอัลลอฮฺ ตามที่พระองค์กล่าวถึงพระองค์ในคัมภีร์ของพระองค์แล้ว โดยเฉพาะศิฟาตมุตะชาบิฮาตนั้น ก็สมควรที่เราจะเรียกตามภาษาที่พระองค์ทรงกล่าวด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งมอบหมายต่อพระองค์ เพราะการแปลศิฟาตมุตะชาบิฮาตเป็นความหมายหนึ่งใดในภาษาอื่นจากอาหรับนั้น นั่นก็เท่ากับเป็นการเจาะจงความหมายนั้นสำหรับศิฟัตมุตะชาบิฮะฮ์นั้นแล้ว ทั้งที่เราไม่ทราบว่า ความหมายใดคือความหมายที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ ระหว่างความหมายแก่นแท้ตามภาษากับความหมายเชิงมจาซ แต่ก็เพื่อปกป้องการเข้าใจผิดของคนเอาวามและคนต่างศาสนิก การให้ความหมายที่เหมาะกับความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งในบางโอกาส ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการนึกเหมือนกับมัฅลูกของเราที่มีต่ออัลลอฮฺ ทั้งที่ความจริงนั้น พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากการคล้ายคลึงจากบรรดาสิ่งถูกสร้างทั้งปวง - วัลลอฮุอะอ์ลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2010, 11:25 AM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
ตรรกะศาสตร์นั้นมีข้อเสียอย่างร้ายแรงที่ไม่ค่อยมีคนสังเกตุ
คือการใช้สมองแค่ซีกเดียว ด้วยความพยายามปิดสมองอีกซีก

hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
ตรรกะศาสตร์นั้นมีข้อเสียอย่างร้ายแรงที่ไม่ค่อยมีคนสังเกตุ
คือการใช้สมองแค่ซีกเดียว ด้วยความพยายามปิดสมองอีกซีก



การใช้ตรรกเพื่อมาสนับหนุนหลักของอัลกุรอานและซุนนะฮ์(เช่นหลักสติปัญญาหรือตรรกที่บอกว่าอัลลอฮ์ไม่คล้ายเหมือนกับมัคโลค)...อันนี้ปราชญ์โลกอิสลามให้การยอมรับ...แต่การใช้ตรรกเพื่อมาค้านอัลกุรอานและซุนนะฮ์ทีุ่ซอฮิห์ถูกต้องเด็ดขาด...ถือเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิอย่างร้ายแรง...คร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2010, 10:48 AM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
ตรรกะศาสตร์นั้นมีข้อเสียอย่างร้ายแรงที่ไม่ค่อยมีคนสังเกตุ
คือการใช้สมองแค่ซีกเดียว ด้วยความพยายามปิดสมองอีกซีก



การใช้ตรรกเพื่อมาสนับหนุนหลักของอัลกุรอานและซุนนะฮ์(เช่นหลักสติปัญญาหรือตรรกที่บอกว่าอัลลอฮ์ไม่คล้ายเหมือนกับมัคโลค)...อันนี้ปราชญ์โลกอิสลามให้การยอมรับ...แต่การใช้ตรรกเพื่อมาค้านอัลกุรอานและซุนนะฮ์ทีุ่ซอฮิห์ถูกต้องเด็ดขาด...ถือเป็นสิ่งที่ถูกตำหนิอย่างร้ายแรง...คร้าบ

นั่นนะสิครับ ก็เผอิญว่าความศรัทธานั้น ดันไปอยู่สมองอีกซีกหนึ่งที่ตรรกะไม่ได้ใช้นะสิครับ  ;D
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
การใช้ "ตรรกะ" หรือ "สติปัญญา" ในเรื่องเตาหี้ด หรืออกีดะฮ์นั้น ตามทัศนะของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอชาอิเราะฮ์แล้ว ถือว่ามันเป็นเพียงเครื่องมือประกอบการคิดใคร่ครวญเพื่อยืนยันการมีอยู่จริงของอัลลอฮฺ ตามที่พระองค์ทรงสั่งใช้เราในกิตาบุลลอฮฺและอัสสุนนะฮ์ เช่นในอายะฮ์ที่ ๗๒ สูเราะฮ์อัลกิศ็อศ (๒๘) ความว่า "จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ หากอัลลอฮ์ทรงทำให้กลางวันมีอยู่ตลอดไปแก่พวกท่านจนถึงวันกิยามะฮ์ พระเจ้าองค์ใดเล่าอื่นจากอัลลอฮ์ ที่จะนำกลางคืนมาให้พวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้พักผ่อนในเวลานั้น พวกท่านไม่พิจารณาไตร่ตรองดูบ้างหรือ" เป็นต้น

        การใช้สติปัญญานั้น ไม่ใช่ใช้เพื่อเป็นหลักฐานหลักในเรื่องอกีดะฮ์เลย เพราะหลักการใช้สติปัญญาของแนวอะชาเราะฮ์นั้นจะต้องสอดคล้องกับกิตาบุลลอฮฺและอัสสุนนะฮ์เท่านั้น กล่าวคือ เป็นการวางตรรกะทางความคิดให้สอดคล้องกับทั้งสองข้างต้น แล้วล็อกเพื่อไม่ให้คิดนอกกรอบจากนั้น พูดง่ายๆ คือ จัดระบบการคิดเสียใหม่นั่นเอง ให้อยู่ภายใต้ทั้งสองข้างต้น ไม่ใช่ให้นำทั้งสองแต่อย่างใดไม่เหมือนที่พวกมุอ์ตะซิละฮ์กระทำกัน - วัลลอฮุอะอ์ลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 13, 2011, 04:36 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
การใช้ "ตรรกะ" หรือ "สติปัญญา" ในเรื่องเตาหี้ด หรืออกีดะฮ์นั้น ตามทัศนะของอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอชาอิเราะฮ์แล้ว ถือว่ามันเป็นเพียงเครื่องมือประกอบการคิดใคร่ครวญเพื่อยืนยันการมีอยู่จริงของอัลลอฮฺ ตามพระองค์ทรงสั่งใช้เราในกิตาบุลลอฮฺและอัสสุนนะฮ์ ไม่ใช่ใช้เพื่อเป็นหลักฐานหลักในเรื่องนี้เลย เพราะหลักการใช้สติปัญญาของแนวอะชาเราะฮ์นั้นจะต้องสอดคล้องกับกิตาบุลลอฮฺและอัสสุนนะฮ์เท่านั้น กล่าวคือ เป็นการวางตรรกะทางความคิดให้สอดคล้องกับทั้งสองข้างต้น แล้วล็อกเพื่อไม่ให้คิดนอกกรอบจากนั้น พูดง่ายๆ คือ จัดระบบการคิดเสียใหม่นั่นเอง ให้อยู่ภายใต้ทั้งสองข้างต้น ไม่ใช่ให้นำทั้งสองแต่อย่างใดไม่เหมือนที่พวกมุอ์ตะซิละฮ์กระทำกัน - วัลลอฮุอะอ์ลัม

ครับผม ^_^ ยอมรับครับ ดีนะครับที่ผู้อาวุโสผู้ทรงเกียรติ ได้ทิ้งวิทยปัญญาอันทรงคุณค่าไว้ให้พวกเราชนรุ่นหลัง
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ใครเคยเรียนศิฟาต ๒๐ มาอย่างจริงๆ จังๆ แล้ว ทุกครั้งก่อนเข้าเนื้อหา ก็จะมีการปูพื้นฐานเรื่องกฎเกณฑ์ (หุกุม) ต่างๆ ตลอด เช่น กฎเกณฑ์ทางศาสนบัญญัติ (หุกุมชะเราะอ์) กฎเกณฑ์ทางสติปัญญา (หุกุมอักล์) กฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ (หุกุมอาดะฮ์) กฎเกณฑ์ที่เพิ่งมาใหม่ (หุกุมอาริฎ) ซึ่งเมื่อเรารู้จักหุกุมเหล่านี้แล้ว เมื่อเรามองสิ่งหนึ่ง เราก็สามารถที่จะตัดสินได้ว่า สถานภาพของสิ่งนั้นจะอยู่ในกฎเกณฑ์ใดจากทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เราตัดสินผิดกฎเกณฑ์จากสถานภาพที่เป็นจริงของสิ่งนั้น

         ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็เช่น เมื่อเรากล่าวว่า "เทน้ำลงบนพื้นโลกนี้แล้ว แต่น้ำกลับลอยขึ้นสู่อากาศ" ปรากฏการณ์เช่นนี้ เมื่อว่าตามหุกุมอักล์แล้ว ก็จะเข้าในหุกุมจาอิซทางอักล์ กล่าวคือ สติปัญญารับได้ เพราะพื้นฐานที่ล็อกปัญญาของเราก็คือ อัลลอฮฺทรงสามารถในทุกสิ่งทุกอย่าง (ตามหุกุมชะเราะอ์) แม้มันจะขัดธรรมชาติก็ตาม และหากว่าตามหุกุมอาดะฮ์แล้ว มันก็เข้าหุกุมมุสตะหี้ลทางอาดะฮ์ กล่าวคือ เป็นสิ่งที่ขัดธรรมชาติ หรือตามปกติวิสัยที่มันควรจะเป็นนั่น เป็นต้น

          และนี่คือลักษณะการใช้สติปัญญาตามแนวทางอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอชาอิเราะฮ์ครัง ซึ่งมันจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการใช้สติปัญญาของพวกบิดอะฮ์มุอ์ตะซิละฮ์ ซึ่งจะนำสติปัญญาก่อนกิตาบุลลอฮฺและอัสสุนนะฮ์เสมอ ฉะนั้น ได้โปรดอย่าตัดสินอะไรที่ผิวเผินของสิ่งหนึ่ง แม้ภายนอกของมันจะเหมือนกับอีกสิ่งที่เป็นสัจธรรมก็ได้ เพราะโดยแก่นแท้แล้ว ทั้งสองย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และผู้ที่รู้จักใช้สติปัญญาเท่านั้นจะมองเห็นมัน - วัลลอฮุอะอ์ลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2010, 12:01 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

ผมว่าคำพูดที่ชัดเจนที่สุดที่ว่า

 " อัลลอฮฺพระผู้ทรงเมาตานั้นทรงอิสติวาเหนืออรัช ซึ่งตามสลัฟฟุศศอลิฮฺเค้าไม่แปลว่า สถิตย์หรอก แต่แปลว่าอุวลู่"  
จากสำนวนดังกล่าวบ่งชี้ว่าใครที่อ้างว่า อิสติวา  แปลว่า สถิตย์ แล้ว

แอบอ้างว่านี้แหละคือความเข้าใจของสลัฟฟุศศอลิฮฺ การอ้างอย่างนี้โกหกทั้งเพ โดยเฉพาะหนังแปลอัลกุรอานที่พิมพ์แจกจ่ายจากสาอุดิอาราบีย์  หรือใครจะเถียง  boulay:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2010, 12:35 PM โดย supportsunnah »

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
ซีฟัต 20 ประการนั้น ทำให้ผมเข้าใจอัลลอฮ์อย่างง่ายๆและตรงไปตรงมา แม้ว่าตอนเด็กๆจะท่องจำเอาก้ตาม
แต่ด้วยการท่องเหล่านั้นก็สามารถทำให้ผมแยกแยะพระเจ้าออกจากเทพทั่วไป
ทำให้ผมรู้จักสิ่งถูกสร้างกับสิ่งดั้งเดิม ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆอย่างที่เข้าใจยากๆได้เมื่อผมเริ่มโตขึ้น
อัลฮัมดุลิลละฮ์ ^___^
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
คนที่เรียนศิฟาต ๒๐ ที่เข้าใจจริงๆ นั้น ยิ่งเรียนยิ่งเข้าใจ ก็ยิ่งนึกภาพไม่ออกว่าอัลลอฮฺเป็นอย่างไร มีทางเดียวก็คือ มอบหมาย แต่หากใครเรียนแล้ว ยังนึกภาพออกว่าอัลลอฮฺเป็นอย่างไร เหมือนอะไร แสดงว่าเขาไม่ได้เข้าใจจริงๆ ดีไม่ดี อาจจะถูกชัยฏอนหลอกลวงเอาได้, นอูฑุบิลลาฮิมินฑาลิก - วัสสลามุอลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 13, 2011, 04:39 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

ลองฟังสิ่งที่บังอาิริฟีนสอนเกี่ยวกับพระนาม อัรเราะห์มาน  ซึ่งมีการยกอายะฮ์ที่ว่า อัรเราะห์มาน อะลัล อัรชิสตะวา ด้วย  ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนต่อความเข้าใจอายะฮ์ดังกล่าวนี้  ลองฟังจากนาทีที่ 2:38 ถึงนาทีที่ 4:9...

<a href="http://www.4shared.com/embed/457956349/d13c836b" target="_blank" class="new_win">http://www.4shared.com/embed/457956349/d13c836b</a>  

"ซึ่งอัลลอฮ์ตะอาลาทรงตรัสไว้ว่า  "อัรเราะห์มาน อะลัลอัรชิสตะวา"  "พระเจ้านามว่าอัรเราะห์มาน  ผู้เมตตา  ทรงอิสติวาเหนือบัลลังก์  อิสติวาคือสูงส่งเหนือบัลลังก์เหนืออะรัช"  คืออะรัชเป็นมัคโลคที่ใหญ่ที่สุด  พระองค์ทรงบอกว่าอัลลอฮ์ทรงมีพระนามว่าอัรเราะห์มานทรงสูงส่งเหนือบัลลังก์  ทำไมต้องใช้คำว่าอัรเราะห์มาน  ทำไมไม่บอกว่า "อัลลอฮุ อะลัล อัรชิสตะวา" แทนคำว่าอัรเราะห์มาน  อายะฮ์นี้ต้องการจะบอกว่า ความเมตตาของอัลลอฮ์ตะอาลา ได้แผ่คลุมบัลลังก์ทั้งหมด  เมื่อแผ่คลุมบัลลังก์แล้ว ก็หมายความว่าแผ่คลุมทุกสิ่งที่อยู่ภายใต้บัลลังก์ทั้งหมดด้วย  ทั้งจักรวาลและโลกดุนยา  ดังที่ท่านอิบนุกะษีร ร่อหิมะฮุลลอฮุตะอาลา  กล่าวว่า  การกล่าวระบุอิสติวาอฺ  การที่พระองค์ทรงมีความสูงส่ง มีอำนาจเหนือลังก์ ในนามของอัรเราะห์มาน เพื่อที่จะแผ่คลุมความเมตตาของพระองค์แก่บรรดามัคโลคทั้งหมด..."
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

 

GoogleTagged