คำตอบสำหรับสิ่งที่ถามมาก็ปรากฏอยู่ในหัวข้อคำถามนั่นแหล่ะครับ คือ พระองค์อัลลอฮฺทรงสูงส่งเหนือทุกสรรพสิ่ง พระองค์ทรงอยู่เหนืออะรัชซึ่งเป็นสิ่งถูกสร้างที่สูงที่สุด ในขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงบริสุทธิ์จากทิศทั้งปวงตลอดจนสถานที่ซึ่งไม่อาจห้อมล้อมพระองค์ได้ เพราะพระองค์ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตจำกัดนั้นเอง!'
อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ผมอยากบอกกับพี่น้องว่า ตามทัศนะของกระผม (อัลอัซฮะรีย์)นั้น ถือว่าเป็นบทสรุปหลักอะกีดะฮ์ที่ อ.อะลี ได้ตอบอย่างกระจ่าง และยืนยันความเชื่อในหัวใจถึงความบริสุทธิ์ในคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ตะอาลา
แต่ผมขอวิเคราะห์บางอย่างในเชิงวิชาการเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจตรงกันดังนี้
คือผมไม่คิดว่าอะรัชเป็นมัคโลคที่สูงสุด เพื่อยืนยันว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่สูงที่สุด เพราะก่อนมีบัลลังก์นั้นพระองค์ก็สูงส่งอยู่แล้ว เพราะมิใช่หมายถึงอัลเลาะฮ์พึ่งมีซีฟัตอยู่เหนือบัลลังก์ในช่วงเวลาที่สร้างบัลลังก์เสร็จ แต่สำหรับผมอยากใช้คำว่าอะรัชเป็นสิ่งถูกสร้างที่ใหญ่ที่สุด เพราะมัคโลคที่อยู่เหนือหรืออยู่บนอะรัชนั้น ยังมี "บันทึกของอัลเลาะฮ์ตะอาลา" อีกอย่างหนึ่ง ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวยืนยันไว้
ท่านอะบูฮุร็อยเราะห์ ได้กล่าวรายงานว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمَّا قَضَى اللَّهُ الْخَلْقَ كَتَبَ فِي كِتَابِهِ
فَهُوَ عِنْدَهُ فَوْقَ الْعَرْشِ إِنَّ رَحْمَتِي غَلَبَتْ غَضَبِي
“แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ในขณะที่อัลเลาะฮ์ทรงสร้างมัคโลคทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็ทรง(ใช้ให้ปากกา)บันทึกใน
บันทึกของพระองค์ที่อยู่บนบัลลังก์ว่า แท้จริงความเมตตาของข้าได้พิชิตความพิโรธของข้า” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม
ดังนั้นการกล่าวว่าเหนืออะรัชนั้น ไม่มีอะไรแล้ว ต้องพิจารณาก่อน เพราะเมื่อได้อ่านฮะดีษนี้ ก็ปรากฏว่ายังมีบันทึกของอัลเลาะฮ์อยู่เหนือบัลลังก์ซึ่งไม่จำเป็นต้องฝืนตีความแต่ประการใด
ในหนังสือ ชัรห์ อัลอะกีดะฮ์ อัฏเฏาะหาวียะฮ์ ของปราชญ์มัซฮับหะนะฟีย์(ซึ่งมัซฮับเดียวกับอิหม่ามอัฏเฏาะหาวีย์) นาม อัลลามะฮ์ อับดุลฆ่อนีย์ อัลฆ่อนีมีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวตัวบทของ มะตั่นอัฏเฏาะหาวีย์ ของท่านอิหม่ามอัฏเฏาะหะวีย์ความว่า
وَهُوَ عَزَّ وَجَلَّ مُسْتَغْنٍ عَنِ الْعَرْشِ وَمَا دُوْنَهُ، مُحِيْطٌ بِكُلِّ شَيْءٍ
وَبِمَا فَوْقَهُ وَقَدْ أَعْجَزَ عَنِ الإِحَاطَةِ خَلْقَهُ
"และพระองค์ ผู้ทรงเกรียงไกรและยิ่งใหญ่ ไม่ต้องการบัลลังก์และสิ่งที่อยู่ใต้บัลลังก์ (ความรู้ของพระองค์)ทรงห้อมล้อมทุกๆ สิ่ง
และ(ความรู้ของพระองค์ทรงห้อมล้อม)สิ่งที่อยู่เหนือบัลลังก์ และแท้จริงพระองค์ทรงทำให้อ่อนแอกับมัคโลคของพระองค์จากการ(รู้)อย่างครอบคลุม(เกี่ยวกับแก่นแท้ของพระองค์ ดังนั้นพระองค์ทรงบริสุทธิ์ที่จะพรรณาถึงอย่างแท้จริงได้)" ชัรห์ อัลอะกีดะฮ์ อัฏเฏาะหาวียะฮ์ หน้า 116.
ถ้อยคำที่ว่า
مُحِيْطٌ بِكُلِّ شَيْءٍ وَبِمَا فَوْقَهُ
"(ความรู้ของพระองค์)ทรงห้อมล้อมทุกๆ สิ่งและ(ความรู้ของพระองค์ทรงห้อมล้อม)สิ่งที่อยู่เหนือบัลลังก์"
แต่ในหนังสือชัรห์อัลอะกีดะฮ์อัฏเฏาะหาวียะฮ์ของอะบีลอิซฺ ฉบับที่วะฮาบีย์ปัจจุบันยึดถือและอ้างว่าเป็นอะกีดะฮ์สะลัฟ(แต่มีปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ท่านอื่นๆ บอกว่าไม่ใช่ยืนยันอะกีดะฮ์สะลัฟ) ได้ทำการวิจารณ์และไม่เอาถ้อยคำที่ว่า "(ความรู้ของพระองค์ทรงห้อมล้อม)สิ่งที่อยู่เหนือบัลลังก์" และบอกเป็นนัยที่ว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนืออะรัชอีกแล้ว แต่ตามนัยยะของฮะดีษซอฮิห์นั้น ได้ยืนยันว่า ยังมีบันทึกของอัลเลาะฮ์อยู่บนหรืออยู่เหนือบัลลังก์ด้วย ยิ่งกว่านั้น ซีฟัตพลัง เดชานุภาพ อำนาจปกครองของพระองค์ก็ยังอยู่เหนือบัลลังก์เช่นเดียวกัน ซึ่งฟัตอุลมุ(การรอบรู้)ของพระองค์ ก็ยังเกี่ยวข้องหยั่งรู้ถึงอำนาจหรือเดชานุภาพ (อัลกุดเราะฮ์)ของพระองค์อีกด้วย พูดสำนวนง่ายๆ คือ อัลเลาะฮ์ทรงรู้ว่าพระองค์ทรงมีกุดเราะฮ์ที่อยู่เหนือบัลลังก์
เมื่อมีฮะดีษที่ซอฮิห์ยืนยันว่า บันทึกของอัลเลาะฮ์อยู่เหนือบัลลังก์ แต่ก็ยังมีการพูดกันว่าอัลเลาะฮ์อยู่เหนือบัลลังก์ แล้วการอยู่ "เหนือ" ของบันทึกจะแตกต่างกับคุณลักษณะการอยู่ "เหนือ" ของอัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างไร? แต่เป็นที่ทราบดีของผู้มีสติปัญญาว่า การอยู่ "เหนือ" ของ "บันทึก" นั้น เป็นการอยู่เหนือแบบรูปธรรม(อยู่เหนือทิศบนของอะรัช) ( اَلْفَوْقُ الْحِسِّيُّ ) เหมือนการอยู่เหนือของนกที่บนเหนือศีรษะของเรา ไม่ใช่อยู่เหนือแบบนามธรรม อยู่เหนือแบบสูงส่ง ( اَلْفَوْقُ الْمَعْنَوِيُّ ) ดังนั้นถ้าหากบอกว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่เหนือบัลลังค์แบบรูปธรรม แต่พระองค์ทรงอยู่ไกลโพ้นขึ้นไปอีกจนหลุดพ้นจากวงจรของมัคโลคจักรวาลทั้งหลาย ซึ่งผมไม่เห็นความแตกต่างและคล้ายคลึงระหว่าง การอยู่เหนือบัลลังก์ของบันทึก กับการอยู่เหนือบัลลังก์ของอัลเลาะฮ์ นอกจากแตกต่างเรื่องความห่างไกลเท่านั้น ซึ่งการพรรณาแบบนี้ ไม่พ้นจากการ "ตัชบีฮ์" (พรรณาคุณลักษณะของมัคโลคไปคล้ายคลึงกับอัลเลาะฮ์) ซึ่งเป็นหลักอะกีดะฮ์ที่บิดอะฮ์
ท่านอิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์ อุลามาอฺสะลัฟ กล่าวว่า
وَقَدْ بَيَّنَّا أَنَّ كُلَّ شَيْءٍ عالٍ
بِالْقَهْرِ وَغَلَبَةٍ عَلَى شَيْءٍ، فَإِنَّ الْعَرَبَ تَقُوْلُ:
هُوَ فَوْقَهُ"เราได้อธิบายมาแล้วว่า แท้จริงทุกๆ ที่สูง
ด้วยอำนาจและพิชิตเหนือทุกๆ สิ่งนั้น คนอาหรับ(ทั่วไปในยุคสะลัฟ)จะพูดว่า
สิ่งนั้น(หรือผู้นั้น)อยู่เหนือสิ่งนั้น(คือเหนือด้วยอำนาจและการพิชิต)" ตัฟซีรอัฏเฏาะบะรีย์ หรือ ญามิอุลบะยาน ฟี ตะวีลิลกุรอาน 13/42
นี้คือหลักทั่วไปในการใช้คำว่า فَوْقَ ของท่านอิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์ คืออยู่เหนือแบบนามธรรมด้วยการมีอำนาจและพิชิตไม่ใช่รูปธรรมที่อยู่มีสถานที่อยู่สูงกว่าสิ่งหนึ่ง
ท่านอัฏเฏาะบะรีย์กล่าวเช่นกันว่า
فَإِنْ زَعَمَ أَنَّ ذَلِكَ لَيْسَ بِإِقْبَالِ فِعْل وَلَكِنَّهُ إقْبَال تَدْبِير , قِيلَ لَهُ : فَكَذَلِكَ فَقُلْ :
عَلَا عَلَيْهَا عُلُوّ مُلْك وَسُلْطَان لَا عُلُوّ انْتِقَال وَزَوَال
"ดังนั้น ก็จะถูกกล่าวแก่เขาว่า ท่านอ้างว่า การตีความคำว่า "اِسْتَوَى" นั้น คือ การมุ่งหน้า . ฉะนั้น หรือว่าพระองค์ทรงผินหลังให้กับฟากฟ้า จากนั้นพระองค์ก็มุ่งไปยังฟากฟ้า?? แต่หากเขาอ้างว่า ดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การมุ่งหน้าแบบกระทำ(มุ่งหน้า) แต่เป็นการมุ่งบริหาร. (ท่านอัฏเฏาะบะรีย์จึงกล่าวตอบโต้ว่า) ก็ให้กล่าวแก่เขาว่า ดังนั้น แบบนั้นแหละ(คือการให้ความหมายว่าเป็นการมุ่งกระทำเชิงบริหาร) ท่านก็จงกล่าวว่า "
พระองค์ทรงสูงส่งเหนือฟากฟ้า แบบการสูงส่งของการปกครองและอำนาจ (ไม่ใช่อยู่สูงแบบมีสถานที่) ไม่ใช่สูงแบบเคลื่อนย้ายและก็หายไป" ดู ตัฟซีร เฏาะบะรีย์ เล่ม 1/430
ดังนั้นการอยู่สูงของอัลเลาะฮ์ คือสูงแบบอำนาจปกครองตามทัศนะของสะลัฟอย่างท่านอัฏเฏาะบะรีย์ และการอยู่สูงด้วยอำนาจและพิชิตเหนือทุกๆ สิ่งนั้น คนอาหรับทั่วไปในยุคสะลัฟ(ตามการยืนยันของท่านอิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์) จะใช้คำว่า فوق "เหนือ" ดังนั้นอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรง(อิสติวาอฺ)สูงส่ง ซึ่งไม่ใช่สูงแบบมีสถานที่เหนือบัลลังก์(แบบรูปธรรม) แต่สูงส่งด้วยอำนาจการปกครองเหนือบัลลังค์ตามที่ปราชญ์สะลัฟอย่างท่านอัฏเฏาะบะรีย์ได้ยืนยันไว้
ดังนั้นเมื่อเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ไม่เกี่ยวข้องกับมัคโลค ไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา และไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่ ไม่มีรูปแบบวิธีการ ไม่มีการเหมือน และคล้ายคลึง ดังกล่าวนั่นแหละบ่งชี้ว่า "อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่ง" พระองค์ทรงมีอยู่และสูงส่งเกินกว่าที่สติปัญญาของเราจะไปสัมผัสรับรู้ฮะกีกัตได้
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
اللَّهُمَّ أَنْتَ الْأَوَّلُ فَلَيْسَ قَبْلَكَ شَيْءٌ وَأَنْتَ الْآخِرُ فَلَيْسَ بَعْدَكَ شَيْءٌ وَأَنْتَ الظَّاهِرُ فَلَيْسَ فَوْقَكَ شَيْءٌ وَأَنْتَ الْبَاطِنُ فَلَيْسَ دُونَكَ شَيْءٌ
“โอ้อัลเลาะฮ์ พระองค์ทรงแรกสุด ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดอยู่ก่อนพระองค์, และพระองค์ทรงสุดท้าย ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดหลังจากพระองค์, และพระองค์ทรงปรากฏ ดังนั้นไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์, และพระองค์ทรงเร้นลับ ดังนั้นไม่มีสิ่งใดอยู่ใต้พระองค์” รายงานโดยมุสลิม
ท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า
وَاسْتَدَلَّ بَعْضُ أَصْحِابِنَا فِيْ نَفْيِ الْمَكَانِ عَنْهُ بِقَوْلِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ (أَنْتَ الظَّاهِرُ فَلَيْسَ فَوْقَكَ شَيْءٌ وَأَنْتَ الْبَاطِنُ فَلَيْسَ دُوْنَكَ شَيْءٌ) وَإِذَا لَمْ يَكُنْ فَوْقَهُ شَيْءٌ وَلاَ دُوْنَهُ شَيْءٌ لَمْ يَكُنْ فِيْ مَكَانٍ
“ปราชญ์ (อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์)บางส่วนแห่งเรา ได้อ้างอิงหลักฐานในการปฏิเสธการมีสถานที่ให้กับอัลเลาะฮ์ ด้วยคำพูดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า “โอ้อัลเลาะฮ์ พระองค์ทรงปรากฏ ดังนั้นไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์, และพระองค์ทรงเร้นลับ ดังนั้นไม่มีสิ่งใดอยู่ใต้พระองค์” เมื่อไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์ และไม่มีสิ่งใดอยู่ใต้พระองค์ แน่นอนว่าพระองค์ไม่มีสถานที่” อัลอัสมาอฺ วัสซิฟาต หน้า 400
วัลลอฮุอะลัม