จากลูกแม่ค้าขายปลาเค็มพ่อขี่สามล้อถีบ ครอบครัวหาเช้ากินค่ำ แทบทุกวันในวัยเด็กต้องออกเดินไปตามถนนเพื่อเสาะแสวงหากองขยะคุ้ยเขี่ยสิ่งของที่คนนำมาทิ้ง แล้วนำมาประดิษฐ์เป็นของเล่นของตัวเอง ปัจจุบันเด็กชายคนนี้ในวัย 35 ปี
ทำงานอยู่ในสถานทูตไทยกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นคอลัมนิสต์ "เปิดโลกการศึกษามุสลิม" ในหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" และมีผลงานเขียนเป็นของตนเอง ชื่อ "นับหนึ่ง...จนถึงวันนี้ ชีวิตของผู้ชายดีๆ ดลหมาน ผ่องมะหึง"
ดลหมานเล่าอดีตว่าเขาเติบโตที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาศัยอยู่กับยายและพี่สาวที่หมู่บ้านม่วงทวน ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เพื่อเรียนหนังสือและทุกวันต้องอ่านหนังสือกุรอานหรือเรียนภาษาอาหรับและภาษามลายูก่อนจะไปโรงเรียนทุกเช้า ระหว่างนั้นทุกปิดเทอมเขามีโอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อแม่และพี่ๆ
สิ่งที่เขาเห็นทุกครั้งเมื่อกลับไปบ้านคือความเหน็ดเหนื่อยของพ่อแม่และพี่สาวที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง ทุกคนเลือดตาแทบกระเด็น ความคิดเกิดขึ้นในใจเขา หากยังอยู่แบบนี้ สักวันเขาก็คงต้องขี่รถสามล้อเหมือนพ่อและคงต้องลำบากอยู่อย่างนี้ตลอดไป
จนจบชั้นป.6 แม่ต้องการให้เขาเรียนศาสนาในหมู่บ้านเดียวกัน ด้วยเหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีเงินจะส่งเสียให้เรียนต่ออยากให้ลูกอยู่ในกรอบของศาสนา ก่อนตายขอแค่ได้ฟังยาซีน (หัวใจของอัลกุรอาน) เท่านี้ก็พอไม่ต้องการให้ลูกมีตำแหน่งหรืออะไรทั้งสิ้น ขณะนั้นเขาคิดเพียงว่าความฝันและความหวังทุกอย่างของเขาต้องพังหมดสิ้นแล้วเมื่อเข้าสู่ปอเนาะถึง4 ปี
"ตอนนั้นผมอายุ 13 ปี นั่งร้องไห้ เมื่อแอบดูทางช่องหน้าต่างทุกเช้า เห็นรถคันสีแดงบรรทุกเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันผ่านหน้าบ้านมุ่งสู่โรงเรียนมัธยม ทุกคนดูยิ้มแย้มสดใสด้วยชุดนักเรียนซึ่งเป็นความฝันของผม แต่ผมไม่ได้ใส่อีกแล้ว เพราะชุดที่ผมใส่คือผ้าโสร่งและหมวกสีขาวที่เป็นชุดเด็กปอเนาะ เพราะผมกลัวจะไม่มีงานทำดังที่ฝันไว้" ดลหมานย้อนวันวาน
แม้จะต้องเรียนปอเนาะเพราะแม่แต่ไม่เคยเลยที่จะลืมสิ่งที่ฝังอยู่ในเส้นเลือดของเขานั่นคือ เรียนจบต้องมีหน้าที่การงานทำ ผ่านไป 4 ปี ดลหมานไปเรียนต่อโรงเรียนธรรมศาสนิสลาม หรือปอเนาะยาลอ จ.ยะลา ทั้งภาษาอาหรับ ภาษารูมี ภาษายาวี และภาษาอังกฤษ ในปีสุดท้ายของการเรียนระดับซานาวียะห์ (ระดับมัธยมปลายศาสนาชั้น 10) เขาสูญเสียแม่ด้วยโรคร้ายซึ่ง วันกลับจากเฝ้าหลุมศพแม่เจ็ดวันที่สุสานเขากลับเข้าบ้านเห็นขวดยาบรรเทาโรค สามขวดร้อยอยู่เต็มตู้ น้ำตาไหลอย่างบอกไม่ถูก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแม่กินยาแค่เพียงบรรเทาโรคเพื่อเก็บเงินไว้ให้ผมเรียนหนังสือ
เรียนที่ จ.ยะลา7 ปี จนจบชั้นสูงสุดของศาสนา ในปี 2539 อาจารย์ใหญ่เสนอให้เรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์ ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่าเทอมในการเล่าเรียนและไม่มีการจ่ายค่าหน่วยกิต พี่เขยจัดงานเลี้ยงหารายได้เพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน พี่น้องในหมู่บ้านต่างมาช่วยสมทบทุนกันทั่วหมู่บ้าน จนเขาได้ไปเรียนที่อียิปต์จนถึงปัจจุบัน ระหว่างเรียนที่ผ่านมาเขาได้รับเลือกเป็นทัศนศึกษาและวัฒนธรรม ตามด้วยตำแหน่งนายกสมาคมนักเรียนไทยไคโร 3 สมัยซ้อน
วันนี้ ดลหมาน ลูกกรรมกรรับจ้างขี่สามล้อกับแม่ค้าปลาเค็มที่ใครๆ ต่างดูถูกมาตลอด เพียงเพราะความจนที่ติดตัวมา เขาภูมิใจที่คนจนอย่างเขาได้ช่วยเหลือสังคมช่วยเหลือประเทศชาติ และได้ทำในสิ่งที่เขาหวัง และใช้ประโยชน์ในสิ่งที่เคยหวัง นั่นคือภาษาและความรู้ในด้านศาสนาที่ไม่เคยทำให้เขาลืมตัวลืมอัลลอฮ์ และการทำงานราชการ เสมียนฝ่ายนิติกร ที่สถานทูตไทยไคโรทั้งหมดนี้ เขาบอกว่าสอนให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนมีสิทธิเลือกทางเดินให้ชีวิตได้เหมือนกันทุกคน
ข้อมูล komchadluek.net