ผู้เขียน หัวข้อ: บิดามารดาสมควรสั่งเสียเจ้าสาวที่เป็นบุตรของตนก่อนส่งตัวว่า...??  (อ่าน 5232 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ได้อ่านหนังสือกุรร่อตุลอุยูนหน้า 52  ปรากฏว่ามีข้อความสั้น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการส่งเสริมให้ผู้เป็นบิดามารดาทำการสั่งเสียและสั่งสอนบุตรสาวผู้เป็นเจ้าสาวก่อนที่จะส่งตัว  คือให้บิดามารดาสอนให้มีการดำรงชีวิตร่วมกันด้วยความดีงามต่อผู้เป็นสามีของนาง  เช่นกล่าวแก่นางว่า

"เธอจงเป็นผืนดินให้กับเขา  แล้วเขาก็จะเป็นท้องฟ้าให้กับเธอ , เธอจงเป็นเตียงให้กับเขา  แล้วเขาก็จะเป็นเสาหลักให้กับเธอ , เธอจงเป็นทาสให้กับเขา  แล้วเขาก็จะเป็นทาสให้กับเธอ , และเธอจงเป็นภรรยาผู้ภักดีให้กับเขา  แล้วเขาก็จะเป็นผู้ภักดีให้กับเธอ  เป็นต้น" 

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ชายที่ดี ย่อมคู่ควรกับ หญิงที่ดี

^^

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ชายที่ดี ย่อมคู่ควรกับ หญิงที่ดี

^^

ดุอา ๆ  ครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

บ้านที่ขั้นกลางระหว่างดาวอังคารกับดาวศุกร์




?ในปฐมยุค...




      สิ่งมีชีวิตจำพวกหนึ่ง อาศัยอยู่บนดาวที่สร้างโดยพระผู้เป็นเจ้า สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นคืออะไร ในคัมภีร์เล่มสุดท้ายไม่ได้บอกเอาไว้ รู้แต่เพียงสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก่อความเสียหายบนหน้าแผ่นดินจนพระผู้เป็นเจ้าของสรรพสิ่งไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอาศัยอยู่บนโลกอีก ด้วยความสัตย์จริง! ผมไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ถึงผมจะแอบสงสัยว่ามันอาจเป็นพวกไดโนเสาร์ก็ตาม แต่ในเมื่อในคัมภีร์เล่มสุดท้ายที่บริสุทธิ์จากการบิดเบือนไม่ได้ระบุข้อมูล ผมก็จะไม่สรุป ในยุคต่อมามนุษย์คู่แรกถูกส่งลงมาบนโลก เพื่อเป็นการลงโทษในความผิดที่เขาทั้งสองได้กระทำ ?อาดัม... กับฮาวาอฺ? ทั้งสองอยู่บนโลกในฐานะผู้ที่สำนึกในความผิด ทั้งคู่ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์มาพร้อมกับ ?ชัยฏอน? ศัตรูผู้ยุยงให้ทั้งสองฝ่าฝืน ผมจะเล่าถึงวิธีที่ชัยฏอน(ซาตาน)หลอกล่อนบีอาดัมและฮาวาอฺให้ทุกท่านฟัง

      ในสวรรค์พระเจ้าทรงเมตตาต่ออาดัมเป็นพิเศษจนอิบลีสบ่าวผู้ภักดีรู้สึกอิจฉา อิบลีสถือตนว่าถูกสร้างมาจากไฟแต่อาดัมนั้นถูกสร้างมาจากดินต่ำต้อย ก็เลยคิดว่าตนเองควรจะประเสริฐกว่าอาดัม จึงออกอุบายให้อาดัมและฮาวาอฺฝ่าฝืนพระเจ้า โดยการเข้าใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวรรค์ ซึ่งต้นไม้นั้นไม่เป็นที่อนุญาตให้ทั้งสองเข้าใกล้มัน แต่เมื่อฮาวาอฺต้องการเข้าไปใกล้มันและอาดัมก็ทำตามประสงค์ของนาง พระเจ้าก็ได้ลงโทษผู้ฝ่าฝืนทั้งสองทันทีด้วยการทำให้ทั้งสองเปลือยกาย อาดัมและฮาวาเห็นเช่นนั้นจึงตกใจ และเกิดความละอาย ทั้งสองรีบขออภัยโทษต่อพระองค์ด้วยความยำเกรง จากนั้นเอง ทั้งอาดัมและภรรยาผู้หลงผิด ตลอดจนลูกหลานของทั้งสองจึงต้องลงมาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ และอิบลีสผู้ล่อลวง ผู้ฉ้อฉลถูกตัดสินโทษให้อยู่ในนรกตลอดกาล

      แต่ด้วยการวิงวอนของอิบลีส จะขอล่อลวงลูกหลานของอาดัมศัตรูของมัน ให้หลงจนต้องเข้าไปอยู่ในนรกด้วยกัน พระเจ้าจึงทรงอนุญาตประวิงเวลาให้อิบลีสอยู่ล่อลวงลูกหลานอาดัมจนถึงวันสิ้นโลกเพื่อเป็นบททดสอบของมนุษย์ และหลังจากนั้นผู้ใดในบรรดามนุษย์ที่เชื่อฟังคำยุยงของอิบลีสก็ต้องลงไปพำนักอยู่ในนรกกับมัน และหากผู้ในรอดจากการล่อลวงของอิบลีสผู้นั้นก็จะได้รับสวรรค์เป็นการตอบแทนในฐานะผู้ผ่านการทดสอบจากพระเจ้า




บรรพชนบนผืนโลก


      บนโลก... หลังจากอาดัมเสียชีวิตไปหลายปี ลูกหลานของเขาที่เคยยึดมั่นในคำสอนของเขาในเรื่องพระเจ้า, เรื่องสวรรค์, เรื่องนรก กลับหลงลืมสัจธรรมเหล่านั้น ท่านนบีอาดัมผู้เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ชาติเคยสอนให้สักการะในพระเจ้าองค์เดียวไม่ตั้งภาคส่วนภาคีใดๆ เสมอพระองค์ แต่ขณะนี้คำสอนของอาดัมกำลังสั่นครอน ลูกหลานของเขาเริ่มปั้นรูปปั้นเพื่อลำลึกถึงบรรพบุรุษบางคนที่เสียชีวิตไป ระยะแรกก็เป็นไปเพื่อลำลึกถึงความดีงานของบรรพบุรุษ และต่อๆ มาความเชื่อต่อรูปปั้นเหล่านั้นจึงเลยเถิด จนกลายมาเป็นสิ่งที่ถูกสักการะบูชา และแน่นอนนี่เป็นแผนการหนึ่งของชัยฏอนวงศ์วานของอิบลีส

      นานปีสัจธรรมก็ยิ่งถูกลืม จนสังคมทั้งหมดยึดติดในการบูชารูปปั้นจนยากที่จะแก้ไข สังคมฟอนเฟะทั้งสุรา ยาเมา อบายมุขต่างๆ ระบาดทั่วทุกหัวระแหง และนั่นเองพระเจ้าจึงมีบัญชาให้ชายผู้ทรงธรรมหลายท่านในหลายยุคนำสาร นำการตักเตือนจากพระเจ้า ทยอยมาสู่มนุษย์ลูกหลานอาดัม หนึ่งในนั้นมีชื่อว่า ?นูวฮฺ? หรือ ?โนอา?




บุรุษแห่งเรือ


      ?นูวฮฺ?เผยแพร่ตักเตือนผู้คนในยุคของเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เป็นเวลาถึง 950 ปี ด้วยความดื้อดึงของมนุษย์ ทำให้ไม่ยอมถอนตัวออกจากความชั่วร้าย หลังจากเวลาแห่งการตักเตือนผ่านไป พระเจ้าก็ได้บัญชาแก่ท่านนบีนัวฮฺให้สร้างเรือขนาดใหญ่ ขึ้นบนภูเขาสูง และใช้ให้เรียกร้องผู้คนที่ศรัทธาในพระเจ้าขึ้นบนนั้น พระองค์จะให้ฝนตกจนเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เพื่อที่จะแยกผู้ศรัทธาที่เชื่อฟัง ออกจากผู้ปฏิเสธที่ดื้อดึง ในภาวะเช่นนั้นท่านนบีนูฮฺไม่สามารถช่วยใครได้เลย นอกจากผู้ที่เลือกที่จะช่วยเหลือตัวเองด้วยความศรัทธา ภรรยาและลูกบางคนของนูฮฺก็เลือกที่จะปฏิเสธที่จะขึ้นเรือและจมน้ำตายในที่สุด บุตรของนูฮฺที่เหลือรอดจนสืบเชื้อสายต่อมาก็คือยาฟุส, ฮาม, และซาม




บิดาแห่งศาสดาประกาศก


      หลายร้อยหลายพันปีต่อมาหลังจากน้ำท่วมโลกมนุษย์ก็กลับคืนสู่ยุคเถื่อนอีกครั้ง สังคมที่เคยตกต่ำในสมัยของนูฮฺก็หวนกลับสู่สภาพนั้นอีก ครั้งนี้หน้าที่เรียกร้องผู้คนสู่สัจธรรมเป็นของทายาทของซามบุตรชายคนหนึ่งของนูฮฺที่รอดมากับเรือ

      ?อิบรอฮีม(อับราฮัม)?บุตรชายของผู้ปั้นรูปเจว็ด เขาใช้วิทยปัญญาชี้แจง,โต้เถียง, เชิญชวนให้ผู้คนเลิกตั้งภาคี ตั้งแต่อิบรอฮีมยังอยู่ในวัยเด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กลายเป็นผู้อาวุโสในที่สุด การทำงานเรียกร้องอย่างหนักเป็นเวลานานของอิบรอฮีมประสบความสำเร็จอย่างสูงในบั้นปลายของชีวิต ท่านนบีอิบรอฮีมมีผู้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านอย่างมากมายและอิบรอฮีมผู้นี้เองเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า ?บิดาแห่งศาสดาประกาศก? อิบรอฮีมเป็นผู้สร้างอาคารกะบะฮฺในนครมักกะฮฺร่วมกับ ?อิสมาอีล? บุตรชายคนหนึ่งซึ่งจะเป็นต้นตระกูลของชาวอาหรับทั้งปวงในเวลาต่อมา

      และอิสฮาก(ไอแซ็ก) บุตรอีกคนของอิบรอฮีม ก็เป็นบรรพบุรุษของยิว ทั้งประชาชาติยิวและประชาติอาหรับล้วนเป็นลูกหลานของอิบรอฮีมทั้งสิ้น




วันเวลาของลูกหลานอิสราเอล


      นบีอิสฮากมีบุตรคนหนึ่งชื่อยะอฺกูบ(จาคอบ) และนบียะอฺกูบคนนี้เองเป็นนักรบที่กล้าหาญจนได้รับฉายาว่า ?อิสรออีล?(อิสราเอล) ซึ่งแปลว่าทหารของพระเจ้าในภาษาฮิบรู ยะอฺกูบมีบุตรสิบสี่คนซึ่งแตกเป็นยิวทั้งสิบสองสาย หนึ่งในพี่น้องทั้งสิบสี่คนนั้นก็คือ ยูซุฟ(โจเซฟ) บุรุษที่งดงามที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นเด็กหนุ่มที่มีจรรยามารยาทดีเลิศจนเป็นที่รักของยะอฺกูบเกินกว่าบุตรคนอื่นๆ และด้วยความอิจฉาริษยา ยูซุฟถูกกลั่นแกล้งจากพี่น้องคนอื่นๆ จนไปตกระกำลำบากถึงอิยิปต์ ซึ่งต่อมาด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า นบียูซุฟก็สร้างผลงาน จนได้เป็นใหญ่เป็นโตในอิยิปต์ แต่ยูซุฟก็ไม่ได้จดจำสิ่งที่พี่น้องของเขาเคยทำในอดีต รับพี่น้องทั้งหมดรวมทั้งยะอฺกูบบิดาผู้ตาบอด มาเลี้ยงดูอย่างดีที่อิยิปต์ และชาวยิวก็สืบเชื้อสายยุคแรกในดินแดนอียิปต์

      เชื้อสายของยะอฺกูบนี่เองที่พระเจ้าทรงประทานสติปัญญาอันชาญฉลาดให้พวกเขา และหลายต่อหลายครั้งที่เขาใช้ความสติปัญญาของพวกเขาท้าทายพระองค์ ฝ่าฝืนพระองค์ จนพระเจ้าทรงลงโทษให้ชาวยิวไร้แผ่นดินอยู่เป็นหลักแหล่งเรื่อยมา แต่ทว่าพระองค์ก็ยังทรงเมตตาชาวยิวครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการส่งศาสดามาคนแล้วคนเล่าจากหมู่ชาวยิวเพื่อทำการอบรมสั่งสอนพวกเขาโดยเฉพาะ

      นบีมูซา(โมเสท) และนบีฮารูนพี่ชาย(อารอน) เป็นหนึ่งในศาสดาชาวยิวที่ถูกส่งมาปลดปล่อยยิวจากการอธรรมของฟิรอูน(ฟาโรห์)กษัตริย์อิยิปต์ พระเจ้าทรงมอบปาฏิหาริให้มูซามากมายจนพาชาวยิวข้ามทะเลแดงเอาตัวรอดปลอดภัยจากฟิรอูนสำเร็จ ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายที่ชาวยิวก็ยังดื้อดึงไม่เชื่อฟัง เมื่อมูซาขึ้นไปรับสาร์นจากพระเจ้าบนภูเขาตูรเพียงสิบวัน ชาวยิวที่รออยู่ข้างล่างก็ฝ่าฝืนโดยการปั้นรูปลูกวัวขึ้นกราบไหว้ตั้งภาคีต่อพระเจ้าแล้ว และด้วยการฝ่าฝืนครั้งแล้วครั้งเล่านี้เอง ที่ทำให้พวกเขาถูกลงโทษให้ไม่สามารถเข้าเยลูซาเล็มได้ หลงทางอยู่กลางทะเลทรายเป็นเวลาหลายสิบปี




     
กำเนิดรัฐยิว


      หลังจากพระเจ้าทรงลงโทษชาวยิวระยะหนึ่งแล้ว พระองค์ก็ทรงเมตตาอนุญาตให้พวกเขาเข้าสู่เมื่องเยลูซาเล็มได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตั้งรกราก เริ่มก่อร่างสร้างเมืองขึ้น และเริ่มมีกษัตริย์ปกครองตนเอง นบีดาวูด(เดวิด) เป็นกษัตริย์ เป็นนักรบ และเป็นศาสดาไปพร้อมๆ กัน กษัตริย์ดาวูดทะนุบำรุงชาติยิวจนรุ่งเรือง และผู้ที่ทำให้อาณาจักรยิวรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดก็คือ บุตรชายของนบีดาวูดที่ชื่อว่าสุไลมาน(โซโลมอน) เมื่อนบีสุไลมานได้รับบัลลังค์ต่อจากดาวูดผู้เป็นบิดา เขาก็สร้างคุโณประการให้แก่ประชาชนของเขามากมายโดยได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ด้วยอนุมัติจากพระองค์สุไลมานสามารถเข้าใจภาษาสัตว์ และมีทหารญินมากมายอยู่ใต้บังคับบัญชา

      เมื่อหมดยุคสุไลมาน รัฐยิวก็เริ่มเสื่อมลง จนกระทั้งไม่มีรัฐเป็นของตนเองอีกต่อไป จากเวลานั้นยิวกลับกลายเป็นชนเร่ร่อนอีกครั้ง ตราบนั้นเป็นต้นมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง.. ซึ่งเรื่องนี้ผมจะยังไม่พูดถึง

      เมื่อไม่มีรัฐยิวแต่ชาวยิวก็ยังสืบเชื้อสายต่อมาเรื่อยๆ และศาสดาเชื้อสายยิวก็ถูกส่งมาเรื่อยๆ เช่นกัน อัยยูบ(โยบ), อิลยาส(เอเลียส), ซุลกิฟลี(เอเซเคียล), อัลญะซะฮฺ(เอลิซา), ยูนุส(โจนาส), ซะกะรียา(เซคาริยาหฺ), ยะฮฺยา(ยอร์น) บรรดานบีเหล่านี้สืบเชื้อสายชาวยิวและถูกส่งมาเพื่ออบรมสั่งสอนชาวยิว และชาวยิวมิได้ทำอื่นใดเลยนอกจากฝ่าฝืนศาสดาของตัวเอง และฆ่าศาสดาของตัวเอง




ท่านนบีอีซา ศาสดาแห่งความรัก


      และมาถึงยุคของศาสดาคนสุดท้ายที่มาจากลูกหลานแห่งอิสรออีล คืออีซา(เยซู/จีซัซ ไครซ์) ผู้กำเนิดมาจากครรภ์ของมัรยัม(มาเรีย)หญิงพรหมจรรย์ ท่านนบีอีซาประกาศเรียกร้องผู้คนสู่พระเจ้า โดยมียิวบางกลุ่มสนับสนุน และยิวอีกบางกลุ่มปองร้าย กลุ่มยิวที่หักหลังเพราะปฏิเสธที่จะเชื่อบนีอีซา ส่วนกลุ่มยิวอีกบางส่วนพร้อมทั้งชาวโรมันบางส่วนที่ยอมรับในอีซา ต่อมาพวกเขาเรียกตัวเองว่า ?คริสเตียน? หรือผู้เป็นสาวกของไครซ์ หลังจากที่ท่านนบีอีซาถูกยิวกลุ่มหนึ่งหักหลัง ท่านก็ตกอยู่ในอันตราย แต่ทว่าพระเจ้าก็ทรงช่วยเหลือท่าน โดยยกท่านขึ้นบนฟ้า รอวันกลับลงมาบนโลกอีกครั้งในยุคสุดท้ายของโลก โดยที่ชาวคริสต์และชาวยิวส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าท่านนบีอีซาได้เสียชีวิตบนไม้กางเขนเสียแล้ว

      ตั้งแต่บัดนั้นโลกใบนี้ก็เกิดศาสนาใหม่ขึ้นมา นั้นก็คือคริสต์ศาสนาซึ่งยอมรับทั้งคัมภีร์เล่มเก่า(โตร่า) ของมูซา และไบเบิ้ลคัมภีร์เล่มใหม่ของอีซา ส่วนยิวนั้นปฏิเสธอีซาและคัมภีร์อินญีลของท่าน โดยชาวยิวยังยึดถือเตารอต(โตร่า) เป็นหลัก ต่อมายิวก็ได้ละทิ้งเตารอตหันมาใช้คัมภีร์ติลมูดที่นักบวชของพวกเขาแต่งขึ้นมาเอง ในส่วนของชาวคริสเตียนในยุคต่อๆมา จากที่เคยเชื่อว่าอีซาเป็นศาสนฑูตของพระเจ้า กลับกลายเป็นศรัทธาว่าอีซาเป็นบุตรของพระเจ้า และในที่สุดนบีอีซาเป็นพระเจ้าเสียเอง




ศาสนฑูตคนสุดท้าย


      หลายร้อยปีผ่านไปเป็นช่วงที่โลกเว้นว่างจากศาสดาที่ถูกส่งลงมาสั่งสอน โลกทั้งโลกกำลังรอคอยศาสดาคนสุดท้ายที่ถูกระบุเอาไว้ในคัมภีร์เล่มต่างๆ ทั้งชาวคริสต์และชาวยิวเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าศาสดาคนสุดท้ายจะกำเนิดจากชาวยิวเหมือนที่ผ่านๆ มา หากแต่ไม่เป็นเช่นนั้น ศาสดาคนใหม่ถือกำเนิดจากสายตระกูลอิสมาอีลบุตรของอิบรอฮีม เป็นชาวอาหรับ

      ถึงคราวที่มูฮัมหมัดประกาศศาสนา หากแต่นี่ไม่ใช่ศาสนาของชาวอาหรับ เป็นศาสนาของมนุษย์ทุกคน ชาวยิวส่วนน้อยที่ยอมรับในศาสดาท่านสุดท้ายนี้ ขณะที่ยิวส่วนมากปฏิเสธ เริ่มแรกก็มีคนศรัทธาต่อคำสอนของนบีมูฮัมหมัดกลุ่มเล็กๆ และความศรัทธาก็เริ่มค่อยๆ ขยายออกไปเรื่อยๆ สู่ที่ต่างๆ ในทั่วทุกมุมโลก




โลกยุคสุดท้าย


      ต่อมาก็มีความขัดแย้งกันระหว่างผู้ศรัทธาในนบีอีซากับผู้ศรัทธาในนบีมูฮัมหมัด จนเกิดสงครามขึ้นหลายครั้งเช่นสงครามครูเสด(สงครามไม้กางเขน)ซึ่งกินระยะเวลานานหลายร้อยปี เวลานั้นชาวยิวอยู่ในสภาพที่ตกต่ำไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พวกเขากระจายกันอยู่ทั่วยุโรป ทั่วอเมริกา ทั่วโลก พอถึงยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อังกฤษมีแผนที่จะรวมชาวยิวจากทั่วโลกมาอาศัยอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ และต่อมาไม่กี่สิบปี ยิวก็ยึดปาเลสไตน์ทั้งประเทศเป็นของตนเอง

      หลังจากที่ปาเลสไตน์อยู่ภายใต้การปกครองของยิวระยะหนึ่ง การปารกฏตัวของดัจญาล(มะซีอา)ก็จะเกิดขึ้น การปรากฏตัวของดัจญาลคือสัญญาณหนึ่งที่เตือนว่าโลกใกล้จะหมดอายุของมันแล้ว หลังจากการปรากฏตัวของดัจญาลไม่นานท่านนบีอีซา(เยซู)ก็จะกลับลงมาจากฟากฟ้า เพื่อที่จะปราบดัจญาล ท่านนบีอีซาไม่ได้ลงมาในฐานะศาสนฑูตคนใหม่ หากแต่ลงมาในฐานะประชาชาติของศาสดาท่านสุดท้าย นบีอีซานำทัพผู้ศรัทธาต่อท่านและผู้ศรัทธาต่อนบีมูฮัมหมัดต่อสู้กับ ดัจญาลที่ได้รับการสนับสนุนจากชาวยิว จนดัจญาลประสบความพ่ายแพ้และเสียชีวิตในที่สุด

      หลังจากนั้นมนุษยชาติก็จะรุ่งเรืองอยู่ในศาสนาที่ถูกต้อง

      แต่สภาพนั้นก็กินเวลาไม่นาน สังคมอันสงบสุขร่มเย็นจะค่อยๆ เสื่อมลงเรื่อยๆ คนดีในโลกจะค่อยๆ เสียชีวิตลง และเมื่อลมหายใจของคนดีคนสุดท้ายถูกเก็บไปนั้น จะเป็นวันที่อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันออก เมื่อนั้นโอกาสที่จะกลับเนื้อกลับตัวของมนุษย์ทุกคนหมดลงแล้ว เพราะวันนี้เป็นวันที่ถูกระบุในคัมภีร์ทุกเล่ม

      วันสุดท้าย...

      เมื่อสัญญาณแห่งวันสุดท้ายถูกเป่า ทุกชีวิตก็จะตายลง... โลกก็ถึงคราวอวสาน

      หลังจากมีเสียงเป่าอีกครั้ง ทุกชีวิตตั้งแต่อาดัมจนถึงลูกหลานคนสุดท้ายของเขา ก็จะถูกฟื้นคืนชีพมารับการไตร่สวนในสิ่งที่พวกเขาทำไว้บนโลกใบนี้...?

      ??????????????????.




ในมัสยิดเก่าๆ หลังหนึ่ง ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก


      พอจบประโยค ทุกคนในที่นั้นเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ ตาทุกคู่มองไปยังอาลี อาลีชายกลางคนวัย 45 ปี นั่งนิ่งพักหนึ่งและกล่าวต่อช้าๆ ด้วยรอยยิ้มยินดีที่ปรากฎอยู่บนใบหน้า ?ทุกท่านคงแปลกใจ ที่ผมพูดเรื่องนี้ในวาระนี้... ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นทัศนะของมุสลิมที่มีต่อโลกใบนี้ เราต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างขวาง ไม่มองโลกเพียงแค่วันนี้วันพรุ่งนี้ ภาพรวมของโลกจะสอนถึงจุดยืนและเป้าหมายของชีวิตให้กับมนุษย์? 

      อาลีพยายามกวาดตาเพื่อสบทุกสายตาที่นั่งห้อมล้อมเขาอยู่ ?แต่ก่อนที่จะถึงขั้นตอนสำคัญของงาน ผมขอสรุปบทเรียนเมื่อซักครู่ที่กล่าวมาเป็นข้อๆ เพื่อตักเตือนแก่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวในวันนี้? อาลีขยับตัวเล็กน้อยคลายเมื่อย หลังจากนั่งนิ่งปราศรัยบนมัสยิดเป็นเวลานาน

      ?ซัลมา... ทีนี้ลูกก็รู้แล้วว่านโยบายของชัยฏอนคือการทำให้มนุษย์เปลื้องผ้า จงอย่าทำให้มันดีใจเหมือนครั้งที่มันเคยดีใจขณะที่อาดัมและฮาวาอฺถูกเปลื้องผ้า เพราะฉะนั้นจงรักษาสิ่งพึงสงวนของลูกให้ดี!

      ยาซิร... จงดูแลลูกสาวฉันให้ดี แต่อย่าตามใจเธอทุกเรื่อง อย่าทำพลาดเหมือนกับที่นบีอาดัมบรรพบุรุษของเราเคยพลาดมาแล้ว? เมื่อพูดถึงยาซีร อาลีหันไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม และสบตาเขาด้วยความอ่อนโยน

      ?ซัลมา... ลูกอย่าคิดว่าลูกเหนือกว่าคนอื่นนะ... เพราะนั่นเป็นวิธีคิดของอิบลีสผู้ถูกสาปแช่ง

      ยาซิร... จงอดทนให้มากๆ เธอจะเห็นว่าหลังจากอดทนมา 950 ปีของนบีนูฮฺ ในที่สุดการช่วยเหลือของอัลลอฮฺก็จะมาถึง?

      ซัลมา... จำไว้ให้ดี สามีของลูกหรือแม้แต่ตัวพ่อเองก็ไม่สามารถช่วยลูกได้เลย ถ้าลูกยืนกรานจะอยู่ตรงข้ามอัลลอฮฺเหมือนกับภรรยาของนูฮฺ

      ยาซิร... ซัลมา... เมื่อเธอสองคนมีลูกหลาน ก็จงอบรมพวกเขาให้ได้เหมือนท่านนบีอิบรอฮีม และเธอทั้งสองจงรับบทเรียนจากเรื่องของชาวยิวเอาไปใคร่ครวญ เมื่ออัลลอฮฺให้ความสามารถอันใดก็ตามแก่พวกเธอ จงอย่านำเอาความสามารถเหล่านั้นไปท้าทายพระองค์ เหมือนกับชาวยิวผู้หลงทางเหล่านั้น และวาระสุดท้ายของโลกสอนพวกเธอว่าไม่มีอะไรบนดาวดวงนี้ที่ถาวร ดาวเล็กๆ ดวงนี้เป็นเพียงบ้านชั่วคราวที่เราลงมาอาศัยอยู่เท่านั้น ยาซิร..ซัลมา เธอทั้งสองจงอย่าลืมเด็ดขาดว่าบ้านที่แท้จริงของพวกเธอคือสรวงสวรรค์อันนิรันด์ บ้านเดิมของนบีอาดัมบรรพบุรุษของพวกเรา และเธอทั้งสองจงยึดเอาบ้านที่แท้จริงนี้เป็นจุดหมายปลายทางของชีวิตคู่เถอะ อย่าให้บ้านชั่วคราวนี้หันเหความสนใจของพวกเธอจากจุดหมายปลายทางได้?


      อาลี เงยหน้ามองทุกคนและกล่าวต่อด้วยเสียงชุ่มชื่น และดังกว่าเดิม

      ?ยาซิร ฉันขอแต่งงานซัลมาบุตรีของฉันให้กับเธอ... ด้วยสินสอดที่ตกลงกันไว้?

      ?ผมรับการแต่งงานซัลมาบุตรีของอาลี... ด้วยสินสอดดังกล่าว? ยาซิรประกาศชัดถ้อยชัดคำ



ที่มา .. يونس
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

ย๊าว .. ยาว

แต่หวานซะมะมี  ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ญะซากัลลอฮ์น้อง อะรูชาห์   บทความแจ่มจริง ๆ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ คนจำเป็น

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 ;D ;D

ญะซากัลลอฮ น้อง อรุชา ครับ
เป็นคำสั่งเสีย ที่รวบรวม ร่นย่อ แบบอย่างและบทเรียน จากท่านนบี ต่างๆ ได้อย่างน่าซึ้งและเสนาะใจ



ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด


 salam

ญะซากัลลอฮุคอยรอนผู้นำเสนอค่ะ

 loveit: loveit: loveit:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
การครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

little cat

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ reem

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 104
  • ไม่มีโง่ใดที่จะโง่เท่าโง่ที่เคยโง่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ในยามที่สามีมีเรื่องทุกข์ใจ  ขอเธอจงอยู่เคียงข้างคอยปลอบโยนเขาอย่างท่านหญิงคอดีญะฮฺ

ในยามที่สามีเหน็ดเหนื่อย  ขอเธอจงเป็นที่ชื่นตาชื่นใจแก่เขาอย่างท่านหญิงอาอิชะฮฺ

ในยามที่สามีอารมณ์ร้อน ขอเธอจงสุขุมอ่อนโยนอย่างท่านหญิงอุมมุสะละมะฮฺ

ในยามที่สามีอ่อนแอ ขอเธอจงเข้มแข็งอย่างท่านหญิงนะซีบะฮฺ

ในยามที่ปฏิบัติหน้าที่ในบ้าน  ขอเธอจงพร้อมจะแบกรับงานหนักอย่างท่านหญิงฟาตีมะฮฺ

ในยามที่อยู่ลำพัง  ขอเธอจงผูกพันกับการทำอิบาดะฮฺอย่างท่านหญิงซัยหนับ

ในยามที่ต้องแจ้งเรื่องที่อาจทำให้สามีไม่สบายใจ ขอเธอจงมีไหวพริบในการพูดอย่างท่านหญิงอุมมุ สุลัยมฺบินติ มิลฮาน

ในยามที่มีลูก ขอเธอจงมุ่งมั่นในการเลี้ยงดูเขาให้เติบโตขึ้นเป็นทหารของอัลลอฮฺอย่างท่านหญิงซอฟียะฮฺ บินติ อับดุลมุฏฏอลิบ

                                                                                                          ตัดบางส่วนจาก FW.MAIL
[/b]

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
บิดามารดาสมควรสั่งเสียเจ้าสาวที่เป็นบุตรของตนก่อนส่งตัวว่า...??

ลูกสาวเอ๋ย...เจ้าต้องตื่นก่อนและนอนหลังสามีนะลูกนะ


ออฟไลน์ binti

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 261
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ในยามที่สามีมีเรื่องทุกข์ใจ  ขอเธอจงอยู่เคียงข้างคอยปลอบโยนเขาอย่างท่านหญิงคอดีญะฮฺ

ในยามที่สามีเหน็ดเหนื่อย  ขอเธอจงเป็นที่ชื่นตาชื่นใจแก่เขาอย่างท่านหญิงอาอิชะฮฺ

ในยามที่สามีอารมณ์ร้อน ขอเธอจงสุขุมอ่อนโยนอย่างท่านหญิงอุมมุสะละมะฮฺ

ในยามที่สามีอ่อนแอ ขอเธอจงเข้มแข็งอย่างท่านหญิงนะซีบะฮฺ

ในยามที่ปฏิบัติหน้าที่ในบ้าน  ขอเธอจงพร้อมจะแบกรับงานหนักอย่างท่านหญิงฟาตีมะฮฺ

ในยามที่อยู่ลำพัง  ขอเธอจงผูกพันกับการทำอิบาดะฮฺอย่างท่านหญิงซัยหนับ

ในยามที่ต้องแจ้งเรื่องที่อาจทำให้สามีไม่สบายใจ ขอเธอจงมีไหวพริบในการพูดอย่างท่านหญิงอุมมุ สุลัยมฺบินติ มิลฮาน

ในยามที่มีลูก ขอเธอจงมุ่งมั่นในการเลี้ยงดูเขาให้เติบโตขึ้นเป็นทหารของอัลลอฮฺอย่างท่านหญิงซอฟียะฮฺ บินติ อับดุลมุฏฏอลิบ

                                                                                                          ตัดบางส่วนจาก FW.MAIL
[/b]

ตัดบางส่วนจาก FW.MAIL

แล้วเต็มๆมันเป็นยังงัย  อยากอ่านแบบเต็มๆอ่ะ
อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
บิดามารดาสมควรสั่งเสียเจ้าสาวที่เป็นบุตรของตนก่อนส่งตัวว่า...??

ลูกสาวเอ๋ย...เจ้าต้องตื่นก่อนและนอนหลังสามีนะลูกนะ



              โดยดูตัวอย่างกะเป็นต้นใช่ไหม อิอิ ศรีภารยาดีเด่นแห่งอะไรดีนะ...วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

 

GoogleTagged