หลักการขอดุอาอฺในเชิงตะเซาวุฟ

[al-azhary]

Tweet

بسم الله الرحمن الرحيم

การขอดุอาอฺ

เป็นที่ทราบดีว่า  เรานั้นเป็นบ่าวของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) คำว่าบ่าวก็หมายความว่า  เป็นทาสนั่นเอง  คือผู้ที่ไม่มีสิทธิ์จะครอบครองสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย  แม้กระทั้งตัวเขาเอง  ปัจจุบันระบบทาสนั้น  ถูกยกเลิกไปแล้ว  แต่ระบบทาสที่มีระหว่างเรากับอัลเลาะฮฺนั้น  ยังคงมีอยู่และจะมีอยู่ตลอดไป   

ทุกสิ่งที่เรามี  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง  ลูกหลาน  ล้วนเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทั้งสิ้น  แม้กระทั้งลมหายใจของเราก็ไม่ใช่เป็นของเรา  แต่อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงเมตตาปวงบ่าวของพระองค์   ที่พระองค์ได้ทรงอำนายประโยชน์ปัจจัยยังชีพต่างๆเหล่านี้ให้แก่เรา 

ดังนั้น  เมื่อสิ่งต่างๆเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา  จึงไม่มีมนุษย์คนใหนที่สามารถจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองปรารถนา  ไม่ว่าจะเป็นอดีต  ปัจจุบัน หรืออนาคต  เราก็ไม่สามารถจะกำหนดได้ร้อยเปอร์เซ็นว่า เราจะได้รับสิ่งนั้น  สิ่งนี้  และเราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่า  จะได้เป็นชาวสวรรค์  หรือจะพ้นจากการลงโทษในกุบูร  ไม่สามารถจะมั่นใจได้ว่าเราจะตายในอีหม่านหรือไม่   ดังนั้น ทางออกของมนุษย์เราก็คือ  การเข้าหาอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ด้วยการวอนขอดุอาอฺต่อพระองค์

การขอดุอาอฺต่ออัลเลาะอฺ(ซ.บ.)นั้น   ย่อมชี้ให้เห็นว่า  เรามีความรู้สึกในการเป็นบ่าวเป็นทาสที่ต่ำต้อยของพระองค์  และความรู้สึกเช่นนี้  ย่อมเป็นความประเสริฐแก่เรา    ท่านอิบนุอะฏออิลลาหฺกล่าว่า

متى أطلق لسانك بالطلب فاعلم أنه يريد أن يعطيك

" เมื่อพระองค์ทำให้ลิ้นของท่าน ทำการขอ  ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า  พระองค์ทรงประสงค์จะให้แก่ท่าน "

ดังนั้น  เมื่อเราเป็นบ่าว  ที่ทำการขอดุอาอฺจากอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)นั้น  เราก็จะเข้าใจว่า  การที่อัลเลาะฮฺให้เราการทำการขอดุอาอฺต่อพระองค์นั้น  ก็คือการที่อัลเลาะฮฺทรงให้เราคิดว่า  เรานั้นไม่มีอะไรเลย   ทำให้คิดว่าอัลเลาะฮฺต่างหากที่เป็นที่พึ่งสำหรับเรา  นี่คือหลักสำคัญในการขอดุอาอฺ
 
แต่การขอดุอาอฺของคนเรานั้น  บางครั้งเขาก็ไม่ได้รับจากสิ่งที่เขาได้ขอต่ออัลเลาะฮฺ   เขาจึงรู้สึกน้อยใจ  และเจ็บปวดในสิ่งที่เขาไม่ได้รับจากอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  ก็เนื่องจากเขาไม่เข้าใจในอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)    ซึ่งความจริงแล้วอัลเลาะฮฺทรงให้  แต่พระองค์จะทรงให้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์จะให้  ไม่ใช่ให้ตามที่เราต้องการจะใด้  เนื่องจากว่าอัลเลาะฮฺทรงรู้ดีว่าถ้าให้เขาแบบนี้  มันจะทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเขาไปภายภาคหน้า  แต่หากว่าพระองค์ทรงให้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์  ก็เนื่องจากพระองค์ทรงรู้ว่า  สิ่งที่พระองค์ทรงให้นั้น  เป็นผลดีแก่เขา   หากเรารู้และเข้าใจเช่นนี้แล้ว  เราก็จะไม่มีความเจ็บปวดในจิตใจ  แต่เรากลับชุโกรต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)

ท่านอิบนุอะฏออิลและหฺกล่าวไว้เช่นกันว่า

متى فتح لك باب الفهم فى المنع عاد المنع هو عينَ العطاء

" เมื่ออัลเลาะฮฺทรงเปิดประตูแห่งความเข้าใจให้แก่ท่านในเรื่องของการ(ที่พระองค์)ไม่ให้นั้น   แน่นอนว่าการไม่ให้(ของอัลเลาะฮฺ)ก็จะกลับกลายเป็นตัวของการให้ที่แท้จริง"

เช่น  เราขอต่ออัลเลาะฮฺให้ได้สิ่งหนึ่งที่เราต้องการ  แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ อัลเลาะฮฺไม่ให้ตามที่เราหวังไว้  ก็เนื่องจากว่าอัลเลาะฮฺทรงให้อีกอย่างหนึ่งที่ดีกว่ามาทดแทน เนื่องพระองค์ทรงรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งดีแก่เรา

หรืออย่างเช่น  คนหนึ่ง  มีหนี้ท่วมตัวอย่างมากมาย  เขาก็พยายามที่จะหาดุอาอฺสำหรับผู้ที่มีหนี้พ้นตัว  เพื่อทำการขอดุอาอฺให้เขาได้ชดใช้หนี้ได้หมด   แต่ถึงปัจจุบันนี้  เขาก็ยังไม่ได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ   ก็เนื่องจากว่าอัลเลาะฮฺไม่ทรงให้ในสิ่งที่เขาขอ   แต่พระองค์จะทรงให้ในสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการ  คือพระองค์ทรงประสงค์ให้เขาสร้างความใกล้ชิดกับพระองค์ด้วยการขอดุอาอฺ  และทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์มากขึ้น   เนื่องจากว่าตอนที่ไม่มีหนี้นั้น  เขาเป็นผู้ที่ลืมอัลเลาะฮฺ  ไม่ค่อยละหมาด   ทำในสิ่งที่อัลเลาะฮฺทรงใช้ไม่ครบถ้วน  และอัลเลาะฮฺก็ทรงรู้ดีว่า  หากเขาเป็นผู้ที่ใช้หนี้หมดแล้ว  เขาก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม  คือห่างใกลจากอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.) 

เช่นมีคนหนึ่งป่วยเป็นโรค  เขาก็ขอดุอาอฺจากอัลเลาะฮฺให้เขาได้หายจากโรคนั้น  แต่อัลเลาะฮฺก็ไม่ทรงให้ตามที่เขาขอ   ซึ่งหากเขามีความเข้าใจในอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  เขาก็จะรู้ว่า  การที่อัลเลาะฮฺไม่ให้เขาหายป่วยนั้น  ก็เนื่องจากว่าอัลเลาะฮฺจะทรงประสงค์ให้การปลดเปลื้อง  ลบล้างปาบของเขานั่งเอง 

ดังนั้นหากเราเข้าใจในอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)แล้ว  การที่อัลเลาะฮฺทรงไม่ให้นั่นแหละ  คือการให้ของพระองค์   เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้  เราก็สบายใจ  และมีความรักในพระองค์ อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)

ซึ่งอัลเลาะฮฺทรงตรัสว่า

( وعسى أن تكرهوا شيئا وهو خير لكم وعسى أن تحبوا شيئا وهو شر لكم والله يعلم وأنتم لاتعلمون)

" แต่พวกทีพวกเจ้ารังเกียจสิ่งหนึ่ง  โดยที่สิ่งนั้นอาจเป็นความดีสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และบางทีพวกเจ้าชอบในสิ่งหนึ่ง  โดยสิ่งนั้น  อาจจะเป็นความเลวร้ายสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และอัลเลาะฮฺทรงรู้  โดยที่พวกเจ้าไม่รู้ "  อัลบะกอเราะฮฺ 116

ดังนั้น  พวกท่านทั้งหลายจงดำรงค์ชีวิตอยู่ให้สบายใจเถิด  ด้วยการ ริฏอ  พอใจในสิ่งที่อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงประทานให้ 

วัลลอฮุอะลัม

[musalmarn]

ซึนญาตอ ออรัง มุอมิน อียอละฮ ดุอาอ

อาวุธของมุอมิน คือ การดุอาอ

[นูรุ้ลอิสลาม]

 
แต่การขอดุอาอฺของคนเรานั้น  บางครั้งเขาก็ไม่ได้รับจากสิ่งที่เขาได้ขอต่ออัลเลาะฮฺ   เขาจึงรู้สึกน้อยใจ  และเจ็บปวดในสิ่งที่เขาไม่ได้รับจากอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)  ก็เนื่องจากเขาไม่เข้าใจในอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)    ซึ่งความจริงแล้วอัลเลาะฮฺทรงให้  แต่พระองค์จะทรงให้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์จะให้  ไม่ใช่ให้ตามที่เราต้องการจะใด้  เนื่องจากว่าอัลเลาะฮฺทรงรู้ดีว่าถ้าให้เขาแบบนี้  มันจะทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเขาไปภายภาคหน้า  แต่หากว่าพระองค์ทรงให้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์  ก็เนื่องจากพระองค์ทรงรู้ว่า  สิ่งที่พระองค์ทรงให้นั้น  เป็นผลดีแก่เขา   หากเรารู้และเข้าใจเช่นนี้แล้ว  เราก็จะไม่มีความเจ็บปวดในจิตใจ  แต่เรากลับชุโกรต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)

นั่นแหละตะเซาวุฟ  คมคายครับ

[๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐]

Assalam:

....

Wassalam:

[salamah]

بسم الله الرحمن الرحيم

การขอดุอาอฺ

ดังนั้นหากเราเข้าใจในอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)แล้ว  การที่อัลเลาะฮฺทรงไม่ให้นั่นแหละ  คือการให้ของพระองค์   เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้  เราก็สบายใจ  และมีความรักในพระองค์ อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)

ซึ่งอัลเลาะฮฺทรงตรัสว่า

( وعسى أن تكرهوا شيئا وهو خير لكم وعسى أن تحبوا شيئا وهو شر لكم والله يعلم وأنتم لاتعلمون)

" แต่พวกทีพวกเจ้ารังเกียจสิ่งหนึ่ง  โดยที่สิ่งนั้นอาจเป็นความดีสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และบางทีพวกเจ้าชอบในสิ่งหนึ่ง  โดยสิ่งนั้น  อาจจะเป็นความเลวร้ายสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และอัลเลาะฮฺทรงรู้  โดยที่พวกเจ้าไม่รู้ "  อัลบะกอเราะฮฺ 116

ดังนั้น  พวกท่านทั้งหลายจงดำรงค์ชีวิตอยู่ให้สบายใจเถิด  ด้วยการ ริฏอ  พอใจในสิ่งที่อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงประทานให้ 

วัลลอฮุอะลัม

 

[musalmarn]

ALLAH (S.W.A.) answers prayers in THREE ways

1. ALLAH says YES and GIVES you what you want

2. ALLAH says NO and GIVES you better

3. ALLAH says WAIT and GIVES you the best

ref : SMS

[คนจำเป็น]

ผมชอบและน้อมรับประโยคนี้ครับ

ปัจจุบันระบบทาสนั้น  ถูกยกเลิกไปแล้ว  แต่ระบบทาสที่มีระหว่างเรากับอัลเลาะฮฺนั้น  ยังคงมีอยู่และจะมีอยู่ตลอดไป   

[นูรุ้ลอิสลาม]

ท่านอิบนุอะฏออิลและหฺกล่าวไว้เช่นกันว่า

متى فتح لك باب الفهم فى المنع عاد المنع هو عينَ العطاء

" เมื่ออัลเลาะฮฺทรงเปิดประตูแห่งความเข้าใจให้แก่ท่านในเรื่องของการ(ที่พระองค์)ไม่ให้นั้น   แน่นอนว่าการไม่ให้(ของอัลเลาะฮฺ)ก็จะกลับกลายเป็นตัวของการให้ที่แท้จริง"

หากขอดุอาอ์ต่ออัลเลาะฮ์ก็ต้องเข้าใจอัลเลาะฮ์นะครับ อย่าเอาแต่ใจตัวเอง 

[นูรุ้ลอิสลาม]

ทราบข่าวว่ากระทู้มีผลประโยชน์แก่พี่น้องหลายท่านที่ได้อ่านและนำไปปฏิบัติ 

[almadany]

ท่านอิบนุอะฏออิลและหฺกล่าวไว้เช่นกันว่า

متى فتح لك باب الفهم فى المنع عاد المنع هو عينَ العطاء

" เมื่ออัลเลาะฮฺทรงเปิดประตูแห่งความเข้าใจให้แก่ท่านในเรื่องของการ(ที่พระองค์)ไม่ให้นั้น   แน่นอนว่าการไม่ให้(ของอัลเลาะฮฺ)ก็จะกลับกลายเป็นตัวของการให้ที่แท้จริง"

...อัลเลาะฮ์ทรงไม่ให้สิ่งที่เราขอ...เพราะพระองค์รู้ว่าต่อไปสิ่งที่เราขอนั้นไม่ดี...พระองค์จึงให้สิ่งอื่นแทน...หากเราเข้าใจแบบนี้..การไม่ให้ที่เราขอนั่นแหละคือการให้ของพระองค์ในสิ่งที่ทรงประสงค์...เนื่องจากการขอดุอาอ์นั้นเป็นสิ่งดี....ฉะนั้นสิ่งที่พระองค์ทรงให้ย่อมดีสิ่งที่ดีเสมอ....วัสลาม...

[SaFinah]

ทราบข่าวว่ากระทู้มีผลประโยชน์แก่พี่น้องหลายท่านที่ได้อ่านและนำไปปฏิบัติ 

ผมหนึ่งคนครับ...ที่กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับผมในตอนนี้...

รบกวนบังอัลฯนิดนึงครับ...

"แต่พวกทีพวกเจ้ารังเกียจสิ่งหนึ่ง  โดยที่สิ่งนั้นอาจเป็นความดีสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และบางทีพวกเจ้าชอบในสิ่งหนึ่ง  โดยสิ่งนั้น  อาจจะเป็นความเลวร้ายสำหรับพวกเจ้าก็ได้  และอัลเลาะฮฺทรงรู้  โดยที่พวกเจ้าไม่รู้ "  อัลบะกอเราะฮฺ 116

อายะห์นี้ผมได้ดูแล้วอยู่ในซูเราะฮ์ที่ 216 ครับผม...

 :jazakallah

[sa27]

 salam

สงบ  นิ่ง  น้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ขอบคุณทุกเสี่ยววินาที  แล้วจะพบเจอเมื่อสัมผัสเห็น

ผู้ที่ต้องการรู้จักตัวที่รู้จักตัวรู้

[al-firdaus~*]

 

salam

ท่านอิมาม อิบนุอะฏออิลแหละฮ์  กล่าวว่า

  لاَ يَكُنْ أَمَدُ تَأَخُّرِ الْعَطَاءِ مَعَ الْإلْحَاحِ فِى الدُّعَاءِ مُوْجِباًَ لِيَأْسِكَ ، فَهُوَ ضَمِنَ لَكَ الْإِسْتِجَابَةَ فِيْمَا يَخْتَارُهُ لَكَ ، لَا فِيْمَا تَخْتَارُهُ لِنَفْسِكَ ، وَفِى الْوَقْتِِ  الَّذِيْ يُرِيْدُ لَا فِى الْوَقْتِ الَّذِيْ تُرِيْدُ

“ลาตะกุน อะมะดู้ ตะอัคคุริลอะฏออี้ มะอัลอิลฮาฮิ ฟิดดุอาอี้ มูญิบัน ลิยะอฺซิก้า ฟะฮุว่า ฎ่อมิน่า ละกัลอิสติญาบะต้า ฟีมา ยัคตารู้ละก้า ลา ฟีมา ตัคตารู้ฮู ลินัฟซิก้า วะฟิลวักติลละซี ยุรีดู้ ลาฟีวักติลล่าซี ตู้รีดู้”

 "อย่าให้การประวิงเวลาจากการให้โดยพร้อมกับ(ท่าน)มีการรบเร้าในการขอดุอาอ์นั้น  ทำให้ท่านสิ้นหวัง , ดังนั้นพระองค์ได้ประกันการตอบรับให้แก่ท่านแล้วในสิ่งที่พระองค์ทรงเลือกเฟ้นให้แก่ท่าน , ไม่ใช่ในสิ่งที่ท่านเลือกให้กับตัวเอง , และ(พระองค์ได้ประกันการตอบรับดุอาอ์)ในเวลาที่พระองค์ทรงประสงค์(จะให้)ไม่ใช่ในเวลาที่ท่านประสงค์(จะได้)"

หากมีคนหนึ่งกล่าวว่า  ฉันได้มอบหมายบรรดาสิ่งที่ฉันต้องการในทางโลกดุนยานี้ให้กับการประกันของอัลเลาะฮ์ตาอาลาและสัญญาที่พระองค์จะทรงประทานให้  ขณะเดียวกันนั้นฉันก็ได้สำทับการขอดุอาอ์ไปด้วย  แต่ทว่ากระทั่งถึงวันนี้ฉันยังไม่ได้รับการตอบรับดุอาอ์ของฉันเลย  ทั้งที่ฉันเองก็ไว้วางใจในสัญญาของพระองค์  แต่ฉันได้รอคอยเป็นเวลานาน  และแล้วฉันก็ไม่รับสิ่งที่ตองการ  ซึ่งดังกล่าวนี้ท่านอิมามอิบนุอะฏออิลและฮ์ ได้กล่าวตอบไว้ว่า :

 "อย่าให้การประวิงเวลาจากการให้โดยพร้อมกับ(ท่าน)มีการรบเร้าในการขอดุอาอ์นั้น  ทำให้ท่านสิ้นหวัง , ดังนั้นพระองค์ได้ประกันการตอบรับให้แก่ท่านแล้วซึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงเลือกเฟ้นให้แก่ท่าน , ไม่ใช่ในสิ่งที่ท่านเลือกให้กับตัวเอง , และ(พระองค์ได้ประกันการตอบรับดุอาอ์)ในเวลาที่พระองค์ทรงประสงค์(จะให้)ไม่ใช่ในเวลาที่ท่านประสงค์(จะได้)"

[al-firdaus~*]

بسم الله الرحمن الرحيم

รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ (ร.ด.) กล่าวว่า ท่านรอซูล ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า :  พวกเจ้าจงวอนขอ (ดุอาอฺ) จากอัลลอฮฺโดยมั่นใจว่า การวอนขอนั้นจะถูกตอบรับ และโปรดรู้เถิดว่า อัลลอฮฺตะอาลาจะไม่ตอบรับดุอาอฺของผู้ที่หัวใจของเขาเพิกเฉยต่ออัลลอฮฺและกำลังหมกมุ่นอยู่กับสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ    (รายงานโดยตัรมีซีย์)

[al-firdaus~*]

ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

اتق دعوة المظلوم ، فإنها ليس بينها وبين الله حجاب

" ท่านจงเกรงกลัวดุอาของคนที่ถูกอธรรม เพราะแท้จริงดุอาของผู้ถูกอธรรมนั้นไม่มีสิ่งขวางกั้นระหว่างมันกับอัลลอฮฺ"

รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม