หรือ...แค่ความใคร่?!
By binshukor
...ท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยกระแสนิยมของคำว่า
"ความรัก" ภาพยนตร์ เพลง หรือสื่อต่างๆ ก็คอยประโคม ของนิยามคำว่ารักอย่างไม่ขาดสาย
"รักเธอ รักฉัน เรารักกันซู่ซ่าซู่ซ่า" ได้กลายมาเป็นกระแสยอดฮิตของสังคมวัยรุ่นทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะแค่ในประเทศบ้านเรา แต่มันหมายถึงทั่วพื้นพิภพบนโลกนี้
หากคำว่า
"รัก" ที่หลายคนพยายามบอกผ่านคำนิยามของมันโดยใช้แนวทางของสื่อต่างๆแสดงถึงจุดยืนของการมีความรัก หลากหลายครั้งที่คิดว่า ถ้าเรามองอย่างพินิจพิเคราะห์ ในคำว่า
"รัก" ที่สื่อต่างๆพยายามอธิบายมาแล้ว เราก็อาจจะพบว่า ความรักของพวกเขาเหล่านั้นจบด้วยการมีเพศสัมพันธ์ แล้วก็ตั้งท้อง แล้วผลตามหลังที่เข้ามา คือการเพิ่มภาระให้ครอบครัว คนรอบข้าง และสังคมอย่างหนักหน่วง เพราะจุดเริ่มต้นของการมีความรักของวัยรุ่นสมัยนี้ย่อมเกิดขึ้นเนื่องจากคำว่า
"โดนใจ" หรือไม่ก็
"ตรงสเป๊กซ์" ด้วยเพราะ
"ความสวย" หรือ
"น่ารัก" ที่เขาได้รับมาตั้งแต่กำเนิด มันจึงทำให้วัยรุ่นทั่วไป (มุสลิมและไม่ใช่มุสลิม) ติดกับดักของคำว่ารักด้วยก็เพราะเหตุนี้
ดั่งในอดีตที่ขี้ข้าของพวกจักรวรรดินิยมคนหนึ่งกล่าวว่า
"แก้วกับนักร้องสาวสามารถทำลายประชาชาติมุฮัมหมัดได้มากกว่าปืนหนึ่งพันกระบอก ดังนั้นจงทำให้พวกเขาจมอยู่กับความรักในวัตถุและตัณหา" หรืออย่างที่หัวโจกของลัทธิมาสูนียะฮ์ที่ชั่วช้าคนหนึ่งกล่าวว่า
"เราจะต้องดึงดูดเหล่าสตรี ดังนั้นวันไหนก็ตามที่หล่อนยื่นมือให้เรา เราก็จะได้รับชัยชนะด้วยสิ่งต้องห้ามต่างๆ และหล่อนนี้แหละจะเป็นผู้ทำลายบรรดาไพร่พลของผู้ที่ยึดมั่นในศาสนา" (ดู หน้งสือจนกว่าเยาวชนมุสลิมจะสำนึก, ของอับดุลลอฮฺ นาศิฮฺ อุลวาน (เขียน), นัสรุลลอฮฺ ต็อยยิบ (แปล), หน้า 210)
ในขณะที่ปัจจุบัน การแต่งงานนั้นดูเหมือนว่าเป็นเรื่องยากอย่างชัดเจน และไม่ค่อยมีใครที่จะยอมรับการแต่งงานระหว่างเรียนซ่ะเท่าไหร่ แค่ส่วนน้อยเท่านั้น มันจึงทำให้ปัญหาเกิดขึ้นตามมาอย่างมากมาย ไม่ว่าท้องก่อนแต่ง หรือ ลูกเกิดมาไม่มีพ่อ หรือการทำแท้ง หรือแม้กระทั่งนำเด็กทารกน้อยไปทิ้งตามสถานที่ลับตาคน ถังขยะ หรือที่ต่างๆที่คิดว่ามันรอดพ้นจากการมองเห็นของผู้คน เรื่องเหล่านี้ย่อมเป็นที่ประจักชัดแล้วว่ามันกำลังเกิดขึ้นอย่างไม่ลดละ และข่าวรายวันต่างก็พร้อมใจกันนำเสนอเรื่องเหล่านี้อย่างชัดเจน แต่กระนั้นสังคมก็ยังเห็นว่าถ้าไม่ไหวก็ใช้ถุงยาง และนี่คือสิ่งที่บรรดาวัยรุ่นมุสลิมกระทำเช่นเดียวกัน...
แล้วอะไรคือความรักในแบบอิสลาม?!อนึ่งอิสลามมิใช่ด้วยศาสนาที่ห้ามในเรื่องของ
"ความรัก" อิสลามมิได้ห้ามความรู้สึกของคำว่า
"รัก" แต่ที่อิสลามได้ห้ามมันคือ
"ความรัก" ซึ่งตรงกับพฤติกรรมของพวกสัตว์เดรัจฉานต่างหาก อิสลามได้มายกตำแหน่งความเป็นมนุษย์ให้สูงขึ้นเหนือเหล่าสรรพสัตว์ทั้งมวล เพราะเมื่อถ้าหากว่ารักใครชอบใครอิสลามมิได้ห้าม แต่ต้องทำให้มันถูกต้องโดยการแต่งงาน ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน และต้องรับผิดชอบต่อประชาชาติในอนาคตที่เกิดขึ้นมา นี่ต่างหากที่อิสลามได้กล่าวไว้ เพราะคำว่ารักนั้นมันมิใช่แค่เพียงพฤติกรรมที่กล่าวมาดังเริ่มแรก เพราะมนุษย์นั้นมีสมองคิด มิใช่ว่าทำอะไรก็ได้โดยไม่คิด สิ่งนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า อิสลามได้ใส่ใจความรักเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากสถาบันครอบครัวล่มแล้ว สถาบันสังคมก็ต้องวอดวายอย่างแน่นอน...
ความรักสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท เช่น รักพ่อ รักแม่ รักเพื่อน รักครอบครัว หรือที่ขาดเสียมิได้นั่นก็คือ รักอัลลอฮฺ รักที่จะอยู่เพื่อพระองค์ ดังเช่นที่ปรากฏในหะดีษว่า
"สามประการที่ผู้ใดมีสามประการนี้อยู่ในตัว เขาได้พบกับความหวานชื่นของการศรัทธา คือ ผู้ใดที่ให้อัลลอฮฺและเราะซู้ลเป็นที่รักยิ่งของเขามากกว่าผู้อื่นทั้งหมด การที่เขารักคนใดคนหนึ่งก็มิได้มีจุดประสงค์เพื่อสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺ..." และนี่คือคำว่ารักที่มุสลิมทุกคนนั้นจำเป็นจะต้องมี
หากวันนี้เหล่าวัยรุ่นยังคงมัวเมากับการดื่มด่ำด้วยความรักดังคำนิยามของชาวตะวันตกได้ยิบยื่นให้ แน่นอนอีกไม่นาน เราก็จะได้เห็นคำที่ว่า
"ลูกซินา" อยู่ทั่วไป ดังที่มันกำลังเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน!!!
----- วัลลอฮุอะอฺลัม -----
ป.ล. บทความ "หรือ...แค่ความใคร่?!" เป็นบทความของเพื่อนนักศึกษา (นาม binshukor) ที่เคยเขียนประกวดในเว็บไซต์แห่งหนึ่งครับ