พวกวะฮาบีย์มักจะยกคำโต้แย้งของชัยฅ์อิบนุ ตัยมียะฮ์ที่มีต่อกลุ่มอัลอะชาอิเราะฮ์ที่พอสรุปความได้ว่า "ในเมื่อพาดพิงศิฟัตกุดเราะฮ์ (อำนาจ) ต่ออัลลอฮฺได้ ทำไมถึงจะพาดพิงศิฟัตยะดุน (มือ) ต่ออัลลอฮฺไม่ได้ ซึ่งหากพวกเขาโต้แย้งว่า กุดเราะฮ์ของอัลลอฮฺกับของมัฅลูก (สิ่งถูกสร้าง) ย่อมไม่เหมือนกัน ฉะนั้น เราก็ขอตอบอย่างเดียวกันว่า ยะดุน (พระหัตถ์) ของอัลลอฮฺย่อมไม่เหมือนกับยะดุน (มือ) ของมัฅลูกเช่นกัน ..."
เรา (อัลอะชาอิเราะฮ์) ขอตอบว่า หากเราย้อนกลับไปดูแนวความเชื่อของผู้ที่เรียนศิฟัต ๒๐ นั้น ก็จะจัด "ศิฟัตกุดเราะฮ์" (อำนาจ) นั้นไว้ในหมวด "ศิฟัตมะอานีย์" คือคุณลักษณะเชิงนามธรรม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเราจะกล่าวว่า "ศาสตราจารย์ท่านหนึ่งเป็นคนฉลาด" กับเรากล่าวว่า "เด็กคนหนึ่งฉลาด"
ซึ่งคุณลักษณะแห่ง "ความฉลาด" นั้น่ตางก็เป็นคุณลักษณะเชิงนามธรรม กล่าวคือ ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือจับต้องได้ แต่เรารู้ว่ามันมีอยู่จริง เพราะสามารถรับรู้ได้จากผลที่เกิดจากมัน เช่น ปรากฏในการกระทำ หรือคำพูดที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น
และแน่นอนทีเดียว คนทั่วไปนั้นก็จะเข้าใจทันทีเช่นกันว่า ความฉลาดของบุคคลทั้งสองข้างต้นนั้น ย่อมแตกต่างกันโดยปริยาย โดยไม่ต้องมีการอธิบายใดๆ เพิ่มเติม - เว้นแต่เขาผู้นั้นคิดไม่เป็น อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ครับ
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อเรากล่าวว่า "มือของศาสตราจารย์" กับ "มือของเด็ก" หรืออีกคำพูดหนึ่งคือ "มือของมนุษย์" กับ "มือของสัตว์" แล้ว
สำหรับคำพูดแรกนั้น สามัญสำนึกของคนทั่วไปก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า มือทั้งสองย่อมเหมือนกันอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ในคำพูดที่สองนั้น สามัญสำนึกของมนุษย์ทั่วไปก็ย่อมเข้าใจเช่นกันว่า ทั้งสองนั้นต่างก็เป็นมือ แต่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเกณฑ์ทั่วไป หรือความเข้าใจทั่วไปที่มนุษย์ใช้ในการตัดสินข้างต้นนั้นก็คือ การดูที่รูปร่างของสิ่งนั้นเท่านั้น แต่นี่เรากำลังกล่าวในสิ่งที่พาดพิงไปยังอัลลอฮฺ พระผู้ทรงบริสุทธิ์จากการเสมือนสิ่งถูกสร้าง (มัฅลูก) ทั้งปวง
สำหรับเรานั้น เราขอตอบว่า จากทั้งสองคำพูดที่กล่าวถึงมือนั้นล้วนแต่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหมือนในที่นี้ก็คือการเหมือนในเชิงแก่นแท้ (หะกีกัต) ของมันตามที่มนุษย์เข้าใจกัน นั่นก็คือ มือที่เป็นรูปร่าง และต่างก็เป็นมัฅลูก (สิ่งถูกสร้าง) กันทั้งนั้น ส่วนหะกีกัต (แก่นแท้) ของความหมายจริงๆ ของมันนั้น เราขอมอบหมายต่ออัลลอฮฺ และเราเชื่อว่า แก่นแท้ (หะกีกัต) ของมันย่อมไม่เหมือนกับสิ่งถูกสร้างแน่นอน
แต่พวกวะฮาบีย์กลับยืนยันว่า ต้องเชื่อคำว่า ยะดุนที่พาดพิงถึงอัลลอฮฺนั้นในความหมายเชิงหะกีกัต (แก่นแท้) ตามที่มนุษย์ทั่วไปเข้าใจกัน - วัลอิยาฑุบิลลาฮฺ - พร้อมกับตบท้ายว่า ไม่เหมือนกันมัฅลูก แล้วมันอย่างไรหรือ ที่ทีแรกพวกท่านบอกว่าให้เชื่อตามที่มนุษย์เข้าใจกัน แล้วต่อมาก็บอกว่าไม่เหมือนกับที่มนุษย์เข้าใจกัน

- วัลลอฮุอะอ์ลัม