ผู้เขียน หัวข้อ: ศึกษาตะเซาวุฟ  (อ่าน 3476 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ริฎวาน

  • บุคคลทั่วไป
ศึกษาตะเซาวุฟ
« เมื่อ: ก.ค. 02, 2007, 04:55 PM »
0

จริงหรือไม่ครับที่การศึกษาตะเซาวุฟต้องทำการศึกษาหลังจากวิชาฟิกห์ และอูซูลุดดีนและอยากให้บังช่วยจัดความหนักเบาของเนื้อหาวิชานี้สำหรับคนที่เพิ่งเริมศึกษา เอกีตาบมลายูนะครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ศึกษาตะเซาวุฟ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ค. 05, 2007, 02:37 AM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

เราจำเป็นต้องศึกษาวิชาเตาฮีด , ฟิกห์ , และตะเซาวุฟ ,  ไปพร้อม ๆ กัน  โดยจะขาดประการใดประหนึ่งไม่ได้   หรือเราจะพูดอีกสำนวนหนึ่งว่า  เราต้องมี  อิหม่าน , อิสลาม , และเอี๊ยะหฺซาน  ซึ่งทั้ง 3 ประการนี้ทำให้ศาสนาของเราสมบูรณ์

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า

وَاعْتَصِمُواْ بِحَبْلِ اللّهِ جَمِيعاً وَلاَ تَفَرَّقُواْ

"พวกท่านจงยึดสายเชือกของอัลเลาะฮ์โดยทั้งหมดเถิด และพวกท่านอย่าได้แตกแยกกัน"   อาละอิมรอน 103

คำว่า ."สายเชือกของอัลเลาะฮ์" นั้น  นักปราชญ์บางท่านอธิบายว่า  มันคือ  "ศาสนาอิสลาม"   ซึ่งศาสนาอิสลามจะสมบูรณ์ได้   ต้องประกอบด้วย  3  ประการที่ท่านญิบรีลนำมาสอนแก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมและบรรดาซออาบะฮ์ของท่าน   นั่นก็คือ  หลักอิหม่าน , หลักอิสลาม ,  หลักอิห์ซาน  ,   ซึ่งทั้งสองประการ 3 นี้  ประหนึ่งองค์ประกอบที่นำมาเป็นเชือกที่ร้อยทักยึดเกื้อหนุนกันและกันจนมีความแข็งแรง

ส่วนการจัดความหนักเบาของเนื้อหาวิชาเหล่านี้นั้น  ก็คือให้เรียงลำดับตามที่หะดิษได้ระบุไว้  คือวิชาเตาฮีด  หลักการอีหม่านศรัทธาก่อน  เพราะเริ่มแรกของศาสนาคือการรู้จักและเชื่อมั่นในอัลเลาะฮ์ตาอาลา  หลักจากนั้นก็เรียนวิชาฟิกห์ที่ว่าด้วยเรื่องภาคปฏิบัติ  และหลังจากนั้นก็มุ่งเรียนวิชาตะเซาวุฟที่ว่าด้วยหลักอัลอิห์ซาน  ดังนั้น  หลักอิสลามและอิห์ซานจะไม่เกิดขึ้นนอกจากต้องมีหลักอิหม่าน(หลักศรัทธา)เสียก่อน

ด้วยเหตุดังกล่าวนี้แหละ ที่ท่านอิมาม มาลิก (ร.ฏ.) กล่าวว่า

من تصوف ولم يتفقه فقد تزندق ، ومن تفقه ولم يتصوف فقد تفسق ، ومن جمع بينهما فقد تحقق

"ผู้ใดที่มีตะเซาวุฟแต่ไม่มีฟิกห์ แน่นอน เขาย่อมเป็นผู้นอกศาสนา , และผู้ใดที่มีฟิกห์แต่ไม่มีตะเซาวุฟ แน่นอน เขาย่อมเป็นคนชั่ว , และผู้ใดที่รวมระหว่างทั้งสอง แน่นอน เขาย่อมบรรลุสัจจะธรรม"

ดังนั้น  เรามักจะได้ยินอาจารย์กล่าวกันว่า  ให้ทำการเน้นศึกษาวิชาฟิกห์ก่อนวิชาตะเซาวุฟ   คือเขาเกรงว่า  หากมุ่งเน้นตะเซาวุฟจนเกินไปโดยไม่ให้ความสำคัญกับฟิกห์นั้น  เขาอาจจะกลายเป็นคนนอกศาสนา  หมายถึงเขาพยายามเดินทางไปสู่อัลเลาะฮ์โดยไม่ใช้การปฏิบัติอะมัลเพื่อเป็นบันใดยกระดับขึ้นไป   เขาก็จะเพ้อเคว้งคว้างหาที่ไปไม่ได้  เพราะจิตใจมุ่งคิดแต่อัลเลาะฮ์ตาอาลาว่า  พระองค์ทรงให้มันเป็นไป  ฉันไม่ทำละหมาดก็เพราะพระองค์ทรงให้เป็น   ทำความชั่วก็อ้างว่าอัลเลาะฮ์คือผู้ทรงให้เป็นไป  โดยไม่ยึดหลักการของฟิกห์ที่เกี่ยวกับข้อบัญญัติใช้และข้อบัญญัติห้าม  ซึ่งดังกล่าวนี้แหละที่จะทำให้เขาเป็นคน "นอกลู่และนอกศาสนาไปในที่สุด" 

กล่าวคือ  บรรดาอะมัล(ฟิกห์)ประหนึ่งรูปร่างที่ดำรงอยู่  วิญญานของมันคือการมี(ตะเซาวุฟ)ความบริสุทธิ์ใจที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ดังนั้นบรรดาอะมัลจึงเปรียบเสมือนการเรือนร่าง  ซึ่งไม่สามารถดำรงอยู่ได้นอกจากด้วยวิญญาน  ฉันท์ใดฉันท์นั้น  บรรดาอะมัลของบ่าวคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการอะมัลในการปฏิบัติด้วยร่างกายหรืออิบาดะฮ์ทางจิตใจ ก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ นอกจากต้องมีความบริสุทธิ์ใจซ้อนเร้นอยู่  ดังนั้น การปฏิบัติอะมัลก็จะมีชีวิตขึ้นมา แต่หากบรรดาอะมัลไม่มีความบริสุทธิ์ใจแล้ว แน่นอนว่า บรรดาอะมัลนั้นย่อมตาย ไร้ค่า อย่างแน่นอน

สรุปคือ  เราต้องเรียนทั้ง 3 หมวดวิชาแบบพื้นฐานไปพร้อม ๆ กัน  ส่วนหลังจากนั้น  หากผู้ใดจะเน้นหนักวิชาอะไร  ก็แล้วแต่เวลาและความเหมาะสมสำหรับตน  เอาจะเด็กไปเน้นหนักเรียนตะเซาวุฟ  ไปเรียนหนังสือฮิกัม  ก็คงจะไม่ได้นะครับ 

والله تعالى أعلى وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged