มัซฮับทางนิติศาสตร์อิสลามนั้น มีจำนวนเท่าไร ??

[Muftee]

Tweet

มัซฮับทางนิติศาสตร์อิสลามนั้น มีจำนวนเท่าไร ?? โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ  มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์


ตอบ..

   มัซฮับฟิกฮฺนั้น มีจำนวนประมาณเกือบๆ 100 มัซฮับ


ดู ตำรา الدين والحياة الفتاوى العصرية اليومية โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีใหญ่แห่งอียิปต์ ในหมวดที่ว่าด้วยเรื่อง ข้อปลีกย่อยต่างๆ ในศาสนา หน้าที่ 238

[hiddenmin]

ขนาดนั้นเลย

แล้วทางอากีดะฮมีกลุ่มพวกไหนบ้างอะ

[salsabeela]

เยอะจัง  แล้วจะให้เลือกอันไหน

[sunny]

อันใหนก็ได้แล้วยึดไว้ให้มั่น

[Al Fatoni]

ตอนเชคอลีย์ จุมอะฮ์มาที่ มอ.ปัตตานี ที่คณะผม เมื่อปี ๒๕๕๒ (หากจำไม่ผิด) อ.ผมแกเข้าไปฟังท่านมุฟตีอลีย์กล่าวปาฐกถาพิเศษด้วย, แกว่า ท่านมุฟตีบอกว่า ที่อียิปต์มีถึง ๘๐ กว่ามัฑฮับ ฉะนั้น อย่าเอาเรื่องความต่างมาทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งเลย ... (สรุปจากคำพูดของ อ.อีกที) - วัลลอฮุอะอ์ลัม, วัสสลามุอลัยกุม

[HaBiBulLah]

เมืองไทยขนาดมี 2-3 มัซฮับยังมีบางกลุ่มที่ชอบโจมตีกัน ฮูก่มไปทั่ว พวกโน้นบิดอะห์บ้าง พวกนี้กาเฟรบ้าง ที่ว่ากลุ่มเองถูกอยู่คนเดียว ส่วนกลุ่มอื่นผิดหมด ถ้าอยากให้มุสลิมสามัคคี มีเอกภาพในประชาชาติ  และนำระบบคิลาฟะห์กลับมาใช้อีก ก็ควรที่จะเลิกฮูก่มมุสลิมด้วยกันซะน่ะ ความแตกต่างทางฟิกฮฺไม่ได้เป็นปัญหาของความแตกแยก
 

[Al Fatoni]

จะว่าไปแล้ว กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ (ตะอัศศุบ) ในมัฑฮับ หรือแนวคิดของตนเองนั้น จะมีแฝงอยู่ในทุกกลุ่ม ซึ่งจะมากน้อยลดหลั่งกันไป แต่ย่อมเป็ความเสื่อมแก่กลุ่มนั้น หากปล่อยให้กลุ่มของตนมีคนที่คลั่งไคล้แบบนี้เยอะ หรือเป็นส่วนใหญ่ของกลุ่ม เพราะมันเสี่ยงต่อการที่จะทำให้คนอื่นมองว่าความคลั่งไคล้ของกลุ่มคนนี้นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่มนั้นไปเลย - วัลลอฮุอะอ์ลัม

[a d n a n]

 

ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้นะเนี่ย 

[Al Fatoni]

ในประเทศไทยเองนั้น คิดว่าหากนับมัฑฮับต่างๆ กันจริงๆ ก็คงจะเกิน ๕ มัฑฮับได้ เช่น
         ๑.) มัฑฮับชาฟิอีย์ ถือเป็นมัฑฮับหลักและเก่าแก่ของประเทศไทย ซึ่งมีผู้ยึดกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้และภาคกลาง
         ๒.) มัฑฮับหะนะฟีย์ อาจถือได้ว่ามัฑฮับนี้มีผู้ยึดมากเป็นอันดับสองของประเทศก็ว่าได้ ส่วนใหญ่เป็นพวกแขกปาทานและผู้ที่มาจากแถบชมพูทวีปที่มาปักหลักในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะอยู่แถวภาคเหนือตอนล่าง เช่นแถวจังหวัดตาก เป็นต้น รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ในบางพื้นที่ เช่นแถวจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น และภาคกลาง และอาจรวมถึงชาวจีนฮ่อที่แถบภาคเหนือตอนบน เช่นแถวจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เป็นต้น
         ๓.) มัฑฮับหัมบะลีย์ สายวะฮาบีย์ หรือที่เรียกตัวเองว่า "สะละฟีย์" จริงๆ แล้วกลุ่มนี้พยายามจะอ้างว่าตัวเองไม่ได้ยึดติดกับมัฑฮับทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเราตรวจสอบดูเนื้อหาคำสอนของกลุ่มนี้ ก็จะมีการอ้างคำสอนแถบทุกเรื่อง โดยเฉพาะจากเชคอิบนุ ตัยมียะฮ์ เชคอิบนุ ก็อยยิม เสียส่วนใหญ่ ซึ่งทั้งสองท่านนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่ายึดมัฑฮับหัมบาลีย์ในเรื่องฟิกฮฺ กลุ่มนี้กระจายอยู่แถบทุกส่วนของประเทศ โดยเฉพาะที่ภาคใต้ตอนล่างและภาคกลาง และอาจขึ้นมาเป็นอันดับสองได้ในเรื่องจำนวนผู้ยึด
         ๔.) มัฑฮับชีอะฮ์ สายอิมามมียะฮ์ ถือเป็นมัฑฮับที่อยู่นอกกลุ่มอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์ เพราะมีความหลักยึดมั่น (อกีดะฮ์) และหลักปฏิบัติ (ฟิกฮฺ) ที่แยกเป็นเอกเทศออกไปต่างหากจากกลุ่มอะฮ์ลุสสุนนะฮ์ฯ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่แถบภาคกลาง และก็มีกระจายไปส่วนอื่นๆ บ้าง โดยเฉพาะภาคใต้ในบางพื้นที่
         ๕.) กลุ่มนอกรีตที่แอบอ้างในนามอิสลาม กลุ่มนี้ถือเป็นคนกลุ่มน้อย แต่ก็ถือว่ามีอิทธิพลในการกำหนดความเข้าใจของผู้คนที่มีต่ออิสลามได้ สมาชิกของกลุ่มนี้อาจมาจากมุสลิมเองบางคนที่สับสนในความคิดของตัวเอง เนื่องเพราะได้รับอิทธิพลทางความคิดจากตะวันตก หรือจากที่อื่นที่อิสลามไม่ให้การยอมรับ เป็นต้น หรืออาจมาจากกลุ่มอื่นที่มีเป้าหมายเพื่อหันเหความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอิสลามไปสู่ความเข้าใจที่ขัดกับอิสลาม โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำลายรากฐานของอิสลามจากภายใน หรือเพื่อยืนยันความเชื่อของตนเองด้วยคำสอนที่มีอยู่ในอิสลาม แม้อิสลามจะปฏิเสธความเชื่อดังกล่าวนั้นไปแล้วก็ตาม
          ๖.) กลุ่มเฅาะวาริจสมัยใหม่ คือกลุ่มที่ต้องการสร้างเอกภาพขึ้นในอิสลามโดยเอามาตรฐานของตัวเองมาเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งมีการปฏิเสธแนวคิดของกลุ่มอื่นอย่างเด็ดขาดไปด้วย ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มนี้ค่อนข้างง่ายต่อการตัดสินแนวคิดอื่นในแง่เสียหาย พร้อมกับพยายามแสดงให้เห็นว่ากลุ่มตนเท่านั้นที่เข้าใจอัลกุรฺอานและอัลหะดีษมากที่สุด กลุ่มนี้ค่อนข้างระบาดหนักในหมู่นักศึกษา โดยเฉพาะแถบภาคกลาง และรวมถึงภาคใต้ตอนล่างบางส่วน โดยปกติแล้วกลุ่มนี้จะไม่มีชื่อเฉพาะของตนเอง แต่มักจะเรียกตนเองด้วยชื่อต่างๆ ที่แสดงถึงความเป็นอิสลาม แต่ในขณะเดียว กลุ่มนี้ก็มักจะได้รับการโจมตีจากแนวคิดอื่นอยู่เสมอ เนื่องเพราะความแข็งกร้าวของกลุ่มนี้ที่มีต่อแนวคิดอื่นนั่นเอง ซึ่งเป็นผลทำให้แนวคิดอื่นไม่ค่อยที่จะให้การยอมรับเท่าไร และบุคคลที่ให้การยอมรับกลุ่มนี้ก็ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักศึกษา และกลุ่มคนที่ไม่รู้เรื่องศาสนาอย่างดีจริง - วัลลอฮุอะอ์ลัม



หมายเหตุ, ข้อมูลข้างต้นนี้เกิดจากประสบการณ์ของตัวผู้นำเสนอเอง ดังนั้น ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย