147.บรรดาผู้เฝ้านรกในอัลกุรอ่าน?? โดย เชค ตอฮา อับดุรรออูฟ ซะอัด
ตอบ... ผู้เฝ้านรกนั้นมีจำนวน 19 ท่านอัลลอฮ์ซุบฮานาฮูวาตาอาลา กล่าวไว้ว่า

29. มันจะเผาไหม้ผิวหนังจนเกรียมดำ (*1*)
(1) โอ้มุฮัมมัดจงปล่อยเข้าไว้กับคนเลวทรามต่ำช้าคนนี้เถิด ข้าจะจัดการกับเขาเอง นักตัฟซีร กล่าวว่าอายาตเหล่านี้ถูกประทานลงมาเพราะ อัลวะลีด อิบนุล มุฆีเราะอฺ ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของกุเรซ ซึ่งอัลลอฮฺทรงให้เขาได้รับนิอฺมะฮฺในดุนยานี้อย่างมากมาย ทั้งทรัพย์สมบัติและลูกหลาน เขามีส่วนผลไม้อย่างมากมายเก็บเกี่ยวผลของมันทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว แต่เขาก็เนรคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺตั้งแต่อายะฮฺที่ 11 ถึง 30เป็นดำรัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ทรงกล่าวประณามถึงพฤติกรรมของอัลวะลีด และการลงโทษของพระองค์ที่จะประสบแก่เขา และเป็นคำกล่าวของอัลวะลีดที่มีต่อท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุละลัยฮิวะซัลลัม อะบูบักร อัลญะซาอิรีย์กล่าวไว้ในหนังสืออัยซะรุตตะฟาซีรว่า สาเหตุแห่งการประทานอัลอายาตเหล่านี้เป็นที่ทราบกันดีว่า พวกกุเรชได้กล่าวหาอัลวะลีดว่า เขาเอนเอียงไปกลับศาสนาของมุฮัมมัด เมื่ออัลวะลีดได้ยินเช่นนั้นก็ปฏิเสธแลสาบานพวกเขจึงขอร้องให้เขากล่าวคำ ๆ หนึ่งเกี่ยวกับอัลกุรอาน เพื่อให้ชาวอาหรับหันห่างออกจากมุฮัมมัด และสิ่งที่เข้าเรียกร้องเชิญชวน อัลวะลีดจึงไปหาท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่ท่านกำลังละหมาดและอ่านอัลกุรอานในเวลาละหมาด แล้วเขาก็ใคร่ครวญและคาดคะเนตามที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงแจ้งไว้ในอัลอายาตเหล่านี้ แล้วเขาก็ได้กล่าวคำพูดที่ปฏิเสธศรัทธาว่า นี่มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นมายากลที่สืบทอดกันมา นี่มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นคำพูดของปุถุชน หลังจากที่เขาได้เคยกล่าวถึงอัลกุรอานไว้ว่า ฉันขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่า อัลกุรอานนั้นเป้นคำกล่าวที่อ่อนหวานนุ่มนวลและเป็นคำพูดที่สูงส่งไม่มีสิ่ง ใดเหนือกว่า เมื่อพวกกุเรชได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็กล่าวว่า ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ กลุ่มชนของท่านจะไม่พอใจท่านเป็นแน่ ๆ จนกว่าท่านจะพูดเป็นอย่างอื่น แล้วเขาก็กล่าวว่า ปล่อยให้ฉันใคร่ครวญก่อนแล้วเขาก็ใคร่ครวญตามที่อัลอายาตได้กล่าวมาแล้วซึ่ง ได้ถูกประทานลงมาเพราเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่อายะฮฺที่ 11 ถึงอายะฮฺที่ 30

30.
เหนือมันมีมะลาอิกะฮฺสิบเก้าท่าน (*1*)
(1) คือยามเฝ้าประตูนรกที่ได้ถูกมอบหมายนั้นมี 19 ท่าน เป็นผู้ที่แข็งกร้าว
ดู معلومات للمؤمنين عن كتاب رب العالمين سؤالا 175 وجوابا عن القرآن الكريم โดย เชค ตอฮา อับดุรรออูฟ ซะอัด หน้าที่ 43