ผู้เขียน หัวข้อ: คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดอัร-ริฎวาน(นานา) 27 มีนาคม 2552  (อ่าน 2486 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สุขภาพกาย-สุขภาพจิต
                  

   พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและละเว้นความชั่วอย่างจริงจัง และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายจนกว่าท่านจะยอมจำนนต่ออัลอิสลามโดยสิ้นเชิง
   พี่น้องครับ นักวิชาการด้านสาธารณสุขได้ปรับเปลี่ยนความหมายของคำว่าสุขภาพดี โดยให้ความหมายว่า การมีสุขภาวะทางด้านร่างกาย ทางจิต ทางอารมณ์ ทางสังคมและจิตวิญญาณ คนที่มีร่างกายแข็งแรงแต่สุขภาพจิตไม่ดี ก็ไม่เรียกว่าสุขภาพดี คนที่เรียกว่ามีสุขภาพดีได้จึงต้องมีร่างกายแข็งแรง เมื่อมีการเจ็บป่วยต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันสุขภาพจิตต้องดีด้วย สุขภาพจิตที่ดีนั้นมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ สังคมและจิตวิญญาณ คนที่มีสุขภาพจิตไม่ดีอาจส่งผลทำให้มีสุขภาพกายไม่ดีไปด้วย เช่นคนที่มีปัญหากลัดกลุ้มใจ นอนไม่หลับ คิดมาก วิตกกังวล เบื่ออาหาร ร่างกายก็จะไม่แข็งแรง บางคนมีระบบขับถ่ายผิดปกติ บางคนเป็นแผลในกระเพาะอาหาร บางคนที่สุขภาพจิตไม่ดีมาก ๆ ก็อาจมีอาการทางจิตปรากฏให้เห็น เช่น เพ้อ คลั่ง บางคนเห็นภาพหลอน บางคนได้ยินเสียงหลอน บางคนก็หลุดโลกไปเลย
   จิตแพทย์ ต่างพยายามหาทางแก้ไขและรักษาด้วยการใช้ยาบ้าง ให้คำปรึกษาบ้าง บางกรณีก็ได้ผล บางกรณีก็ไม่ได้ผลเต็มที่ แต่นักการศาสนาเสนอว่า การใช้ศาสนามาปรับปรุงอารมณ์และจิตวิญญาณ จะช่วยให้มีสุขภาพจิตดี มีความสุขทางอารมณ์ สังคมและทำให้มีสุขภาพโดยรวมดี
   สุขภาพจิตที่ดีตามแนวคิดของอิสลามเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอัลลอฮฺ เพราะมนุษย์มักใฝ่หาความสุขโดยหลงใหลว่าความสุข คือการได้ตอบสนองความต้องการของอารมณ์ อยากร่ำรวย อยากมีทรัพย์มาก ๆ เฝ้าแสวงหาด้วยวิธีการต่าง ๆ เมื่อไม่สำเร็จก็ไม่มีความสุข อยากมีสามีรูปหล่อหรือภรรยาสวย ๆ  รักใครชอบใครก็หลงใหล เมื่อผิดหวังก็เกิดความทุกข์บางคนถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพราะจิตใจไม่สงบ ถ้าเราไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เราจะมีความสุขทางจิต เพราะความสงบของจิตใจ
    การยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ จึงเป็นตัวการของความทุกข์  
   อัลลอฮฺดำรัสว่า

       
“และเราได้ส่งส่วนหนึ่งจากอัลกุรฺอานลงมา ซึ่งเป็นการบำบัดและความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธาและมันมิได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรมนอกจากการขาดทุนเท่านั้น”   
         อัลอิสรออุ์ 17: 82
   นี่คือคำรับรองจากอัลลอฮฺว่า บรรดาโองการหรืออายะฮฺต่าง ๆ ของอัลกุรฺอานนั้นเป็นความเมตตาของพระองค์ที่ประทานลงมาเพื่อช่วยในการเยียวยา เป็นการบำบัดรักษาทางจิตใจให้พ้นจากอวิชาและความหลงผิด และทำลายล้างสนิมที่เกาะกินจิตใจให้พ้นจากความใคร่ ใฝ่ต่ำ ตัณหา ความสกปรก การตระหนี่และการอิจฉา
   บางคนตีความอายะฮฺกุรฺอานนี้ไปในทางหนึ่ง คือเข้าใจว่ากุรฺอานที่เป็นวัตถุสามารถรักษาโรคทางกายหรือทางจิตได้ จึงได้เขียนอายะฮฺกุรฺอานแล้วแช่ไว้ในน้ำแล้วนำน้ำไปดื่มเพื่อรักษาโรค แต่ความหมายที่แท้จริงไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะกุรฺอานเป็นดำรัสของอัลลอฮฺที่จำเป็นจะต้องศึกษา ทำความเข้าใจและนำเอาความรู้ต่าง ๆ ที่ได้จากอัลกุรฺอานมาใช้ โดยเฉพาะความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ เช่น อัลลอฮฺดำรัสในกุรฺอานให้หมั่นระลึกถึงพระองค์โดยใช้วาจาและจิตใจ เมื่อระลึกถึงพระองค์จิตใจจะสงบ

“บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺเท่านั้น ทำให้จิตใจสงบ”      อัรเราะอฺดุ 13 : 28
      บ่อเกิดของความเศร้าหมองและความกังวลต่าง ๆ ของมนุษย์นั้นเป็นเพราะมนุษย์อ่อนแอต่อวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การมีศรัทธาที่มั่นคงและรำลึกถึงอัลลอฮฺเสมอจะทำให้จิตใจสงบ ความวิตกกังวลต่าง ๆ จะลดลง เพราะมนุษย์จะรู้ดีว่า พระองค์คือผู้ทรงอำนาจเด็ดขาดในการบริหารกิจการต่าง ๆ ในสากลจักรวาล สิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบแก่มนุษย์นั้นล้วนเป็นผลมาจากการตอบแทนของพระองค์ที่มีต่อพฤติกรรมของมนุษย์ เมื่อเรารำลึกถึงพระองค์ด้วยความศรัทธา การตอบแทนของเราก็จะเป็นไปในทางบวก ได้รับความเมตตาและความรักจากพระองค์ แต่เมื่อใดที่เราทำตัวห่างเหินพระองค์ ไม่ระลึกถึงพระองค์ การตอบแทนที่เราได้รับจากพระองค์ก็จะเป็นไปในทางลบ จิตใจเราจึงไม่สงบ พระองค์ดำรัสอีกว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงรำลึกถึงอัลลอฮฺโดยการรำลึกอย่างมากมาย และจงแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ทั้งในยามเช้าและยามเย็น พระองค์คือผู้ทรงประทานความเมตตาให้แก่พวกเจ้าและมะลาอิกะฮฺของพระองค์ด้วย เพื่อพระองค์จะนำพวกเจ้าออกจากความมืดทึบทั้งหลายสู่ความสว่าง และพระองค์ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้ศรัทธาเสมอ”      อัลอะหฺซาบ 33 : 41-43
      ในสภาพที่สภาพที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การทำมาหาเลี้ยงชีพกระทำด้วยความยากลำบากมากขึ้น มนุษย์หลายคนอยู่ในสภาพระทมทุกข์เพราะไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางด้านวัตถุของตัวเอง จิตใจเกิดความไม่สงบ กลัวสิ่งนั้นกลัวสิ่งนี้ กลัวอดอยากขาดแคลน กลัวไม่มีเงินเลี้ยงชีพ กลัวไม่มีเงินสนับสนุนการเรียนของลูก ๆ กลัวไม่มีค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย หลายคนยอมทำความผิดเพื่อให้ได้เงินมาสนองความต้องการของตน บางคนวุ่นวายใจ นอนไม่หลับ จิตใจไม่สงบทำให้ไม่มีสมาธิในการคิดแก้ไขปัญหา มองไม่เห็นทางออกและยังเป็นผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางกายตามมา สภาพเช่นนี้แก้ไขได้ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ กระทำตามที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นที่พระองค์ทรงห้าม เมื่อจิตใจสงบพระองค์จะประทานทางออกที่ดีให้
   พี่น้องทราบหรือไม่ว่า ขณะนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา นักการธนาคารหลายคนหาทางออกจากปัญหาเศรษฐกิจด้วยการเป็นคนขับรถแท็กซี่ เหมือนกับนักการธนาคารไทยกลายเป็นคนขายขนมหรืออาหารเมื่อ 10 กว่าปีก่อน การหาทางออกเหล่านี้อาจทำไม่สำเร็จถ้าจิตใจไม่สงบ
   ข้อพึงปฏิบัติสำหรับมุสลิมก็คือ ในทุก ๆ วิกฤติการณ์ ไม่เฉพาะวิกฤติการทางเศรษฐกิจ จะต้องรำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างสม่ำเสมอ จิตใจเราจึงจะสงบและค้นพบทางออก เมื่อใดก็ตามที่เราลืมอัลลอฮฺ ฝ่ายตรงข้าม คือชัยฏอน จะฉวยโอกาสเข้าครอบงำจิตใจ นอกจากจิตใจจะไม่สงบแล้ว ยังอาจทำให้ทางออกที่คิดได้ เป็นทางออกที่ผิด ทางออกที่นำความเสียหายมาสู่ชีวิตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

“และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงพระผู้ทรงกรุณาปรานี เราจะให้ชัยฏอนตัวหนึ่งแก่เขาแล้วมันก็จะเป็นสหายของเขา และแท้จริงพวกมันจะขัดขวางพวกเขาจนออกจากทางที่ถูกต้อง แต่พวกเขาคิดว่าพวกเขาอยู่ในทางที่ถูกต้องแล้ว”      อัซซุครุฟ 43: 36-37
      เมื่อมีปัญหาทางร่างกาย เราพบแพทย์เพื่อรับการรักษา มุ่งหวังจะให้หายจากโรคต่าง ๆ โดยอนุมัติของอัลลอฮฺ เมื่อมีปัญหาทางจิตใจ อารมณ์และสังคม ทางออกที่ถูกต้องคือการรำลึกถึงอัลลอฮฺ เพื่อให้จิตใจสงบแล้วพระองค์จะทรงเมตตา ประทานทางออกที่ดีงามให้แก่เรา ถ้าเราไม่รำลึกถึงพระองค์ ชัยฏอนจะฉวยโอกาสเข้ามาทำให้เกิดความเข้าใจผิด เห็นผิดเป็นถูก แก้ปัญหาด้วยแนวทางที่ไม่ถูกต้อง อันจะส่งผลเสียให้แก่เราทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ


คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสญิด อัร-ริฎวาน(นานา) นครราชสีมา เมื่อ 22 มีนาคม 2554


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 23, 2011, 05:14 PM โดย Bangmud »

 

GoogleTagged