การเมืองในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กำลังบานปลาย หลังมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ โดนคณะกรรมการฯชุดใหม่มีมติปลด นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลาง
ปัญหาความ ขัดแย้งในคณะกรรมการกลางฯได้สุมขอนมานานแล้ว โดยมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก่อนจะมีการเลือกตั้งจุฬาราชมนตรี โดยมีการฟ้องร้องคณะกรรมมการฝ่ายฮาลาล ด้วยข้อหาทุจริตต่อหน้าที่
ก่อนจะนำมาสู่การปฎิวัติเงียบในคณะกรรมการกลางฯด้วยการรวบรวมเสียงมติข้างมากปลด พิเชษฐ ในเวลาต่อมา
และนี่คือ ชนวนนำไปสู่การฟ้องร้องตามมา จนกลายเป็นศึกในคระกรรมการกลางฯที่กำลังบานปลายในขณะนี้…………“พิเชษฐ”ฟ้อง จุฬาราชมนตรี และพวก43คน ข้อหาซ่องโจรกรณี นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีต เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มอบอำนาจให้นายมนตรี ทรงประไพ ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ พงส.(สบ 2) กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พล.ต.ต.สุรินทร์ กับพวก ซึ่งเป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 43 คน ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ และซ่องโจร เหตุเกิดที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก เมื่อวันที่ 4-12 ตุลาคม 2553
ทั้งนี้นายพิเชษฐ ยืนยันว่า ตนเองยังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ ไทย โดยอ้างว่า กระบวนการปลดออกจากตำแหน่งนั้นไม่ถูกต้องตามระเบียบ ดังนั้นการกระทำใดๆ ของคณะกรรมการกลางฯ ชุดที่มี พล.ต.ต.สุรินทร์ เป็นเลขาธิการนั้น จึงถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย โดยกล่าวหาคณะกรรมการกลางฯ ทั้ง 43 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยประชุม ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นเงินกว่า 4 แสนบาทว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ และซ่องโจร
“สมัย เจริญช่าง” ขู่ฟ้องกลับต่อมา(17ม.ค.) นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา โดยระบุว่า กรณีที่ นายพิเชษฐ ฯ ส่งทนายดำเนินคดีนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 43 คนในข้อหาลักทรัพย์ และซ่องโจร เพราะ นายพิเชษฐ ต้องการดิสเครดิตในการคัดเลือกจุฬาราชมนตรี เพราะญาติของนายพิเชษฐ ชิงตำแหน่งด้วย แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก รวมทั้งเรื่องตำแหน่งเลขาคณะกรรมการฯที่มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่นายพิเชษฐไม่ยอมรับ จึงพยายามส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ซึ่งตามข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้ ขณะนี้ได้สร้างความเสียหายไปยังต่างประเทศ เพราะคณะกรรมการอิสลามกลางถือเป็นองค์กรที่รับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยจุฬาราชมนตรี เป็นผู้ลงนาม
“ ไม่ทราบว่าเจตนาลึกๆนายพิเชษฐ ต้องการอะไร เพราะเรื่องนี้ทำให้เสื่อมเสีย ถึงคณะกรรมการฯและกระทบจิตใจของพี่น้องชาวมุสลิม ข้อหาดังกล่าวถือว่าร้ายแรง “นายสมัยกล่าวและว่า
ทั้งนี้ นายพิเชษฐ อาจจะไม่เข้าใจเพราะมาเป็นมุสลิมตอนหลัง เนื่องจากครอบครัวไม่ได้เป็นมุสลิมมาก่อน จึงไม่ตระหนักถึงสิ่งที่กล่าวหาว่าสร้างความเจ็บปวดให้ชาวมุสลิม
นายสมัย ระบุว่า โดยเฉพาะข้อหาซ่องโจร ทั้งที่การประชุมทุกครั้งจะมีจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับโปรดเกล้าฯ และเป็นประธานในการประชุมทุกครั้ง จะเป็นซ่องโจรได้อย่างไร นอกจากการจ่ายเบี้ยประชุม ส่วนข้อหาลักทรัพย์เข้าใจว่าพยายามจะยัดเยียดข้อหาว่าจ่ายเบี้ยประชุมโดยไม่ ชอบ อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการกลางจะดำเนินคดีกับพิเชษฐ ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพะข้อหาหมิ่นประมาทแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
"พิเชษฐ"สวน"อย่าเอาจุฬาราชมนตรี มาสร้างกระแสกลบความผิด” ต่อมา (18 ม.ค.) นายพิเชษฐ สถิรวาล อดีต เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวตอบโต้ นายสมัย เจริญช่าง รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ออกมาให้ข่าวดังกล่าว โดยขอชี้แจงว่า
การออกมาให้ข่าวของนายสมัย เท่ากับเป็นการสร้างกระแสความเป็นจุฬาราชมนตรี ให้คนเกลียดชังตนเอง ในการดำเนินคดีกับนายอาศิส ทั้งนี้เพื่อกลบความผิด โดยแต่ไม่ได้มองในเรื่องของความถูกต้อง
“ขอยืนยันว่า การกระทำของตนเองนั้น ได้ทำไปตามพยานหลักฐาน และใช้เอกสารวาระการประชุม เอกสารมติจากที่ประชุมคณะกรรมการ กอท. พยานบุคคลประกอบการร้องทุกข์กล่าวหา “ นายพิเชษฐ กล่าวและว่า
โดยในวันที่ 20 มกราคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จะเรียกพยานไปสอบปากคำ รวมทั้งตนด้วย ส่วนการดำเนินการฟ้องผ่านทางศาลยุติธรรมนั้น ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ทางศาลเรียกไต่สวนมูลฟ้อง พล.ต.ต.สุรินทร์ ต่อไป
"ผมขอร้อง นายสมัย อย่าเบี่ยงเบนประเด็น เอากระแสคำว่า จุฬาราชมนตรี มากลบความผิด แต่ต้องยึดหลักความถูกต้อง ช่วยกันทำให้องค์กรมุสลิมเคลียร์ โปร่งใส แต่ขณะนี้ผมยังถือว่ามติที่ประชุมโดยอาศัยข้อบังคับพ.ศ.2525 เดิม ในการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการชุดเก่าที่มีผมเป็นเลขาธิการสกอท. นั้นไม่มีผลใดๆ เพราะผมมาจากพรบ.บริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2554 ไม่เกี่ยวกับข้อบังคับเดิม"นายพิเชษฐ กล่าวและว่า
ส่วนสาเหตุการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการชุดเดิมนั้น เนื่องจากกรรมการฯชุดเดิมได้พบการทุจริตในกิจการฮาลาล เบิกจ่ายเงินกันอย่างไม่ถูกต้อง และทางคณะกรรมการได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ลำหิน กทมนายพิเชษฐ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง พล.ต.ต.สุรินทร์ และคณะกรรมการทุกคนแล้ว ว่า ไม่ให้เข้าไปดำเนินการ หรือ จัดประชุมใดๆ ใน สกอท. เพราะถือว่าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ พล.ต.ต.สุรินทร์ กับพวกยังละเมิด จึงต้องร้องทุกข์กล่าวหาดำเนินคดีต่อไป
กรรมการอิสลามสงขลา ฮึ่มป้องจุฬาราชมนตรี
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรม การอิสลามประจำจังหวัดสงขลา องค์กรอิสลามใน จ.สงขลา ซึ่งประกอบด้วยคณะ กรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ชมรมผู้บริหารมัสยิด จ.สงขลา และสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จ.สงขลา กว่า 500 คน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ โดยเป็นการตอบโต้กรณีที่ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หลังจากแจ้งความดำเนินคดีกับนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกลางอิสลาม แห่งประเทศไทยรวม 43 คน ในข้อหาซ่องโจรและลักทรัพย์
ศึกในคณะกรรมการกลางฯในครั้งนี้ เป็นเพียงการนับหนึ่งความขัดแย้งเท่านั้น เพราะต่างฝ่ายต่างนำการเมืองมาเเดนเกม ในองค์กรศาสนา จนกระทั่ง วันนี้ จึงไม่อาจแยกองค์กรศาสนาออกจากการเมืองได้ในที่สุด

ที่มา
http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?page=sub&category=109&id=16401