
คำพูดของ อ.อะลี ที่ว่า
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ได้สามวันเจ็ดวันเนี่ยน่ะ คนที่เขาทำก็ทำอยู่ เขาก็หาหลักฐาน ซึ่งมันก็เป็นหลักฐาน ที่เกิดจากรุ่นตาบิอีน เช่นฏอวูส อย่าว่าแต่ตาบิอีนเลยพี่น้อง คำกล่าวของซอฮาบะฮ์ยังไม่เป็นหลักฐานเลย นักวิชาการอุศูลเขาถือกันอย่างน้าน...สรรหาอะไรกับคำของตาบิอีน ตาบิดีนเขาทำก็เป็นเรื่องของตาบิอีน มันไม่เป็นศาสนาหรอกพี่น้อง
ส่วนตัวผมนั้น เห็นด้วยกับคำพูดของ อ.อะลี เสือสมิง "การไปกำหนดว่าจะต้องทำสามวัน พอถึงเจ็ดวันก็ต้องทำ สี่สิบวันก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ อื่นจากนี้ก็ไม่ได้ ตัวนี้แหละมันมีปัญหา" เพราะบางทีคนเราไม่สะดวกในเรื่องทรัพย์สินที่จะทำศ่อดาเกาะฮ์ แต่ก็ต้องฝืนทำกัน สร้างภาระให้แก่ตนเองที่เป็นครอบครัวมัยยิด
ส่วนกรณีที่มีความสะดวก วาริษ(ทายาท)ต้องการใช้ทรัพย์สินส่วนตัว(ที่ไม่ใช่มรดกของผู้ตาย)ทำการศ่อดาเกาะฮ์ให้แก่มัยยิด ไม่ว่าจะศ่อดาเกาะฮ์ด้วยวิธีใดก็ตาม ก็อนุญาต(ยาอิซ)ให้กระทำได้
ส่วนฮะดีษของท่านฏอวูสและฮะดีษของท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ มาสนับสนุนนั้น ต้องพิจารณาเชิงวิชาการเพิ่มเติมสักนิด คือ:
1. ฮะดีษฏอวูสนั้น หมายถึง ท่านฏอวูสได้ทำการเล่าการกระทำของซอฮาบะฮ์ ไม่ใช่ท่านฏอวูสเล่าการกระทำของตัวท่านเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่คำพูดหรือการกระทำของซอฮาบะฮ์นั้น ต้องรายงานโดยอัตตาบีอีน ดังนั้นฮะดีษของท่านฏอวูสดังกล่าว ไม่ได้มาวิเคราะห์ว่าคำพูดตาบิอีนนำมาเป็นหลักฐานได้หรือไม่? แต่ต้องมาวิเคราะห์ว่าการกระทำของซอฮาบะฮ์นั้นนำมาเป็นหลักฐานได้หรือไม่?
2. คำพูดของศอฮาบะฮ์นำมาเป็นหลักฐานได้หรือไม่? ตามหลักอุลามาอฺอุศูล (อุศูลฟิกห์) มีระบุว่าอย่างไร? มีอุลามาอฺระดับมุจญฺตะฮิด(ซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นอุลามาอฺอุศูลุลฟิกห์อยู่ในเชิงเงื่อนไขการเป็นนักมุจญฺตะฮิดอยู่แล้ว)และอุลามาอฺอุศูลโดยเฉพาะ ได้นำเสนอรายงานละเอียดเกี่ยวกับการนำคำพูดของศอฮาบะฮ์มาเป็นหลักฐานได้หรือไม่อย่างไร? และคำพูดของศอฮาบะฮ์แบบใหนที่อยู่ในฮุกุ่มมัรฟั๊วะอฺ (อ้างถึงนะบีได้)
3. การกระทำของศอฮาบะฮ์นั้น อย่างน้อยสุด นำมาเป็นหลักฐาน "ญาอิซ" (อนุญาต คือทำก็ไม่ได้ไม่ทำก็ได้) ไม่ใช่นำมาเป็นหลักฐานวายิบต้องทำหรือฮะรอมทำ คือจะมาบอกว่าวายิบต้องทำศอดาเกาะฮ์ 7 วันก็ไม่ได้ และจะมาบอกว่าฮะรอมทำศอดาเกาะฮ์ 7 วันก็ไม่ได้ แต่แค่อนุญาตให้กระทำเท่านั้นเอง ซึ่งที่ให้กระทำได้ เพราะมีนัยยะแวดล้อมตามหลักของศาสนา คือผู้ตายจะถูกถามในกุบุรถึง 7 วัน ฉะนั้นช่วงเวลาดังกล่าวทายาทและพี่น้องมุสลิมก็จะทำศอดาเกาะฮ์และขอดุอาให้แก่มัยยิด เพื่อจะได้ประทานความสะดวกง่ายดายแก่ผู้ตายในการสอบถามในกุบูร ซึ่งเป็นดุอาที่ไม่ต้องห้ามแต่ประการใด (ทั้งหมดสำหรับผู้ที่นำฮะดีษฏอวูสมาเป็นหลักฐาน แต่บรรดาบุคคลที่ไม่เชื่อในฮะดีษฎอวูส ผมไม่ขอเอ่ยถึง) ส่วนทำบุญ 40 และ 100 วันนั้น ผมหาหลักฐานไม่เจอว่ามีนัยยะแวดล้อมอย่างไรที่ผลักดันให้ทำบุญเป็นกรณีพิเศษ
แต่ประเด็นเดียวที่ผมอยากให้พี่น้องนักศึกษาแห่งเว็บนี้ที่ถนัดในการค้นคว้าเชิงวิชาการ ช่วยนำเสนอรายละเอียดตามหลักอุศูลุลฟิกห์ในเรื่องของ حُجِّيَةُ قَوْلِ الصَّحَابِيِّ "การนำคำพูดของศอฮาบะฮ์มาเป็นหลักฐาน." กันหน่อยครับเพื่อพี่น้องจะได้รับความรู้โดยทั่วกันน้อง Muftee ,น้องบาิชิร ,น้องAs-Zaleek ,น้อง Innocence ,น้องAl Fatoni ,และท่านอื่นๆ ลองหาข้อมูลกันดูน่ะครับ จะเป็นข้อมูลเดิมในเว็บนี้หรือค้นคว้าจากตำราหนังสืออุศูลุลฟิกห์ก็ได้
วัสลาม