ตอนที่ 3 วันต่อวัน
อ่านไม่จบห้ามกดไลค์ กดแชร์ และ ห้ามถาม !!!
แต่ถ้าอ่านจบแล้วไม่เข้าใจถามได้เต็มที่
ยังมีรูปใหม่มาให้ยลกันอีก...
ก็ต้องจัดกันต่อไป จนกว่าจะหยุดแล้วเลิกว่าผู้อื่น
ด้วยความรัก ผมมิได้ต้องการสร้างฟิตนะใดๆ
แต่แค่ต้องการยุติสิ่งที่พวกท่านกำลังสร้าง
เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเผยแพร่
จึงมีการอธิบายเกิดขึ้น ... ขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน
จากฮะดิส ความว่า
จากท่านอุรฺวะฮฺ บิน มุฎ็อรฺริส เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า
ท่านได้ทันพบท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
ณ มุซดะลิฟะฮฺขณะออกไปละหมาดฟัจญร์
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวแก่เขาว่า
“ผู้ใดร่วมละหมาดกับเราซึ่งละหมาดครั้งนี้ และได้ทำการวุกูฟพร้อมกับเรา
กระทั่งเราเคลื่อนตัวออก โดยที่เขาได้ทำการวุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟะฮฺ
ก่อนหน้านั้นในเวลากลางคืนหรือกลางวัน
ก็เท่ากับว่าเขาได้ประกอบพิธีหัจญ์เรียบร้อยแล้ว
และได้เสร็จสิ้นภารกิจของเขา”
(บันทึกโดย อบูดาวุด : 1950 และอัตตัรมิซีย์ : 891)
แสดงว่า ช่วงเวลาของการวุกุฟจริงๆ คือ
เวลาละหมาดดุฮฺริ ถึง มักริบ (หมดอัสริ)
หรือเวลาประมาณ 13.00 น. ถึง 17.00 น. ในตาราง
ประเด็นวิจารณ์มีดังนี้
1. เราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์ ว่า
...ช่วงถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับช่วงการวุกูฟ
2. เราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์ ว่า
...ช่วงถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับวันอะรอฟะ
3. เราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์ ว่า
...วันถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับวันอะรอฟะ
ประเด็นที่ 1
ถ้าเราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์
ช่วงถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับช่วงการวุกูฟ
ตารางตามรูปนี้ก็ผิดเต็มๆ เพราะว่าการวุกูฟ มีช่วงเวลาคือ 13.00 น.-18.00 น.
เช่นนั้นแล้วมันก็ต้องเอาเส้นที่ทำก่อน บ่ายโมง ของซาอุฯ ออกไปด้วย
ซึ่งจะได้ใหม่ดังนี้คือ
หากเราเอาวันอะเราะฟะ วันที่ 3 ตุลาคมในไทยเทียบกับซาอุฯ จะได้ว่า
จะมีเวลา วุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟาตคาบเกี่ยวกับการถือศีลอด คือ 1 ชั่วโมง !!!
( ตามกรอบที่เขียนให้ใหม่ )
ดังนั้นเรากลับมาย้อนดูฮะดิสสิว่า มีฮะดิสบทไหนไหม ที่อ้างเรื่องช่วงเวลา
มีแต่อ้างเรื่องของวัน เช่น วันอีด,วันถือศีลอด,วันที่ 29 และ วันที่ 30 เป็นต้น
การถือศีลอด นับเป็นวัน มิได้นับเฉพาะช่วงเวลา
เพราะมันจะทำให้เกิดเรื่องสับสนวุ่นวาย
อันจะอธิบายต่อไปนี้
1.1 เพราะหากเอาตามแค่ช่วงเวลาที่เกี่ยวกัน เวลาถือศีลอดจริงๆ ก็แค่ชั่วโมง
1.2 หากเอากันอย่างจริงๆ จังๆ เฉพาะในปลายปีสากลเท่านั้นที่กลางคืนนาน
เวลาคาบเกี่ยวจริง ที่อ้าง จะลดเหลือไม่ถึง 40 นาที !!
แล้วหากคำนึงถึงประเทศอื่นๆ ที่เวลาก่อนเราอีก 1 ชั่วโมง
อย่างฟิลิปปินส์,อินโดฯ มันก็หมดเวลาไปแล้วล่ะ
หรือกับแค่จังหวัดของไทยซีกตะวันออกก็เหลือแค่ 30 นาทีแล้ว
ยังไม่หมดนะ ถ้าเป็นประเทศที่ตรงข้ามกับซาอุฯ ล่ะ จะทำอย่างไร

1 วันรอบโลกคือ 24 ชั่วโมง ตรงข้ามกันของซีกโลกก็ต้องห่างกัน 12 ชั่วโมง
แล้วจะเอาเวลาไหนไปถือศีลอดให้ตรงช่วงเวลากับที่หุจญาจวุกูฟเล่า
ลองคิดดูสิ เมื่อเวลาซาอุฯ ตรงข้ามกับสหรัฐซีกตะวันตก ( อลาสก้า )
ถ้าหุจญาจวุกูฟเวลา 13.00 น. - 18.00 น.
แล้วเวลานี้จะบวชกันอย่างไร ในเมื่อสหรัฐคือ ตี 1 ถึง 6 โมงเช้า
ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเวลาก่อนซาอุฯ ถึง 6 ชั่วโมงล่ะ
ก็จะกลายเป็นว่า เวลานั้น ที่ญี่ปุ่น มีเวลา 19.00 น. - 24.00 น.
แล้วเช่นนี้เราจะเอาเวลาที่ไหนไปบวช !
1.3 ดังนั้นประเด็นที่อ้างว่า ให้ดูว่ามีช่วงเวลาตรงกันไหม
จึงเป็นประเด็นที่ไม่มีใครเขาเอากันเลย
มันคือทัศนะเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นหรือเปล่า
หากเป็นประเทศอินโดฯ มาเลเซีย ญี่ปุ่น ทัศนะนี้ใช้ไม่ได้เลย
เพราะเวลามันไม่ตรงกับช่วงเวลาที่วุกูฟ และเป็นทัศนะที่ผมไม่เคยรู้จัก
ประเด็นที่ 2
ถ้าเราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์ว่า
ช่วงถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับวันอะรอฟะ
การดูช่วงเวลาสลับกับการดูวัน มีหลักฐานจากที่ใดให้ใช้ได้เช่นนี้
ไม่มีที่ใดเขาดูเรื่องเวลาคาบเกี่ยวเป็นรายชั่วโมงแล้วนำมาคาบเกี่ยวกับรายวัน
แต่เขาใช้วันในการเทียบกันกับวันซึ่งเหมือนกัน จากฮะดิสความว่า
"และวันอะเราะฟะคือวันที่พวกเจ้าต่างชุมนุมกัน ณ ทุ่งอะเราะฟาต"
ก็ต้องถามกลับไปว่า ตกลงจะเอาทุ่ง ตกลงจะเอาการวุกูฟ
หรือ ตกลงจะเอาวันกันแน่ จะเอาอะไรก็เอาซักอย่างสิ
2.1 ถ้าเราต้องการนับวันอะเราะฟะเต็มวัน
ในวันที่มีการวุกูฟ วันนี้ก็จะมี 24 ชั่วโมง
2.2 และถ้าเราจะนับว่าการถือศีลอดในหนึ่งวันมี 12-13 ชั่วโมง ( ครึ่งวัน )
ก็จะได้ทัศนะใหม่ว่า
ให้นับการถือศีลอด 1 วัน เท่ากับ ช่วงเวลาตั้งแต่ ซุบฮฺ - มักริบ ( ครึ่งวัน )
มาเกี่ยวกับการวุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟาต 1 วัน เท่ากับ
ช่วงเวลาตั้งแต่มักริบถึงมักริบของวันใหม่ ( 24 ชั่วโมง )
ทัศนะเช่นนี้ มีที่ใดในโลกเขาทำกันหรือ ?
ว่าอนุญาตให้นับวันอะเราะฟะ เมื่อเหนียตจะไปวุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟาตได้
แต่ไม่นับวันถือศีลอด แม้จะเหนียตว่าฉันจะถือศีลอดวันนี้ ( ซุบฮฺ - มักริบ )
แล้วนับวันถือศีลอดเพียงช่วงเวลา 12-13 ชั่วโมง
จึงอยากจะถามว่าทัศนะนี้ใช้กับวันที่เราถือศีลอดในรอมฎอนด้วยหรือไม่ ?
เพราะการถือศีลอดฟัรดูต่างจากสุนัต
หากเราเหนียตว่าจะถือศีลอดวันนี้ ก็ต้องเหนียตในตอนกลางคืน
แต่เรากลับนับช่วงถือศีลอดในช่วงซุบฮฺ-มักริบเท่านั้น
แสดงว่า...
แม้เราจะเหนียตว่าจะถือศีลอดในช่วงกลางคืนก็ยังไม่เป็นวันที่เราถือศีลอด
แต่ทำไมวันที่เขาจะมีการวุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟาต แต่ยังไม่เกิด
กลับนับว่าเป็นวันอะเราะฟะได้ เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วจริงหรือ ?
ประเด็นที่ 3
ถ้าเราเอาตามการอ้างความสัมพันธ์ว่า
วันถือศีลอดต้องคาบเกี่ยวกับวันอะรอฟะ
การตามแบบด้านขวา ที่ตามแบบสำนักจุฬา มันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน
ยังไง วันก็คาบเกี่ยวกันอยู่แล้ว 4 ชั่วโมง
หรือจะตามแบบประกาศซาอุฯ ( ที่อ้างว่าตามซาอุฯ แต่จริงๆ แล้ว นำหน้า )
มันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหนเช่นกัน เพราะมันคาบเกี่ยวกันถึง 20 ชั่วโมง
แต่เพราะเวลาไม่มีส่วนที่จะบอกว่าให้ใช้เวลาคาบเกี่ยวที่มากหรือน้อยกว่า
เอามาเป็นทัศนะในการนับวัน ดังนั้นเวลาที่มากกว่าน้อยกว่าจึงไม่นำมาคิด
และเพราะประเด็นที่เรากล่าวคือ เวลาของเราจะนำหน้าซาอุฯ 4 ชั่วโมง
หากเราพิจารณาจริงๆ การนำ 4 ชั่วโมง นี่มิใช่เรื่องตามแต่อย่างใด
เพราะเวลาที่นำหน้าก็คือนำหน้า หาใช่ได้ตามไม่
ในเมื่อการชุมนุมยังไม่เกิดขึ้นจริง
ไฉนเลยจึงกล้าพูดว่าวันที่เราถือศีลอดเป็นวันอะเราะฟะตามซาอุฯ
แท้จริงแล้ว ถ้าเราจะพูดว่า วันอะเราะฟะ คือวันที่กำลังจะมีการวุกูฟ
( ดุฮฺริ - อัสริ ) มันก็ควรจะพูดได้เหมือนกันว่า วันที่เราถือศีลอด
ก็คือวันที่เรากำลังจะมีช่วงเวลาการถือศีลอด ( ซุบฮฺ - มักริบ )
ตัวอย่างที่เข้าใจง่ายก็คือ
หากวันนี้เรารถชน เราก็จะบอกกับเพื่อนว่า วันนี้ฉันรถชน
คำว่า วันนี้ฉันรถชน มิได้หมายถึง เราขับรถชนตลอด 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด
เฉกเช่นวันอะเราะฟะ มีการวุกูฟ ณ ทุ่งอะเราะฟาต แค่ครึ่งวัน
และก็เฉกเช่นวันถือศีลอด ก็มีการถือศีลอดในเวลากลางวัน
ก็ถือว่า เป็นวันอะเราะฟะ และ วันถือศีลอด ด้วยกันทั้งนั้น
... ... ... ... ... ... ... ...
สรุปแล้วนั้น การที่เราได้นับวันอะเราะฟะ ให้สัมพันธ์กับ วันที่เราถือศีลอด
วัน เทียบกับ วัน เช่นนี้ ก็ถือว่าจบสิ้น ไร้ความวุ่นวาย ไร้ข้อกังขา และยุติธรรม
มิใช่ทำได้แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่มันสามารถใช้กันได้ทุกประเทศ
ไม่ว่าจะต่างกันกี่ชั่วโมงก็ตาม และมันก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่อ้างว่า
ช่วงเวลาถือศีลอดต้องตรงกับวันอะเราะฟะเลย
ด้วยความเคารพรัก และ ห่วงใย
วัลลอฮฺอะลัม...
การดูฮิลาล การเข้าวันที่ 1 การที่เดือนมี 29 หรือ 30 วันนั้น
มิใช่เป็นเรื่องของความบังเอิญ มิใช่เป็นแค่เรื่องของการทำอิบาดะโดยตรง
แต่มันคือเรื่องของการแสดงถึงพลังอำนาจ
การแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ ความเมตตา
และความยุติธรรมของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้
ขอให้พี่น้องศึกษา,เปิดใจกว้าง และทำความเข้าใจดูเถิด
หากท่านเข้าใจแล้ว จะไม่เชื่อหรือไม่ยึดถือตาม ก็มิได้เป็นปัญหาอันใด
สุดท้าย ถึงแม้ว่าทัศนะจะมีหลากหลายให้ยึดถือ
แต่การตามผู้นำของเราเพื่อสร้างเอกภาพในหมู่มุสลิมก็ย่อมเป็นที่สมควรยิ่ง
ขอให้พระองค์ทรงประทานความโปรดปรานและความเมตตามายังเรา
อามีน...

อ่านจากในเฟส
http://goo.gl/K0UBAb