ผู้เขียน หัวข้อ: ตุ๊ด กระเทย เกย์ เป็นโรคไม่ใช่หรือ? ทำไมอิสลามถึงตัดสินอย่างนั้น ?  (อ่าน 5964 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ khata

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 209
  • เพศ: หญิง
  • ซอบัร ซอบัรและซอบัร
  • Respect: +5
    • ดูรายละเอียด
ก็เคยได้ยินนะว่า ในไก่จะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูง ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เลี้ยงต้อการเร่งไก่ให้โตเร็ว เนื้อแน่น (อันนี้ฟังจากทีวีอีกที) ดังนั้น คนสมัยนี้ชอบบริโภคไก่กันมาก จึงทำให้ผู้ชายบางคนที่ชอบกินไก่นั้นจะมีการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงไปในตัวเอง แล้วอาจทำให้เป็น...ได้ เค้าว่างี้นะ ใครได้รับข้อมูลเหมือนกันบ้าง มาช่วยวิจารณ์หน่อย อิอิ

ใช่ เป็นข้อมูลที่เป็นไปได้สูง เคยได้รู้มาเช่นกัน..

แต่ทั้งหมดหากไม่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หมายถึง 2 เพศ  คือ อวัยวะบ่งบอกว่าเป็นชาย แต่จิตใจอยากเป็นหญิง..
เราคิดว่าชัยตอนหลอกล่อ ให้ทำการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ..
แต่เราต้องยึดมั่น ขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺให้ตัวเราห่างไกลจากทางที่หลงผิด

เพราะกระเทย ตุ๊ด ชอบอยู่กับพวกเดียวกัน แต่ถ้าเราต้องการจะกลับตัวกลับใจ เราก็ต้องเข้าใกล้อัลลอฮฺมาก ๆ ละหมาด และเข้ากลุ่มพี่น้องมุสลิม ฟังเรื่องราวการลงโทษของผู้ที่ชอบทำตัวเลียนแบบเพศตรงข้ามบ่อย ๆจะได้กลัวการลงโทษจากอัลลอฮฺ..
ฉันไม่มีอะไรพิเศษหรอก หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์ให้ฉันเป็น

ฉันจะขอยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺจนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

ออฟไลน์ tatcha_jah ~♪

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 341
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
น้องจ๊ะก็พูดมีเหตุผลเป็นด้วย...  hihi: hihi: hihi:

คนสวยก็ไม่ได้โง่เสมอไปนะ


ผู้ศรัทธาต่ออัลลอห์...ท้ายสุดจะได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในวันอาคิเราะห์

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
เจอต้นตอแห่งที่มาของคำถามจนได้
มันคือเรื่องของ "Gay Gene" นี่เอง หรือยีนที่เป็นตัวกำหนดว่าเป็นเกย์แน่นอน

ขออัลลอฮ์ตอบแทนน้องๆที่ช่วยหาข้อมูลให้
ทั้งด้านวิชาการ และด้านลึกจากสนามจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 06, 2011, 01:49 AM โดย beechern »
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
บางทีนะคะ...วิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจให้คำตอบได้หมดหรอกค่ะ
นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงเป็นมนุษย์อย่างเราๆ ที่มีซีฟัตเหมือนกัน
เขาคงไม่อาจล่วงรู้ความลับในร่างกายและจิตใจหรือสิ่งที่อัลลอฮฺ
สร้างมาได้เท่ากับอัลลอฮฺ...

ข้าน้อยเชื่อว่า สิ่งที่อัลลอฮฺสั่งใช้และสั่งห้ามย่อมมีความมีศิริมงคล
และเป็นสิ่งที่ดีต่อเราอย่างแน่นอน...

การที่ผู้ชายอยากกลายร่างเป็นผู้หญิง ทั้งๆที่เกิดมาเป็นชาย
เราจะเหมาว่าเป็นโรคตามแพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์ว่าไม่ได้ 100%
หรอกค่ะ...หรือจะบอกว่า อัลลอฮฺกำหนดให้เขาเป็นแบบนั้นมาแต่เดิม
ให้เขามีความผิดปกติมาแต่เกิด...เราจะพูดอย่างนั้นได้เต็มปาก
ได้อย่างไร ในเมื่อเราก็เห็นๆอยู่ว่าอัลลอฮฺให้เขาเกิดมาในเพศใด
อัลลอฮฺเลือกเพศให้เขาแล้ว และการที่เขาจะพยายามทำตัว
เลียนแบบผู้หญิง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นเพศหญิงได้สำเร็จนะคะ
เพราะเพศหญิงก็คือเพศหญิง เพศชายก็ยังคงเป็นเพศชาย...

ที่เขาทำได้ก็แค่เลียนแบบ...แค่การพยายามเลียนแบบเพศเท่านั้น...
ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถแปลงเพศได้สำเร็จจริงๆ...
น่ั่นเพราะว่า...เพศถูกกำหนดมาแล้ว และบทบาทหน้าที่ของเพศ
แต่ละเพศก็ถูกกำหนดพร้อมบรรจุมาแล้วแต่เดิม
การจะมาแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
การสร้างมาแต่เดิมนั้น มันจะไม่ผิดได้อย่างไร...
เพราะแค่เราเสริมจมูกเพื่อสนองนัฟซูของเราก็เป็นสิ่งต้องห้ามแล้ว...

การที่ผู้หญิงต้องอุ้มท้องนั้น มันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแต่เดิมแล้ว
อัลลอฮฺสร้างมาให้ผู้หญิงมีหน้าที่อุ้มท้อง...
แม้ผู้หญิงจะรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ หรือจะรู้สึกว่าอัลลอฮฺไม่ยุติธรรม
ที่ให้ผู้หญิงต้องแบกลูกน้อยและยังเจ็บปวดกับการคลอดอีกก็ตาม
สิ่งเหล่านั้นมิใช่เหตุผลให้เราตัดพ้อต่ออัลลอฮฺ...
พระองค์สร้างเรามาเพื่อสรรเสริญพระองค์...และการที่ผู้หญิงอุ้มท้อง
ก็ไม่ได้หมายถึงพระองค์อธรรมกับเพศหญิง แต่นี่คือบทบาทของเพศหญิง และอัลลอฮฺได้กำหนดหน้าที่ในแต่ละเพศมาให้เราแล้ว...

การที่เราไม่พอใจในกำหนดของอัลลอฮฺนั้น...ไม่ว่าจะเป็นที่เพศที่ถูกกำหนดมา หรือรูปร่างหน้าตา หรือชาติตระกูล...
มันหมายความว่าอย่างไร...

เพราะสำหรับบางคนต่อให้มีอะไรมากมายสักแค่ไหนก็ไม่เคยพอใจ
ไม่เคยเพียงพอ ในขณะที่บางคน แค่อัลลอฮฺ ก็เพียงพอแล้ว...

ปล.เดี๋ยวนี้ ตุ๊ด กระเทย เกย์ มีเกลื่อนเมืองเลย...
แล้วประชากรโลกจะเป็นเช่นไรในอนาคตอันใกล้...
คิดแค่นี้ เราก็เห็นแล้วว่า การที่คนในปัจจุบันเริ่มหันมารักร่วมเพศกัน
มากขึ้นนั้น ส่งผลกระทบในด้านใดบ้าง...มันชัดเจนมาก
และน่ีอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงห้ามมัน...

วัสลามค่ะ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
ต๊ายยยยยย เค้าก็จบโรงเรียนชายล้วนมา  natural:

ออฟไลน์ babyboy300

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 25
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
 :salam:   เนื่องจากเห็นหัวข้อดังกล่าวจึงข้อแสดงความคิดเห็น จาดารสังเกตของตัวกระผมเอง และได้ศึกษา ตามหลักจิตวิทยามาก็บ้าง
ผมข้อสรุปประเด็นตาม สิ่งที่ผมสังเกตุ มาดังนี้ครับ. ตุ๊ด กระเทย เกย์ เกิดมาจากสาเหตุใด

1.การสาบาน หรือ การ สาแช่ง ...ของผู้ใดๆก็ตาม ..ที่เคืองแค้นหรือว่าไปกระทำลูกๆหลาน. ๆ เช่น ลักลอบกระทำ ซินาไปทั่ว โดย ไม่คิดจะนิกะ.....ก็อาจจะโดน สาบแช่ง ให้ลูกให้ หลานเป็นตุ๊ด เป็นกระเทยไป. ....หรือ
                 การสาบาน ของคนสองคน เช่น ถ้าไม่สามารถทำตามสัญญาที่ ตกลง กันไว้ได้ ก็ ขอ ให้มีอันเป็นไป. ถ้าในกรณีที่สำคัญ ขั้นคอขาดบาดตาย....เช่น การให้สัตยญาบัน ของแผ่นดิน. ..คำสาบแช่งก็รุ่นแรงมากๆ. ...ถ้าผิดคำ สาบาน ก็อาจจะมีผล ขึ้นอยู่ที่ว่าได้ สาบานอะไรไว้....
                 การสาปแช่ง.....ของผู้ที่ถูกกระทำ เช่น นาย ก. เป็นคนเจ้า ชู้มากๆ ไปทำลูกสาว เค้าไว้ ทั่ว. ...ทำแล้วยังไม่คิดรับผิดชอบอีก
ก็อาจจะถูก พ่อของฝากสาว สาปแช่ง ให้สูญพันธ์ สิ้นตะกูล มีทายาทเป็น พวก วิปริตผิดเพศไป.....
 .............ข้อมูลข้างตอน ผมสรุปเอาเองนะครับ จากที่ได้ยินได้ฟังมา แล้วก็วิเคราะห์ตามหลักศาสนา
       เพราะฉะนั้น เราไปทำอะไรใครเค้าไว้ หรือไปสาบานอะไรไว้ ก็ใคร่ครวญให้ดีเถอะครับ.....
2.วิเคราะตามหลักจิตวิทยา.....เนื่องจาก มนุษย์เราเนี่ย ตั้งแต่เด็กจนโต. จนเป็น วัยรุ่น และเข้าสู่วัยผู้ใหญ่....จะมีช่วงหนึ่งครับทค่เราจะเกิดความสับสน ทางเพศ. จะมีกันทุกคนครับ...ถ้าคุณๆ ลองสังเกตให้ดี แม้แต่ผมเอง ก็เคยมีช่วงเวลานั้นเช่นกัน
แต่สุดท้ายด้วยการช่วยเหลือจากอัลลอฮ ผมจีงรอดวิกฤตครั้งนั้นมาได้.....
            มาเข้าเรื่องกันต่อ...สาเหตุที่ คนเราจะกายเป็นตุ๊ด หรือเป็นเกย์ ก็อยู่ในชั่วนี้หละครับ...ใครที่เคยศึกษาตำรายิว ของฟรอยด์ คงจะเคยได้ พบ ปม โอดิปุ๊ด ของเพศชาย. และ อิเลกต้าของผู้หญิง. ซึ่งปม เหล่านี้ต้องการ รูปแบบของพ่อ กับแม่ ที่เป็นชายจริง หญิงแท้
เราเคยทราบดีว่าเด็กชอบเรียนแบบ .....และซึมซับพฤติกรรมที่อยู่ รอบด้าน....ถ้าพ่อ มีบทบาทเป็นพ่อจริงๆ แล้ว ลูกผู้ชายก็จะเป็น ลูกผู้ชายเต็มตัว. ผู้หญิงก็เช่นกัน ถ้า แม่เป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ลูกสาวเราก็จะเป็นผู้หญิงสมบูณ
..........จากข้อมูลข้างต้นผมขอสรุปว่า คนจะเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ได้ นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
          1.มีพฤติกรรมเรียนแบบ...เช่น พ่อเป็น ตุ๊ด. แม่เป็น..ดี้...จากละคร...ต่างๆ.  เป็นแฟชั่น
.         2.เกิดจากการไม่พอใจเพราะไม่มั่นใจในเพศของตนเอง......หรือมีความรักเกลียดเพศ ตนแบบ เช่น พ่อขี้เมา แม่หนีไปมีพ่อใหม่ ..เป็นต้น
         3. เกิดจากพันธุกรรมที่ผิดปกติ เหมือนที่ท่าน พี่น้องได้กล่าวไว้แล้วข้างบนนี้
        ..4. เกิดการจงใจเพื่อที่จะเกิดความสับสนทางเพศขึ้น.....ของพวกที่มีสติปัญญา.ชั้นสูง หรือเราเรียกว่ายืว..หรือประเทศมหาอำนาจ
ใหญ่ๆ ต้องการที่จะลดประชากรโลก...ให้มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด.   ....ก็เลย ทำสงครามจิตวิทยา พวกเค้าเหล่านั้นมีข้อมูลทั้ง เกี่ยวกัยบพัฒนาการ ตั้งแต่เด็กจนถึง วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ก็เลย สร้างภาพยนต์ เพลง. ...ต่างๆ เพื่อมาสล้างสมอง คน ให้มีความเชื่อผิด
และการเบี่ยงเพศทางเพศ ก็เป็น ยุทธวิธีหนึ่งที่มันกำลังใช้อยู่   
       ข้อสี่ผมวิเคราะห์เอาเองนะครับ......แต่ก็ศึกษาจากในเว็ปไซค์บ้าง มีคนแนะนำมาบ้าง. ยังไงก็ ลองใช้สติปัญญาใคร่ครวญสักเล็กน้อยก็ได้ครับ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ข้อ 4 ผมเห็นด้วยมากๆ ปัจจุบัน มีความชั่วหลายอย่างที่ถูกนำมาเสนอในรูปแบบที่เป็นมิตรกับผู้คน ทำให้ความน่าเกลียดน่าชังของมันที่ถูกมองออย่างนั้นในอดีต กลับกลายเป็นภาพแห่งความน่านัก และเกิดความรู้สึกที่ไม่ถือสา ซ้ำยังเกิดความรู้สึกว่าเท่ห์ และอยากทำ หรือเป็นอย่างนั้นบ้าง ... วัลอิยาฑะบิลลาฮิมินฑาลิก
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ maikhunsan

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
 :salam:
ตั้งแต่เราจำความได้ เราชอบเป็นผู้ชายมาก บางครั้งก็ลืมไปว่าตัวเป็นผู้หญิง ไม่เคยใส่กระโปรง นอกจากกระโปรงนักเรียน หรือโดนบังคับ แต่ก็ใส่กางเกงไว้ในอีกที มีแต่เพื่อนผู้ชาย ไม่รู้จักอะไรแปลว่าสวย ไม่หวีผม ไม่ทาแป้ง ไม่รีดผ้า แข่งงัดกล้าม ไม่ชอบผู้หญิงเพราะอ่อนแอ ต่างๆมากมาย แต่สิ่งนึงที่เรามีคือความคิดหลายอย่างที่มหัศจรรย์และสงสัยมาตลอด จนมีคำถามที่ติดปากเสมอว่าทำไมแบบนั้น ทำไมแบบนี้ พอโตขึ้น ได้เรียนศาสนาจึงมีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า นี่แหละคือคำตอบที่ใจตามหามานาน คำตอบของการเป็นมนุษย์ จึงมั่นใจว่าต้องมีผู้สร้างแน่ๆ มั่นใจว่าที่พระองค์วางแผนมาให้นั้น นำพาชีวิตเราไปตามทางที่ถูกต้องได้แน่ พอรู้ว่าผิดเพศนั้บาป เราก็กลัวมาก แล้วพยายามเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ เพราะคำตอบในใจเราก็คือ เป็นผู้หญิงทำยังไงก็คือผู้หญิง ผ่าจนหมดตัวก็ผู้หญิง จะมีความรักที่มีความสุขได้อย่างไร อุตส่าห์พยายามเป็นคนดีแต่มีลูกกับผู้หญิงก็ไม่ได้ คิดว่าเรานี่เห็นแก่ตัวจริงๆ เป็นแบบที่ตัวชอบ แต่แบ่งปันความดีให้ลูกก็ไม่ได้ ถ้ามีลูกหลานพวกเขาก็จะมีโอกาสได้ทำความดีกับพ่อแม่ เขาได้บุญเพราะมีเราให้กำเนิด เหมือนที่เราได้บุญเพราะมีพ่อแม่ให้ดูแล ไม่มีพ่อแม่สิจะหาหนทางได้ผลบุญในบ้านง่ายๆจากไหน เราไม่คิดจะให้คนอื่นเกิดมาเหมือนที่พ่อแม่ให้เราเกิดมาหรือ ก่อนตายก็ไม่มีคนคอยดูแล เป็นภาระคนอื่นอีก ตายไปก็ไม่มีลูกหลานคอยขอดุอาห์ให้ เราจะสร้างลูกสร้างหลานให้เป็นคนดีเยอะๆเพื่อสร้างอิสลามที่แข็งแกร่ง เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้สดใสให้ได้ สังคมที่คอยดูแลกัน เป็นสังคมที่มีความสุขอย่างมากมาย loveit:

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
ใช่แล้วค่ะ...ผู้หญิงอย่างไรก็คือผู้หญิง...
ข้าน้อยตอนเด็กๆก็ชอบปีนป่าย เตะต่อย แต่ก็ชอบทำขนม
ทำกับข้าวด้วย...ไม่ได้เกิดจากความสับสนทางเพศค่ะ
เพียงแต่แม่จะเป็นคนคอยสอนเรื่องการทำอาหารและขนมง่ายๆให้
มักชวนให้เข้าครัวช่วยเหลือท่าน ส่วนพ่อก็จะสอนให้รู้จักวิธีการ
ต่อสู้ ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น คือใช้ทั้งกำลังและสมอง...และพ่อก็บอกเสมอว่า
เป็นผู้หญิงก็ต้องรู้ว่าต่อไปเราโตขึ้นเราต้องทำหน้าที่ของแม่
ให้ดูแม่เป็นตัวอย่าง...แต่ถ้าอยากเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งพ่อจะสอนให้
เพราะคนเราจะเข้มแข็งหรือไม่นั้น มันไม่ได้วัดกันที่ว่า
สามารถเตะต่อยได้เก่ง นั้นแค่กายภายนอก
เพราะความเข้มแข็งที่แท้จริงแล้วนั้น จิตใจเรานั้นต่างหาก
ที่จะบอกเราว่า เราเข้มแข็งหรือไม่...

บางครั้ง การสั่งสอนหรือการชี้นำจากครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญมาก
เช่นกันนะคะ...

ถ้าถามว่า รังเกียจมั้ยกับการที่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง ที่ใครๆ
ก็บอกว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ...ข้าน้อยคนนึงไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
เพราะแม่เป็นตัวอย่างที่บอกให้รู้ว่า แม่ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอเลย
เพราะท่านสามารถให้กำเนิดบุตรได้หลายคน...
ท่านจะอ่อนแอได้อย่างไร อย่างน้อยกายและใจของท่าน
ก็ต้องเข้มแข็งและมีความอดทนมากพอ ท่านถึงอุ้มท้อง
คลอดบุตรโดยการเบ่งออกมาตามธรรมชาติทุกคน
และเลี้ยงลูกๆมาด้วยน้ำนมของท่านเอง
พร้อมทั้งยังทำงานช่วยแบกภาระทางฝั่งพ่ออีกด้วย...

พ่อจึงบอกว่า...เสน่ห์ของผู้หญิงนั้นคือ ความอ่อนหวาน
และความอ่อนโยน...และน้ำตาของผู้หญิงนั้นไม่ได้หมายความว่า
มันคือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ...

ข้าน้อยเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งพี่ชาย น้องชาย
พี่สาวและน้องสาว ทำให้เข้าใจบทบาทต่างๆโดยผ่านทาง
พ่อแม่ที่คอยชี้แนะและสอนสั่ง...

และไม่ว่าจะเป็นลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย พ่อกับแม่ก็ไม่ได้
ทำให้เรารู้สึกว่า รักเพศไหนมากกว่ากัน...
ท่านปฏิบัติกับลูกๆของท่านตามบทบาทของแต่ละคน...
มอบหน้าที่ให้ตามสภาพและตามวัย...

เพราะบางครั้งความไม่พอใจในเพศของลูกนั้น อาจส่งผลให้ลูก
ไม่พอใจในเพศของตัวเองที่มีมาแต่กำเนิดขึ้นมา
จนอาจทำให้เกิดความอยากเป็นอย่างอีกเพศนึงที่คนเป็นพ่อแม่
ต้องการมากกว่า...

ความอ่อนแอนั้นไม่ได้มีแค่เพศใดเพศนึง ทุกคนสามารถอ่อนแอ
ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย...

และการที่อัลลอฮฺสร้างชายหญิงให้มาคู่กันนั้นก็เป็นความเมตตา
อย่างนึงให้กับเรา...หากเราดื้อดึงและฝ่าฝืน เราจะหาความสุข
ในชีวิตได้อย่างไร...

ข้าน้อยคนนึงที่ยังอยากมีโอกาสได้เป็นแม่คน...
เพราะเชื่อว่านี่คือหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮฺมอบให้เพศหญิงมา...

กฎของอัลลอฮฺถูกส่งมาก็เพื่อความเมตตา...
หากเรามองว่ามันทำให้เราถูกขัง ถูกกดขี่ ไม่เป็นอิสระ
ใช้ชีวิตลำบาก...จนเราไม่คิดจะยึดกฎดังกล่าว
ยอมให้สังคมพาเราไปยังทิศทางใดก็ได้...

สุดท้ายแล้ว เราจะมีอะไรเอาไว้ให้ยึดเหนี่ยว...

ปล.พี่คนนึงถามข้าน้อยประมาณว่าถามให้คิดสักนิดนึงว่า
การที่น้องนั้นเคร่งศาสนา เลยทำให้น้องใช้ชีวิตลำบากไปหรือเปล่า
ทำไมต้องถึงขนาดนั้นด้วย ชีวิตเราไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย
น้องทำตัวเองหรือเปล่า...น้องแบกกฎเหล่านั้นไว้แล้วก็ไปไหนไม่ได้
เข้ากับสังคมลำบาก...

ข้าน้อยเลยบอกว่า...หากข้าน้อยไม่ยึดกฎของศาสนาที่เราศรัทธาแล้ว
เราก็สามารถเป็นอะไรก็ได้ สามารถไหลไปตามกระแสอะไรก็ได้
หรืออาจจะไหลไปตามอารมณ์ได้เสมอ...การเดินตามกฎมันทำให้เรา
มีจุดยืน มีที่มั่นบนความผันผวนของโลกนี้...ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
เราก็เอากฎนี้ไปปฏิบัติใช้ และปฏิบัติเป็นนิสัย แล้วมันจะกลายเป็น
มาตรฐานให้กับชีวิตเรา เป็นแนวทาง เป็นหนทางให้เราได้ก้าวเดินไป
เราจะไม่หลงทางเลยพี่ เพราะเรามีเป้าหมายพร้อมกับแผนที่อยู่ในมือเราแล้ว...ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเอาชนะอุปสรรคบนเส้นทางที่เดินอยู่
ได้หรือเปล่า...สำหรับข้าน้อยแล้ว...กฎศาสนาเป็นได้มากกว่า
ลมหายใจ...มนุษย์เราอยู่ร่วมกันไม่ได้ หากไม่มีกฎ...
แล้วกฎใดเล่่าคือกฎที่เหมาะกับมนุษย์เราที่สุด...

...เล่าสู่กันฟังค่ะ...

ดังนั้น...การที่อัลลอฮฺสั่งห้ามเรื่องผิดเพศหรือรักร่วมเพศนั้น
ข้าน้อยเชื่อว่า นั่นคือความเมตตาสำหรับมนุษย์เราแล้ว....

วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged