สูเราะฮฺ อัลฟัตหฺ อายะฮฺที่ 6 - 7คำอ่าน6. วะยุอัซซิบัลมุนาฟิกีนะ วัลมุนาฟิกอติ วัลมุชริกีนะ วัลมุชริกาติซซอ...นนีนะบิลลาฮิ ซอน..นัสเสาอ์ อะลัยฮิมดา...อิเราะตุสเสาอ์ วะเฆาะฎิบัลลอฮุอะลัยฮิม วะละอะนะฮุม วะอะอัดดะละฮุมญะฮัน..นะมะ วะสา...อัตมะศีรอ
7. วะลิลลาฮิญุนูดุสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วะกานัลลอฮุอะซีซันหะกีมาคำแปล R1.6. And that He may punish the Munafiqun (hypocrites), men and women, and also the Mushrikun men and women, who think evil thoughts about Allah, for them is a disgraceful torment, and the Anger of Allah is upon them, and He has cursed them and prepared Hell for them, and worst indeed is that destination.
7. And to Allฟh belong the hosts of the heavens and the earth. And Allah is ever All-Knower, All-Wise.คำแปล R2.6. และเพื่อการลงโทษบรรดาพวกสับปลับทั้งชายและหญิง และพวกตั้งภาคีทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นพวกที่มีทัศนคติที่เลวร้ายต่ออัลเลาะฮฺ พวกเขาจะต้องประสบกับกาลเวลาแห่งความเลวร้ายที่หมุนมาหา (นั่นคือการลงโทษและทำลายล้าง) และอัลเลาะฮฺทรงพิโรธพวกเขา ทรงสาปแช่งพวกเขา และทรงเตรียมนรกยะฮันนัมไว้ให้พวกเขา และมันเป็นที่กลับคืนอันเลวร้ายยิ่งนัก
7. และอัลเลาะฮฺทรงมีกองทัพจากฟากฟ้าและแผ่นดิน และอัลเลาะฮฺทรงอำนาจยิ่ง ทรงปรีชาญาณยิ่งคำแปล R3.6. และเพื่อที่พระองค์จะทรงลงโทษชายและหญิงผู้ตลบตะแลงและชายและหญิงผู้บูชาเทวรูปที่คิดชั่วร้ายกับอัลลอฮฺ พวกเขาเองนั่นแหละที่ถูกความชั่วล้อมรอบอยู่ พวกเขาตกอยู่ภายใต้ความกริ้วของอัลลอฮฺ และพระองค์ทรงสาปแช่งพวกเขา และได้ทรงเตรียมนรกซึ่งเป็นที่พำนักอันชั่วร้ายไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
7. และของอัลลอฮฺคือไพร่พลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณคำแปล R4.6. และเพื่อพระองค์จะทรงลงโทษแก่พวกมุนาฟิกีนชายและพวกมุนาฟิกีนหญิงและบรรดา ผู้ตั้งภาคีชาย (มุชริกีน)และบรรดาผู้ตั้งภาคีหญิง(มุชริก๊าต)โดยพวกเขาคิด เกี่ยวกับอัลลอฮฺด้วยความคิดร้ายเหตุร้ายเหล่านั้นจงประสบแก่พวกเขาเถิดและ อัลลอฮฺทรงโกรธกริ้วแก่พวกเขาและทรงสาปแช่งพวกเขาอีกทั้งทรงเตรียมนรกญะฮัน นัมไว้สำหรับพวกเขาอีกด้วยและมันเป็นทางกลับที่ชั่วร้ายยิ่ง
7. และเป็นของอัลลอฮฺคือไพร่พลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอำนาจผู้ทรงปรีชาญาณคำแปล R5.๖. และเพื่อพระองค์ทรงลงโทษแก่บรรดาผู้สับปลับทั้งชายและหญิงและบรรดาผู้ตั้งภาคีทั้งชายและหญิง ซึ่งพวกเขามีความเข้าใจอันเลวร้ายต่ออัลเลาะห์โดยพวกนี้กล่าวว่า ฝ่ายมุสลิมจะถูกฝ่ายกุร๊อยซ์มักกะห์พิชิต และสิ้นชื่อที่หุดัยบียะห์นี้แหละ พวกเหล่านั้นต้องประสบกับวัฏจักรแห่งความเลวร้ายอย่างแน่นอน หาใช่ฝ่ายมุสลิมไม่ ที่จะประสบกับสิ่งดังกล่าวตามที่พวกนั้นได้พูดไว้ และอัลเลาะห์ทรงกริ้วแก่พวกเขาทรงสาปแช่งพวกเขาและทรงเตรียมนรกไว้ให้พวกเขา และมันเป็นที่กลับอันเลวร้ายยิ่ง
๗. และอัลเลาะห์ทรงมีไพร่พลแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นจำนวนมหาศาลและอัลเลาะห์ทรงอำนาจยิ่งทรงปรีชาญาณยิ่ง-------------------------------------------------------------------------
สูเราะฮฺ อัลฟัตหฺ อายะฮฺที่ 8 - 10คำอ่าน8. อิน..นา..อัรฺสัลนากะชาฮิเดา..วะมุบัชชิร็อว..วะนะซีรอ
9. ลิยุอ์มินูบิลลาฮิวะเราะสูลิฮี วะยุอัซซิรูฮุ วะตุซักกิรูฮฺ วะยุสับบิหูฮุบุกเราะเตา..วะอะศีลา
10. อิน..นัลละซีนะ ยุบายุอูนะกะ อิน..นะมายุบายิอูนัลลอฮฺ ยะดุลลอฮิเฟาเกาะอัยดีฮิม ฟะมัน..นะกะษะ ฟะอิน..นะมายัน..กุษุอะลานัฟสิฮฺ วะมันเอาฟา บิมาอาฮะดะอะลัยฮุลลอฮะ ฟะสะยุอ์ติฮิอัจญร็อนอะซีมาคำแปล R1.8. Verily, we have sent you (O Muhammad) as a witness, as a bearer of glad tidings, and as a warner.
9. In order that you (O mankind) may believe in Allah and His Messenger, and that you assist and honour him, and (that you) glorify (Allah's) praises morning and afternoon.
10. Verily, those who give Bai'ah (pledge) to you (O Muhammad) they are giving Bai'ah (pledge) to Allah. The Hand of Allah is over their hands. Then whosoever breaks his pledge, breaks only to his own harm, and whosoever fulfills what he has covenanted with Allah, he will bestow on him a great reward.คำแปล R2.8. แท้จริงเราได้แต่งตั้งเจ้าเป็นศาสนทูตเพื่อเป็นสักขีพยาน เพื่อเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และเป็นผู้ตักเตือน (ให้มนุษย์ได้สำนึกตน)
9. เพื่อพวกเจ้าจะได้มีศรัทธาต่ออัลเลาะฮฺและศาสนทูตของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้เสริมอำนาจ (แห่งศาสนาของ) พระองค์ และยกย่องพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ (ทำนมัสการ) ถวายความบริสุทธิ์ต่อพระองค์ทั้งยามเช้าละยามเย็น
10. แท้จริงบรรดาผู้ร่วมทำสัญญา (ร่วมรบ) กับเจ้านั้น อันที่จริงพวกเขาได้ทำสัญญากับอัลเลาะฮฺโดยตรง อันอำนาจแห่งอัลเลาะฮฺย่อมอยู่เหนือมือของพวกเขา (ที่ยื่นออกมาสัมผัสกันในสัญญาดังกล่าว) ดังนั้นผู้ใดที่ละเลยสัญญา ที่จริงนั่นเท่ากับเขาละเลยแก่ตัวของเขาเอง และผู้ใดทำตามสัญญาอย่างครบสมบูรณ์ พระองค์จะทรงประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่แก่เขาคำแปล R3.8. (โอ้ นบี) เราได้ส่งเจ้ามาในฐานะพยานคนหนึ่งและในฐานะผู้แจ้งข่าวดีและผู้เตือนคนหนึ่ง
9. เพื่อที่สูเจ้าทั้งหลาย (มนุษย์เอ๋ย) จะได้ศรัทธาในอัลลอฮิและรอซูลของพระองค์ และจะได้ช่วยเขา (นั้นคือรอซูล) และให้เกียรติเขาและสดุดีอัลลอฮฺทั้งในยามเช้าและยามเย็น
10. (โอ้ นบี) บรรดาผู้สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเจ้านั้น แท้จริงแล้วก็เหมือนกับการให้คำสาบานว่าจะจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ พระหัตถ์ของพระองค์นั้นเหนือกว่ามือของพวกเขา ตอนนี้ใครก็ตามที่ทำลายคำสาบานนี้ก็เท่ากับเขาได้ทำลายตัวเอง และใครที่ทำตามสัญญาที่เขาทำไว้กับอัลลอฮฺ อัลลอฮฺก็จะประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับเขาคำแปล R4.8. แท้จริงเราได้ส่งเจ้า(มุฮัมมัด)มาเพื่อเป็นพยานและผู้แจ้งข่าวดีและผู้แจ้งข่าวร้าย
9. เพื่อให้พวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์ และให้ความช่วยเหลือเขา (รอซูล) และแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ทั้งในยามเช้าและยามเย็น
10. แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้สัตยาบันกับเจ้านั้นเสมือนกับว่าพวกเขาได้ให้สัตยาบัน กับอัลลอฮฺพระหัตถ์ของอัลลอฮฺทรงอยู่เหนือมือของพวกเขาฉะนั้นผู้ใด ทำลาย (สัตยาบัน) เสมือนกับว่าเขาทำลายตัวของเขาเองส่วนผู้ใดปฏิบัติตามสัญญา ที่เขาได้มีไว้กับอัลลอฮฺโดยครบถ้วนพระองค์ก็จะทรงตอบแทนรางวัลอันใหญ่หลวง แก่เขาคำแปล R5.๘. แท้จริงเราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นศาสนทูตที่ทำหน้าที่สักขีพยานแก่ประชาชาติของเจ้าทั้งมวล และเป็นผู้แจ้งข่าวประเสริฐให้พวกเขาได้ทราบถึงรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่จะได้รับจากการยอมศรัทธาและภักดีด้วยสวรรค์ และเป็นผู้ตักเตือนให้พวกเขาได้ตระหนักถึงโทษอันจะอุบัติขึ้นจากการเนรคุณซึ่งต้องเข้านรกชั่วกาลนาน
๙. เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้ศรัทธาในอัลเลาะห์และทูตของพระองค์และเพื่อพวกเจ้าจะได้ให้เกียรติและยกย่องพระองค์ด้วยการร่วมทำศึกเพื่อเทิดทูนอุดมการณ์ของพระองค์และพวกเจ้ากล่าวสรรเสริญในความบริสุทธิคุณแห่งพระองค์ทั้งในเวลาเช้าและเวลาเย็น
๑๐. แท้จริงบรรดาผู้ที่ร่วมทำสัญญากับเจ้าในการทำศึกที่หุดัยบียะห์ ซึ่งข้อสัญญาที่สำคัญคือ การออกรบโดยไม่ถอยและยอมตายในสนามรบจนกว่าจะได้ชัยชนะมา ซึ่งเปิดทำสัญญาและการรบดังกล่าวขึ้นเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลเลาะห์แต่เพียงประการเดียว การทำสัญญาดังกล่าวกระทำโดยการวางมือบนมือของอีกฝ่ายหนึ่ง อันพระหัตถ์แห่งอัลเลาะห์หมายถึงความช่วยเหลือ พลานุภาพและความโปรดปรานของพระองค์ ย่อมอยู่เหนือมือของพวกเขาในขณะที่เขาวางมันเพื่อทำสัญญาดังกล่าวนั้น ดังนั้นผู้ใดเพิกเฉยสัญญาแน่นอนเขาเพิกเฉยแก่ตัวเขาเอง ที่จะได้รับรางวัลตอบแทนจากอัลเลาะห์ และผู้ใดทำตามสัญญาที่เขามีต่ออัลเลาะห์อย่างครบถ้วน แน่นอนพระองค์จะทรงประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่แก่เขา1. โปรดสังเกตวลีที่ขีดเส้นใต้ เป็นการให้ความหมายของวลี يدالله فوق ايديهم
2. ใน R5. ดูเหมือนจะไม่ได้แปลวลีที่ว่า انمايبايعون الله (แท้จริงเสมือนเขาได้ให้สัตยาบรรณต่ออัลลอฮฺ)