กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
กระทู้ที่น่าสนใจ
ฟอรั่ม
หน้าแรก
ค้นหา
ปฏิทิน
Contact
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
GoogleTagged
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
เสวนาเชิงวิชาการ
»
อัลกุรอาน
(ผู้ดูแล:
นูรุ้ลอิสลาม
,
Bangmud
) »
กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า:
1
2
3
[
4
]
5
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน (อ่าน 14579 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #45 เมื่อ:
มี.ค. 16, 2011, 05:34 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 156 - 158
คำอ่าน
156. ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนูลาตะกูนูกัลละซีนะกะฟะรู วะกอลูลิอิควานิฮิม อิซาเฎาะเราะบู ฟิลอัรฺฎิ เอากานูฆุซซัลเลากานูอิน..ดะนามามาตู วะมากุติลู ลิยัจญอะลัลลอฮุ ซาลิกะหัสเราะตัน..ฟีกุลูบิฮิม วัลลอฮุยัวะหฺยีวะยุมีต วัลลอฮุบิมาตะอฺมะลูนะบะศีรฺ
157. วะละอิน..กุติลตุม ฟีสะบีลิลลาฮิ เอามุตตุม ละมัฆฟิเราะตุม..มินัลลอฮิ วะเราะหฺมะตุน ค็อยรุม..มิม..มายัจญมะอูน
158. วะละอิม..มุตตุม เอากุติลตุม ละอิลัลลอฮิ ตุหฺชะรูน
คำแปล R1.
156. O you who believe! Be not like those who disbelieve (hypocrites) and who say to their brethren when they travel through the earth or go out to fight: "If they had stayed with us, they would not have died or been killed," So that Allah may make it a cause of regret in their hearts. It is Allah that gives life and causes death. And Allah is All-Seer of what you do.
157. And if you are killed or die in the Way of Allah, forgiveness and mercy from Allah are far better than all that they amass (of worldly wealths, etc.).
158. And whether you die, or are killed, verily, unto Allah you shall be gathered.
คำแปล R2.
156. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พวกเจ้าจงอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้เนรคุณ และพวกเขาได้กล่าวกับเครือญาติของพวกเขา เมื่อพวกนี้จาริกไปในแผ่นดินหรือออกรบ (แล้วบังเอิญเสียชีวิตลง) ว่า “ถ้าพวกเขาอยู่กับพวกเรา พวกเขาก็ไม่ตาย และไม่ถูกฆ่าอย่างแน่นอน ในที่สุดอัลเลาะฮฺก็ดลบันดาลสิ่ง (ถ้อยคำดังกล่าว) นั้น ให้เป็นความโศกสลดในหัวใจของพวกเขา และอัลเลาะฮฺทรงให้เป็นและให้ตาย (แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์) และอัลเลาะฮฺทรงมองเห็นสิ่งที่พวกเจ้าประพฤติไว้ (ทุกประการ)
157. ขอยืนยัน มาดแม้นพวกเจ้าถูกฆ่าตายในทางของอัลเลาะฮฺหรือพวกเจ้าตาย (ด้วยโรคอื่น ๆ ก็ตาม) แน่นอนที่สุดการให้อภัยและความเมตตาจากอัลเลาะฮฺย่อมจะดียิ่งเสียกว่าสิ่งที่พวกเขารวบรวมไว้ (เพื่อประโยชน์สุขของตัวเองในโลกนี้)
158. ขอยืนยัน มาดแม้นพวกเจ้าตายไปหรือถูกฆ่าตาย แน่นอนพวกเจ้าก็จะถูกรวมตัวไปยังอัลเลาะฮฺ (เพื่อรับการตอบแทน)
คำแปล R3.
1. บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงอย่าเป็นดังเช่นบรรดาผู้ปฏิเสธที่เมื่อพี่น้องของพวกเขาท่องไปตามแผ่นดินหรือพวกเขาไปเข้าร่วมในสนามรบ
(และต้องประสบกับอุบัติเหตุบางอย่าง)
พวกเขาจะกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเขาอยู่กับพวกเรา พวกเขาคงจะไม่ตายและคงจะไม่ถูกฆ่า” อัลลอฮฺทรงทำสิ่งนี้ให้เป็นสาเหตุแห่งความรันทดในใจของพวกเขาเพราะแท้จริงแล้ว อัลลอฮฺคือผู้ทรงให้ชีวิตและทรงให้ตาย และอัลลอฮฺทรงเห็นทุกสิ่งที่สูเจ้ากระทำ
2. ถ้าหากสูเจ้าถูกฆ่าหรือตายในหนทางของอัลลอฮฺ สูเจ้าจะได้รับการอภัยโทษละความเมตตาจากอัลลอฮฺซึ่งดีกว่าทุกสรรพสิ่งที่พวกเขาสะสม
3. และถ้าหากสูเจ้าตายหรือถูกฆ่า สูเจ้าก็จะถูกนำไปรวมกันต่อหน้าอัลลอฮฺ
คำแปล R4.
156. โอ้ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และกล่าวแก่พวกพ้องของพวกเขา ขณะที่เขาเหล่านั้นเดินทางไปในผืนแผ่นดินหรือขณะที่เขาเหล่านั้นเป็นนักรบว่า หากพวกเขาอยู่ที่เราแล้วพวกเขาก็ย่อมไม่ตาย และไม่ถูกฆ่า เพื่อว่าอัลลอฮฺจะทรงให้เรื่องนั้นเป็นที่เศร้าโศกในหัวใจของพวกเขาและอัลลอฮฺนั้นทรงให้เป็นและให้ตายและอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่ พวกเจ้ากระทำกัน
157. และแน่นอน ถ้าหากพวกเจ้าถูกฆ่าในทางของอัลลอฮฺ หรือพวกเจ้าตาย (ในทางของพระองค์) แล้วแน่นอนการอภัยโทษและการเอ็นดุเมตตาจากอัลลอฮฺนั้นดียิ่งกว่าสิ่งที่พวก เขาสะสมกันอยู่
158. และแน่นอน ถ้าหาพวกเจ้าตายไปหรือถูกฆ่าแล้ว แน่นอนยังอัลลอฮฺเท่านั้นที่พวกเจ้าจะถูกนำไปชุมนุม
คำแปล R5.
๑๕๖.
โอ้บรรดาผู้มีศรัทธา พวกเจ้าจงอย่าเป็นเช่นบรรดาที่เป็นมุนาฟิก
ทั้งในด้านวาจาและจิตใจ อันที่จริงแล้ว
พวกนั้นเคยพูดแก่บรรดาวงศ์ญาติของพวกตน
ที่ร่วมศาสนาเดียวกันหรือที่ร่วมสกุลเดียวกัน ซึ่งเป็นมุสลิมว่า
ในคราวที่พวก
ญาติพี่น้อง
เหล่านั้นสัญจรอยู่ในพิภพนี้
แล้วตายลง
ก็ดีหรือออกไปรบ
แล้วถูกฆ่าตาย
ก็ดี ถ้าพวกนั้นอยู่กับพวกเราแล้ว พวกนั้นก็ไม่ตายและไม่ถูกฆ่าเป็นแน่
อัลเลาะห์จึงตรัสสั่งว่า พวกมุอ์มินทั้งหลายอย่าแสดงถ้อยเหมือนกับถ้อยคำจากใจจริงของพวกมุนาฟิกดังที่กล่าวข้างต้นนั้นเลย
เกรงว่า
ในที่สุด ถ้อยคำ
อย่างนี้น่ะ อัลเลาะห์จะทรงให้เป็นที่สลดใจแก่พวกนั้นเข้า
เพราะไม่เป็นไปอย่างที่พูด
และอัลเลาะห์ย่อมจะทรงให้เป็นก็ได้และจะทรงให้ตายก็ได้
จึงเป็นอันว่าการที่จะนิ่งเฉยอยู่กับบ้านกับช่องนั้นไม่สามารถช่วยให้รอดตายได้เลย
ด้วยว่าอัลเลาะห์นั้นทรงเล็งเห็นตลอดถึงสิ่งใด ๆ อันพวกเจ้ากระทำอยู่
แล้วพระองค์จะทรงสนองตอบแก่พวกเจ้าเพราะเหตุที่ได้กระทำกันไว้
๑๕๗.
และ
อัลเลาะห์ทรงให้สัตย์ปฏิญาณ
ว่าที่จริงแล้วหากพวกเจ้าถูกฆ่าในสงครามหรือว่าถึงแก่ความตายลงไป
ในสงคราม
แน่นอนการอภัยโทษจากอัลเลาะห์ประกอบกับพระกรุณา
ของพระองค์ให้พวกเจ้าพ้นโทษานุโทษเนื่องจากถูกฆ่าหรือประสบความตาย
นั้นย่อมดีกว่าสิ่ง
วิจิตรสวยงามทั้งหลาย
ที่พวกเขารวบรวมไว้
จากพิภพนี้ เพราะสิ่งเหล่านั้นสามารถหน่วงเหนี่ยวให้พวกเจ้าออกทำสงครามได้ล่าช้า
๑๕๘.
และ
อัลเลาะห์ทรงให้สัตย์ปฏิญาณว่า
ที่จริงแล้วหากพวกเจ้าถึงแก่ความตายหรือถูกฆ่า
ในสงครามหรือในกรณีอื่นใดก็ตาม
พวกเจ้าย่อมจะถูกให้ไปรวมกันยัง
ที่สอบสวนของ
อัลเลาะห์
ในวันอาคิเราะห์
แน่นอน
แล้วพระองค์จะทรงสนองผลกรรมให้พวกเจ้า
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #46 เมื่อ:
มี.ค. 17, 2011, 05:20 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 159 - 160
คำอ่าน
159. ฟะบิมาเราะหฺมะติม..มินัลลอฮิลิน..ตะละฮุม วะเลากุน..ตุฟัซว็อน เฆาะลีซ็อลก็อลบิ ลัน..ฟัฎฎูมินเหาลิก ฟะอฺฟุอันฮุม วัสตัฆฟิรฺละฮุม วะชาวิรฺฮุมฟิลอัมริ ฟะอิซาอะซัมตะ ฟะตะวักกัลอะลัลลอฮฺ อิน..นัลลอฮะยุหิบบุลมุตะวักกิลีน
160. อี..ยัน..ศุรฺกุมุลลอฮุ ฟะลาฆอลิบะละกุม วะอียัคซุลกุม ฟะมัน..ซัลละซี ยัน..ศุรุกุม..มิม..บะอฺดิฮฺ วะอะลัลลอฮิฟัลยะตะวักกะลิลมุอ์มินูน
คำแปล R1.
159. And by the Mercy of Allah, you dealt with them gently. And had you been severe and harsh-hearted, they would have broken away from about you; so pass over (their faults), and ask (Allah's) forgiveness for them; and consult them in the affairs. Then when you have taken a decision, put your trust in Allah, certainly, Allah loves those who put their trust (in Him).
160. If Allah helps you, none can overcome you; and if He forsakes you, who is there after Him that can help you? And in Allah (alone) let believers put their trust.
คำแปล R2.
159. แท้จริงด้วยพระเมตตาธิคุณจากองค์อัลเลาะฮฺ เจ้าจึงสุภาพอ่อนโยนต่อพวกเขา และมาดแม้นเจ้าเป็นผู้หยาบคายอีกทั้งมีหัวใจอันกักขฬะ แน่นอนที่สุดพวกเขาก็ต้องเตลิดออกไปจากรอบ ๆ เจ้า ดังนั้นเจ้าจงให้อภัย (อย่าถือสาความผิดของ) พวกเขา เจ้าจงขออภัยให้แก่พวกเขา และจงปรึกษาพวกเขาในการงาน (ต่าง ๆ ที่คิดกระทำ) ครั้นเมื่อเจ้าตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว เจ้าก็จงมอบหมาย (การงานนั้น) แด่อัลเลาะฮฺเถิด แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงรักบรรดาผู้ (มีจิต) มอบหมาย (ในพระองค์)
160. หากอัลเลาะฮฺทรงช่วยพวกเจ้า ก็จะไม่มีผู้ใดพิชิตพวกเจ้าได้อย่างแน่นอน และถ้าพระองค์ทรงดูดายพวกเจ้า แล้วใครอีกเล่าที่จะช่วยพวกเจ้าหลังจากพระองค์ และต่อพระองค์บรรดาผู้ศรัทธาต่างมอบหมาย
คำแปล R3.
159.
(โอ้ รอซูล)
มันเป็นความเมตตาของอัลลอฮฺที่เจ้ามีความอ่อนโยนต่อพวกเขา เพราะถ้าหากเจ้าแข็งกร้าวและใจกระด้าง พวกเขาก็จะเตลิดออกไปจากเจ้า ดังนั้น จงให้อภัยแก่พวกเขาและจงขอต่ออัลลอฮฺให้ทรงยกโทษแก่พวกเขาและจงปรึกษาหารือพวกเขาในการทำกิจการต่าง ๆ ครั้นเมื่อเจ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะทำแล้ว จงวางใจในอัลลอฮฺ
(และทำสิ่งนั้นไป)
แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้ที่ไว้วางใจในพระองค์
160. ถ้าอัลลอฮฺทรงช่วยสูเจ้า ก็ไม่มีผู้ใดชนะสูเจ้าได้ แต่ถ้าพระองค์ทรงทอดทิ้งสูเจ้า ก็แล้วใครเล่าที่จะช่วยสูเจ้าหลังจากพระองค์ ดังนั้น อัลลอฮฺต่างหากที่บรรดาผู้ศรัทธาจะต้องไว้วางใจ
คำแปล R4.
159. เนื่องด้วยความเมตตาจากอัลลอฮฺนั่นเอง เจ้า(มุฮัมมัด) จึงได้สุภาพอ่อนโยนแก่พวกเขาและถ้าหากเจ้าเป็นผู้ประพฤติหยาบช้า และมีใจแข็งกระด้างแล้วไซร้ แน่นอนพวกเขาก็ย่อมแยกตัวออกไปจากรอบ ๆ เจ้ากันแล้ว ดังนั้นจงอภัยให้แก่พวกเขาเถิด และจงขออภัยให้แก่พวกเขาด้วย และจงปรึกษาหารือกับพวกเขาในกิจการทั้งหลาย ครั้นเมื่อเจ้าได้ตัดสินใจแล้ว ก็จงมอบหมายแด่อัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักใคร่ผู้มอบหมายทั้งหลาย
160. หากว่าอัลลอฮฺทรงช่วยเหลือพวกเจ้าก็ไม่มีผู้ใดชนะพวกเจ้าได้ และหากพระองค์ทรงทอดทิ้งพวกเจ้าแล้ว ก็ผู้ใดเล่าจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้หลังจากพระองค์ และแด่อัลลอฮฺนั้น ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงมอบหมายเถิด
คำแปล R5.
๑๕๙. โอ้มูฮำมัด
ด้วยพระมหากรุณาของอัลเลาะห์ต่างหากถึงเจ้าได้
มีอุปนิสัย
อ่อนช้อยต่อพวก
มุอ์มิน
เหล่านั้น
ในคราวที่พวกนั้นฝ่าฝืนคำบัญชาการของเจ้าครั้งทำสงครามอุฮุด
แต่ถ้าเจ้าจะวางท่าเป็นคนใจแข็ง
ไม่เหลียวแลและไม่เอ็นดูเสียแล้ว
แน่นอนพวกนั้นต้องแตกกระจัดกระจายไปจากเจ้ารอบด้าน ดังนั้นเจ้าจงนิรโทษกรรมให้พวกนั้น
ที่เคยได้กระทำกันมา
และจงขอประทานอภัยโทษน้อยใหญ่ให้แก่พวกนั้น
เรื่อยไปจนกว่าข้าจะให้อภัย
อีกทั้งจงปรึกษาหารือเกี่ยวกับการธุระ
ทางสงครามและอื่น ๆ กับพวกนั้นเถิด เพื่อเป็นการเอาใจพวกนั้นแล้วพวกนั้นจะได้เจริญรอยตามเจ้า ซึ่งแต่เดิมพระนบีเองก็ได้เคยปรึกษางานทางสงครามและอื่น ๆ กับพวกสาวกอยู่แล้ว
ครั้นเมื่อเจ้าแน่ใจ
ที่จะให้บรรลุผลตามที่หมายปองภายหลังจากปรึกษากันแล้ว
ก็จงยึดเอาอัลเลาะห์เป็นที่พึ่งเถิดเพราะแท้จริงอัลเลาะห์นั้นย่อมโปรดปรานีผู้ที่ให้การมอบหมาย
ไว้ต่อพระองค์
๑๖๐.
หากว่าอัลเลาะห์ทรงช่วยเหลือพวกเจ้า
ให้มีชัยชนะพวกศัตรู
แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดชนะพวกเจ้าได้
เช่น ในวันทำสงครามที่บัดร์
แต่ถ้าพระองค์จะทรงทอดทิ้งพวกเจ้า
เช่นในคราวทำสงครามที่สมรภูมิอุฮุด
ใครเล่าจะให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าต่อจากพระองค์
แน่นอนจะไม่มีผู้ใดช่วยเหลือพวกเจ้าได้เลย
และต่ออัลเลาะห์เท่านั้นพวกมุอ์มินทั้งหลายจงขอมอบหมายไว้เป็นที่พึ่ง
จงอย่ายึดมั่นต่อผู้อื่นนอกจากอัลเลาะห์เป็นที่พึ่งเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #47 เมื่อ:
มี.ค. 18, 2011, 05:25 AM »
0
สูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 161 - 163
คำอ่าน
161. วะมากานะลินะบียิน อัย..ยะฆุล วะมัย..ยัฆลุลยะอ์ติบิมา ฆ็อลละเยามัลกิยามะติ ษุม..มะตุวัฟฟา กุลลุนัฟสิม..มากะสะบัตวะฮุมลายุซละมูน
162. อะฟะมะนิตตะบะอะ ริฎวานัลลอฮิ กะมัม..บา...อะบิสะเคาะฏิม..มินัลลอฮิ วะมะอ์วาฮุญะฮัน..นัม วะบิอ์สัลมะศีรฺ
163. ฮุมดะเราะญาตุนอิน..ดัลลอฮิ วัลลอฮุบะศีรุม..บิมายะอฺมะลูน
คำแปล R1.
161. It is not for any Prophet to take illegally a part of booty (Ghulul), and whosoever deceives his companions as regards the booty, he shall bring forth on the Day of Resurrection that which he took (illegally). Then every person shall be paid in full what he has earned, - and they shall not be dealt with unjustly.
162. Is then one who follows (seeks) the good pleasure of Allah (by not taking illegally a part of the booty) like the one who draws on himself the Wrath of Allah (by taking a part of the booty illegally - Ghulul)? - His abode is Hell, - and worst, indeed is that destination!
163. They are in varying grades with Allah, and Allah is All-Seer of what they do.
คำแปล R2.
161. และไม่มีสำหรับศาสดาที่จะยักยอก (ทรัพย์ของกลาง) และผู้ใดยักยอก แน่นอนเขาจะนำสิ่งที่ยักยอกนั้นมาในวันชาติหน้า หลังจากนั้น แต่ละชีวิตจะถูกตอบแทนอย่างครบถ้วน โดยพวกเขาไม่ถูกฉ้อฉล
162. อันผู้ติดตามความพึงพระทัยของอัลเลาะฮฺจะให้เหมือนกับที่คืนกลับไปด้วยความกริ้วจากอัลเลาะฮฺได้อย่างไร? และที่อยู่ของพวกเขาก็คือนรกยะฮันนัม และมันเป็นจุดหมายอันเลวร้ายยิ่ง
163. พวกเขามีหลายฐานันดร ณ อัลเลาะฮฺ และอัลเลาะฮฺทรงมองเห็นในสิ่งที่พวกเขาประพฤติ
คำแปล R3.
161. มันเป็นไปไม่ได้ที่นบีคนใดจะคดโกง เพราะถ้าผู้ใดคดโกง ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ เขาก็จะนำสิ่งที่เขาคดโกงติดมาด้วย แล้วทุกชีวิตจะถูกตอบแทนเต็มตามที่ตัวเองได้ขวนขวายไว้และพวกเขาจะไม่ถูกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
162. ดังนั้นคนที่ปฏิบัติตามความประสงค์ของอัลลอฮฺจะปฏิบัติเหมือนกับผู้ที่ทำให้อัลลอฮฺทรงกริ้ว และในที่สุดจะถูกส่งไปพำนักอยู่ในนรกอันเป็นปลายทางที่ชั่วช้ากระนั้นหรือ?
163. ในสายตาของอัลลอฮฺ พวกเขามีหลายฐานะ และอัลลอฮฺทรงเฝ้ามองที่พวกเขากระทำ
คำแปล R4.
161. และไม่ปรากฏแก่นะบีคนใดที่จะยักยอก (ทรัพย์เชลย) และผู้ใดยักยอกแล้ว เขาก็จะนำสิ่งที่เขายักยอกนั้นมาในวันกิยามะฮฺแล้วแต่ละคนจะได้รับการตอบแทน อย่างครบถ้วน ตามที่เขาได้แสวงหาไว้ โดยที่พวกเขาจะไม่ได้รับความอยุติธรรม
162. ผู้ที่ปฏิบัติตาม ความปิติยินดีของอัลลอฮฺนั้น จะเหมือนกับผู้ที่ได้นำความกริ้วโกรธจากอัลลอฮฺกลับไปกระนั้นหรือ? และที่อยู่ของเขานั้นคือ ญะฮันนัม และเป็นที่กลับอันเลวร้ายยิ่ง
163. พวกเขาเหล่านั้นมีหลายระดับขั้น ณ อัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
คำแปล R5.
มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้
เนื่องจากว่ามีอยู่คราวหนึ่ง ผ้าห่มกำมะหยี่สีแดงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากทรัพย์ที่ได้มาจากกองทัพฝ่ายกาฟิรในวันทำสงครามที่บัดร์ได้สูญหายไป พวกมุนาฟิกบางคนหาว่ามูฮำมัดเป็นคนเอา
๑๖๑.
และสำหรับพระศาสดา
มูฮำมัด
นั้นย่อมไม่
เห็นสมควรเลยที่เขาจะ
มีใจทุจริต
ในเรื่องของทรัพย์เชลย เพราะการทุจริตกับความเป็นพระศาสดานั้นจะมีอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากอาการทั้งสองย่อมไม่รับกัน ที่ความเป็นพระศาสดาคือความปกปักรักษามิให้มีการที่ต้องห้ามเกิดขึ้น ส่วนความทุจริต เป็นสิ่งที่ต้องห้าม เหตุนี้จึงไม่เป็นการสมควรจะเอาทุจริตไปป้ายร้ายแก่นบีมูฮำมัด
ถ้าแหละผู้ใดทุจริด เขาย่อมจะได้รับผลที่ทุจริตนั้น
มาแบกไว้ที่ต้นคอ
ในวันกิยามะห์ ครั้นแล้วทุกชีวิต
ที่ทำการทุจริตก็ดี ไม่ทุจริตก็ดี
จะได้รับตอบแทนสิ่งที่ตนพยายามทำไว้อย่างครบถ้วนโดยมิได้ถูกคดโกง
ด้วยการให้ได้ความดีลดน้อยหรือให้ได้รับความชั่วร้ายมากขึ้นแต่ประการใด
เลย
๑๖๒. โอ้ มูฮำมัด
ผู้ที่เจริญตามความยินดีของอัลเลาะห์
และปฏิบัติตามบัญชาใช้ของพระองค์ อีกทั้งไม่เคยกระทำการใด ๆ เลยที่เป็นอันทุจริต
ย่อมไม่เหมือนกับผู้ที่ย้อนเข้าสู่ความกริ้วของอัลเลาะห์
เนื่องจากทรยศและทุจริตต่อพระองค์หรอก
อันที่พำนักของเขานั้นคือ
นรก
ยะฮันนำและ
นรกนั้น
เป็นที่กลับไปสู่อันชั่วร้ายนัก
๑๖๓.
พวกนั้นได้รับขั้นต่าง ๆ
กันตามการตัดสินและความรู้
ของอัลเลาะห์
คือว่าบุญกุศลย่อมจัดว่าเป็นขั้นที่ผู้ปฏิบัติตามความยินดีของอัลเลาะห์พึงได้รับ ส่วนโทษทรมานนั้นเป็นขั้นที่ผู้ย้อนกลับไปสู่ความกริ้วของพระองค์พึงได้รับ
และอัลเลาะห์นั้นทรงรู้ยิ่งถึงพฤติการณ์อันพวกนั้นกระทำกันอยู่
แล้วพระองค์ก็จะทรงตอบสนองการกระทำของพวกนั้น
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #48 เมื่อ:
มี.ค. 19, 2011, 04:43 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 164 - 166
คำอ่าน
164. ละก็อดมัน..นัลลอฮุ อะลัลมุอ์มินีนะ อิซบะอะษะฟีฮิม เราะสูลัม..มินอัน..ฟุสิฮิม ยัตลูอะลัยฮิมอายาติฮี วะยุซักกีฮิม วะยุอัลลิมุฮุมุลกิตาบะวัลหิกมะฮฺ วะอิน..กานูมิน..ก็อบลุละฟีเฎาะลาลิม..มุบีน
165. อะวะลัม..มาอะศอบัตกุม..มุศีบะตุน..ก็อดอะศ็อบตุม..มิษลัยฮา กุลตุมอัน..นาฮาซา กุลฮุวะมินอิน..ดิอัน..ฟุสิกุม อิน..นัลลอฮะอะลากุลลิชัยอิน..เกาะดีรฺ
166. วะมาอะศอบะกุม เยามัลตะก็อลญัมอานิ ฟะบิอิซนิลลาฮิ วะลิยะอฺละมัลมุอ์มินีน
คำแปล R1.
164. Indeed Allah conferred a great favour on the believers when He sent among them a Messenger (Muhammad) from among themselves, reciting unto them his
Verses
(the Qur'an), and purifying them (from sins by their following him), and instructing them (in) the Book (the Qur'an) and
Al-Hikmah
[the wisdom and the sunnah of the Prophet (i.e. his legal ways, statements, acts of worship, etc.)], while before that they had been In manifest error.
165. (What is the matter with you?) when a single disaster smites you, although you smote (your enemies) with one twice as great, you say: "From where does this come to us?" Say (to them), "It is from yourselves (because of your evil deeds)." and Allah has power over all things.
166. And what you suffered (of the disaster) on the day (of the battle of Uhud when) the two armies met, was by the leave of Allah, In order that he might test the believers.
คำแปล R2.
164. ขอยืนยัน อัลเลาะฮฺได้ทรงโปรดแก่มวลผู้ศรัทธาเมื่อพระองค์ทรงส่งศาสนทูตจากพวกเจ้า (ให้ประกาศศาสนา) ในหมู่พวกเขา เขาแถลงโองการของพระองค์แก่พวกนั้น เขาซักฟอกพวกเขา และสอนพวกเขาให้รู้คัมภีร์ และวิทยญาณ และมาดแม้นเมื่อก่อนหน้านั้น (พวกเขาตกอยู่) ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง (ก็ตาม)
165. และเมื่อเหตุร้ายได้ประสบแก่พวกเจ้า (ในสงครามอุหุด เมื่อมุสลิมถูกฆ่าตาย 70 คน) แล้วต่อมาพวกเจ้าก็ประสบ (ชัยชนะ) เป็นสองเท่าของมัน (เหตุร้าย) มิใช่หรือ (นั่นคือได้ชัยชนะในการทำสงครามบะดัรฺ ฆ่าศัตรูตาย 70 คน และจับเป็นเชลยได้ 70 คน) พวกเจ้ายังกล่าวว่า “(ความพ่ายแพ้ที่อุหุด) นี้ (เกิดขึ้นได้) อย่างไร” จงกล่าวเถิด “มันเกิดจากตัวของพวกเจ้าเองนั่นแหละ” แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงเดชานุภาพเหนือทุก ๆ สิ่ง
166. และ (เหตุร้าย) ใดที่ประสบแก่พวกเจ้าในวันที่ สองกองทัพปะทะกันนั้น ย่อมเป็นไปโดยอนุญาตของอัลเลาะฮฺอย่างแน่นอน และเพื่อพระองค์ (พิสูจน์ให้) รู้ถึง (ว่าใครเป็น) พวกที่มีศรัทธา (แท้จริง)
คำแปล R3.
164. โดยแน่นอนยิ่ง อัลลอฮฺได้ทรงประทานความโปรดปรานแก่บรรดาผู้ศรัทธาเมื่อพระองค์ได้ทรงตั้งรอซูลขึ้นมาคนหนึ่งในหมู่พวกของเขาเองเพื่อมาสาธยายวจนะของพระองค์ เพื่อขัดเกลาชีวิตของพวกเขาและสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาให้แก่พวกเขา ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ในการหลงทางอย่างชัดแจ้งก็ตาม
165. และอะไรได้ เมื่อทุกข์ภัยประสบแก่สูเจ้า สูเจ้ากล่าวว่า “นี่มันเพราะอะไรกัน?”
(ในสงครามบัดรฺ)
สูเจ้าได้สร้างทุกข์ภัย
(ให้แก่ศัตรูของเจ้า)
เป็นสองเท่า โอ้นบี จงกล่าวแก่พวกเขาว่า “มันเป็นเพราะตัวสูเจ้าเอง” แท้จริงอัลลอฮฺทรงมีอานุภาพเหนือทุกสิ่ง
166. และสิ่งที่ประสบแก่สูเจ้าในวันที่สองกองทัพเผชิญกันนั้น เป็นเพราะการอนุมัติของอัลลอฮฺ ทั้งนี้เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงจำแนกบรรดาผู้ศรัทธา
คำแปล R4.
164. แน่นอนยิ่ง อัลลอฮฺนั้นทรงมีพระคุณแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย โดยที่พระองค์ได้ทรงส่งรอซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง
165. และเมื่อมีภยันตรายหนึ่งประสบแก่พวกเจ้า ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าได้ให้ประสบแก่พวกเขามาแล้วถึงสองเท่าแห่งภยันตรายนั้น พวกเจ้าก็ยังกล่าวว่าสิ่งนี้มาจากไหนกระนั้นหรือ? จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า มันมาจากที่ตัวของพวกท่านเอง แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
166. และสิ่งที่ประสบแก่พวกเจ้าในวันที่สองกลุ่มเผชิญกันนั้นก็โดยอนุมัติของอัลลอฮ์และเพื่อที่ พระองค์จะทรงรู้ ผู้ศรัทธาทั้งหลายนั้นเอง
คำแปล R5.
๑๖๔. อัลเลาะห์ทรงให้สัตย์ปฏิญาณว่า อันที่จริงอัลเลาะห์ได้ทรงกรุณาประทานบุญคุณอันใหญ่หลวงต่อบรรดาชนชาวอาหรับที่พระองค์ทรงรู้อยู่แต่เดิมแล้วว่า เหล่าชนพวกนั้นอนาคตจะเป็นชนมุอ์มิน ในตอนที่พระองค์ได้ส่งแต่งตั้งพระศาสนทูตมูฮำมัดมาท่ามกลางพวกนั้น ซึ่งมูฮำมัดนี้เป็นชนชาวอาหรับเหมือนกับพวกนั้นหาใช่เป็นมลาอิกะห์หรือชนชาติหนึ่งชาติใด นอกจากชาวอาหรับไม่ ทั้งนี้เพื่อชนชาวอาหรับเหล่านั้นจะได้เข้าใจในภาษาที่มูฮำมัดใช้พูด และเพื่อให้พวกเหล่านั้นมีเกียรติขึ้นเพราะมูฮำมัด ซึ่งเขา (มูฮำมัด) จะได้อ่านบรรดาโองการ (อัล-กุรอาน)ของพระองค์ให้พวกนั้นฟัง จะซักฟอกจิตใจของพวกนั้นให้หมดจดจากความบาป และจะสอนพระตัมภีร์อัล-กุรอานกับอัลหะดีธให้พวกนั้นรู้ ซึ่งแต่ก่นจากที่มูฮำมัดได้ถูกแต่งตั้งมาเป็นพระศาสนทูต พวกนั้นเคยอยู่ในความงมงายอย่างชัด
๑๖๕.
คราวที่ได้มีภัยมาประสบพวกเจ้า
ถึงกับถูกฆ่าตายไปตั้ง ๗๐ คน ในตอนทำสงครามที่อุฮุด
ซึ่งพวกเจ้าก็ให้ร้าย
แก่พวกกาฟิร
ได้เป็นสองเท่า
คื่อ พวกกาฟิรถูกฆ่า ๗๐ คนและถูกจับเป็นเชลยศึกอีก ๗๐ คน ที่สมรภูมิบัดร์
นั้น พวกเจ้าไม่ควรพูดเลยว่า
“ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือครั้ง
นี้น่ะมาแต่ไหน
ทั้ง ๆ ที่พวกเราก็เป็นชนมุสลิม อีกทั้งพระนบีมูฮำมัดก็อยู่ท่ามกลางพวกเรา ช่างเป็นเรื่องแปลกประหลาดเสียจริง ๆ “ โอ้มูฮำมัด
เจ้าจงกล่าว
แก่พวกนั้น
เถิดว่า
ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือนั้นแหละ
มาจากตัวพวกเจ้าเองต่างหาก
เพราะเนื่องจากพวกเจ้าไม่ยืนหยัดต่อสู้อยู่ ณ ที่มั่นตามคำสั่งของมูฮำมัด พวกเจ้าจึงไม่ได้รับความช่วยเหลือ
แท้จริงอัลเลาะห์นั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
เช่น จะทรงให้ความช่วยเหลือก็ได้ ไม่ทรงให้ความช่วยเหลือก็ได้ เป็นต้น แล้วพระองค์จะทรงตอบสนองแก่พวกเจ้าฐานที่ขัดคำสั่งของมูฮำมัด
๑๖๖.
และ
ภัย
ใด ๆ ที่มาประสบกับพวกเจ้าในวันซึ่งกองทัพทั้งสองได้ปะทะกัน
ณ สมรภูมิอุฮุดนั้น
ย่อมเป็นไปตามความมุ่งหมายของอัลเลาะห์ และเพื่อพระองค์จะทรง
เปิดเผย
ให้ประจักษ์
แก่สายตามนุษย์
ว่าใครเป็นพวกมุอ์มิน
ที่แท้จริง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #49 เมื่อ:
มี.ค. 21, 2011, 09:21 PM »
0
สูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 167 - 168
คำอ่าน
167. วะลิยะอฺละมัลละซีนะนาฟะกู วะกีละละฮุมตะอาเลา กอติลูฟีสะบีลิลลาฮิ อะวิดฟะอู กอลูเลานะอฺละมุ กิตาลัลลัตตะบะอฺนาฮุม ฮุมลิลกุฟริ เยามะอิซินอักเราะบุ มินฮุมลิลอีมาน ยะกูลูนะบิอัฟวาฮิฮิม..มาลัยสะฟีกุลูบิฮิม วัลลอฮุอะอฺละมุบิมายักตุมูน
168. อัลละซีนะกอลูลิอิควานิฮิม วะเกาะอะดูเลาอะฏออูนามากุติลู กุลฟัดเราะอู อันอัน..ฟุสิกุมุลเมาตะ อิน..กุน..ตุมศอดิกีน
คำแปล R1.
167. And that he might test the hypocrites, it was said to them: "Come, fight in the Way of Allฟh or (at least) defend yourselves." they said: "Had we known that fighting will take place, we would certainly have followed you." they were that day, nearer to disbelief than to Faith, saying with their mouths what was not in their hearts. And Allah has full knowledge of what they conceal.
168. (They are) the ones who said about their killed brethren while they themselves sat (at home): "If only they had listened to us, they would not have been killed." say: "Avert death from your own selves, if you speak the truth."
คำแปล R2.
167. และเพื่อพระองค์ทรง (พิสูจน์ให้) รู้ถึง (ว่าใครเป็น) พวกที่สับปลับ และมีผู้กล่าวแก่พวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาเถิด ท่านทั้งหลายจงทำการรบในทางของอัลเลาะฮฺ หรือ (ถ้าไม่สมัครออกรบ) ก็จงป้องกัน (พวกข้าศึกมิให้ย่ำยี)” พวกเขาตอบว่า “หากพวกเรามีความรู้ในเชิงรบ แน่นอนพวกเราจะตามพวกท่าน (ออกไปรบด้วย) อันพวกเราในวันนั้นมีสภาพใกล้เคียงต่อการเนรคุณมากกว่าการมีศรัทธา พวกเขาพูดกับปากในเรื่องที่หามีอยู่ในหัวใจของพวกเขาไม่ และอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ยิ่งนัก ในสิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้
168. บรรดาผูที่กล่าวต่อพี่น้อง (ร่วมศาสนา) ของตนเองโดยที่ตัวเขาเฉยเมย (ต่อการออกรบ) ว่า “หากพวกนั้นตามเรา (คือไม่ออกรบ) แน่นอนพวกเขาก็ไม่ถูกฆ่า” เจ้าจงกล่าวเถิดว่า “ดังนั้นท่านทั้งหลายจงปัดความตายให้พ้นตัวของพวกท่านซิ ถ้าหากพวกท่านเป็นผู้สัจจริง”
คำแปล R3.
167. และเพื่อพระองค์จะได้ทรงจำแนกบรรดาผู้กลับกลอก เมื่อผู้กลับกลอกเหล่านี้ถูกบอกให้มาต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺหรือมาป้องกัน
(เมืองของพวกเขา)
พวกเขากล่าวว่า “ถ้าหากเรารู้ว่ามันเป็นสงคราม เราจะออกไปกับท่านอย่างแน่นอน” ในวันที่พวกเขากล่าวถ้อยคำนี้ พวกเขาอยู่ใกล้การปฏิเสธมากกว่าความศรัทธา เพราะพวกเขากล่าวสิ่งที่มิได้อยู่ในหัวใจของพวกเขา และอัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขาผิดบัง
168. คนเหล่านี้คือผู้ที่ขณะรั้งหลังอยู่ที่บ้าน พวกเขาจะกล่าวถึงพี่น้องของพวกเขา
(ที่ออกไปทำสงครามและถูกฆ่า)
ว่า “ถ้าพวกเขาเชื่อฟังเรา พวกเขาก็อาจจะไม่ถูกฆ่า” จงบอกพวกเขาเถิดว่า “พวกท่านจงปัดความตายให้พ้นจากตัวพวกท่านให้ได้ ถ้าหากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง
คำแปล R4.
167. และเพื่อพระองค์จะทรงรู้บรรดาผู้ที่กลับกลอกด้วย และได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่าจงมากันเถิด จงต่อสู้ในทางของอัลลอฮฺกัน หรือไม่ก็จงป้องกันพวกเขากล่าวว่า หากเรารู้ว่ามีการสู้รบกันแล้ว แน่นอนเราก็ตามพวกท่านไปแล้วในวันนั้นพวกเขาใกล้แก่การปฏิเสธ ศรัทธายิ่งกว่าพวกเขามีศรัทธา พวกเขาจะกล่าวด้วยปากของพวกเขา สิ่งที่ไม่ใช่อยู่ในหัวใจของพวกเขา และอัลลอฮฺนั้นทรงรู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเขาปกปิดกัน
168. บรรดาผู้ที่พูดเกี่ยวแก่พี่น้องของพวกเขา โดยที่พวกเขานั่งเฉยอยู่ว่าถ้าหากพวกเขาเชื่อฟังเรา พวกเขาก็ไม่ถูกฆ่า จงกล่าวเถิด(มุอัมมัด) ว่า พวกท่านจงป้องกันความตายให้พ้นจากตัวของพวกท่านเถิด หากพวกท่านพูดจริง
คำแปล R5.
๑๖๗.
และเพื่อจะทรงให้ประจักษ์ว่าใครเป็นมุนาฟิกและว่าใคร
คือมุนาฟิก ๓๐๐ คนซึ่งถอยทัพกลับ ไม่ไปทำสงครามที่อุฮุด
ที่ถูก
มุอ์มินพวกแรก
กล่าวว่า “เชิญพวกเจ้าต่อสู้
พวกข้าศึก
ตามหนทางแห่งอัลเลาะห์หรือ
ถ้าพวกเจ้าไม่สมัครใจต่อสู้ก็
จงป้องกัน
พวกข้าศึกมิให้ย่ำยีพวกเราโดยการเข้ามาเพิ่มกำลังพลกับพวกเราเสีย
เถิด พวกนั้นก็ตอบ
ปฏิเสธคำกล่าวเรียกร้องของพวกมุอ์มิน
ว่าหากพวกเรา
แคล่วคล่อง
รู้เชิงรบ แน่นอนพวกเราจะติดตามพวกเจ้า
ออกไปรบ แต่นี่พวกเราหาได้รู้เช่นนั้นไม่ พวกเราจึงไม่ติดตามพวกเจ้าออกไปทำการรบ อัลเลาะห์จึงทรงตรัสแก้คำอ้างเท็จของพวกนั้นว่า
วันนี้พวก
มุนาฟิก
เหล่านั้นคล้อยไปข้างไม่ศรัทธามากกว่าข้างศรัทธา
ทั้งนี้เพราะทำให้ปรากฏเห็นชัดว่าพวกเขาไม่ช่วยเหลือพวกมุอ์มิน ซึ่งเมื่อแรกที่ยังไม่ได้ทำสงครามอุฮุด ภายนอกของพวกนั้นก็แสดงหนักไปข้างศรัทธา
พวกนั้นพูดแต่ปากว่า “ส่วนภายในจิตใจของพวกนั้นไม่มีอะไรหรอก”
ถ้าพวกเขาแคล่วคล่องในเชิงรบแล้วพวกเขาย่อมจะติดตามไปทำการรบ แต่น้ำใสใจจริงพวกนั้นไม่ต้องการติดตามไปทำการรบเลย แม้พวกนั้นจะชำนาญการรบก็เอาเถิด
ฝ่ายอัลเลาะห์นั้นทรงรู้อาการ
กลับกลอก
ที่พวกนั้นปกปิดไว้
ในส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งพระองค์จะทรงตอบสนองพวกนั้น เพราะความกลับกลอกดังกล่าว
๑๖๘. พวกมุนาฟิกที่อัลเลาะห์ได้ให้ประจักษ์แก่สายตามนุษย์ดังกล่าวไว้ในโองการที่ ๑๖๗ นั้น
เป็นพวกที่ได้แต่พูดกับญาติพี่น้องของตน
ที่ร่วมนับถือศาสนาเดียวกัน
โดยที่พวกตนก็นั่งอยู่เฉย ๆ
ไม่ยอมออกทำการรบ
ว่า
บรรดาที่ตายในสมรภูมิอุฮุดก็ดี หรือพวกญาติพี่น้องของพวกเขาก็ดี
ถ้าพวก
ทั้งสองที่ว่า
นั้นเชื่อฟังเรา
ที่บอกว่าอย่าออกไปทำสงคราม
แล้ว พวกนั้นก็จะไม่ถูกฆ่า
ที่สมรภูมิอุฮุด
เป็นแน่
โอ้มูฮำมัด
เจ้าจงกล่าว
แก่พวกนั้น
เถิดว่า ฉะนั้นพวกเจ้าก็จงปัดความตายให้พ้นตัวเองซิ หากว่าพวกเจ้าเป็นพวกูดจริง
ที่ว่าการไม่ออกสงครามนั้นจะช่วยให้พวกเจ้ารอดชีวิตได้ แต่พวกนั้นก็หมดความสามารถที่จะให้ตนเองพ้นจากความตายได้ จึงเป็นว่าพวกเจ้าพูดเท็จที่บอกว่าการไม่ออกทำสงครามนั้น จะช่วยป้องกันชีวิตให้รอดตายได้
---------------------------------------------------------------------
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 169 - 171
คำอ่าน
169. วะลาตะหฺสะบัน..นัลละซีนะกุติลูฟีสะบีลิลลาฮิ อัมวาตา บัลอะหฺยาอุน อิน..ดะร็อบบิฮิม ยุรฺซะกูน
170. ฟะริหีนะ บิมา..อาตาฮุมุลลอฮุ มิน..ฟัฎลิฮี วะยัสตับชิรูนะ บิลละซีนะลัมยัลหะกูบิฮิม..มินค็อลฟิฮิม อัลลาค็อวฟุนอะลัยฮิม วะลาฮุมยะหฺซะนูน
171. ยัสตับชิรูนะบิเนียะอฺมะติม..มินัลลอฮิวะฟัฎลิว..วะอัน..นัลลอฮะ ลายุฎีอุ อัจญร็อลมุอ์มินีน
คำแปล R1.
169. Think not of those who are killed in the Way of Allah as dead. Nay, they are alive, with their Lord, and they have provision.
170. They rejoice in what Allah has bestowed upon them of his Bounty, rejoicing for the sake of those who have not yet joined them, but are left behind (not yet martyred) that on them no fear shall come, nor shall they grieve.
171. They rejoice in a Grace and a Bounty from Allah, and that Allah will not waste the reward of the believers.
คำแปล R2.
169. และเจ้าอย่าคิดว่า บรรดาผู้ถูกฆ่าตายในทางของอัลเลาะฮฺนั้นเป็นผู้เสียชีวิต ความจริงพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ณ องค์อภิบาลของพวกเขา โดยพวกเขาได้รับเครื่องยังชีพ (อยู่ตลอดเวลา)
170. พวกเขามีความสุขกับสิ่งที่อัลเลาะฮฺได้ทรงประทานแก่พวกเขา จากความโปรดปรานของพระองค์ และพวกเขามีความปีติยินดีต่อบรรดาผู้ที่ยังไม่ได้ (ตาย) ตามติดพวกเขาไปด้วย โดยยังอยู่เบื้องหลังของพวกเขา (ในโลกนี้) (นั่นคือ) จะไม่มีความหวั่นกลัวใด ๆ ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่เศร้าโศก
171. พวกเขามีความปีติยินดีกับความโปรดปรานและความกรุณาจากอัลเลาะฮฺ และแท้จริงอัลเลาะฮฺจะไม่ลบล้างรางวัลของบรรดาผู้มีศรัทธา
คำแปล R3.
169. จงอย่าคิดว่าบรรดาผู้ถูกฆ่าในหนทางของอัลลอฮฺตาย มิได้ พวกเขายังมีชีวิตอยู่ และได้รับปัจจัยยังชีพจากอัลลอฮฺ
170. พวกเขารื่นเริงในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานความโปรดปรานให้แก่พวกเขา และพวกเขายินดีที่ได้คิดว่า ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัวหรือน่าทุกข์ระทมสำหรับผู้ที่พวกเขาทิ้งไว้ข้างหลังและผู้ที่ยังไม่ได้มาเข้าร่วมกับพวกเขา
171. พวกเขายินดีที่ได้รับความการุณและความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ และพระองค์มิทรงทำให้รางวัลของผู้มีศรัทธาได้รับความเสียหาย
คำแปล R4.
169. และเจ้าจงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่า บรรดาผู้ที่ถูกฆ่าในทางของอัลลอฮฺนั้นตาย มิได้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ณ พระเจ้าของพวกเขาในสภาพที่ได้รับปัจจัยยังชีพ
170. ปลาบปลื้มต่อสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานให้แก่พวกเขา จากความกรุณาของพระองค์ และปีติยินดีต่อบรรดาผู้ที่ยังมาไม่ทันพวกเขาซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขาว่า ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขาและทั้งพวกเขาจะไม่เสียใจ
171. พวกเขาปีติยินดีต่อสิ่งอำนวยความสุขจากอัลลอฮฺ และความกรุณา (จากพระองค์) ด้วย และแท้จริง อัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงให้สูญหายซึ่งรางวัลของผู้ศรัทธาทั้งหลาย
คำแปล R5.
มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้
มีว่า พวกที่ตายลงในสงครามอุฮุดนั้น พวกเขาได้ไปพบเห็นสถานที่อยู่ดีกินดี แล้วจึงเอ่ยกันว่า ใครเล่าจะเป็นผู้นำข่าวดีของเรานี้ไปแจ้งให้บรรดาญาติพี่น้องของเราที่อยู่ ณ โลกพิภพได้รู้ข่าวกันบ้าง ว่าบัดนี้พวกเรากำลังมีชีวิตเป็นอยู่ในสรวงสวรรค์ อัลเลาะห์ตรัสอาสาว่า ข้าเองจะเป็นผู้นำข่าวของพวกเจ้าไปบอกพวกญาติพี่น้องของพวกเจ้าซึ่งอยู่ ณ โลกพิภพ
๑๖๙.
และ
โอ้มูฮำมัด
เจ้าอย่าคาดคิดว่า บรรดาที่ถูกฆ่าเพื่อศาสนาของอัลเลาะห์นั้นเป็นพวกตาย แต่ที่จริง
พวกนั้น
ยังมีชีวิตอยู่ด้วย
การตัดสินของ
องค์พระผู้อภิบาลแห่งพวกนั้น
อันวิญญาณของเขาเหล่านั้นเป็นไปตามกระแสของอัลหะดีธรายงานไว้ดังนี้
๑. เข้าสถิตอยู่ในกระเพาะของนกสีเขียวซึ่งชีวิตของพวกนั้นจะใช้ร่างของนกเป็นพาหนะทัศนาจรไปทั่วบริเวณสวรรค์ตามความชอบใจ
๒. ชีวิตของพวกนั้นเข้าไปสู่อยู่ในเรือนร่างเดิมของตนเอง ได้รับความสำเริงสุขอยู่ในสวนสวรรค์
๓. ชีวิตของพวกนั้นมีสภาพคล้ายนก
๔. หรือว่าชีวิตของพวกนั้นได้พยายามแสวงหาความบริสุทธิ์ให้ทวีมากขึ้น
๕. ชีวิตของพวกนั้นอยู่ในกระเพาะนกสีเขียวใช้ร่างของนกเป็นพาหนะไปสู่แม่น้ำในสวรรค์ กินผลไม้ในสวรรค์นั้น แล้วกลับมาพักอาศัยอยู่ในโคม ซึ่งถูกแขวนไว้ในใต้ร่มแห่งอัรช์
ซึ่งพวกนั้นต่างก็ได้รับพระราชทาน
ผลไม้ในสรวงสวรรค์
๑๗๐.
อย่างเต็มภาคภูมิตามที่อัลเลาะห์ได้ทรงอำนวยความเพิ่มพูนของพระองค์แก่พวกเหล่านั้น และ
บรรดาที่ถูกฆ่าตายแล้ว
เหล่านั้นยังได้ยิ้มแย้มอยู่กับบรรดา
ญาติพี่น้อง
ผู้อยู่ข้างหลังซึ่งยังไมได้
ตาย
ตามพวกเขาไป เพราะพวก
ญาติพี่น้องที่ยังไม่ได้ตาย
เหล่านั้นอยู่ในความสงบและไม่มีความเศร้าสลดแต่ประการใด
๑๗๑. เมื่ออัลเลาะห์ได้ทรงสาธยายว่าพวกที่ตายลงในสงครามได้รับความเบิกบานสำราญใจอยู่กับญาติพี่น้องมุอ์มินที่ยังมีชีวิตอยู่ ณ โลกพิภพนี้แล้ว พระองค์ก็ทรงสาธยายความเบิกบานใจของพวกนั้นอีกว่า
พวกนั้นยังได้เบิกบานใจต่อบุญกุศลจากอัลเลาะห์ และความเลิศล้นพ้น
ในบุญกุศลจากพระองค์
อีกด้วย และอันที่จริงนั้นอัลเลาะห์ก็มิได้ทรงให้สูญเปล่า ซึ่งบุญกุศลของบรรดามุอ์มิน
ผู้ประกอบการดีงาม
แต่ประการใดเลย
พระองค์กลับจะทรงปูนบำเหน็จให้พวกนั้นได้รับบุญกุศลมากขึ้นอีก
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #50 เมื่อ:
มี.ค. 22, 2011, 08:22 PM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 172 - 175
คำอ่าน
172. อัลละซีนัสตะญาบูลิลลาฮิ วัรฺเราะสูลิ มิม..บะอฺดิมา..อะศอบะฮุมุลก็อรฺหุ ลิลละซีนะอะหฺสะนูมินฮุม วัตตะก็อวอัจญรุนอะซีม
173. อัลละซีนะกอละละฮุมุน..นาสุ อิน..นัน..นาสะ ก็อดญะมะอูละกุม ฟัคเชาฮุม ฟะซาดะฮุมอีมานา วะกอลูหัสบุนัลลอฮุวะเนียอฺมัลวะกีล
174. ฟัน..เกาะละบูบิเนียะอฺมะติม..มินัลลอฮิ วะฟัฎลิลลัมยัมสัสฮุมสู...อู..วัตตะบะอูริฎวานัลลอฮิ วัลลอฮุซูฟัฎลินอะซีม
175. อิน..นะมาซาลิกุมุชชัยฏอนุ ยุค็อววิฟุเอาลิยา...อะฮฺ ฟะลาตะคอฟูฮุม วะคอฟูนิ อิน..กุน..ตุม..มุอ์มินีน
คำแปล R1.
172. Those who answered (the call of) Allah and the Messenger (Muhammad) after being wounded; for those of them who did good deeds and feared Allah, there is a great reward.
173. Those (i.e. believers) unto whom the people (hypocrites) said, "Verily, the people (pagans) have gathered against you (a great army), therefore, fear them." but it (only) increased them in Faith, and they said: "Allah (Alone) is sufficient for us, and He is the best Disposer of affairs (for us)."
174. So they returned with Grace and Bounty from Allah. No harm touched them; and they followed the good pleasure of Allah. And Allah is the Owner of great Bounty.
175. It is only
Shaitan
(Satan) that suggests to you the fear of his
Auliya'
[supporters and friends (polytheists, disbelievers in the Oneness of Allah and In his Messenger, Muhammad )], so fear them not, but fear Me, if you are (true) believers.
คำแปล R2.
172. บรรดาผู้สนองตอบคำบัญชาของอัลเลาะฮฺและศาสนทูต ภายหลังจากบาดแผล (จากสงครามอุหุด) ได้ประสบแก่พวกเขา แน่นอสำหรับมวลผู้ประพฤติคุณงามความดีและมีความยำเกรง (อัลเลาะฮฺ) จากมวลพวกเขานั้น ย่อมได้รับรางวัลอันใหญ่หลวง
173. (พวกเขานั้นเป็น) พวกซึ่งมีมนุษย์บางคน (ชื่อ “นะอีม บินมัสอูด”) ได้กล่าว (ขู่) กับพวกเขาผู้ประพฤติความดีว่า “แท้จริงมนุษย์ (กลุ่มหนึ่ง คือ อะบูซุฟยานกับคณะ) ได้ร่วมกำลังกันเพื่อ (ทำสงครามกับ) ท่านทั้งหลาย ดังนั้น จงกลัวพวกนั้นเถิด” แต่ก็ได้เพิ่มพูนความศรัทธาแก่พวกเขา (ยิ่งขึ้น) และพวกเขากล่าวว่า “อัลเลาะฮฺ (เพียงพระองค์เดียว) เป็นความเพียงพอแก่เราแล้ว และทรงเป็นที่มอบหมายที่เยี่ยมยอดที่สุด”
174. และแล้วพวกเขาก็กลับ (จากสมรภูมิ) ด้วยความโปรดปรานและความการุณ (จากอัลเลาะฮฺ) อีกทั้งความเลวร้าย (เช่นบาดแผล ความเสียขวัญ เป็นต้น) ไม่สัมผัสแก่พวกเขาเลย และพวกเขาได้ติดตามความพึงพระทัยแห่งอัลเลาะฮฺ และอัลเลาะฮฺทรงไว้ซึ่งความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่
175. อันที่จริง นั่นแหละมารร้าย (คือนะอีม บินมัสอูด) ซึ่งเขาจะทำให้ (พวกเจ้า) เกิดความกลัวบรรดาพลพรรคของเขา (คืออะบูซุฟยานกับพวก) ดังนั้น เจ้าทั้งหลายอย่ากลัวพวกนั้น แต่จงกลัวข้าเถิด ถ้าเจ้าเป็นผู้ศรัทธา (ที่แท้จริง)
คำแปล R3.
172. สำหรับบรรดาผู้ที่สนองตอบต่อการเรียกร้องของอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ แม้แต่หลังจากได้รับความบาดเจ็บ จะมีรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับบรรดาผู้ที่กระทำดีและสำรวมตนจากความชั่ว
173. และบรรดาผู้ที่เมื่อมีคนกล่าวแก่พวกเขาว่า “ผู้คนกำลังรวมตัวกันต่อต้านพวกท่าน ดังนั้นจงกลัวพวกเขา” แต่คำพูดนั้นได้ทำให้พวกเขามีความศรัทธามั่นยิ่งขึ้นและกล่าวว่า “อัลลอฮฺนั้นเพียงพอแล้วสำหรับเรา เพราะพระองค์เป็นผู้พิทักษ์ที่ดีเลิศ”
174. ในที่สุด พวกเขาก็ได้กลับบ้านด้วยความการุณและความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ พวกเขามิได้ประสบภยันตรายใด ๆ นอกจากนั้นแล้ว พวกเขายังปฏิบัติตามความปราโมทย์ของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺทรงเป็นเจ้าแห่งความโปรดปรานอันใหญ่หลวง
175.
(ถึงตรงนี้แล้ว สูเจ้าต้องตระหนักว่า)
มีแต่มารเท่านั้นที่ทำให้สูเจ้ากลัวพวกพ้องของมัน ดังนั้นจงอย่ากลัวพวกมัน แต่จงกลัวฉันถ้าสูเจ้าเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง
คำแปล R4.
172. คือบรรดาผู้ที่ตอบรับอัลลอฮฺ และรอซูลหลังจากที่บาดแผลได้ประสบแก่พวกเขาสำหรับบรรดาผู้กระทำดีใน หมู่พวกเขาและมีความยำเกรงนั้น คือรางวัลอันยิ่งใหญ่หลวง
173. บรรดาที่ผู้คนได้กล่าวแก่พวกเขาว่า แท้จริงมีผู้คนได้ชุมนุมสำหรับพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงกลัวพวกเขาเถิดแล้วมัน ได้เพิ่มการอีมานแก่พวกเขา และพวกเขากล่าวว่าอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ที่พอเพียงแก่เราแล้วและเป็นผู้รับมอบหมายที่ดีเยี่ยม
174. แล้วพวกเขาได้กลับมาพร้อมด้วยความกรุณาจากอัลลอฮฺ และความโปรดปราน (จากพระองค์) โดยมิได้มีอันตรายใด ๆ ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาได้ปฏิบัติตามความพอพระทัยของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺคือผู้ทรงโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่
175. แท้จริงชัยฏอนนั้นเพียงขู่ได้เฉพาะบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามมันเท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขาและจงกลัวข้าเถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา
คำแปล R5.
๑๗๒. ในตอนที่อบูซุฟยานและคณะกลับออกจากสมรภูมิอุฮุด และยังได้ให้สัญญาท้าทายว่าต้องการเจอะกับมูฮำมัดอีกที่ตลาดบัดร์ ในเมื่อถึงคราวทำสงครามอุฮุดครั้งต่อไปในปีหน้า
บรรดาผู้สนองตามอัลเลาะฮฺและพระศาสนทูต
มูฮำมัดที่ว่าให้ออกทำการรบ
หลังจากที่พวกเขาได้รับบาดแผลกันมาแล้ว
ในคราวทำสงครามอุฮุด
นั้นบุญกุศลอันใหญ่หลวง
คือสวรรค์
ย่อมได้แก่พวกนั้นที่ประกอบคุณความดี
ด้วยการกระทำตามที่ทรงใช้
และเกรงกลัว
การขัดแย้งต่ออัลเลาะห์
อย่างแน่นอน
๑๗๓.
ซึ่งพวกเหล่านั้นมีคนคนหนึ่ง
ชื่อนะอีมบุตรมัซอู๊ด อัล-อัชยะอีย์
ได้กล่าวขู่ขวัญ
ผู้ทำความดีเหล่านั้น
ว่า แท้จริงได้มีชนคณะหนึ่ง
คืออบูซุฟยานกับคณะ
ได้รวมพวกกันขึ้น
เป็นจำนวนมาก
หมายจะกวาดล้างพวกเจ้า
ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน
พวกเจ้าจงหวั่นเกรงพวกเหล่านั้นเถิด
อย่าไปเจาอะหน้าพวกเหล่านั้นเลย แต่แล้วอุบายล่อลวงของนะอีม
นี้ กลับทำให้พวก
มุอ์มินเ
หล่านั้นเพิ่มศรัทธาขึ้นอีก และพวก
มุอ์มิน
เหล่านั้นต่างตอบว่า อัลเลาะห์ย่อมเป็นที่เพียงพอสำหรับพวกเราอยู่แล้ว ทั้งยังทรงเป็นที่ฝากฝังอันเยี่ยมยิ่งนัก
จึงเป็นอันว่าพอถึงกำหนด พวกมุอ์มินทั้งหลายได้ออกไปยังตลาดบัดร์พร้อมด้วยมูฮำมัด ฝ่ายอัลเลาะฮฺได้ทรงบันดาลความประหม่าหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในใจของอบูซุฟยานและคณะถึงกับไม่ไกล้าออกมาเผชิญหน้ากับนบีมูฮำมัดตามนัดหมาย การออกไปตามนัดของมุอ์มินครั้งนี้ได้นำสรรพสินค้าติดขบวนไปด้วย เมื่อไม่สมคะเนในการเตรียมรบแล้ว พวกเขาจึงได้จำหน่ายสินค้าทั้งสิ้นได้กำไรอย่างงดงาม
๑๗๔.
แล้วพวก
มุอ์มิน
เหล่านั้นจึงกลับไป
จากสมรภูมิบัดร์
พร้อมด้วยความปลอดภัยและผลกำไรซึ่งเคราะห์ร้าย
ไม่ว่าจะในด้านบาดแผลหรือการถูกฆ่าจ
ะไม่ประสบกับพวกนั้นได้เลย ทั้งพวกนั้นยังเจริญตามความยินดีของอัลเลาะห์
ด้วยการปฏิบัติตนตามการบัญชาใช้ของอัลเลาะห์และปฏิบัติตามมูฮำมัดที่ว่า “ให้ไปทำการสงคราม ณ สมรภูมิบัดร์”
ส่วนอัลเลาะห์คือองค์ทรงโปรดที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
๑๗๕.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ที่นะอีม บุตร มัสอู๊ด อัล-อัชยะอีย์บอกแก่พวกเจ้าว่า “อบูซุฟยานและคณะได้เกณฑ์สมัครพรรคพวกขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อจะกวาดพวกเจ้าให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน”
นั่นแหละตือไซตอนซึ่งมัน
(นะอีม)
ได้เอา
พวกกาฟิร
ผู้เป็นที่รักของมันมาขู่
พวกเจ้าให้กลัว
ฉะนั้นพวกเจ้าอย่าได้หวั่นเกรง
พวกกาฟิร
พวกนั้นเลย แต่จงหวั่นเกรงข้า
ในประการที่ละทิ้งคำสั่งของข้า
เถิด หากว่าพวกเจ้าเป็นผู้มีความศรัทธาจริง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #51 เมื่อ:
มี.ค. 24, 2011, 12:17 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 176 - 178
คำอ่าน
176. วะลายะหฺซุน..กัลละซีนะยุสาริอูนะ ฟิลกุฟริ อิน..นะฮุมลัย..ยะฎุรฺรุลลอฮะชัยอา ยุรีดุลลอฮุ อัลลายัจญอะละละฮุมหัซซ็อน..ฟิลอาคิเราะฮฺ วะละฮุมอะซาบุนอะซีม
177. อิน..นัลละซีนัชตะเราะวุลกุฟริบิลอีมานิ ลัย..ยะดุรฺรุลลอฮะชัยอา วะละฮุมอะซาบุนอะลีม
178. วะลายะหฺสะบัน..นัลละซีนะกะฟะรู..อัน..นะมานุมลีละฮุม ค็อยรุลลิอัน..ฟุสิฮิม อิน..นะมานุมลีละฮุม ลิยัซดาดู..อิษมา วะละฮุมอะซาบุม..มุฮีน
คำแปล R1.
176. And let not those grieve you (O Muhammad ) who rush with haste to disbelieve; Verily, not the least harm will they do to Allah. It is Allah's will to give them no portion in the Hereafter. For them there is a great torment.
177. Verily, those who purchase disbelief at the price of Faith, not the least harm will they do to Allah. For them, there is a painful torment.
178. And let not the disbelievers think that our postponing of their punishment is good for them. We postpone the punishment only so that they may increase in sinfulness. And for them is a disgracing torment.
คำแปล R2.
176. และอย่าทำให้เจ้าเศร้าโศก เนื่องในกรณีของบรรดาผู้เร่งรีบในการเนรคุณ เพราะที่แท้จริงแล้ว พวกเขาจะไม่ทำอันตรายแก่อัลเลาะฮฺสักประการเดียว อัลเลาะฮฺทรงประสงค์ที่จะไม่บันดาลส่วนรับในโลกหน้าแก่พวกเขาและพวกเขาต้องได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง
177. แท้จริงบรรดาผู้นำการศรัทธามาแลกเปลี่ยนกับการเนรคุณนั้น พวกเขาย่อมไม่ทำอันตรายแก่อัลเลาะฮฺสักประการเดียว และพวกเขาต้องรับการลงโทษอันทรมานยิ่ง
178. และบรรดาผู้เนรคุณทั้งหลายอย่าได้คาดคิดว่า เท่าที่เราได้ทอดเวลา (ให้มีอายุยืนนาน) แก่พวกเขานั้นจะดีงามสำหรับตัวของพวกเขาเอง อันที่จริงเท่าที่เราทอดเวลาแก่พวกเขา ก็เพื่อให้พวกเขาเพิ่มพูนบาปและพวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษอันอัปยศยิ่ง
คำแปล R3.
176.
(โอ้ รอซูล)
จงอย่าให้การงานอันชั่วร้ายของบรรดาผู้ดิ้นรนต่อสู้เพื่อการปฏิเสธสร้างความทุกข์ระทมให้แก่เจ้า พวกเขาไม่สามารถทำร้ายอะไรต่ออัลลอฮฺได้เลย อัลลอฮฺมิได้ทรงปรารถนาที่จะให้เขามีส่วนใด ๆ ในปรโลกและสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันมหันต์
177. แท้จริงบรรดาผู้แลกเปลี่ยนการศรัทธาด้วยการปฏิเสธ พวกเขาไม่อาจให้ร้ายใด ๆ ต่ออัลลอฮิได้เลย และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด
178. และจงอย่าให้บรรดาผู้ปฏิเสธคิดว่าการที่เราได้ให้การผ่อนปรนแก่พวกเขานั้นเป็นการดีสำหรับพวกเขาเอง เพราะความจริงแล้วเราได้ผ่อนปรนให้พวกเขาก็เพื่อที่พวกเขาจะสะสมบาปเพิ่มขึ้นสำหรับตัววกเขาเอง และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันอัปยศ
คำแปล R4.
176. และจงอย่าให้บรรดาผู้รีบเร่งกันในการปฏิเสธศรัทธาเป็นที่เสียใจแก่เจ้า แท้จริงพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่อัลลอฮฺได้แต่อย่างใดเลย อัลลอฮฺนั้นทรงต้องการที่จะไม่ให้มีส่วนได้ใด ๆ แก่พวกเขาในปรโลกและสำหรับพวกเขานั้นคือการลงโทษอันยิ่งใหญ่
177. แท้จริงบรรดาผู้ที่ซื้อการกุฟุร์ ด้วยการอีมานนั้น พวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่อัลลอฮฺได้แต่อย่างใดเลย และสำหรับพวกเขานั้นคือการลงโทษอันเจ็บแสบ
178. และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น จงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่า ที่เราประวิงให้แก่พวกเขานั้น เป็นการดีแก่ตัวของพวกเขาแท้จริงที่เราประวิงให้แก่พวกเขานั้น เพื่อพวกเขาจะได้เพิ่มพูนซึ่งบาปกรรมเท่านั้น และสำหรับพวกเขานั้น คือการลงโทษอันต่ำช้า
คำแปล R5.
๑๗๖.
และ
โอ้มูฮำมัด
อย่าได้ให้
ชาวมักกะห์หรือพวกมุนาฟิก
ผู้ซึ่งรีบสิ้นศรัทธา
โดยการสนับสนุนของนะอีมฯ ผู้เป็นมารล่อลวง
มาเป็นจุดหนึ่งที่ยังความโศกสลดแก่เจ้าเลย
เพราะความไม่ศรัทธาของพวกนั้น
เพราะที่จริงแล้วพวกนั้นย่อมจะไม่สามารถให้ความเดือดร้อนแก่อัลเลาะห์ได้
แต่กลับจะเป็นภัยแก่ตนเอง
อัลเลาะฮฺทรงมุ่งประสงค์ที่จะมิให้พวกนั้นมีส่วนได้ในอาคิเราะห์
คือสวรรค์ ด้วยประการฉะนี้แหละพระองค์จึงไม่ทรงช่วยเหลือพวกนั้น
ทั้งพวกนั้นยังได้รับโทษทรมานอันใหญ่หลวง
ในขุมนรก
อีกโสดหนึ่งด้วย
๑๗๗.
แท้จริงบรรดาผู้เปลี่ยนความศรัทธาไปเอาความสิ้นศรัทธานั้นไม่สามารถให้ภัยแก่อัลเลาะห์ได้แต่ประการใดเลย และสำหรับพวกนั้นย่อมได้รับโทษทรมานอันเจ็บแสบ
ณ ขุมนรก
๑๗๘.
และบรรดาผู้ไม่ศรัทธาอย่าเชื่อแน่นักว่าการที่เรา
(อัลเลาะห์)
จะให้พวกนั้น
มีชีวิต
อยู่ยืนนานนั้นเป็นความดียิ่ง
สำหรับตัวของพวกเขาเอง
แต่เท่าที่เรา
(อัลเลาะห์)
จะให้พวกนั้นมีชีวิตอยู่ยืนนานก็ให้พวกเขามีบาปพอกพูน
ด้วยการประพฤติบาปมากขึ้น
เท่านั้น และสำหรับพวกนั้นย่อมได้รับโทษทรมานอันต่ำช้า
ในวันอาคิเราะห์
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #52 เมื่อ:
มี.ค. 24, 2011, 09:15 PM »
0
สูเราะฮฺอาลิอิมรอนอายะฮฺที่ 179 - 180
คำอ่าน
179. มากานัลลอฮุ ลิยะซะร็อลมุอ์มินีนะ อะลามา..อัน..ตุม อะลัยฮิ หัตตายะมีซัลเคาะบีษะ มินัฏฏ็อยยิบ วะมากานัลลอฮุ ลิยุฏลิอะกุม อะลัลฆ็อยบิ วะลากิน..นัลลอฮะ ยัจญตะบี มิรฺรุสุลิฮี มัย..ยะชา...อ์ ฟะอามินูบิลลาฮิ วะรุสุลิฮี วะอินตุ์มินู วะตัตตะกู ฟะละกุมอัจญรุนอะซีม
180. วะลายะหฺสะบันนัลละซีนะ ยับเคาะลูนะบิมา..อาตาฮุมุลลอฮุ มิน..ฟัฎลิฮี ฮุวะค็อยร็อลละฮุม บัลฮุวะชัรฺรุลละฮุม สะยุฏ็อววะกูนะ มาบะคิลูบิฮี เยามัลกิยามะฮฺ วะลิลลาฮิมีรอษุสสะมาวาติวัลอัรฺฎฺ วัลลอฮุบิมาตะอฺมะลูนะเคาะบีรฺ
คำแปล R1.
179. Allah will not leave the believers in the state in which you are now, until He distinguishes the wicked from the good. Nor will Allah disclose to you the secrets of the
Ghaib
(unseen), but Allah chooses of his Messengers whom He pleases. So believe in Allah and his Messengers. And if you believe and fear Allah, then for you there is a great reward.
180. And let not those who covetously withhold of that which Allah has bestowed on them of his Bounty (Wealth) think that it is good for them (and so they do not pay the obligatory Zakat). Nay, it will be worse for them; the things which they covetously withheld shall be tied to their necks like a collar on the Day of Resurrection. And to Allah belongs the heritage of the heavens and the earth; and Allah is Well-Acquainted with all that you do.
คำแปล R2.
179. หาใช่ว่าอัลเลาะฮฺจะทรงทอดทิ้งบรรดาผู้มีศรัทธาให้ประสบกับภาวะที่พวกเจ้ากำลังประสบอยู่ (คือระหว่างมุสลิมกับพวกมุนาฟิกอยู่รวมปะปนกัน จนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร) จนกว่าพระองค์จะแยกสิ่งโสโครก (คือพวกมุนาฟิก-ตลบตะแลง) ออกจากสิ่งที่ดี (คือกลุ่มมุอฺมิน-ผู้มีศรัทธา) และมิใช่ว่าอัลเลาะฮฺจะให้พวกเจ้าได้มองเห็นสิ่งลี้ลับ (ต่าง ๆ ด้วยสายตาของพวกเจ้าเอง) หากทว่าพระองค์คัดเลือกจากบรรดาศาสทูตของพระองค์ซึ่งบุคคลที่พระองค์ทรงประสงค์ (เพื่อประกาศหลักธรรม และความลี้ลับต่าง ๆ) ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงศรัทธาในอัลเลาะฮฺ และบรรดาศาสนทูตของพระองค์เถิด และหากพวกเจ้าศรัทธาและยำเกรง แน่นอนพวกเจ้าก็จะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่
180. และบรรดาผู้ตระหนี่ในสิ่งที่อัลเลาะฮฺได้ประทานแก่พวกเขาจากความโปรดปรานของพระองค์ อย่าได้คิดว่าสิ่งนั้นจะดีงามสำหรับพวกเขา ความจริงมันเป็นความชั่วร้ายสำหรับพวกเขาในวันชาติหน้า พวกเขาจะถูกพันธนาการต้นคอ กับสิ่งที่เขาได้เคยตระหนี้ (มาก่อนโดยไม่ยอมใช้จ่ายทรัพย์ทินไปในทางของอัลเลาะฮฺเลย) และสำหรับอัลเลาะฮฺนั้นคือมรดกแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน (ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ตลอดไป) และอัลเลาะฮฺทรงตระหนักเสมอในสิ่งที่พวกเจ้าประพฤติไว้
คำแปล R3.
179. อัลลอฮฺไม่ทรงปล่อยปละบรรดาผู้ศรัทธาให้อยู่ในสภาพอย่างที่สูเจ้าเป็นอยู่ แน่นอนพระองค์จะทรงจำแนกคนที่ดีออกจากคนเลว แต่อัลลอฮฺจะไม่ทำสิ่งนี้โดยเปิดเผยสิ่งที่พ้นญาณวิสัยแก่สูเจ้า
(สำหรับการเปิดเผยสิ่งที่พ้นญาณวิสัยนั้น)
พระองค์จะทรงเลือกบรรดารอซูลของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์ ดังนั้นจงศรัทธาในอัลลออฺและรอซูลของพระองค์
(เกี่ยวกับสิ่งพ้นญาณวิสัย)
เพราะว่าถ้าสูเจ้าศรัทธาและสำรวมตนจากความชั่ว สูเจ้าจะได้รับรางวัลอันใหญ่หลวง
180. จงอย่าให้ผู้ที่ตระหนี่ถี่เหนียวในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์ให้แก่เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา หาใช่เช่นนั้นไม่ มันเป็นความชั่วสำหรับพวกเขาต่างหาก เพราะสิ่งใดที่พวกเขาตระหนี่ไว้จะคล้องคอพวกเขาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ เพราะอัลลอฮฺเท่านั้นเป็นผู้มีสิทธิ์แห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และอัลลอฮฺทรงเฝ้าดูในสิ่งที่สูเจ้ากำลังกระทำ
คำแปล R4.
179. ใช่ว่าอัลลอฮฺจะทรงทอดทิ้งบรรดาผู้ศรัทธาไว้ในสภาพที่พวกเจ้ากำลังเป็นอยู่ ก็หาไม่จนกว่าพระองค์จะทรงจำแนกผู้ที่เลวออกจากผู้ที่ดีเท่านั้นและใช่ว่าอัลลอฮฺจะทรงให้พวกเจ้ามองเห็นสิ่งเร้นลับก็หาไม่ แต่ทว่าอัลลอฮฺนั้นจะทรงคัดเลือกจากบรรดารอซูลของพระองค์ผู้ที่พระองค์ทรง ประสงค์ ดังนั้นพวกเจ้าจงศรัทธาต่ออัลออฮฺ และบรรดารอซูลของพระองค์เถิด และหากพวกเจ้าศรัทธาและยำเกรงแล้ว สำหรับพวกเจ้าก็คือ รางวัลอันยิ่งใหญ่
180. และบรรดาผู้ที่ตระหนี่ในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานให้แก่พวกเขาจากความ กรุณาของพระองค์นั้น จงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่ามันเป็นการดีแก่พวกเขา หากแต่มันเป็นความชั่วแก่พวกเขา ซึ่งพวกเขาจะถูกคล้องสิ่งที่พวกเขาได้ตระหนี่มันไว้ในวันกิยามะฮฺและสำหรับอัลลอฮฺนั้น คือมรดกแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินและอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
คำแปล R5.
๑๗๙. โอ้บรรดาชนทั้งมุอ์มินและกาฟิร
อัลเลาะห์มิได้ทรงมีความประสงค์ที่จะปล่อยปละละเลยพวกมุอ์มินให้ตกอยู่ในอาการที่มองไม่ออกว่าใครเป็นมุอ์มินใครเป็นมุนาฟิกเสมอไป เพราะพระองค์จะทรงทรงแยกพวกมุนาฟิกออกจากพวกมุอ์มิน
โดยใช้วิธีบังคับให้กระทำงานที่ยากลำบาก เช่น การสละทรัพย์และพลีชีวิตในยามสงคราม ซึ่งถ้าผู้ใดยอมปฏิบัติตาม ผู้นั้นเป็นมุอ์มิน แต่ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน ผู้นั้นเป็นมุนาฟิก งานที่ลำบากยากเย้ฯเช่นว่านี้พระองค์ได้บงการให้กระทำในวันสงครามอุฮุด
และอัลเลาะห์ก็มิได้ทรงให้พวกเจ้าได้แลเห็นสิ่งเร้นลับ
ตรงที่ว่าพวกเจ้าไม่รู้จักพวกมุนาฟิกก่อนจากที่พระองค์ได้ทรงแยกพวกมุนาฟิกออกจากพวกมุอ์มิน
แต่อัลเลาะห์จะทรงเลือกเฟ้นบุคคล
(มูฮำมัด)
ที่พระองค์ทรงประสงค์จากพระศาสนทูตทั้งหลายของพระองค์
ให้ได้รู้ความลับต่าง ๆ เช่น ให้รู้ซึ้งถึงอาการเป็นไปของพวกมุนาฟิก
ดังนั้นพวกเจ้าจงศรัทธาต่ออัลเลาะห์ และต่อพระศาสนทูตทั้งหลายของพระองค์เถิด และถ้าพวกเจ้ายังศรัทธาอยู่และกลัวเกรง
ความกลับกลอก
แล้ว แน่นนอนพวกเจ้าย่อมได้รับผลตอบแทนที่ใหญ่หลวง
ในสวนสวรรค์
๑๘๐.
และบรรดาผู้ตระหนี่เหนียวแน่นในทรัพย์
ซะกาต
ที่อัลเลาะห์ได้ประทานแก่พวกเขา อย่าเชื่อแน่นักว่า นั่นจะเป็นความดียิ่งสำหรับพวกตน แต่กลับจะเป็นความชั่วช้าแก่พวกเขายิ่งนัก ต่อไปในวันกิยามะห์พวกนั้นจะถูกพันคอด้วย
ซากของ
ทรัพย์ที่พวกนั้นได้เคยตระหนี่
แปลว่าทรัพย์ซะกาตที่พวกนั้นหวงไว้จะกลับกลายเป็นงูมาพันรอบคอและขบกัดพวกนั้น
และสำหรับอัลเลาะห์นั้นย่อมทรงสิทธฺในมหาสมบัติแห่งฟากฟ้า
ทั้งเจ็ด
และแผ่นดิน
หลังจากที่ชาวฟ้าและชาวดินพินาศลงแล้วด้วยฤทธิ์แห่งเสียงสังข์ครั้งแรก
อีกทั้งอัลเลาะห์ทรงรู้เท่าทันพฤติการณ์อันพวกเจ้ากระทำกันอยู่
แล้วจะทรงตอบสนองพวกเจ้าตามที่พวกเจ้าได้กระทำกันมา
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #53 เมื่อ:
มี.ค. 26, 2011, 06:10 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 181 -184
คำอ่าน
181. ละก็อดสะมิอัลลอฮุก็อวลัลละซีนะกอลู..อิน..นัลลอฮะฟะกีรู..วะนะหฺนุอัฆนิยา..อ์ สะนักตุบุมากอลู วะก็อด ละกุมุลอัม..บิยา...อะบิฆ็อยริหักกิว..วะนะกูลุ ซูกูอะซาบัลหะรีก
182. ซาลิกะบิมาก็อดดะมัตอัยดีกุม วะอัน..นัลลอฮะลัยสะบิซ็อลลามิลลิลอะบีด
183. อัลละซีนะกอลู..อิน..นัลลอฮะอะฮิดะอิลัยนา..อัลลานุอ์มินะลิเราะสูลิน หัตตายะอ์ติยะนา บิกุรฺบานิน..ตะอ์กุลุฮุน..นารฺ กุลก็อดญา...อะกุมรุสุลุม..มิน..ก็อบลี บิลบัยยินาติ วะบิลละซีกุลตุมฟะลิมะเกาะตัลตุมูฮุม อิน..กุน..ตุมศอดิกีน
184. ฟะอิน..กัซซะบูกะ ฟะก๊อดกุซซิบะรุสุลุม..มิน..ก็อบลิกะญา..อูบิลบัยยินาติ วัซซุบุริ วัลกิตาบิลมุนีรฺ
คำแปล R1.
181. Indeed, Allah has heard the statement of those (Jews) who say: "Truly, Allah is poor and we are rich!" “We shall record what they have said and their killing of the Prophets unjustly, and we shall say: "Taste you the torment of the burning (Fire)."
182. This is because of that (evil) which your hands have sent before you. And certainly, Allah is never unjust to (His) slaves.
183. Those (Jews) who said: "Verily, Allah has taken our promise not to believe in any Messenger unless he brings to us an offering which the Fire (from heaven) shall devour." say: "Verily, there came to you Messengers before me, with clear signs and even with what you speak of; why then did you kill them, if you are truthful?"
184. Then if they reject you (O Muhammad), so were Messengers rejected before you, who came with
Al-Baiyinat
(clear signs, proofs, evidences) and the Scripture and the Book of Enlightenment.
คำแปล R2.
181. ขอยืนยัน แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงได้ยินถ้อยคำของบรรดาผู้ที่กล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺยากจนส่วนพวกเรานั้นร่ำรวย” เราจะต้องบันทึกสิ่งที่พวกเขากล่าวและ (บันทึก) การพิฆาตบรรดาศาสดาต่าง ๆ โดยปราศจากความชอบธรรม และเราตรัสว่า “พวกเจ้าจงลิ้มรสแห่งการลงโทษของนรกที่แผดเผาเถิด”
182. นั้นเป็นเพราะสิ่งที่มือของพวกเจ้าได้ประกอบไว้ และแท้จริงอัลเลาะฮฺ หาใช่ว่าจะทรงอธรรมแก่บ่าวของพระองค์ไม่
183. บรรดาผู้กล่าวว่าแท้จริงอัลเลาะฮฺได้ให้สัญญาแก่เราว่ามิให้เราศรัทธาต่อศาสนทูตคนใด จนกว่าศาสนทูตนั้นจะนำสัตว์พลีทานที่ไฟกินมันมายังพวกเรา (ให้ประจักษ์ชัดเสียก่อน แล้วพวกเราจึงจะศรัทธาในตัวเขา) เจ้าจงกล่าวเถิด “ได้มีบรรดาศาสนทูตเมื่อก่อนหน้าฉันนำบรรดา (สัญลักษณ์) อันชัดแจ้งมายัง (บรรพบุรุษของ) พวกเจ้า (เมื่ออดีต) และนำสิ่งที่พวกท่านพูด (คือสัตว์พลีทาน) ก็แล้วเป็นเพราะเหตุใดเล่า พวกท่านจึงได้ฆ่าเขาเหล่านั้น พากพวกท่านเป็นผู้สัจจริง
184. ดังนั้น (โอ้มุฮำมัด) หากพวกเขาว่าเจ้าเป็นผู้มุสา (เจ้าก็ไม่ต้องอาทรหรอกเพราะ) แท้จริงบรรดาศาสนทูตก่อนหน้าเจ้าก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มุสา (เหมือนกัน) โดยพวกเขา (ศาสนทูตเหล่านั้น) ได้นำบรรดาสัญญลักษณือันชัดแจ้ง นำบรรดาคัมภีร์ (ที่เกี่ยวกับตำตักเตือน) และคัมภีร์อันจรัสแสง (ที่เกี่ยวกับบทบัญญัติทั่วไปมาให้ด้วยซ้ำ)
คำแปล R3.
181. แน่นอนอัลลอฮฺทรงได้ยินคำกล่าวของบรรดาผู้ที่กล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงยากจน แต่พวกเรานั้นมั่งคั่ง” เราจะบันทึกสิ่งที่พวกเขากล่าวไว้พร้อมกับการที่พวกเขาฆ่านบีหลายคนโดยไม่ยุติธรรม และ
(ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ)
เราจะกล่าวแก่พวกเขาว่า “ทีนี้จงมาชิมการทรมานจากไฟที่ลุกไหม้
182. นั่นเป็นเพราะสิ่งที่สูเจ้าได้ขวนขวายไว้ด้วยมือของสูเจ้าเอง และอัลลอฮฺจะไม่ทรงอธรรมต่อปวงบ่าว”
183. มีบางคนกล่าวว่า “อัลลอฮฺได้สั่งกำชับเราว่าเราจะต้องไม่ยอมรับผู้ใดเป็นรอซูลจนกว่าเขาจะนำสิ่งพลีที่ไฟจะกินมันมาแสดงแก่เรา” จงกล่าวแก่พวกเขาว่า “ก่อนหน้าฉันได้มีรอซูลหลายคนมายังท่านพร้อมกับสัญญาณอันชัดแจ้งและพร้อมด้วยสิ่งที่พวกท่านพูดถึง ถ้าพวกท่านสัตย์จริง
(ในการเรียกร้องของพวกท่าน)
ทำไมพวกท่านจึงได้ฆ่านบีเหล่านั้น?”
184. ถ้าพวกเขากล่าวหาเจ้าว่าเป็นผู้หลอกลวง (โอ้มุฮำมัด) ก่อนหน้าเจ้ารอซูลหลายคนที่มาพร้อมกับสัญญาณต่าง ๆ และแผ่นจารึกและคัมภีร์ต่าง ๆ ก็ได้ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงเช่นกัน
คำแปล R4.
181. แน่นอนยิ่ง อัลลอฮฺทรงได้ยินคำพูดของบรรดาผู้ที่กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ยากจน และพวกเรานั้นเป็นผู้มั่งมี เราจะจารึกสิ่งที่พวกเขาได้กล่าวไว และการที่พวกเขาฆ่าบรรดานะบี โดยปราศจากความเป็นธรรมด้วยและเราจะกล่าวว่าพวกเจ้าจงลิ้มการลงโทษแห่งเปลว เพลิงเถิด
182. นั่นก็เพราะสิ่งที่มือของพวกเจ้าได้ประกอบไว้ก่อน และแท้จริงอัลลอฮฺนั้นมิใช่ผู้อธรรมแก่ปวงบ่วงทั้งหลาย
183. บรรดาผู้ที่กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นได้ทรงสั่งเสียแก่เราว่า เราจะไม่ศรัทธาแก่รอซูลคนใดจนกว่าเขาจะนำมาแก่เรา ซึ่งสิ่งพลีแด่อัลลอฮฺอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะมีไฟกินมัน จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า แท้จริงได้มีบรรดารอซูลก่อนจากฉันได้นำบรรดาหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกท่าน แล้ว และได้นำสิ่งที่พวกท่านได้กล่าวไว้ด้วย แล้วไฉนเล่า พวกท่านจึงได้ฆ่าพวกเขาหากพวกท่านพูดจริง
184. แล้วหากพวกเขาปฏิเสธเจ้า ก็แท้จริงนั้น บรรดารอซูลก่อนหน้าเจ้าก็ได้ถูกปฏิเสธมาแล้วซึ่งเขาเหล่านั้นได้นำบรรดา หลักฐานอันชัดเจนบรรดาคัมภีร์ซะบูรฺและคัมภีร์ที่ให้แสงสว่างมาด้วย
คำแปล R5.
๑๘๑. อัลเลาะห์ทรงให้สัตย์ปฏิญาณว่า
อัลเลาะห์ทรงได้ยินถ้อยคำของบรรดาที่
เป็นยะฮูดี
พูดว่า “อันที่จริงอัลเลาะหืนั้นยากจนแต่พวกเราร่ำรวย”
ถ้อยคำนี้พวกนั้นได้พูดขึ้นในคราวที่มีโองการที่ ๒๔๔ แห่งซูเราะห์อัล-บะก็เราะห์ถูกประทานลงมาความว่า “ใครเล่าจะเป็นผู้ให้อัลเลาะห์กู้ยืมอย่างงดงาม ฯลฯ” แล้วพวกนั้นยังย้ำอีกว่า ถ้าอัลเลาะห์ร่ำรวยจริงแล้ว พระองค์ก็ต้องไม่ขอกู้ยืมจากพวกเราซิ
ไม่ช้าหรอกเรา
(อัลเลาะห์)
จะ
ใช้ให้มลาอิกะห์
บันทึกถ้อยคำที่พวกนั้นเคยพูด
ลงไว้ในบัญชีความประพฤติของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาไปรับตอบแทนกันตามนั้น
อย่างหนึ่ง และใ
ช้ให้บันทึกเรื่อง
การฆาตกรรม
ของบรรพบุรุษ
ของพวกนั้นแก่เหล่าพระศาสดาอย่างไร้ความเป็นธรรมอีกอย่างหนึ่ง
ลงไว้ในบัญชีความประพฤติของพวกยะฮูดียุคมูฮำมัดเพื่อจักได้ลงอาญาฐานที่พวกยะฮูดีในยุคที่ว่านี้พออกพอใจในพฤติกรรมอันเลวร้ายของพวกบรรพบุรุษของตน ทั้งเราจะบัญชาให้พวกมลาอิกะห์ให้พูดแก่พวกนั้นว่า
พวกเจ้าจงลิ้มรสของโทษทรมานแห่งความร้อนแรง
ในขุมนรก ถ้อยคำของพวกมลาอิกะห์ที่ว่านี้ ว่าในขณะที่พวกยะฮูดีเหล่านั้นถูกส่งลงนรก
๑๘๒.
โทษ
ทรมาน
นี้แหละ
พวกเจ้าต้องได้รับ
ฐานที่พวกเจ้าอุตส่าห์ทำกันไว้ แหละว่าแท้จริงอัลเลาะห์นั้นจะคดโกงผู้เป็นข้าของพระองค์
โดยการลงอาญาผู้มิได้ประกอบการบาป
ก็หาไม่
๑๘๓. อัลเลาะห์ทรงได้ยินถ้อยคำของ
บรรดาที่
เป็นยะฮูดีพูดแก่พระนบีมูฮำมัด
ว่า แท้จริงอัลเลาะห์ได้ทรงสัญญา
ไว้ในเตารอตมายังพวกเรา
ว่ามิให้พวกเราศรัทธาต่อพระศาสนทูตใด ๆ จนนกว่าผู้
เป็นพระศาสนทูต
นั้นจะได้นำสัตว์ถวาย
เช่น แกะ เป็นต้น
ซึ่งถูกไฟเผาผลาญแล้วมายังพวกเราเสียก่อน
พวกยะฮูดีจึงกล่าวว่า พวกเราจะไม่ศรัทธาต่อเจ้าหรอก จนกว่าเจ้าจะได้นำสัตว์ถวายมายังพวกเราก่อน แม้ว่าสัตว์ถวายนั้นถูกอัลเลาะห์รับรองแล้ว ก็จะมีไฟสีขาวจากฟากฟ้ามาเผาผลาญรวมความว่าเจ้าเป็นนบีจริง แต่ถ้าเป็นสัตว์ถวายที่ไม่ถูกอัลเลาะห์รับรอง สัตว์ถวายนั้นจะคงอยู่กับที่ ข้อสัญญาดังกล่าวใช้ในเตารอตนั้น ใช้ได้สำหรับพวกนบีก่อนจากอีซาและมูฮำมัด ฉะนั้นอีซากับมูฮำมัดจึงไม่ต้องมีเครื่องหมายรับรองความเป็นนบีดังที่พวกยะฮูดีกล่าวนั้นเลย แต่การเป็นนบีของอีซาและมูฮำมัดจะแสดงด้วยเครื่องหมายอย่างอื่น เช่น ชุบชีวิตผู้ตายให้กลับเป็นขึ้นมา เป็นข้อแสดงความเป็นนบีของอีซา ส่วนการผ่าดวงจันทร์เป็นสองซีกนั้นเป็นข้อแสดงความเป็นนบีของมูฮำมัด โอ้มูฮำมัด เจ้าจงกล่าวตำหนิพวกยะฮูดีในสมัยของเจ้าเถิดว่า
ความจริงบรรดาพระศาสนทูตก่อน ๆ จากฉันที่เคยได้นำอภินิหารต่าง ๆ
ก็มี เช่นพระนบีมูซา
และได้เคยนำสัตว์ถวายอย่างที่พวกเจ้าพูดนี้มายัง
บรรพบุรุษของ
พวกเจ้าก็มี
เช่น นบีซะกะรียาและยะห์ยา แล้ว
ไฉนเล่า
บรรพบุรุษของ
พวกเจ้าจึงได้ฆ่าพวก
ศาสดา
เหล่านั้น
เช่น ซะกะรียาและยะห์ยา ทั้ง ๆ ที่งสองก็ได้นำสัตว์ถวายมาถึงบรรพบุรุษของพวกเจ้าแล้ว
ถ้าแม้นว่าพวกเจ้าพูดจริง
ว่าพวกเจ้าจะเชื่อเมื่อได้นำสัตว์ถวายมาให้แล้ว เหตุใดเล่าพวกเจ้าจึงยินดีที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าที่ฆ่านบีซะกะรียาและนบียะห์ยาที่นำสัตว์ถวายมาให้ การที่พวกเจ้ายินดีนั้นก็มีโทษเท่ากับพวกเจ้ากระทำเสียเอง
๑๘๔. โอ้มูฮำมัด
หากว่าพวกยะฮูดีเหล่านั้นหาว่าเจ้าโกหก
ก็จงอดทนอย่างที่พระศาสนทูตยุคก่อน ๆ ได้อดทนกันมาเถิด
อันที่จริงเหล่าพระศาสดาก่อนจากเจ้าก็ถูกหาว่าโกหกอยู่แล้ว ทั้งที่พวก
พระศาสนทูต
เหล่านั้นก็ได้นำอภินิหารต่าง ๆ พระคัมภีร์ต่าง ๆ
ของอิบรอฮีม
และพระคัมภีร์เตารอตและอินยีลมาให้ด้วยซ้ำ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #54 เมื่อ:
มี.ค. 28, 2011, 06:15 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 185 - 186
คำอ่าน
185. กุลลุนัฟสิน..ซา...อิเกาะตุลเมาตฺ วะอิน..นะมาตุวัฟเฟานะอุญูเราะกุมเยามัลกิยามะติ ฟะมัน..ซุหฺซิหะอะนิน..นาริ วะอุดคิลัลญัน..นะตะฟะก็อดฟาซฺ วะมัลหะยาตุดดุนยา..อิลลามะตาอุลฆุรูรฺ
186. ละตุบละวุน..นะ ฟี..อัมวาลิกุม วะอัน..ฟุสิกุม วะละตัสมะอุน..นะมินัลละซีนะอูตุลกิตาบะ มิน..ก็อบลิกุม วะมินัลละซีนะ อัชเราะกู..อะซัน..กะษีรอ วะอิน..ตัศบิรู วะตัตตะกู ฟะอิน..นะซาลิกะ มินอัซมิลอุมูรฺ
คำแปล R1.
185. Everyone shall taste death. And only on the Day of Resurrection shall you be paid your wages in full. And whoever is removed away from the Fire and admitted to Paradise, he indeed is successful. The life of this world is only the enjoyment of deception (a deceiving thing).
186. You shall certainly be tried and tested in your wealth and properties and in your personal selves, and you shall certainly hear much that will grieve you from those who received the Scripture before you (Jews and Christians) and from those who ascribe partners to Allah, but if you persevere patiently, and become
Al-Muttaqun
(the pious - see V.2:2) then verily, that will be a determining factor in all affairs, and that is from the great matters, [which you must hold on with all your efforts].
คำแปล R2.
185. แต่ละชีวิต ย่อมได้ลิ้มรสความตาย และแท้ที่จริง พวกเจ้าจะถูกตอบแทนรางวัลให้ครบถ้วนในวันชาติหน้า ดังนั้นผู้ใดถูกกีดกันออกจากไฟนรก และถูกนำตัวเข้าสวรรค์ แน่นอนเขาย่อมได้รับชัยชนะ และชีวิตทางโลกนี้ก็ไม่มี (แก่นสารใด ๆ ทั้งสิ้น) นอกจากเป็นเพียงสิ่งภิรมย์ที่ล่อลวงเท่านั้น
186. ขอยืนยัน โดยแน่แท้ พวกเจ้าทั้งหลายจะต้องถูกทดสอบอย่างแน่นอน ในที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของพวกเจ้าและตัวของพวกเจ้าเอง ขอยืนยัน พวกเจ้าจะได้ยิน (คำก้าวร้าว) อย่างแน่นอน จากบรรดาผู้ถูกประทานคัมภีร์ (พวกยิวและคริสต์) เมื่อก่อนหน้าเจ้าทั้งหลาย และจากบรรดาผู้ตั้งภาคี ซึ่งคำก้าวร้าวอันมากมาย (ที่พวกเขาพูดแก่เจ้า) และหากพวกเจ้ามีความอดทน และมีความยำเกรง แน่นอนที่สุด สิ่งนั้นเป็นหนึ่งจากกิจกรรมอันเด็ดขาด (ที่ต้องไปด้เนินการ)
คำแปล R3.
185. ทุกชีวิตจะต้องลิ้มรสความตายและสูเจ้าจะได้รับการตอบแทนอย่างครบครันในวันฟื้นขึ้น ดังนั้น ผู้ใดที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงก็คือผู้ที่ถูกกันออกไปจากนรกและถูกรับเข้าไว้ในสวรรค์ และชีวิตในโลกนี้มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นเพียงสิ่งหลอกลวงเท่านั้น
186.
(โอ้มุสลิม)
สูเจ้าจะต้องถูกทดสอบในทรัพย์สินของสูเจ้าและชีวิตของสูเจ้า และสูเจ้าจะต้องได้ยินสิ่งเจ็บปวดมากมายจากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ก่อนหน้าสูเจ้าและจากบรรดาผู้ตั้งพระเจ้าอื่นเป็นภาคีร่วมกับอัลลอฮฺ แต่ถ้าหากสูเจ้าอดทนและสำรวมตนจากความชั่ว นั่นก็เป็น
(ข้อพิสูจน์ถึง)
การยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อเป้าหมาย
คำแปล R4.
185. แต่ละชีวิตนั้น จะได้ลิ้มรสแห่งความตายและแท้จริงที่พวกเจ้าจะได้รับรางวัลของพวกเจ้าโดยครบถ้วนนั้น คือวันปรโลกแล้วผู้ใดที่ถูกให้ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะแล้วและชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวงเท่านั้น
186. แน่นอนยิ่งพวกเจ้าจะถูกทดสอบในทรัพย์สมบัติของพวกเจ้าและตัวของพวกเจ้าและแน่นอนยิ่งพวกเจ้าจะได้ยินจาก บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ก่อนหน้าพวกเจ้า และบรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้น(แก่อัลลอฮฺ) ซึ่งการก่อความเดือดร้อนอันมากมายและหากพวกเจ้าอดทนและยำเกรงแล้ว แท้จริงนั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่เด็ดเดี่ยว
คำแปล R5.
๑๘๕.
ทุกชีวิตย่อมได้ลิ้มรสตาย
อันเป็นความตายที่ครอบงำได้เฉพาะเรือนร่างของชีวิตนั้นเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากชีวิตจะตายมิได้ เพราะถ้าชีวิตตายได้ ชีวิตนั้นก็ไม่สามารถรู้รสแห่งความตายขณะที่ตายได้เลย อนึ่งกฎของความรู้รสก็ดี รู้สัมผัสใด ๆ ก็ดี ต้องอยู่ในภาวะแห่งความเป็น
และเฉพาะพวกเจ้าเท่านั้นจะได้รับผลตอบแทนอย่างครบครันในวันกิยามะห์
อันเป็นวันซึ่งมวลมนุษย์ถูกให้กำเนิดขึ้นมาจากหลุมสุสาน ขณะที่เป่าสังข์ครั้งสอง สำหรับคำว่า “ได้รับผลตอบแทนอันครบครันในวันกิยามะห์”นั้นจะหมายถึงก่อนวันกิยามะห์อีกด้วยก็ได้ เพราะผลตอบแทนบางประการจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติได้รับก่อนถึงวันนั้นก็มี ดังจะสืบเนื้อความนี้ได้จากอัลหะดีธบทหนึ่งว่า “สุสานเป็นสุขนิวาสส่วนหนึ่งในบรรดาสุขนิวาสแห่งสวรรค์หรือเป็นห้วงเหวหนึ่งในบรรดาห้วงเหวแห่งนรก”
ฉะนั้นถ้าผู้ใดถูกกันให้พ้นจากนรกและให้เขาได้เข้าสู่สวรรค์แล้ว ผู้นั้นย่อมสมปรารถนาเป็นแน่ และชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น หาใช่สิ่งอื่นใดไม่ นอกจากเป็นความอภิรมย์ลวงล่อเท่านั้น
ซึ่งมันจะบำเรอบำรุงสุขได้เพียงชั่วแล่นแล้วจะสูญสิ้นไป
๑๘๖. อัลเลาะห์ได้ทรงให้สัตย์ปฏิญาณว่า
โดยแน่แท้พวกเจ้านั้นจะถูก
อัลเลาะห์แสดงความรู้แต่อดีตของพระองค์ให้พวกเจ้ารู้ ณ กาลปัจจุบันในรูปของการ
ลองใจเกี่ยวกับทรัพย์สินของพวกเจ้าบ้าง
โดยทรงกำหนดว่าเป็นภาระจำเป็นที่พวกเจ้าจะต้องจ่ายให้เป็นซะกาตก็มี ให้เสียหายไปก็มี
และเกี่ยวกับตัวของพวกเจ้าเองบ้าง
โดยกำหนดให้กระทำการดี เช่น ต้องทำละหมาด เป็นต้น และให้ได้ประสบพบภัย เป็นต้นว่าการเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งนี้เพื่อให้ปรากฏชัดว่าใครจะเป็นผู้ขอบพระคุณและเป็นผู้มีใจอดทน และใครไม่เป็นเช่นนั้น
และโดยแน่แท้พวกเจ้าจะได้ยินคำก้าวร้าวเป็นอันมาก
เนื่องจากการด่าทอกันและตำหนิติเตียนกันตลอดจนคำเกี้ยวพาราสีพวกผู้หญิงของพวกเจ้า
จากผู้ได้รับพระคัมภีร์ก่อนจากพวกเจ้า
ทั้งฝ่ายยะฮูดีและนัซรอนี
และจากพวก
อาหรับชาวมักกะห์
ที่ตั้งภาคี
เสมออัลเลาะห์
และถ้าพวกเจ้าอดทน
ภัยอันตรายทั้งในด้านทรัพย์สินและร่างกายและทนฟังคำก้าวร้าวจากบุคคลที่กล่าวข้างต้น
ได้ประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่งถ้าพวกเจ้ายำเกรง
อัลเลาะห์
เสียแล้ว นี่ก็นับเป็นส่วนหนึ่งจากภาระที่เด็ดเดี่ยว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #55 เมื่อ:
มี.ค. 29, 2011, 05:42 AM »
0
สูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 187 - 189
คำอ่าน
187. วะอิซอะเคาะซัลลอฮุ มีษาก็อลละซีนะอูตุลกิตาบะ ละตุบัยยินุน..นะฮู ลิน..นาสิวะลาตักตุมูนะฮู ฟะนะบะซูฮุ วะรอ...อะซุฮูริฮิม วัชตะร็อวบิฮี ษะมะนัน..เกาะลีลา ฟะบิอ์สะมายัชตะรูน
188. ลาตะหฺสะบัน..นัลละซีนะยัฟเราะหูนะบิมา..อะเตา..วะยุหิบบูนะ อัย..ยะหฺมะดู บิมาลัมยัฟอะลู ฟะลาตะหฺสะบัน..นะฮุม บิมะฟาซะติม..มินัลอะซาบิ วะละฮุมอะซาบุนอะลีม
189. วะลิลลาฮิมุลกุสสะมาวาติวัลอัรฺฎฺ วัลลอฮุอะลากุลลิชัยอิน..เกาะดีรฺ
คำแปล R1.
187. (And remember) when Allah took a covenant from those who were given the
Scripture
(Jews and Christians) to make it (the news of the coming of Prophet Muhammad and the religious knowledge) known and clear to mankind, and not to hide it, but they threw it away behind their backs, and purchased with it some miserable gain! And indeed worst is that which they bought.
188. Think not that those who rejoice in what they have done (or brought about), and love to be praised for what they have not done,- think not you that they are rescued from the torment, and for them is a painful torment.
189. And to Allah belongs the dominion of the heavens and the earth, and Allah has power over all things.
คำแปล R2.
187. และ (จงระลึกถึง) เมื่อครั้งอัลเลาะฮฺทรงเอาสัญญา แก่บรรดาผู้ถูกประทานคัมภีร์ว่า “พวกเจ้าทั้งหลายจะต้องเปิดเผยคัมภีร์นั้แก่มวลมนุษย์ และพวกเจ้าอย่าได้ปกปิด” แต่แล้วพวกเขากลับขว้างคัมภีร์ไว้เบื้องหลังของพวกเขา (อย่างไม่ใส่ใจและไม่เคารพ) และพวกเขาได้นำคัมภีร์ดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนกับ (ผลประโยชน์ทางโลกที่มี) ราคาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาแลกเปลี่ยนจึงเลวทรามยิ่งนัก
188. (โอ้มุฮำมัด) เจ้าอย่าคิดเป็นอันขาดว่าบรรดาผู้ที่ระเริงอยู่กับสิ่งที่พวกเขาได้ดำเนินการและพวกเขาชอบที่จะได้รับการสรรเสริญในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้กระทำเอง ดังนั้นเจ้าอย่าได้คิดว่าพวกเขาจะเร้นหนีไปจากการลงโทษได้ และพวกเขาต้องรับโทษอันสาหัสยิ่ง
189. และเป็นสิทธิของอัลเลาะฮฺ อำนาจปกครองชั้นฟ้าและแผ่นดินและอัลเลาะฮฺทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
คำแปล R3.
187. และจงเตือนบรรดาชาวคัมภีร์ว่าอัลลอฮฺได้ทำสัญญากับพวกเขาว่า “สูเจ้าจะต้องบรรยายคัมภีร์ให้กระจ่างแก่ผู้คนและจะต้องไม่ปิดบังมัน” แต่แล้วพวกเขากลับทิ้งมันไว้ข้างหลังพวกเขาและแลกเปลี่ยนมันด้วยราคาเล็กน้อย ช่างเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชั่วช้าเสียนี่กระไร
188. จงอย่าคิดว่าบรรดาผู้ที่ระเริงในการกระทำผิดและรักที่จะถูกสรรเสริญในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้กระทำ จะปลอดพ้นจากการลงโทษ และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด
189. และของอัลลอฮฺคืออำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง
คำแปล R4.
187. และจงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮฺทรงเอาคำมั่นสัญญาจากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ ว่า แน่นอนยิ่งพวกเจ้าจะต้องแจกแจงคัมภีร์นั้นให้แจ่มแจ้งแก่ประชาชนทั้ง หลาย และพวกเจ้าจะต้องไม่ปิดบังมัน แล้วพวกเขาก็เหวี่ยงมันไว้เบื้องหลังพวกเขาและได้แลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อยช่างเลวร้ายแท้ ๆ สิ่งที่พวกเขาแลกเปลี่ยนมา
188. เจ้าจงอย่าคิดเป็นอันขาดว่า บรรดาผู้ที่ปิติยินต่อสิ่งที่พวกเขากระทำและชอบที่จะได้รับการาชมเชยในสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำนั้น (จะรอดพ้นการลงโทษไปได้) ดังนั้นเจ้าจงอย่าคิดเป็นอันขาดว่า พวกเขาจะมีทางรอดพ้นจากการลงโทษไปได้และสำหรับพวกเขานั้นคือ การลงโทษอันเจ็บแสบ
189. และอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้นทรงเดชานุภาพ เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
คำแปล R5.
๑๘๗.
และ
โอ้มูฮำมัด เจ้าจงกล่าวแก่มวลประชากรของเจ้าเพื่อให้เป็นอุดมคติเถิดว่า
ในขณะที่อัลเลาะห์ได้ทรงให้สัญญา
ในเตารอต
แก่บรรดา
ยะฮูดี
ผู้ได้รับคัมภีร์
เตารอต
ว่า พวกเจ้าพึงชี้แจงพระคัมภีร์นั้น
เกี่ยวกับข้อใช้ข้อห้ามตลอดจนข่าวสารต่าง ๆ เป็นต้นว่าเรื่องความเป็นพระศาสดาของมูฮำมัด ซึ่งเหล่านี้มีระบุอยู่ในเตารอต
ให้มวลมนุษย์ได้ทราบด้วยนะ และอย่าได้ปกปิดความ
ทั้งสิ้นที่ว่า
นั้นเลย แต่แล้วพวกนั้นกลับหันหลังไม่นำพา
ทั้งสิ่งที่เป็นข้อใช้และข้อห้ามและข่าวสารต่าง ๆ ที่กล่าวแล้ว ยังไม่ยอมถือปฏิบัติ
อีกทั้งพวกนั้นยังได้เปลี่ยนมันไปเอาราคาเพียงเล็กน้อย
ที่พวกตนเคยได้จากชนชั้นต่ำ ฐานที่ตนเป็นชนชั้นผู้นำในหมู่ และที่พวกนั้นต้องปิดบังความในเตารอต (เช่นเกี่ยวกับคุณลักษณะของมูฮำมัด) ก็เนื่องจากว่าเกรงสมัครพรรคพวกของพวกตนจะกลับใจหันไปเลื่อมใสต่อมูฮำมัด อันจะเป็นผลทำให้ขากรายได้ที่เคยได้รับ
ฉะนั้นประการ
ชั่ว ๆ
ที่พวกนั้นเปลี่ยนเอาจึงเลวร้ายยิ่งนัก
๑๘๘. โอ้มูฮำมัด
เจ้าอย่าเชื่อแน่นักว่าบรรดา
ยะฮูดี
ผู้กระหยิ่มใจอยู่กับการกระทำ
ให้มวลมนุษย์หลงทางได้สำเร็จ
มาแล้ว และชอบจะได้รับการเยินยอในประการที่พวกตนมิได้กระทำ
กล่าวคือจะให้เขาสรรเสริญว่าพวกตนถือมั่นอยู่กับความเที่ยงแท้ ทั้ง ๆ ที่พวกตนก็กำลังอยู่ในหนทางหลงใหล
อย่าเชื่อแน่นักเลยว่าพวกนั้นอยู่ในที่ปลอดภัยจากโทษทรมาน
ในวันอาคิเราะห์ แต่พวกนั้นอยู่ในสถานทรมานคือนรกยะฮันนำ
และสำหรับพวกนั้นย่อมได้รับโทษทรมานอันเจ็บแสบ
ในขุมนรก
๑๘๙.
อันว่าอำนาจปกครองชั้นฟ้า
ทั้งเจ็ด
และแผ่นดิน
ซึ่งเป็นคลังแห่งน้ำฝนและอาหารตลอดจนพืชพันธุ์ธัญญาหารและอื่น ๆ นั้น
ย่อมเป็นสิทธิของอัลเลาะห์เท่านั้น ด้วยว่าอัลเลาะห์คือองค์ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
ซึ่งการลงโทษทรมานพวกไร้ศรัทธาก็ดี ก็จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งจากอานุภาพของพระองค์เช่นเดียวกัน
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #56 เมื่อ:
มี.ค. 30, 2011, 05:57 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 190 - 191
คำอ่าน
190. อิน..นะฟีค็อลกิสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วัคติลาฟิลลัยลิวัน..นะฮาริ ละอายาติลลุอุลิลอัลบาบ
191. อัลละซีนะยัซกุรูนัลลอฮะ กิยาเมา..วะกุอูเดา..วะอะลาญุนูบิฮิม วะยะตะซักกะรูนะฟีค็อลกิสสะมาวาติวัลอัรฎฺ ร็อบบะนามาเคาะลักตะฮาซาบาฏิลัน..สุบหานะกะฟะกินาอะซาบัน..นารฺ
คำแปล R1.
190. Verily! In the creation of the heavens and the earth, and in the alternation of night and day, there are indeed signs for men of understanding.
191. Those who remember Allah (always, and in prayers) standing, sitting, and lying down on their sides, and think deeply about the creation of the heavens and the earth, (saying): "Our Lord! You have not created (all) this without purpose, glory to You! (Exalted be you above all that they associate with you as partners). Give us salvation from the torment of the Fire.
คำแปล R2.
190. แท้จริงในการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินและการสับเปลี่ยนของกลางคืนและกลางวันนั้น ล้วนเป็นนานาสัญลักษณ์สำหรับบรรดาผู้มีวิจารณญาณ
191. (พวกเขา) เป็นเหล่าชนที่ระลึกถึงอัลเลาะฮฺทั้งในยามยืน ยามนั่งและ (ยามนอน) บนสีข้างของพวกเขา และพวกเขาพิเคราะห์ในการกำเนิดแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน (จนบรรลุสู่สัจธรรม และประจักษ์ในความมหัศจรรย์ถึงกับรำพึงว่า) โอ้องค์อภิบาลของเราพระองค์มิได้สร้างสิ่งนี้อย่างรัสาระ มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ ดังนั้นโปรดปกป้องเรา (ให้พ้น) จากการลงโทษแห่งไฟนรกด้วยเถิด
คำแปล R3.
190. แท้จริงในการสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และในการสับเปลี่ยนของกลางคืนและกลางวันมีสัญญาณสำหรับปวงผู้มีสติ
191. บรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺยามยืน ยามนั่งและยามนอน พวกเขาจะใคร่ครวญในการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน (และพวกเขาจะกล่าวว่า) “พระผู้อภิบาลของเราพระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งทั้งปวงนี้โดยไร้สาระ พระองค์ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่ง ดังนั้นได้ทรงโปรดช่วยเราให้พ้นจากการลงโทษของไฟนรกเถิด
คำแปล R4.
190. แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการที่กลางวันและกลางคืนตามหลังกันนั้น แน่นอนมีหลายสัญญาณสำหรับผู้มีปัญญา
191. คือบรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืน และนั่ง และในสภาพที่นอนตะแคง และพวกเขาพินิจพิจารณากันในการสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน (โดยกล่าวว่า) โอ้พระเจ้าของพวกเข้าพระองค์ พระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งนี้มาโดยไร้สาระ มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน โปรดทรงคุ้มครองพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟนรกด้วยเถิด
คำแปล R5.
๑๙๐.
แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้า
ทั้งเจ็ด
และผืนแผ่นดิน
ตลอดจนสิ่งประหลาดทั้งมวลที่มีอยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน
ก็ดี การสลับสับเปลี่ยนไปมา
ตลอดจนการเพิ่มขึ้นหรือลดลง
ของกลางวันและกลางคืนก็ดี
เหล่านี้
ล้วนแต่
เป็นสิ่งที่อัลเลาะห์ได้ทรงสร้างขึ้นและ
เป็นสัญลักษณ์
ชี้ว่าอัลเลาะห์นั้นทรงพลานุภาพยิ่ง
สำหรับบรรดาผู้ครองปัญญา
๑๙๑. พวกเหล่านั้น
เป็นพวกซึ่งระลึกถึงอัลเลาะห์ทั้งยามยืนยามนั่งและในทุกอิริยาบถของพวกเขา ทั้งนั้นพินิจพิเคราะห์ถึงการสร้างบรรดาชั้นฟ้า
ทั้งเจ็ด
และผืนแผ่นดิน
เพื่อที่จะยึดเอาการสร้างสรรค์นั้นเป็นหลักชี้ว่า ผู้ที่สร้างนั้นเป็นผู้ทรงมีพลังเหลือล้นทั้งปากก็เอ่ยว่า
โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งบรรดาข้าพระองค์พระองค์มิได้สร้างสรรค์สิ่ง
ต่าง ๆ ที่บรรดาข้าพระองค์ทั้งหลายกำลังเห็นอยู่นี้
ให้เปล่าประโยชน์เลย
หากแต่เป็นการสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นหลักฐานชี้ว่า พระอานุภาพแห่งพระองค์นั้นอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก
พระผู้ทรงไว้ซึ่งมหาบริสุทธิคุณ
ปราศจากทุกประกาที่ไม่เหมาะไม่ควรแก่พระองค์ เช่น การสร้างสิ่งที่ไร้สารประโยชน์
ขอพระองค์ได้โปรดอารักขาบรรดาข้าพระองค์ให้พ้นจากโทษทรมานแห่งนรกด้วยเถิด
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #57 เมื่อ:
มี.ค. 31, 2011, 06:13 AM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 192 - 194
คำอ่าน
192. ร็อบบะนา..อิน..นะกะมัน..ตุดคิลิน..นาเราะ ฟะก็อดอัคซัยตะฮู วะมาลิซซอลิมีนะมินอันศอร.
193. ร็อบบะนา..อิน..นะนาสะเมียะอฺนามุนาดิยัย..ยุนาดีลิลอีมานิ อันอามินูบิร็อบบิกุมฟะอามัน..นา ร็อบบะนาฟัฆฟิรฺละนาซุนูบะนา ฟะกัฟฟิรฺอัน..นาสัยยิอาตินา วะตะวัฟฟะนามะอัลอับรอรฺ
194. ร็อบบะนา วะอาตินา มาวะอัตตะนา อะลารุสุลิกะ วะลาตุอัซซิบนาเยามัลกิยามะฮฺ อิน..นะกาลาตุคลิฟุลมีอาด
คำแปล R1.
192. "Our Lord! Verily, whom you admit to the Fire, indeed, you have disgraced him, and never will the
Zalimun
(polytheists and wrong-doers) find any helpers.
193. "Our Lord! Verily, we have heard the call of one (Muhammad) calling to Faith: 'Believe in your Lord,' and we have believed. Our Lord! Forgive us our sins and remit from us our evil deeds, and make us die in the state of righteousness along with
Al-Abrar
(those who are obedient to Allah and follow strictly his orders).
194. "Our Lord! Grant us what you promised unto us through your Messengers and disgrace us not on the Day of Resurrection, for you never break (your) promise."
คำแปล R2.
192. โอ้องค์อภิบาลของเรา แท้จริงพระองค์นั้น ผู้ใดที่พระองค์ทรงให้เขาเข้านรก แน่นอนพระองค์ได้ยังความอัปยศแก่เขา และสำหรับบรรดาผู้ฉ้อฉล ย่อมไม่มีผู้ใดให้การช่วยเหลือแก่เขาได้
193. โอ้องค์อภิบาลของเรา แท้จริงเราได้ยินผู้ประกาศที่ทำการประกาศสู่การศรัทธาว่า “ท่านทั้งหลายจงศรัทธาเถิด” แล้วเราก็ศรัทธา (ตามคำประกาศนั้น) โอ้องค์อภิบาลของเรา ข้อได้โปรดให้อภัยมวลบาปของพวกเราเถิด โปรดนิรโทษความเลวต่าง ๆ ของเรา และโปรดให้เราตายไปอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ดำรงธรรมทั้งหลายด้วยเถิด
194. โอ้องค์อภิบาลของเรา และโปรดประทานแก่เรา ซึ่งสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาแก่เรา ผ่านบรรดาศาสนทูตของพระองค์และขอพระองค์อย่าได้ยังความอัปยศแก่เราในวันชาติหน้า แท้จริงพระองค์ไม่ทรงผิดสัญญา
คำแปล R3.
192. พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริงผู้ใดที่พระองค์ทรงให้เขาเข้าไปในไฟนรก แน่นอนพระองค์ทรงทำให้เขาอัปยศ และสำหรับผู้อธรรมนั้นไม่มีผู้ช่วยเหลือ
193. โอ้พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริงเราได้ยินผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่การศรัทธาว่า “จงศรัทธาต่อพระผู้อภิบาลของพวกท่าน” แล้วพวกเราได้ศรัทธา ดังนั้นโอ้พระผู้อภิบาลของเราได้ทรงโปรดอภัยโทษความผิดของเราและได้ทรงโปรดลบล้างความชั่วทั้งหลายของเรา และได้ทรงโปรดให้เราตายร่วมกับผู้ทรงคุณธรรม
194. พระผู้อภิบาลของเรา โปรดประทานแก่เราในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาแก่เราผ่านบรรดารอซูลของพระองค์และทรงโปรดอย่าทำให้เราอัปยศในวันฟื้นขึ้น แท้จริง พระองค์ไม่ทรงผิดสัญญา
คำแปล R4.
192. โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์แท้จริงผู้ใดที่พระองค์ทรงให้เข้าไฟนรก แน่นอนพระองค์ก็ยังความอัปยศแก่เขาแล้วและสำหรับบรรดาผู้อธรรมนั้น ย่อมไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ
193. โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์! แท้จริงพวกข้าพระองค์ได้ยินผู้ประกาศเชิญชวนผู้หนึ่งกำลังประกาศเชิญชวนให้มีการศรัทธาว่า ท่านทั้งหลายจงศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเจ้าเถิด และพวกข้าพระองค์ก็ศรัทธากัน โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์! โปรดทรงอภัยแก่พวกข้าพระองค์ด้วย ซึ่งบรรดาโทษของพวกข้าพระองค์และโปรดลบล้างให้พ้นจากพวกข้าพระองค์ ซึ่งบรรดาความผิดของพวกข้าพระองค์ และโปรดทรงให้พวกข้าพระองค์สิ้นชีวิตโดยร่วมอยู่กับบรรดาผู้ที่เป็นคนดีด้วย เถิด
194. โอ้พระผู้เป็นเจ้าของพวกข้าพระองค์! และได้โปรดประทานแก่พวกข้าพระองค์สิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้แก่พวกข้า พระองค์โดยผ่านบรรดารอซูลของพระองค์ และโปรดอย่าได้ทรงยังความอัปยศแก่พวกข้าพระองค์ในวันปรโลกเลย แท้จริงพระองค์นั้นไม่ทรงผิดสัญญา
คำแปล R5.
๑๙๒.
โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งบรรดาข้าพระองค์อันที่จริงใครก็ตามที่พระองค์ทรงให้เขาเข้าสู่นรก
ชั่วนิรันดร์
แล้วเป็นอันว่าพระองค์หมดความปรานีต่อผู้นั้นแน่ และสำหรับบรดาผู้เป็นกาฟิรนั้นย่อมไม่ได้รับความอนุเคราะห์
จากคนใดคนหนึ่งให้รอดพ้นจากการลงทัณฑ์ของอัลเลาะห์
เลย
๑๙๓.
โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งบรรดาข้าพระองค์แท้จริงบรรดาข้าพระองค์ได้ยินแล้วซึ่งคำร้องเรียก
ของมูฮำมัดและจากอัลกุรอาน
ให้ไปสู่ความศรัทธาว่า “พวกเจ้าจงศรัทธาต่อองค์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า
อย่างมั่นคง
เถิด” บรรดาข้าพระองค์ก็ได้ศรัทธา
ต่อข้าพระองค์
แล้ว โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งบรรดาข้าพระองค์ ขอพระองค์ได้โปรดอภัยโทษทั้งหลาย
ที่ใหญ่หลวง
แก่บรรดาข้าพระองค์ ขอได้โปรดขจัดโทษ
เล็กน้อย
เสียจากบรรดาข้าพระองค์
ขอพระองค์อย่าได้แสดงโทษเล็กน้อยนี้ให้ประจักษ์ขึ้นมาในรูปของการลงโทษเลย
และขอพระองค์ได้โปรดจบชีวิตของข้าพระองค์ทั้งหลายให้อยู่ในสมาชิกของบรรดาผู้ดำรงธรรม
ทั้งที่เป็นพระศาสดาและผู้ประพฤติชอบ
ทั้งหลายด้วยเถิด
๑๙๔.
โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งบรรดาข้าพระองค์แหละก็ขอพระองค์ได้โปรดประทานแก่บรรดาข้าพระองค์ให้ได้รับ
ความโปรดปรานีบ้าง ปัจจัยพิเศษบ้าง อันเป็น
สิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาผ่านเหล่าศาสนทูตของพระองค์มายังบรรดาข้าพระองค์
การที่พวกนี้ได้ขอวิงวอนดังกล่าวข้างต้น ทั้ง ๆ ที่ข้อสัญญาของพระองค์ก็ตายตัวแน่นอนอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการขอเพื่ออัลเลาะห์ให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากพวกที่จะต้องได้สิทธิ์ตามสัญญาของพระองค์ ทั้งนี้เพราะพวกนั้นยังไม่แน่ใจว่าตนจะมีสิทธิ์ได้รับตามข้อสัญญานั้นหรือเปล่า
และขอได้โปรดอย่าได้เผยตำหนิของบรรดาข้าพระองค์ในวันกิยามะห์เลย เพราะแท้จริงพระองค์จะไม่ทรงบิดพลิ้วซึ่งคำสัญญา
ที่ว่า “จะทรงให้พวกเจ้าบังเกิดขึ้นจากสุสานและทรงสนองผลตอบแทนให้”
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #58 เมื่อ:
เม.ย. 01, 2011, 06:25 AM »
0
สูเราะฮฺอาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 195
คำอ่าน
195. ฟัสตะญาบะละฮุมร็อบบุฮุม อัน..นีลา..อุฎีอุ อะมะละอามิลิม..มิน..กุม..มิน..ซะกะรินเอาอุน..ษา บะอฺฎุกุม..มิม..บะอฺฎิ ฟัลละซีนะฮาญะรู วะอุคริญูมิน..ดิยาริฮิม วะอูซูฟีสะบีลี วะกอตะลู วะกุติลู ละอุกัฟฟิร็อน..นะอันฮุมสัยยิอาติฮิม วะละอุดคิลัน..นะฮุม ญัน..นาติน..ตัจญรีมิน..ตะหฺติฮัลอันฮารุษะวาบัม..มินอิน..ดิลลาฮฺ วัลลอฮุอิน..ดะฮูหุสนุษษะวาบ
คำแปล R1.
195. So their Lord accepted of them (their supplication and answered them), "Never will I allow to be lost the work of any of you, be He male or female. You are (members) one of another, so those who emigrated and were driven out from their homes, and suffered harm in My Cause, and who fought, and were killed (in My Cause), Verily, I will remit from them their evil deeds and admit them into Gardens under which rivers flow (in Paradise); a reward from Allah, and with Allah is the best of rewards."
คำแปล R2.
195. ต่อมาองค์อภิบาลของเขาก็ตอบรับ (คำขอ) ของพวกเขา (โดยตรัสว่า) “แท้จริงข้าจะไม่ทำให้สูญเปล่าแก่การกระทำของผู้กระทำคนใดจากพวกเจ้าทั้งผู้ชายและผู้หญิง บ้างก็สืบสายมาจากกันและกัน แท้จริงบรรดาผู้อพยพ พวกเขาถูกขับออกจากบ้านเมืองของพวกเขาเอง พวกเขาประสบความเดือดร้อน (ในการดำเนิน) ในทางของอัลเลาะฮฺ พวกเขาออกรบและถูกฆ่าตาย แน่นอนที่สุด ข้าจักนิรโทษแก่พวกเขา ซึ่งมวลความผิดของพวกเขา และข้าจักส่งตัวพวกเขาเข้าสวรรค์ซึ่งมีธารน้ำไหลผ่านจากเบื้องใต้ของมัน เป็นผลานิสงค์จากอัลเลาะฮฺ และอัลเลาะฮฺทรงมีพลานิสงค์ตอบแทนอย่างงดงาม ณ พระองค์
คำแปล R3.
195. ดังนั้น พระผู้อภิบาลของเขาได้ทรงตอบพวกเขาว่า “ฉันจะไม่ปล่อยให้การงานของผู้ทำงานในหมู่สูเจ้าเสีย ไม่ว่าเพศชายหรือเพศหญิง เพราะบางคนของสูเจ้ามาจากกันและกัน ดังนั้นบรรดาผู้ที่อพยพหรือถูกขับไล่ออกจากบ้านของพวกเขาและได้รับทุกข์เพื่อแนวทางของฉัน และพวกเขาได้ต่อสู้และถูกฆ่า ฉันจะลบล้างความผิดต่าง ๆ ของพวกเขาและจะให้พวกเขาเข้าไปในสวนสวรรค์ซึ่งเบื้องล่างนั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน” นี่คือการตอบแทนจากอัลลอฮฺ และที่อัลลอฮฺเท่านั้นที่มีการตอบแทนที่ดีเลิศ
คำแปล R4.
195. แล้วพระเจ้าของพวกเขาก็ตอบรับพวกเขาว่า แท้จริงข้าจะไม่ให้สูญเสียซึ่งงานของผู้ทำงานคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าไม่ ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม โดยที่บางส่วนของพวกเจ้านั้นมาจากอีกบางส่วนบรรดาผู้ทีอพยพ และที่ถูกขับไล่ให้ออกจากหมู่บ้านของพวกเขาและได้รับความเดือดร้อนในทางของข้า และได้ต่อสู้และถูกฆ่าตายนั้น แน่นอนข้าจะลบล้างให้พ้นจากพวกเขา ซึ่งบรรดาความผิดของพวกเขา และแน่นอนข้าจะให้พวกเขาเข้าบรรดาสวนสวรรค์ซึ่งมีบรรดาแม่น้ำไหลอยู่เบื้อง ล่างของสวนสวรรค์เหล่านั้น ทั้งนี้เป็นรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์มีการตอบแทนอันดีงาม
คำแปล R5.
มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้
มีอยู่ว่า ณ กาลครั้งหนึ่ง อุมมุสะละมะห์ได้เรียนถามพระนบีมูฮำมัดว่า โอ้มูฮำมัด ฉันยังไม่ได้ยินเนื้อความในอัล-กุรอานที่กล่าวชมเชยการอพยพของพวกสตรีจากมักกะห์มายังมดีนะห์แต่อย่างใดเลย จึงมีโองการลงมาว่า
๑๙๕.
องค์พระผู้อภิบาลของพวกนั้นได้ทรงรับคำวิงวอนแล้วว่า แท้จริงข้าจะไม่ให้สูญเปล่าซึ่งความประพฤติดีของพวกเจ้าผู้ประพฤติการนั้นไม่ว่าจะเป็นชายหรือเป็นหญิง
เพราะพวกเจ้านั้นจะเป็นชายก็ดี จะเป็นหญิงก็ดี
บ้างก็สืบสายมาจากกันและกัน
จึงถือว่าพวกเจ้าทั้งสองเพศมีส่วนเท่าเทียมกันทั้งในด้านการจะได้รับผลตอบแทนและในด้านไม่ให้สูญเสียการตอบแทน
ฉะนั้นบรรดาผู้ที่ถูก
พวกมุชริก
ขับไล่ออกจากบ้านเมืองของตน
คือนครมักกะห์
แล้วอพยพไป
ยังเมืองหะบะชะห์เป็นบางส่วนก็ดี และอีกบางส่วนไปยังนครมดีนะห์
ก็ดี
ก่อนหรือหลังจากที่มูฮำมัดอพยพก็ดี
ที่ถูกรังควานในทางศาสนาของข้าก็ดี ที่สู้รบ
พวกกาฟิรอยู่
ก็ดี และที่ถูกฆ่า
ในยุทธภูมิ
ก็ดี
ข้าจะให้สัตย์ปฏิญาณว่า
ข้าจะขจัดความชั่วร้ายต่าง ๆ จากพวกเหล่านั้น
ด้วยการอภัยโทษให้
แล้วจะให้พวกนั้นได้เข้าสู่สวรรค์ที่เบื้องล่างมีลำน้ำไหลผ่านเป็นผลานิงสงส์
เนื่องในการตัดสิน
มาแต่ฝ่ายอัลเลาะห์ อันว่าอัลเลาะห์นั้น ที่พระองค์ย่อมมีอานิสงส์อันงดงาม
ตามที่พระองค์ทรงตระเตรียมไว้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
«
ตอบกลับ #59 เมื่อ:
เม.ย. 04, 2011, 07:13 PM »
0
สูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 196 - 198
คำอ่าน
196. ลายะฆุรฺร็อน..นะกะ ตะก็อลลุบุลละซีนะกะฟะรูฟิลบิลาด
197. มะตาอุน..เกาะลีลุน..ษุม..มะมะอ์วาฮุมญะฮัน..นะมุ วะบิอ์สัลมิฮาด
198. ลากินิลละซีนัตตะก็อวร็อบบะฮุม ละฮุมญันนา..ตุน..ตัจญรีมิน..ตะหฺติฮัลอันฮารุ คอลิดีนะฟีฮานุซุลัม..มินอิน..ดิลลาฮฺ วะมาอิน..ดัลลอฮิค็อยรุลลิลอับรอรฺ
คำแปล R1.
196. Let not the free disposal (and affluence) of the disbelievers throughout the land deceive you.
197. A brief enjoyment; then, their ultimate abode is Hell; and worst indeed is that place for rest.
198. But, for those who fear their Lord, are Gardens under which rivers flow (in Paradise); therein are they to dwell (for ever), an entertainment from Allah; and that which is with Allah is the best for
Al-Abrar
(those who are obedient to Allah and follow strictly his orders).
คำแปล R2.
196. เจ้าอย่าทำให้การเคลื่อนไหวของบรรดาผู้เนรคุณในตัวเมือง (เพื่อการค้าและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข) ลวงเจ้า (ให้คิดว่าพวกเขาจะรอดพ้นจากการลงโทษของเรา)
197. (เหล่านั้น) ล้วนเป็นความภิรมย์เพียงเล็กน้อย แล้วหลังจากนั้น ที่พักของพวกเขาก็คือนรกยะฮันนัม และมันเป็นที่อยู่อันเลวร้ายยิ่ง
198. แต่ทว่า บรรดาผู้ยำเกรงองค์อภิบาลของพวกเขานั้น จะได้รับ (การตอบแทนด้วย) สวรรค์ซึ่งมีธารน้ำไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน ซึ่งเขาได้เข้าอยู่ในนั้นโดยนิรันดร เป็นสิ่งต้อนรับจากอัลเลาะฮฺ และสิ่งที่มีอยู่ ณ อัลเลาะฮฺนั้น ย่อมดีเลิศสำหรับบรรดาผู้ดำรงธรรมทั้งมวล
คำแปล R3.
196. จงอย่าให้การงานของบรรดาผู้ปฏิเสธในเมืองล่อลวงเจ้า
197. เพราะนั่นเป็นผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยแล้วพวกเขาจะเข้าสู่นรกอันเป็นสถานที่พำนักที่ชั่วช้า
198. แต่สำหรับบรรดาผู้สำรวมตนต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขานั้น พวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์ที่เบื้องล่างมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ซึ่งพวกเขาจะได้เข้าไปอยู่ในนั้น นี่คือการต้อนรับจากอัลลอฮฺ และใด ๆ ที่อัลลอฮฺนั้นดียิ่งสำหรับผู้ทรงคุณธรรม
คำแปล R4.
196. อย่าให้การเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในเมืองหลวง เจ้าได้เป็นอันขาด
197. มันเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้น แล้วที่อยู่ของพวกเขานั้น คือ ญะฮันนัม และช่างเป็นที่พักนอนที่เลวร้ายจริง ๆ
198. แต่บรรดาผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าของพวกเขานั้น สำหรับพวกเขาคือบรรดาสวนสวรรค์ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่างของสวน สวรรค์เล่านั้น โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เหล่านั้นตลอดกาล ทั้งนี้เป็นสถานที่รับรองที่มาจากอัลลอฮฺ และสิ่งที่มีอยู่ ณ อัลลอฮฺนั้น คือสิ่งที่ดียิ่งสำหรับผู้ที่เป็นคนดีทั้งหลาย
คำแปล R5.
มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้
คือครั้งหนึ่ง พวกมุอ์มินเอ่ยว่า พวกที่เป็นศัตรูของอัลเลาะห์มีความเป็นอยู่ดี ซึ่งพวกเราก็ได้เห็นกันอยู่แล้ว แต่พวกเราซิยากลำบากยิ่งนัก
๑๙๖. โอ้มูฮำมัด
เจ้าอย่าได้ปล่อยให้การจับจ่ายเปลี่ยนเวียน
สินค้าหรือการอุตสาหกรรม
ภายในประเทศของผู้ไม่ศรัทธามาลวงล่อเจ้าเป็นอันขาด
๑๙๗. การจับจ่ายเปลี่ยนเวียนสินค้าก็ดี การอุตสาหกรรมก็ดี
ย่อมเป็นสิ่งอภิรมย์ที่น้อยนัก
ซึ่งพวกเหล่านั้นกำลังได้รับบำเรอกันอยู่ในพิภพนี้เพียงชั่วแล่นแล้วมันจะดับสูญไป
ต่อแต่นั้นนรกยะฮันนำก็เป็นที่พำนักอาศัยของพวกเขา มันเป็นที่พำนักที่เลวร้ายยิ่งนัก
๑๙๘.
แต่ทว่าบรรดาผู้ยำเกรงองค์พระผู้อภิบาลนั้นพวกเขาย่อมได้รับสรวงสวรรค์ที่ภายใต้มีลำน้ำมากสายไหลผ่านโดย
ที่พวกเขาอยู่
ประจำที่นั้นนิรันดร
อย่างไม่ถูกขับไล่ใสส่งให้ออกและไม่ตาย
เป็นสันนิบาตแห่งอัลเลาะห์
ที่ทรงเตรียมไว้สำหรับพวกนั้นเข้าสังสรรค์วิสาสะกันในวันกิยามะห์ และบุญกุศล
ใด ๆ ที่มาแต่
การตัดสินของ
อัลเลาะห์นั้นย่อมดีเลิศสำหรับผู้ดำรงธรรมทั้งหลาย
ยิ่งกว่าสิ่งอภิรมย์ต่าง ๆ ในโลกนี้มากนัก
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า:
1
2
3
[
4
]
5
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
เสวนาเชิงวิชาการ
»
อัลกุรอาน
(ผู้ดูแล:
นูรุ้ลอิสลาม
,
Bangmud
) »
กุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 3 สูเราะฮฺ อาละอิมรอน
GoogleTagged
185
60983673
ตับซีร
41018144
รัก
อาลี
48705608
ตัฟซีร
200
59026428
72676100
อิมราน
61535280
1000ดินา
50500085
ฟัง
คำอ่าน
190
อลิฟ