ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 52 สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ  (อ่าน 2531 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 :salam:

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ (الطور) - เป็นชื่อภูเขา
เป็นสูเราะฮฺ มักกียะฮฺ มี 49 อายะฮฺ

ความหมายโดยสรุปของซูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ (R4.)

   ซูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ เป็นซุเราะฮฺมักกียะฮฺ ที่กล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับหลักการศรัทธาของอิสลาม โดยเฉพาะปัญญาหลักของอะกีดะฮฺ คือความเป็นเอกภาพ สาสน์แห่งการฟื้นคืนชีพและการตอบแทน
   ซูเราะฮฺได้เริ่มด้วยการกล่าวถึงความน่ากลัวและความรุนแรงของวันกิยามะฮฺ สิ่งที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะได้พบเห็นในสถานการณ์อันน่าสะพรึงกลัว คือสถานการณ์แห่งสอบสวน และมีการสาบานว่าการลงโทษจะเกิดขึ้นแก่พวกกุฟฟารอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ไม่มีผู้ใดที่จะห้ามปราม หรือปกป้องจากการลงโทษได้ การสาบานด้วยสิ่งต่าง ๆ 5 อย่างนั้น เป็นการเตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่อง
   ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงบรรดาผู้ยำเกรงขณะที่พวกเขาอยู่ในสวนสวรรค์อันสุขสำราญ อยู่บนเตียงที่หันหน้าเข้าหากัน อัลลอฮฺตะอาลาทรงประทานความสุขสำราญนานาประการให้แก่พวกเขา เช่น หญิงพรหมจารีย์ที่สาวสวย การพบปะอย่างถ้วนหน้ากับบุตรหลาน ความปลื้มปีติยินดีกับอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด ผลไม้และอาหารพวกเนื้อชนิดต่าง ๆ ตามความต้องการและปรารถนา และอื่น ๆ จากนี้ในจำพวกของความสุขสำราญ โดยไม่เคยพบเห็นและนึกคิดมาก่อนเลย
   ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงสาสน์ของมุฮัมมัด อิบนิ อับดุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และใช้เชาให้ว่ากล่าวตักเตือนพวกปฏิเสธศรัทธา โดยมิพักต้องคำนึงถึงคำกล่าวร้ายของพวกมุชริกีนที่มีต่อเขา และสิ่งที่พวกเขาเสกสรรปั้นแต่งและกุขึ้นให้แก่เขาเกี่ยวกับการเผยแผ่สาสน์และการเป็นรอซุล โดยที่อัลลอฮฺ ตะอาลาได้ทรงโปรดปรานให้แก่มุฮัมมัด ด้วยการเป็นนะบีและเป็นรอซูล ดังนั้นมุฮัมมัด จึงไม่ได้เป็นนักเล่ห์กล หรือเป็นคนวิกลจริต ตามคำกล่าวอ้างของพวกมุชริกีน
   ซูเราะฮฺได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่เป็นความเท็จของพวกมุชริกีนที่เกี่ยวกับการเป็นนะบีของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และได้โต้ตอบพวกเขาด้วยหลักฐานอันชัดแจ้ง และข้อพิสูจฯที่เด็ดขาดหนักแน่น พร้อมกับได้นำหลักฐานที่บ่งชี้ถึงข้อเท็จจริงแก่สาสน์ของ มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มาแสดงให้เป็นที่ประจักษ์
   ในตอนท้ายของซูเราะฮฺได้จบลงด้วยการเหน็บแนมพวกปฏิเสธศรัทธาและบรรดาเจว็ดของพวกเขาโดยการประณามและการตำหนิ และได้อธิบายถึงการดื้อรั้นอย่างฉกาจของพวกเขา และใช้ให้ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อดทนต่อการถูกทำร้ายในแนวทางของอัลลอฮฺ จนกว่าความช่วยเหลือของอัลลอฮฺจะมาถึง
   ชื่อของซูเราะฮฺ
   ซูเราะฮฺนี้ถูกขนานนามว่า “ซูเราะฮฺอัฏฏูรฺ” เพราะอัลลอฮฺตะอาลาทรงเริ่มต้นซูเราะฮฺด้วยการสาบานต่อภูเขา “อัฏฏูรฺ” ซึ่งพระองค์ทรงสนทนากับท่านนะบีมูซา อะลัยฮิสสลาม ดังนั้นภูเขาอัฏฏูรฺจึงได้รับแสงสว่างและความอุดมสมบูรณ์จากพระเจ้า ทำให้เป็นแหล่งหรือสถานที่ที่มีเกียรติเหนือบรรดาภูเขาทั้งหลายในโลก

------------------------------------------------------------------

เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

ฟังเสียงอิหม่าม อัลฮุซัยฟี (อีหม่ามมัสญิดมะดีนะฮฺ) อ่านสูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ ได้ที่ลิงก์นี้

http://www.mp3quran.net/media.php?file=http://server9.mp3quran.net/hthfi/052.mp3

วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 1 – 10



คำอ่าน
1. วัฏฏูรฺ
2. วะกิตาบิม..มัสฏูรฺ
3. ฟีร็อกกิม..มัน..ชูรฺ
4. วัลบัยติลมะอฺมูรฺ
5. วัสสักฟิลมัรฺฟูอฺ
6. วัลบะหฺริลมัสญูรฺ
7. อิน..นะอะซาบิ ร็อบบิกะ ละวาเกียะอฺ
8. มาละฮุ มิน..ดาเฟียะอฺ
9. เยามะตะมูรุสสะมา...อุเมารอ
10. วะตะสีรุลญิบาลุสัยรอ

คำแปล R1.
1. By the Mount;
2. And by the Book inscribed.
3. In parchment unrolled.
4. And by the Bait-ul-Ma'mur (the House over the heavens parable to the Ka'bah at Makkah, continuously visited by the angels);
5. And by the roof raised high (i.e. the heaven).
6. And by the sea kept filled (or it will be Fire kindled on the Day of Resurrection).
7. Verily, the torment of your Lord will surely come to pass,
8. There is none that can avert it;
9. On the Day when the heaven will shake with a dreadful shaking,
10. And the mountains will move away with a (horrible) movement.


คำแปล R2.
1.   ขอยืนยันกับภูเขาฏูรฺ
2.   ขอยืนยันกับคัมภีร์ที่ถูกเขียนไว้
3.   ในแผ่นบันทึกที่ถูกกางไว้
4.   ขอยืนยันกับ “บัยติลมะอฺมูรฺ” (เป็นที่สำหรับการทำอิบาดะฮฺของมะลาอิกะฮฺอยู่บนฟ้า)
5.   ขอยืนยันกับหลังคาที่ถูกยกไว้สูง (คือฟ้า)
6.   ขอยืนยันกับท้องทะเลที่ลุกเป็นไฟ(ในวันชาติหน้า)
        (บางคนว่า “ล้นเอ่อจนเป็นทะเลเดียวกัน”)
7.   แท้จริงการลงโทษขององค์อภิบาลของเจ้านั้น ย่อมอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
8.   ไม่มีผู้ใดปัดป้องมันออกไปได้
9.   ในวันที่ท้องฟ้าสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
10.   และขุนเขาทั้งหลายจะเคลื่อนออกจากที่


คำแปล R3.
1.   ขอสาบานด้วย(ภูเขา)ฏูรฺ
2.   และคัมภีร์ที่เปิดเผย
3.   ในแผ่นม้วนอย่างดี
4.   และบ้านที่มีผู้มาอาศัยอยู่อย่างสม่ำเสมอ
5.   และหลังคาที่ถูกยกสูง
6.   และทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่น
7.   การลงโทษของพระผู้อภิบาลของสูเจ้าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
8.   โดยไม่มีใครสามารถยับยั้งมันได้
9.   มันจะเป็นวันที่ชั้นฟ้าปั่นป่วนและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
10.   และขุนเขาจะปลิวว่อน


คำแปล R4.
1. ขอสาบานต่อภูเขาอัฏฏูร
2. ขอสาบานต่อคัมภีร์ ที่ถูกจารึกไว้
3. ในม้วนกระดาษหรือหนังที่กางแผ่
4. ขอสาบานต่ออาคารที่ถูกเยือนอย่างสม่ำเสมอ
5. ขอสาบานต่อท้องฟ้าที่อยู่เบื้องสูง
6. ขอสาบานต่อทะเลที่ลุกโชติช่วง (ในวันกิยามะฮ.)
7. แท้จริงการลงโทษของพระเจ้าของเจ้าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
8. ไม่มีผู้ใดจะเบี่ยงเบนมันได้
9. วันที่ชั้นฟ้าจะสั่นสะเทือนอย่างชุลมุนวุ่นวาย
10. และเทือกเขาจะปลิวว่อนกระจัดกระจาย


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานด้วยกับภูเขาฏูร
๒. และคัมภีร์ที่ถูกบันทึกไว้
๓. ในแผ่นบันทึกที่ถูกเปิด
๔. และขอสาบานด้วยบัยติลมะอ์มูร ซึ่งอยู่ในฟ้าชั้นที่เจ็ด
๕. และขอสาบานด้วยกับฟากฟ้าที่ถูกยกสูงไว้
๖. และขอสาบานด้วยกับทะเลอันเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำ
๗. แท้จริงการลงโทษของพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้านั้นจะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
๘. ซึ่งไม่มีผู้ใดปกป้องแก่สิ่งนั้นได้ ภูเขาฏูรนั้นเป็นภูเขาที่อัลเลาะห์ได้ประทานโองการแก่นบีมูซา คัมภีร์ที่ถูกบันทึกหมายถึงคัมภีร์ต่าง ๆ ที่ถูกประทานลงมาแก่บรรดานบีต่าง ๆ บัยติลมะอ์มูรได้แก่สถานที่ทำนมัสการของมวลมลาอิกะห์เช่นเดียวกับบัยติลลาห์ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำนมัสการของเหล่ามนุษย์ กล่าวกันว่าจำนวนมลาอิกะห์ที่เข้ามาทำการนมัสการนั้นมีจำนวนวันละเจ็ดหมื่นและมิได้กลับออกไปอีกเลยตลอดไป การที่อัลเลาะห์นำห้าประการนี้มาสาบานมิได้หมายว่าจะสำคัญกว่าอัเลาะห์ หากเตือนหืทุกคนได้ระลึกถึงพระเดชานุภาพของพระองค์ที่ทรงบันดาลสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาจะได้ศึกษาอย่างจริงจัง
๙. การลงโทษนั้นจะอุบัติขึ้นในวันกิยามะห์ซึ่งท้องฟ้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
๑๐. และบรรดาภูเขาจะเดินเคลื่อนออกจากที่เดิมอย่างจริงจัง โดยมันถูกทำลายเป็นฝุ่นที่ปลิวว่อนด้วยการพัดของลม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 16, 2011, 06:13 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 11 - 16


คำอ่าน
11. ฟะวัยลุย..เยามะอิซิลลิลมุกัซซิบีน
12. อัลละซีนะฮุม ฟีด็อวี..ยัลอะบูน
13. เยามะยุดะอฺอูนะ อิลานาริญะฮัน..นะมะดะอฺอา
14. ฮาซิฮิน..นารุลละตี กุน..ตุม..บิฮา ตุกัซซิบูน
15. อะฟะสิหฺรุน ฮาซา..อัมกุน..ตุม ลาตุบศิรูน
16. อิศเลาฮา ฟัศบิรู..เอาลาตัศบิรู สะวา...อุนอะลัยกุม อิน..นะมาตุจญเซานะ มากุน..ตุมตะอฺมะลูน

คำแปล R1.
11. Then woe that Day to the beliers;
12. Who are playing in falsehood?
13. The Day when they will be pushed down by force to the Fire of Hell, with a horrible, forceful pushing.
14. This is the Fire which you used to belie.
15. Is this magic, or do you not see?
16. Taste you therein its heat, and whether you are patient of it or impatient of it, it is all the same. You are only being requited for what you used to do.


คำแปล R2.
11.   แท้จริงความหายนะในวันนั้น จะประสบแก่บรรดาผู้ว่ามุสา (แก่สัจธรรม)
12.   ซึ่งพวกเขาเป็นพวกที่หลงระเริงอยู่ในความมดเท็จ
13.   ในวันซึ่งพวกเขาจะถูกผลักลงไปในนรกยะฮันนัมอย่างรุนแรง
14.   (มีผู้ประกาศว่า) “นรกนี้แหละที่พวกเจ้าเคยว่ามุสามาก่อน”
15.   “แล้วสิ่งนี้เป็นมายากลกระนั้นหรือ? หรือว่าพวกเจ้าไม่ยอมพิจารณาเอง?”
16.   “พวกเจ้าจงเข้าไปเถิด แล้วพวกเจ้าจงอดทนเถิด หรือพวกเจ้าอย่าอดทนก็ตาม ก็เท่ากันสำหรับพวกเจ้า (คือไม่มีประโยชน์ด้วยประการทั้งปวง) อันที่จริงพวกเจ้าจะถูกตอบแทนก็เฉพาะสิ่งที่พวกเจ้าเคยประพฤติไว้เท่านั้น”


คำแปล R3.
11.   ความวิบัติในวันนั้นจะเกิดขึ้นกับบรรดาผู้ปฏิเสธ
12.   ที่หมกมุ่นอยู่กับการถกเถียง (อย่างไร้สาระ) เพื่อความสนุกสนาน
13.   วันที่พวกเขาจะถูกไล่ต้อนและถูกผลักลงไปในไฟนรก
14.   (พวกเขาจะถูกกล่าวว่า) “นี่คือนรกที่สูเจ้าเคยปฏิเสธมาก่อน
15.   ตอนนี้จงบอกมาซิว่า มันเป็นมายากลใช่ไหม? หรือสูเจ้ายังมองไม่เห็นอีก?
16.   ตอนนี้ก็จงถูกเผาอยู่ในนั้น ไม่ว่าสูเจ้าจะทนได้หรือไม่ มันก็เหมือนกันสำหรับสูเจ้า ตอนนี้สูเจ้ากำลังได้รับการตอบแทนตามที่สูเจ้าได้ทำไว้”


คำแปล R4.
11. ดังนั้นความหายนะในวันนั้นจงประสบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธ
12. บรรดาที่พวกเขาอยู่ในการมั่วสุมการละเล่นอย่างไร้สาระ
13. วันที่พวกเขาจะถูกผลักลงนรกญะฮันนัมอย่างผลักใสไล่ส่ง
14. นี่คือไฟนรก ซึ่งพวกเจ้าเคยปฏิเสธมัน
15. นี่คือเล่ห์กลหรือ หรือว่าพวกเจ้ายังมองไม่เห็น?
16. จงเข้าไปเผาไหม้ในนั้น พวกเจ้าจะทนได้หรือทนไม่ได้ก็เท่าเทียมกันสำหรับพวกเจ้า แท้จริงพวกเจ้านั้นจะถูกตอบแทนตามที่พวกเจ้าได้กระทำไว้เท่านั้น


คำแปล R5.
๑๑. แท้จริงความหายนะในวันนั้นจักประสบแก่บรรดาจำพวกที่ว่าศาสนทูตพูดเท็จ
๑๒. ซึ่งพวกเหล่านั้นหลงระเริงอยู่ในสิ่งไร้สาระ คือความเนรคุณ การกระทำชั่ว การสะสมทรัพย์สมบัติเพื่อความสุขของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่นและการประพฤติเสเพลหาความสนุกสนานต่าง ๆ
๑๓. เป็นวันซึ่งพวกเขาจะถูกผลักใสลงสู่นรกอย่างรุนแรง โดยพวกเขาถูกจับมัดมือไพล่กับต้นคอและคล้องด้วยโซ่ตรวน
๑๔. พร้อมกันนั้นได้มีผู้ประกาศแก่พวกเขาว่านรกนี้แหละที่พวกเจ้าเคยกล่าวว่าเป็นเรื่องเท็จ ขณะเมื่อพวกเจ้ามีชีวิตอยู่ในสากลโลก
๑๕. แล้วสิ่งนี้เป็นวิทยากลหรือ หรือว่าพวกเจ้าไม่พินิจพิเคราะห์ในการที่พวกเจ้าได้กล่าวว่านบีมุฮำมัดกล่าวเท็จนั้น
๑๖. พวกเจ้าจงเข้าไป แล้วพวกเจ้าต้องอดทนเถิด หรือพวกเจ้าไม่อดทนก็ตาม เป็นความเท่าเทียมกันสำหรับพวกเจ้า เพราะเจ้าจะอดทนหรือจำยอมพวกเจ้าก็ต้องอยู่ถาวรในนรกนั้นตลอดไป ไม่มีวันหลุดพ้นเป็นอิสระได้ และความอดทนดังกล่าวจะไม่บังเกิดผลใด ๆ เลย ถ้าจะไปมีเอาในวันอาคิเราะห์ แต่จะบังเกิดผลมหาศาลหากมีในสากลโลก อันที่จริงพวกเจ้าจะถูกตอบแทนในสิ่งที่พวกเจ้าเคยประพฤติไว้ในสากลโลกอย่างสาสมและยุติธรรมยิ่ง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 17 - 24


คำอ่าน
17. อิน..นัลมุตตะกีนะฟีญัน..นาติว..วะนะอีม
18. ฟากิฮีนะ บิมา..อาตาฮุม ร็อบบุฮุม วะวะกอฮุม ร็อบบุฮุม อะซาบัลญะหีม
19. กุลู วัชเราะบู ฮะนี..อัม..บิมากุน..ตุมตะอฺมะลูน
20. มุตตะกิอีนะอะลาสุรุริม..มัศฟูฟะฮฺ วะเซา..วัจญนาฮุม..บิหูรินอีน
21. วัลละซีนะอามะนู วัตตะบะอัตฮุม ซุรฺรียะตุฮุม..บิอีมานิน อัลหักนาบิฮิม ซุรฺรียะตะฮุม วะมา..อะลัตนาฮุม..มินอะมะลิฮิม..มินชัยอ์ กุลลุมริอิม..บิมากะสะบะเราะฮีน
22. วะอัมดัดนาฮุม..บิฟากิฮะติว..วะละหฺมิม..มิมมายัชตะฮูน
23. ยะตะนาซะอูนะ ฟีฮากะอ์สัล ลาลัฆวุน..ฟีฮา วะลาตะอ์ษีม
24. วะยะฏูฟุอะลัยฮิม ฆิลมานุล ละฮุม กะอัน..นะฮุม ลุอ์ลุอุม..มักนูน

คำแปล R1.
17. Verily, the Muttaqun (pious - see V.2:2) will be in Gardens (Paradise), and delight.
18. Enjoying in that which their Lord has bestowed on them, and (the fact that) their Lord saved them from the torment of the blazing Fire.
19. "Eat and drink with happiness because of what you used to do."
20. They will recline (with ease) on thrones arranged in ranks. And we shall marry them to Houris (female, fair ones) with wide lovely eyes.
21. And those who believe and whose offspring follow them in faith, to them shall we join their offspring, and we shall not decrease the reward of their deeds In anything. Every person is a pledge for that which he has earned.
22. And we shall provide them with fruit and meat, such as they desire.
23. There they shall pass from hand to hand a (wine) cup, free from any Laghw (dirty, false, evil vague talk between them), and free from sin (because it will be legal for them to drink).
24. And there will go round boy-servants of theirs, to serve them as if they were preserved pearls.


คำแปล R2.
17.   แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงอัลเลาะฮฺ ย่อมมีที่อยู่ในสวรรค์และความสุขล้น
18.   พวกเขาได้เสพสุขอยู่กับสิ่งที่องค์อภิบาลของพวกเขาได้ประทานให้ และองค์อภิบาลของพวกเขาได้ป้องกันพวกเขาไว้จากการลงโทษของนรก
19.   (มีผู้ประกาศแก่พวกเขาว่า) “พวกท่านจงกินและจงดื่มให้อิ่มหนำสำราญเถิด ด้วยเหตุแห่งสิ่งที่พวกท่านเคยประพฤติไว้”
20.   พวกนั้นเอนกายอยู่บนเตียงที่เรียงไว้เป็นแถว และเราได้ให้พวกเขาแต่งงานกับหญิงที่มีดวงตาอันงามขลับ(นางสวรรค์)
21.   และบรรดาผู้มีศรัทธาและผู้สืบตระกูลของพวกเขาได้เจริญรอยตามพวกเขาด้วยการมีศรัทธา เราย่อมให้ผู้สืบตระกูลของพวกเขาได้ติดต่อกับพวกเขา (เข้าไปในสวรรค์) และเราไม่ได้ลดผลงานของพวกเขาสักเพียงเล็กน้อยก็ตาม (อันเนื่องจากการอนุญาตให้ผู้สืบตระกูลติดต่อกับพวกเขา) ทุก ๆ บุคคลล้วนถูกจองจำ (ไว้กับอัลเลาะฮฺทั้งสิ้น) เป็นไปตามผลงานที่เขาได้พากเพียรไว้ (ทุกประการ
22.   และเราได้เพิ่มพูนผลไม้และเนื้อแก่พวกเขาตามที่พวกเขาอยากจะได้
23.   พวกเขาแลกเปลี่ยนแก้วน้ำแก่กันและกันอยู่ในสวรรค์ (เพื่อแสดงถึงความเป็นมิตรต่อกัน) ซึ่งในแก้วนั้นไม่มีสิ่งไร้สาระและไม่มีการให้โทษ (แก่พวกเขาขณะดื่มกินมันเลย)
24.   และมีมวลเด็กรับใช้ชาวสวรรค์วนเวียนอยู่กับพวกเขา (เพื่อคอยรับใช้) ประหนึ่งพวกเขา เป็นไข่มุกที่ถูกซ่อนไว้ในฝา


คำแปล R3.
17.   ส่วนผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้านั้นจะได้อยู่ในสวรรค์และความโปรดปราน
18.   โดยได้รับความสุขในสิ่งที่พระผู้อภิบาลของพวกเขาประทานแก่พวกเขา และพระผู้อภิบาลของพวกเขาจะช่วยพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของไฟนรก
19.   (พวกเขาจะถูกกล่าวว่า) “จงกินและจงดื่มด้วยความสุขในฐานะที่เป็นการตอบแทนสิ่งที่สูเจ้าได้ทำไว้”
20.   พวกเขาจะเอนกายบนเตียงนุ่มที่หันหน้าเข้าหากันและเราจะให้พวกเขาได้มีคู่ครองเป็นหญิงสาวที่มีดวงตาสวยงาม
21.   บรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาลูกหลานของพวกเขาที่เจริญรอยตามพวกเขาด้วยความศรัทธานั้นเราจะให้ลูกหลานของพวกเขาได้อยู่กับพวกเขา ([บนสวรรค์) ด้วยเช่นกัน และเราจะไม่ทำให้สิ่งใดจากการงานของพวกเขาขาดตกบกพร่องไป ทุกคนเป็นหลักประกันสำหรับสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้
22.   เราจะจัดหาผลไม้และเนื้อให้พวกเขาตามที่พวกเขาต้องการ
23.   พวกเขาจะส่งถ้วยแก้วกันอย่างมีความสุข และในนั้นจะไม่มีการพูดจาไร้สาระและไม่มีเรื่องผิดศีลธรรม
24.   และรอบ ๆ พวกเขาจะมีเด็กผู้ชายที่น่ารักเหมือนไข่มุกที่ถูกรักษาไว้อย่างดีคอยรับใช้พวกเขา


คำแปล R4.
17. แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงนั้นจะได้อยู่ในสวนสวรรค์ และความสุขสำราญ
18. ได้รับความสุขอันล้นพ้นตามที่พระเจ้าของพวกเขาได้ประทานให้แก่พวกเขา และพระเจ้าของพวกเขาจะคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของเปลวไฟ
19. พวกเจ้าจงกิน จงดื่มอย่างสบายใจตามที่พวกเจ้าได้กระทำไว้
20. นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงเรียงชิดติดกัน และเราให้พวกเขามีคู่ครองเป็นหญิงสาวสวยดวงตาโตคม
21. และบรรดาผู้ศรัทธา บรรดาลูกหลานของพวกเขาจะดำเนินตามพวกเขาด้วยการศรัทธา เราจะให้ลูกหลานของพวกเขาอยู่ร่วมกับพวกเขา และเราจะไม่ให้การงานของพวกเขาลดหย่อนลงจากพวกเขาแต่อย่างใดแต่ละคนย่อมได้ รับการค้ำประกันในสิ่งที่เขาขวนขวายไว้
22. และเราจะเพิ่มพูนให้แก่พวกเขา ซึ่งผลไม้และเนื้อตามที่พวกเขาต้องการ
23. พวกเขาจะแลกเปลี่ยนถ้วยแก้วกันในสวรรค์ จะไม่มีการพูดจาตลกคะนอง และไม่มีการทำบาป
24. มีเด็กวัยรุ่นของพวกเขาวนเวียนรับใช้พวกเขา เสมือนว่าพวกเขา เช่นไข่มุกถูกปกปิดไว้


คำแปล R5.
๑๗. แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงนั้นย่อมได้อยู่ในสวรรค์และความบรมสุข
๑๘. พวกเขาจะมีความสุขอยู่กับสิ่งที่พระผู้อภิบาลของพวกเขาได้ประทานแก่พวกเขา และพระผู้อภิบาลของพวกเขาได้ปกป้องพวกเขาไว้จากการลงโทษของไฟนรก
๑๙. มีผู้สั่งแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงรับประทานและจงดื่มให้เอร็ดอร่อยเถิด เพื่อตอบแทนในสิ่งที่พวกเจ้าได้เคยประพฤติไว้
๒๐. โดยพวกเจ้าเอนกายอยู่บนเตียงที่ถูกวางไว้เป็นแถวอย่างมีระเบียบและเตียงเหล่านั้นทำมาจากทองคำประดับด้วยอัญมณีต่าง ๆ อย่างสวยงาม และเราได้ทำการสมรสพวกเขากับบรรดานางสวรรค์
๒๑. และบรรดามวลผู้มีศรัทธาและลูกหลานของพวกเขาได้ติดตามพวกเขาด้วยการมีศรัทธา ขณะอยู่ในโลกดุนยา แน่นอนเราจักสัมพันธ์ลูกหลานของพวกเขากับพวกเขาในโลกอาคิเราะห์ (ปรภพ) ด้วยคำว่าลูกหลาน นักปราชญ์อธิบายว่า แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ลูกหลานทางตระกูล (นะซับ) และลูกหลานทางวิชาการ (อิฟาดะห์) เช่น ศิษย์กับครู ป็นต้น เมื่อไปถึงวันกิยามะห์ หากทั้งสองฝ่ายมีศรัทธาร่วมก็จะได้สัมพันธ์ติดต่อกันเหมือนเช่นที่เคยในดุนยา และเรามิได้ลดผลงานต่าง ๆ ของพวกเขาแม้สักสิ่งเดียวก็ตาม ทุก ๆ บุคคลจะได้รับการจองจำไว้ด้วยกับการงานที่เขาได้พากเพียรไว้ ทั้งการกระทำดีและการทำชั่ว ต่างจะได้ผลตอบแทนไปตามปริมาณของงานอย่างครบถ้วน
๒๒. และเราได้เพิ่มพูนแก่พวกเขา ผู้เป็นชาวสวรรค์ทุกคนด้วยกับผลไม้และเนื้อจากสิ่งที่พวกเขาชอบรับประทาน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะถูกนำมาบริการแก่พวกเขาตรงตามเวลาไม่ต้องรอคอยและไม่ต้องขอ
๒๓. พวกเขาจะหยิบยื่นซึ่งกันและกันในสวรรค์นั้น ซึ่งแก้วน้ำ เมื่อดื่มไปแล้วไม่มีการสูญเปล่าและการให้โทษนั้นเลย
๒๔. และจะมีกลุ่มเด็กรับใช้วนเวียนอยู่กับพวกเขาเพื่อคอยบริการในด้านต่าง ๆ ซึ่งเด็กรับใช้เหล่านั้นมีความสง่างามจนมองดูประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นไข่มุกที่ถนอมไว้อย่างดี




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 25 - 28


คำอ่าน
25. วะอักบะละบะอฺฎุฮุม อะลาบะอฺฎี..ยะตะสา...อะลูน
26. กอลู..อิน..นา กุน..นา ก็อบลุฟี..อะฮฺลินา มุชฟิกีน
27. ฟะมัน..นัลลอฮุอะลัยนา วะวะกอนา อะซาบัสสะมูม
28. อิน..นากุน..นา มิน..ก็อบลุ นัดอูฮุ อินนะฮู ฮุวัลบัรฺรุรฺเราะหีม

คำแปล R1.
25. And some of them draw near to others, questioning.
26. Saying: "Aforetime, we were afraid with our families (from the punishment of Allah).
27. "But Allah has been Gracious to us, and has saved us from the torment of the Fire.
28. "Verily, we used to invoke Him (Alone and none else) before. Verily, He is Al-Barr (the Most Subtle, kind, Courteous, and Generous), the Most Merciful."


คำแปล R2.
25.   และพวกเขาต่างก็หันหน้าเข้าหากันเพื่อสอบถามซึ่งกันและกัน
26.   พวกเขากล่าวว่า “อันพวกเราเมื่อก่อนนี้ต่างก็มีความหวั่นกลัว (อันตรายจักประสบ) ในครอบครัวของเรา (เนื่องจากการทรยศต่ออัลเลาะฮฺ)
27.   แล้วอัลเลาะฮฺก็ทรงโปรดแก่พวกเรา และทรงป้องกันพวกเราไว้จากโทษทัณฑ์ของไฟนรกอันมีพิษสงยิ่ง
28.   แท้จริงพวกเราเคยวอนนมัสการต่อพระองค์เมื่อก่อนนี้ แท้จริงพระองค์ทรงยิ่งในคุณธรรม ทรงยิ่งในความเมตตา


คำแปล R3.
25.   พวกเขาจะหันมายังอีกคนหนึ่งและถามกัน (เกี่ยวกับชีวิตแห่งโลกนี้)
26.   พวกเขาจะกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราอยู่ในหมู่คนของเราด้วยความหวาดกลัวและประหวั่นพรั่นพรึง
27.   ดังนั้น อัลลอฮฺจึงได้ทรงโปรดปรานแก่เราและได้ทรงช่วยเหลือเราให้พ้นจากการลงโทษของลมร้อน
28.   แท้จริงก่อนหน้านี้ เราได้วิงวอนต่อพระองค์เท่านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผู้ทรงเมตตาเสมอ”


คำแปล R4.
25. และบางคนในหมู่พวกเขาจะหันหน้าเข้าหากัน สอบถามซึ่งกันและกัน
26. พวกเขากล่าวว่า แท้จริง แต่ก่อนนี้ (ในโลกดุนยา) พวกเราอยู่กับครอบครัวของเราเป็นผู้มีความวิตกกังวล
27. ดังนั้นอัลลอฮ.ได้ทรงโปรดปรานแก่เราและได้ทรงปกป้องเราให้พ้นจากการลงโทษแห่งลมร้อน
28. แท้จริง ก่อนหน้านี้เราได้วิงวอนต่อพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้ทรงเมตตาเสมอ


คำแปล R5.
๒๕. แล้วบางส่วนของพวกเขาชาวสวรรค์ก็จะหันหน้ามาซักถามสารทุกข์จากอีกบางส่วนด้วยความรู้สึกติ้นตันในความสุขที่แต่ละคนได้รับ
๒๖. พวกเขากล่าวว่า แท้จริงพวกเราเมื่อสมัยก่อนนั้นขณะอยู่ในสากลโลก ในครอบครัวของเราต่างก็ยำเกรง กลัวการลงโทษของอัลเลาะห์
๒๗. ดังนั้นอัลเลาะห์จึงโปรดแก่พวกเราให้ได้เข้าสวรรค์และทรงปกป้องพวกเราให้พ้นจากการลงโทษของนรก
๒๘. แท้จริงพวกเราเมื่อสมัยก่อนนั้น ได้ทำการวอนนมัสการต่อพระองค์ แท้จริงพระองค์ทรงความดีเป็นเลิศ ทรงเมตตาที่สุด



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 29 - 34


คำอ่าน
29. ฟะซักกิรฺ ฟะมา..อันตะ บินัยะอฺมะติร็อบบิกะ บิกาฮินิว..วะลามัจญนูน
30. อัมยะกูลูนะ ชาอิรุน..นะตะร็อบบะศุบิฮี ร็อยบัลมะนูน
31. กุลตะร็อบบะศู ฟะอิน..นีมะอะกุม..มินัลมุตะร็อบบิศีน
32. อัมตะอ์มุรุฮุม อะหฺลามุฮุม บิฮาซา..อัมฮุม ก็อวมุน..ฏอฆูน
33. อัมยะกูลูนะ ตะก็อววะละฮู บัลลายุอ์มินูน
34. ฟัลยะอ์ตูบิหะดีษิม..มิษลิฮี..อิน..กานู ศอดิกีน

คำแปล R1.
29. Therefore, remind and preach (mankind, O Muhammad of Islamic Monotheism). By the Grace of Allah, you are neither a soothsayer, nor a madman.
30. Or do they say: "(Muhammad is) a poet! We await for him some calamity by time.!"
31. Say (O Muhammad to them): "Wait! I am with you, among the waiters!"
32. Do their minds command them this [i.e. to tell a lie against you (Muhammad)] or are they people exceeding the bounds (i.e. from belief in Allah to disbelief).
33. Or do they say: "He (Muhammad) has forged it (this Qur'an)?" Nay! They believe not!
34. Let them then produce a recital like unto it (the Qur'an) if they are truthful.


คำแปล R2.
29.   ดังนั้นเจ้าจงประกาศเตือนเถิด เพราะว่าเจ้านั้น โดยความโปรดปรานแห่งองค์อภิบาลของเจ้า (ที่ทรงประทานแก่เจ้า)มิใช่หมอดู และมิใช่คนวิกลจริต
30.   แต่พวกเขาก็ยังพูดว่า “(มุฮัมมัด) เป็นกวีซึ่งพวกเรากำลังเฝ้ารอคอยกาลพินาศของเขาอยู่”
31.   จงประกาศเถิด! “พวกท่านจงรอคอยไปเถิด! แท้จริงฉันก็เป็นผู้หนึ่งที่กำลังรอคอยพร้อมกับพวกท่าน (เหมือนกันว่าสิ่งที่อัลเลาะฮฺสัญญาไว้นั้น จักอุบัติแก่พวกท่านเมื่อใด)”
32.   หรือว่าพวกเขาได้กระทำสิ่งนี้ (การใส่ไคล้ดังกล่าวนั้น)โดยการบัญชาจากความเพ้อฝันของพวกเขาเอง หรือว่าพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มชนที่ละเมิด?
33.   ทว่าพวกเขาพูดว่า “มุฮัมมัดได้เสกสรรอัลกุรอานขึ้นมาเอง” ยิ่งกว่านั้นพวกเขาไม่ศรัทธา
34.   ดังนั้นพวกเขาจงนำถ้อยจำนรรจ์ที่เหมือนกับอัลกุรอานมาสิ หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง

 
คำแปล R3.
29.   ดังนั้น (โอ้ นบี) จงตักเตือนพวกเขาต่อไปด้วยความโปรดปรานของพระผู้อภิบาลของเจ้า เจ้ามิใช่หมอดูและมิใช่คนบ้า
30.   พวกเขากล่าวหรือว่า “เขาเป็นกวีคนหนึ่งซึ่งเรากำลังคอยให้ความหายนะเกิดขึ้นกับเขา”?
31.   จงบอกพวกเขาเถิดว่า “จงคอยเถิด ฉันก็จะคอยอยู่กับพวกท่าน”
32.   หรือว่าความคิดของพวกเขาสั่งพวกเขาให้ทำเช่นนั้น หรือว่าพวกเขาเป็นผู้ฝ่าฝืน?
33.   พวกเขากล่าวหรือว่า “คนผู้นี้แต่งกุรอานขึ้นมาเอง”? เปล่าเลย ความจริงแล้วพวกเขาไม่ต้องการจะศรัทธาต่างหาก
34.   ดังนั้นจงปล่อยให้พวกเขาคิดคำพูดเช่นนี้ขึ้นมาอีก ถ้าหากพวกเขาแน่จริงในสิ่งที่พวกเขาพูด


คำแปล R4.
29. ดังนั้น จงกล่าวเตือน (พวกเขาเถิด) เนื่องเพราะความโปรดปรานแห่งพระเจ้าของเจ้ามิได้เป็นโหร และมิได้เป็นบ้า
30. หรือพวกเขากล่าวว่า มุฮัมมัดเป็นกวี เราคอยภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นแก่เขา
31. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด พวกท่านจงคอยเถิด แท้จริงฉันก็จะอยู่ในหมู่ผู้คอยร่วมกับพวกท่าน
32. หรือว่าสติปัญญาของพวกเขาใช้พวกเขาให้เชื่อเช่นนั้น หรือว่าพวกเขาเป็นหมู่ชนผู้ฝ่าฝืน
33. หรือพวกเขากล่าวว่า เขาได้เสกสรรปั้นแต่งอัลกุรอานขึ้นเอง เปล่าดอกพวกเขาไม่ศรัทธาต่างหาก
34. ดังนั้น พวกเขาจงนำคำกล่าวเช่นเดียวกันนี้มา หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง


คำแปล R5.
๒๙. ดังนั้นเจ้าจงตักเตือนมวลมนุษย์เถิด อย่าหยุดยั้งการเตือนเพียงเพราะถูกใส่ไคล้ว่าเจ้าเป็นนักเล่นกลหรือเป็นคนวิกลจริต เพราะที่จริงนั้นมิใช่หมอดู และมิใช่คนวิกลจริต ทั้งนี้ด้วยความโปรดปรานแห่งพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้า
๓๐. หรือว่าพวกเขาจะกล่าวว่า มุฮำมัดนั้นเป็นนักกวี ซึ่งพวกเรารอคอยต่อเขา การผันแปรแห่งกาลเวลา ที่จะทำให้เขาตายเยี่ยงนักกวีคนอื่น ๆ
๓๑. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงประกาศเถิด พวกเจ้าจงรอคอยไปเถิด แท้จริงข้าก็อยู่พร้อมกับพวกเจ้า เป็นหนึ่งจากบรรดาผู้รอคอยบเหมือนกัน ว่าจะมีเหตุร้ายแรงประสบกับพวกเจ้าเมื่อใด
๓๒. หรือว่าปัญญาของพวกเขาออกคำสั่งแก่พวกเขาในเรื่องนี้ ที่ให้พวกเขาว่านบีมุฮำมัดมุสา เป็นนักกวี เป็นหมอดูและเป็นคนวิกลจริต หรือว่าพวกเขาเป็นกลุ่มชนผู้ละเมิด ที่กล่าวหาใส่ไคล้นบีด้วยความอิจฉาริษยา
๓๓. หรือพวกเขาพูดว่า มุฮำมัดได้ประพันธ์กุรอานขึ้นมาเอง ทว่าความจริงแล้วสาเหตุที่พวกเขาคัดค้านนั้นเป็นเพราะพวกเขาไม่ศรัทธานั่นเอง
๓๔. ดังนั้นหากพวกเขาพูดว่านบีมุฮำมัดประพันธ์กุรอานขึ้นมาเองพวกเขาก็จงนำถ้อยคำที่เหมือนกับกุรอานมาสิ หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง]/b] และสามารถพิสูจน์ได้ว่า อัลกุรอานมิได้มาจากอัลเลาะห์


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 35 - 43


คำอ่าน
35. อัมคุลิกู มินฆ็อยริชัยอิน อัมฮุมุลคอลิกูน
36. อัมเคาะละกุสสะมาวาติวัลอัรฺเฎาะ บัลลายูกินูน
37. อัมอิน..ดะฮุม เคาะซา...อินุร็อบบิกะ อัมฮุมุลมุสัยฏิรูน
38. อัมละฮุม สุลละมุย..ยัสตะมิอูนะฟีฮิ ฟัลยะอ์ติ มุสตะมิอุฮุม..บิสุลฏอนิม..มุบีน
39. อัมละฮุลบะนาตุ วะละกุมุลบะนูน
40. อัมตัสอะลุฮุมอัจญร็อน..ฟะฮุม..มิม..มัฆเราะมิม..มุษเกาะลูน
41. อัมอิน..ดะฮุมุลฆ็อยบุ ฟะฮุมยักตุบูน
42. อัมยุรีดูนะกัยดา, ฟัลละซีนะกะฟะรูฮุมุลมะกีดูน
43. อัมละฮุม อิลาฮุน ฆ็อยรุลลอฮฺ สุบหานัลลอฮิอัม..มายุชริกูน
 
คำแปล R1.
35. Were they created by nothing, or were they themselves the creators?
36. Or did they create the heavens and the earth? Nay, but they have no firm belief.
37. Or are with them the treasures of your Lord? Or are they the tyrants with the authority to do as they like?
38. Or have they a stairway (to heaven), by means of which they listen (to the talks of the angels)? Then let their listener produce some manifest proof.
39. Or has He (Allah) only daughters and you have sons?
40. Or is it that you (O Muhammad) ask a wage from them (for you’re preaching of Islamic Monotheism) so that they are burdened with a load of debt?
41. Or that the Ghaib (unseen) is with them, and they write it down?
42. Or do they intend a plot (against you O Muhammad)? But those who disbelieve (in the Oneness of Allah Islamic Monotheism) are themselves in a plot!
43. Or have they an Ilah (a god) other than Allah? Glorified be Allah from all that they ascribe as partners (to Him)


คำแปล R2.
35.   หรือว่าพวกเขาถูกบันดาลขึ้นมาโดยไม่มีผู้ใด (บันดาล) หรือว่าพวกเขาเป็นผู้บันดาลเสียเอง?
36.   หรือว่าพวกเขาได้บันดาลฟากฟ้าและแผ่นดินไว้ (ความจริงก็เปล่าทั้งสิ้น) ทว่าพวกเขาไม่เชื่อมั่นเอง
37.   หรือว่าพวกเขามีคลัง (ทรัพย์สิน) แห่งอัลเลาะฮฺ หรือว่าพวกเขาเป็นผู้บริหารทุก ๆ สิ่งเสียเอง?
38.   หรือว่าพวกเขามีบันได (ทอดขึ้นไปยังฟากฟ้า) เพื่อรับฟัง (คำบัญชาของอัลเลาะฮ)? (ถ้ามีจริง) ผู้ที่รับฟังจากพวกเขานั้น ก็จงนำหลักฐานที่ชัดแจ้งมาแสดงสิ!
39.   หรือว่าพระองค์อัลเลาะฮมีบุตรหญิงส่วนพวกเขามีบุตรชาย (ซึ่งไม่ยุติธรรมเลยถ้าเป็นเช่นนั้นจริง)
40.   หรือว่าเจ้าขอค่าจ้างจากพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกเป็นภาระที่ต้องชำระ
41.   หรือว่าความลี้ลับอยู่ที่พวกเขา แล้วพวกเขาก็ได้คัดลอกมา (เพื่อคัดค้านคำสอน)
42.   ทว่าพวกเขาประสงค์ที่จะวางแผนการร้าย (เพื่อทำลายนบีมุฮัมมัด) แท้จริงบรรดาพวกไร้ศรัทธานั้น เป็นพวกที่ต้องถูกตอบแทนการวางแผนร้ายอย่างแน่นอน
43.   หรือว่าพวกเขามีพระเจ้าอื่นจากอัลเลาะฮฺ? อัลเลาะฮฺทรงบริสุทธิ์ยิ่งนักจากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคีไว้


คำแปล R3.
35.   หรือว่าพวกเขาเกิดมาโดยปราศจากผู้ทรงสร้าง? หรือพวกเขาเป็นผู้สร้างตัวของพวกเขาเอง?
36.   หรือพวกเขาได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายหรือแผ่นดินขึ้นมา? เปล่าเลย ความจริงแล้วพวกเขาไม่เชื่อมั่นต่างหาก
37.   หรือพวกเขามีทรัพย์สมบัติของพระผู้อภิบาลของเจ้า? หรือพวกเขาใช่ไหมที่เป็นผู้ควบคุมมัน?
38.   หรือว่าพวกเขามีบันไดใช้ปีนขึ้นไปเพื่อที่จะได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ ในชั้นฟ้า? ดังนั้น ขอให้ใครก็ได้ในหมู่พวกเขาที่ได้ยินนำหลักฐานอันชัดแจ้งมา
39.   อัลลอฮฺนั้นหรือที่จะมีลูกสาวและสูเจ้ามีลูกชาย?
40.   หรือว่าเจ้าขอสิ่งตอบแทนใด ๆ จากพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาต้องแบกภาระหนี้สินอันหนักอึ้ง?
41.   หรือพวกเขามีความรู้เรื่องสิ่งเร้นลับแล้วพวกเขาบันทึกไว้?
42.   หรือพวกเขาคิดที่จะวางแผน? (หากเป็นเช่นนั้น) แผนการนั้นก็จะย้อนกลับมาเกิดขึ้นกับบรรดาผู้ปฏิเสธเอง
43.   หรือว่าพวกเขามีพระเจ้าอื่นนอกไปจากอัลลอฮฺ? มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอยู่เหนือสิ่งที่พวกเขานำมาตั้งภาคีกับพระองค์


คำแปล R4.
35. หรือว่าพวกเขาถูกบังเกิดมาโดยไม่มีผู้ให้บังเกิด หรือว่าพวกเขาเป็นผู้ให้บังเกิดตนเอง
36. หรือว่าพวกเขาเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินนี้ เปล่าเลย เพราะพวกเขาไม่เชื่อมั่นต่างหาก
37. หรือว่าพวกเขามีขุมทรัพย์แห่งพระเจ้าของเจ้า หรือว่าพวกเขาเป็นผู้มีอำนาจจัดการ
38. หรือว่าพวกเขามีบันไดเพื่อพวกเขาจะได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ในชั้นฟ้า ดังนั้นก็จงให้คนที่ฟังในหมู่พวกเขานำหลักฐานอันชัดแจ้งมา
39. หรือว่าพระองค์ทรงมีบุตรหญิงหลายคน และพวกเจ้ามีบุตรชายหลายคน
40. หรือว่าเจ้าขอค่าจ้างจากพวกเขา ดังนั้นพวกเขา จึงมีภาระหนี้อันหนัก
41. หรือว่าที่พวกเขามีสิ่งเร้นลับ แล้วพวกเขาก็บันทึกไว้
42. หรือว่าพวกเขาต้องการที่จะวางแผนร้าย แต่ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น พวกเขาต่างหากที่จะถูกวางแผนร้าย
43. หรือว่าพวกเขามีพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮฺ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺ จากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคี


คำแปล R5.
๓๕. หรือว่าพวกเขาถูกบันดาลขึ้นมาตามธรรมชาติโดยไม่มีสิ่งใด ๆเป็นผู้บันดาลตามที่เขายึดถือ หรือว่าพวกเขาเป็นผู้บันดาลตัวของพวกเขาเอง ซึ่งสิ่งที่พวกเขายึดถือนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เกินในปัญญาเลย เพราะจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่บังเกิดมาแล้ว ก็ต้องมีผู้สร้างทั้งสิ้น และผู้สร้างก็คืออัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียว
๓๖. หรือว่าพวกเขาสร้างชั้นฟ้าทั้งเจ็ดและแผ่นดินทั้งเจ็ดเสียเอง ที่จริงพวกเขาเอง เขาเองก็หาได้มีความสามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้เลย แต่ทว่าพวกเขาไม่เชื่อมั่นในอัลเลาะห์ว่าทรงเป็นผู้บันดาลสิ่งต่าง ๆ ซึ่งหากเขามีความเชื่อมั่นในพระองค์ แน่นอนพวกเขาก็ต้องเชื่อในนบีของพระองค์ด้วย
๓๗. หรือว่าพวกเขามีบรรดาคลังแห่งพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้าอยู่ในอำนาจปกครองของพวกเขา พวกเขาจึงทระนงตนไม่เชื่อถือในนบีมุฮำมัด หรือว่าพวกเขาเป็นผู้มีอิทธิอำนาจ
๓๘. หรือว่าพวกเขามีบันไดขึ้นไปสู่ฟากฟ้าที่จะรับฟังโองการของอัลเลาะห์ ในนั้น ดังนั้นผู้ที่รับฟังจากพวกเขาก็จงนำมาซึ่งหลักฐานอันชัดแจ้งเถิด เช่นที่นบีมุฮำมัดมี
๓๙. หรือว่าอัลเลาะห์มีบุตรหญิงจริงตามที่พวกเจ้ายึดถือ ส่วนพวกเจ้ามีบุตรชายที่พวกเจ้าปรารถนาและรังเกียจบุตรหญิง
๔๐. หรือว่าเจ้าขอค่าตอบแทนจากพวกเขาในการประกาศศาสนา แล้วพวกเขาก็ต้องรับภาระในการชำระอันเนื่องมาจากพวกเขาไม่ยอมรับนับถืออิสลาม
๔๑. หรือว่าพวกเขามีความรู้อันเร้นลับแล้วพวกเขาก็เขียนมันขึ้น จนสามารถนำมาโต้แย้งกับนบีมุฮำมัดได้ในคำประกาศต่าง ๆ ที่พวกเขาคัดค้าน เช่น เรื่องการฟื้นขึ้นจากความตาย และเรื่องของปรภพ เป็นต้น
๔๒. หรือว่าพวกเขาปรารถนาที่จะวางแผนร้ายทำลายเจ้า แต่ความจริงนั้นบรรดาผู้ไร้ศรัทธาทั้งหลายเป็นพวกที่ถูกทำลายเพราะการวางแผนของพวกเขาเอง และพวกนั้นถูกทำลายล้างดังกล่าวในสงคตรามบะดัรและอัลเลาะห์ทรงป้องกันศาสดาของพระองค์ไว้
๔๓. หรือว่าพวกเขายังมีพระเจ้าอื่นจากอัลเลาะห์อีก อัลเลาะห์ทรงบริสุทธิ์ยิ่งเกินกว่าสิ่งที่พวกเขาได้ตั้งภาคีไว้




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัฏฏูรฺ อายะฮฺที่ 44 - 49


คำอ่าน
44. วะอี..ยะร็อวกิสฟัม..มินัสสะมา...อิ สากิฏ็อย..ยะกูลู สะหาบุม..มัรฺกูม
45. ฟะซัรฮุม หัตตายุลากู เยามะฮุมุลละซี ฟีฮิยุศอะกูน
46. เยามะลายุฆนี อันฮุม กัยดุฮุม ชัยเอา..วะลาฮุม ยุน..เศาะรูน
47. วะอิน..นะลิลละซีนะเซาะละมู อะซาบัน..ดูนะซาลิกะ วะลากิน..นะ อักษะเราะฮุม ลายะอฺละมูน
48. วัศบิรฺ ลิหุกมิ ร็อบบิกะ ฟะอิน..นะกะบิอะอฺยุนินา วะสับบิหฺบิหัมดิ ร็อบบิกะหีนะตะกูม
49. วะมินัลลัยลิ ฟะสับบิหฺฮุ วะอิดบาร็อน..นุญูม

คำแปล R1.
44. And if they were to see a piece of the heaven falling down, they would say: "Clouds gathered in heaps!"
45. So leave them alone till they meet their day, in which they will sink into a fainting (with horror).
46. The Day when their plotting shall not avail them at all nor will they be helped (i.e. they will receive their torment in Hell).
47. And verily, for those who do wrong, there is another punishment (i.e. the torment in this world and in their graves) before this, but most of them know not. [Tafsir At-Tabari, Vol. 27, Page 36].
48. So wait patiently (O Muhammad) for the decision of your Lord, for verily, you are under our eyes, and glorify the praises of your Lord when you get up from sleep.
49. And in the night-time, also glorify his praises, and at the setting of the stars.


คำแปล R2.
44.   และหากพวกเขาเห็นแผ่นใหญ่ ๆ ร่วงลงมาจากฟากฟ้า พวกเขาก็จะพูดว่า “นี่เป็นก้อนเมฆที่ผนึกรวมตัวกันหนาแน่น!”
45.   ดังนั้นเจ้าจงปล่อยพวกเขาเถิด! จนกว่าพวกเขาได้พบกับวันซึ่งพวกเขาจะถูกทำลายล้าง
46.   เป็นวันซึ่งแผนการของพวกเขาไม่อาจป้องกันพวกเขาได้เลยแม้สักเล็กน้อยก็ตาม และพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือ (จากผู้ใดทั้งสิ้น)
47.   และแท้จริง สำหรับพวกที่ฉ้อฉลนั้น ยังมีการลงโทษนอกเหนือจากนั้นอีก แต่พวกเขาส่วนมากไม่รู้
48.   และเจ้าจงอดทนเถิด เพื่อการรับสนองบทบัญญัติแห่งองค์อภิบาลของเจ้า เพราะแท้จริงเจ้านั้นอยู่ในอารักขาของเรา และเจ้าจงกล่าวสดุดีพระบริสุทธิคุณพร้อมด้วยการสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้าในยามที่เจ้ายืนขึ้น (จากสถานที่ใด ๆ ก็ตามรวมทั้งตื่นจากนอนด้วย)
49.   และในบางเวลาของช่วงกลางคืน เจ้าจงกล่าวสดุดีในความบริสุทธิ์ของพระองค์เถิด รวมทั้งเวลาที่ดวงดาวได้ให้หลัง (ลับไปจากสายตา คือในเวลาเช้าตรู่)


คำแปล R3.
44.   แม้กระทั่งพวกเขาเห็นเศษชิ้นส่วนบางอย่างจากท้องฟ้าหล่นลงมาพวกเขาก็จะกล่าวว่า “นี่เป็นก้อนเมฆที่รวมตัวกัน”
45.   ดังนั้น (โอ้ นบี) จนปล่อยพวกเขาไปจนกว่า พวกเขาจะได้พบกับวันของพวกเขาเอง ซึ่งในวันนั้นพวกเขาจะถูกฟาดจนล้มลง
46.   วันที่แผนการของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขาและพวกเขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
47.   และแม้แต่ก่อนหน้านั้นบรรดาผู้ทำความผิดก็จะได้รับการลงโทษอย่างอื่นอีก แต่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้
48.   ดังนั้น (โอ้ นบี) จงอดทนจนกว่าพระผู้อภิบาลของเจ้าจะตัดสิน เจ่าอยู่ในสายตาของเราอยู่เสมอ และจงสดุดีพระผู้อภิบาลของสูเจ้าด้วยการสรรเสริญเมื่อเจ้าลุกขึ้น
49.   และจงสดุดีพระองค์ในตอนกลางคืนและเมื่อยามที่หมู่ดาวคล้อยลับไป


คำแปล R4.
44. ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเศษชิ้นหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า พวกเขาก็กล่าวว่า มันเป็นเพียงก้อนเมฆรวมตัว
45. ดังนั้นจงปล่อยพวกเขาเถิด จนกว่าพวกเขาจะพบกับวันของพวกเขา ซึ่งในวันนั้นพวกเขาจะถูกทำให้เป็นลมหมดสติ
46. วันซึ่งแผนการร้ายของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขา และพวกเขาก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
47. และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้อธรรมนั้นจะได้รับการลงโทษอื่นจากนั้นอีก แต่ว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
48. ดังนั้น จงอดทนต่อพระบัญชาของพระเจ้าของเจ้า เพราะแท้จริง เจ้านั้นอยู่ในเบื้องสายตาของเรา และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าขณะเมื่อเจ้าลุกขึ้นยืน
49. และส่วนหนึ่งของกลางคืน ก็จงแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ และเมื่อยามคล้องลับของหมู่ดวงดาว


คำแปล R5.
๔๔. และหากพวกเขาเห็นการลงโทษที่ลงมาเป็นท่อน ๆ จากฟากฟ้าทับพวกเขาเพราะความไร้ศรัทธาของพวกเขา แน่นอนที่สุดพวกเขาก็จะพูดว่า สิ่งนั้นคือก้อนเมฆที่รวมตัวกันตกลงมาแล้วพวกเราก็เอามันมาทำลายเสีย และหาได้ศรัทธาแต่ประการใดไม่
๔๕. ดังนั้นเจ้าจงปล่อยพวกเขาไว้เถิด จนกว่าพวกเขาจะได้พบกับวันของพวกเขาซึ่งพวกเขาถูกทำลายล้างในวันนั้น
๔๖. เป็นวันซึ่งแผนการของพวกเขาไม่อาจป้องกันพวกเขาไว้ได้สักประการเดียวก็ตาม และพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือ จนพ้นจากภัยพิบัติของอัลเลาะห์ในวันกิยามะห์
๔๗. และแท้จริงสำหรับจำพวกที่ฉ้อฉลนั้นต้องได้รับโทษนอกเหนือไปจากนั้นอีกโดยเขาประสบความโหยหิวและความขาดแคลนในโลกนี้ติดต่อกันเจ็ดปี ณ เมืองมักกะห์ก่อนการอพยพของนบีมุฮำมัดไปสู่เมืองมดีนะห์ และพวกเขาถูกสังหารที่ทุ่งบะดัร ในปีที่สองของการอพยพ และแต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่ยอมรับรู้ และไม่ยอมเชื่อถือว่าจะประสบภัยพิบัติทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะพวกเขาไม่ศรัทธา
๔๘. พวกเจ้าจงอดทนต่อการตัดสินของผู้ทรงอภิบาลของเจ้า ที่ทรงประวิงการลงโทษของพระองค์แก่พวกเขา และเจ้าอย่าเป็นทุกข์กังวล เพราะแท้จริงเจ้านั้นอยู่ในสายตาของเราเสมอ เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าตลอดเวลาและเจ้าจงถวายสดุดีความบริสุทธิ์ด้วยการสรรเสริญพระผู้ทรงอภิบาลของเจ้าในขณะที่เจ้าลุกขึ้นจากนอนหรือจากสถานชุมนุมใด ๆ กล่าวคือในวาระดังกล่าวนั้นให้เจ้าอ่าน “ซุบฮานัลเลาะห์วะบิฮัมดิฮี” มีความหมายว่า ขอถวายความบริสุทธิ์แด่อัลเลาะห์และด้วยการสรรเสริญแห่งพระองค์
๔๙. และในยามค่ำคืนนั้นเจ้าจงถวายสดุดีพระบริสุทธิคุณแก่พระองค์ โดยกล่าวถ้อยคำดังกล่าว และภายหลังจากเวลาที่ดาวตกแล้ว ก็ให้กล่าวเช่นเดียวกัน





ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบ สูเราะฮฺที่ 52 อัฏฏูรฺ



 

GoogleTagged