ผู้เขียน หัวข้อ: กลุ่มวะฮาบีย์คือใคร และมีอะกีดะฮ์แบบไหน [ไฟล์]  (อ่าน 11491 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
 :salam:

การมองเห็นและพรรณาคุณลักษณะของอัลลอฮตาอาลา

การพรรณาคุณลักษณะของอัลลอฮตาอานั้นเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในท่ามกลางเหล่าบรรดาผู้ยึดมั่นในแนวทางอัลอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างแนวทางอัชชาอิเราะฮและแนวทางวาฮาบี ในสังคมมุสลิมในประเทศไทยทุกวันนี้ แนวทางอัชชาอิเราะฮมีหลักการที่ยืนหยัดว่ามนุษย์โดยทั่วไป ไม่สมควรที่จะตะวีล(บรรยายคุณลักษณะของอัลอฮตาอาลา)โดยเปรียบเทียบกับมัคโลกที่มีรูปพรรณเหมือนสิ่งใดๆในโลกนี้เป็นอันขาด แต่แนวทางวาฮาบีนั้นมีหลักการหรือตีความอายัตอัลกุรอ่านหรืออัลฮาดิษโดยตรง จนทำให้การบรรยายหรือพรรณนาหรือคำกล่าวของอัลลอฮตาอาลาที่มีอยู่ในอัลกุรอ่าน นั้น มีมือ ดวงตา เท้า ผม หรืออิริยาบถต่างๆของอัลลอฮนั้นคล้ายกับมัคโลกที่มีอยู่บนโลกนี้ นั่นคือมนุษย์ จนทำให้หลักอกิดะฮของพวกเขานั้นเป็นที่ครหาว่าเป็นอกิดะที่ผิดเพี้ยน จะจริงแท้หรือผิดเพี้ยนอย่างไรล้วนแล้วแต่ควรตั้งอยู่บนหลักการที่อ้างอิงมาจากหลักวิชาการ นั่นก็คือ อัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ นำมาอ้างอิง
   การพรรณนาคุณลักษณะ(รูปร่าง)ของผู้สร้างนั้นความจริงแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาจุดหรือบทสรุป ซึ่งเป็นการยากสำหรับเหล่านักปราชญ์หรือผู้ทรงความรู้ที่จะหาคำจำกัดความมาบรรยายให้เป็นที่เข้าใจได้ง่ายต่ออุมัตในทุกยุคทุกสมัย    จนกระทั่งยุคปัจจุบัน(ซึ่งบางครั้งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาคำตอบให้กับตนเองหรือผู้อื่น แม้จนกระทั้งเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและเริ่มที่จะใช้สติปัญญาหรือผู้คนทั่วไปที่อยากจะค้นหาสัจธรรมรวมอีกทั้งพี่น้องต่างศาสนิก)ซึ่งจำเป็นที่จะต้องหาคำตอบในตรรกะนั้น ความจริงแล้วผู้ที่จะให้คำตอบกับเราได้กระจ่างแจ้งต่อคำถามนั้นได้ดีที่สุดนั่นก็คือตัวของพระองค์ที่ตรัสเกี่ยวพระองค์เอง(อัลกุรอ่าน) รองลงมาก็คือคนที่พระองค์รัก(เหล่าบรรดานบีและรอซูลของพระองค์)

นบีมูซา
นบีมูซาคือหนึ่งในบุคคลที่มีความต้องการมากที่สุดที่จะรู้จักพระองค์และอยากจะเห็นและตระหนักด้วยสายตาเพื่อเพิ่มต่อการยาเก็นในอีหม่าน เมื่อครั้งที่ท่านได้หลบหนีการไล่ล่าของกษัตร์และฟาโรและปรากฏมั๊วยิซาตคือทำให้ทะเลแยก เมื่อรอดพ้นท่านก็ขอต่ออัลลอฮเพื่อบังเกิดคัมภีร์เตารอตเพื่อเป็นหนทางชี้นำให้แก่อุมมัตของท่าน แต่ก่อนที่พระองค์จะประทานคัมภีร์พระองค์ก็รับสั่งให้นบีมูซาถือศีลอดเป็นเวลาสี่สิบวัน และรับสั่งให้นบีมูซา อ.ฮให้มาที่ภูเขาซีนาย


7:143 ซูเราะฮอัล-อาอรอฟ


 

143. “และเมื่อมูซาได้มาตามกำหนดเวลาของเรา(*1*) และพระเจ้าของเขาได้ตรัสแก่เขา เขา(*2*)ได้กล่าวขึ้นว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดให้ข้าพระองค์เห็นด้วยเถิด โดยที่ข้าพระองค์จะได้มองดูพระองค์ พระองค์ตรัสว่า เจ้าจะเห็นข้าไม่ได้เป็นอันขาด แต่ทว่าเจ้าจงมองดูภูเขา(*3*)นั้นเถิด ถ้าหากมันมั่นอยู่ ณ ที่ของมัน เจ้าก็จะเห็นข้า ครั้นเมื่อพระเจ้าของเขาได้ประจักษ์ที่ภูเขานั้น ก็ทำให้มันทลายตัวลงอย่างราบเรียบ และมูซาก็ล้มลงในสภาพหมดสติ ครั้นเมื่อเขาฟื้นขึ้น เขาก็กล่าวว่ามหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน ข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์(*4*) และข้าพระองค์นั้นคือคนแรกในหมู่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย”

(1)  หมายถึงอัลลอฮ์ โปรดทราบด้วยว่าอัลลอฮ์ทรงเปลี่ยนสรรพนามของพระองค์อยู่เป็นประจำ บางครั้งในอายะฮ์เดียวกันทรงใช้สรรพนามแทนพระองค์ด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่งบ้าง และบุรุษที่สามบ้าง ดังอายะฮ์ที่ 143 นี้ ในสำนวนภาษาอาหรับนั้นถือว่าเป็นวิธีการที่แยบยลมาก เพราะทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังไม่รู้สึกเบื่อ
(2)  หมายถึงนะบีมูซา
(3)  คือภูเขาซินายที่ท่านนะบีมูซาได้รับคำสั่งจากอัลลอฮ์ให้ไปรับบัญญัติสิบประการ
(4)  เนื่องจากการขอร้องในสิ่งอันเกินขอบเขตที่ท่านพึงกระทำ



จากอายัตที่พระองค์ตรัสในอัลกุรอ่านแสดงให้เห็นว่าถึงแม้นว่านบีมูซาเป็นผู้ได้ใกล้ชิดกับพระองค์และอยากจะเห็นพระองค์ด้วยสายตา แต่ก็มิอาจได้รับอณุญาติจากพระองค์แม้แต่น้อย และเราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าท่านนบีมูซาก็มิเคยเห็นพระองค์และท่านก็ไม่สามารถบรรยายคุณลักษณะของพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลกได้แต่อย่างใด


นบีมูฮัมมัด
เมื่อเหตุการณ์ที่ท่านได้รับวะฮยูในครั้งแรกที่ถ้ำฮิรอฮ อัลลอฮตาอาลาได้ส่งตัวแทนของท่านคือญิบรีล  มาหาท่าน
ท่านรอซูล ซ.ล ของเรานั้นได้รับวะฮยูโดยผ่านสื่อนั่นคือท่านญิบรีล และจนกระทั่งช่วงต่อมาท่านก็ได้รับวะฮยูโดยตรงโดยผ่านพระดำรัส(วาฮยูและฮาดิษกุษษี)ซึ่งเราก็ปฏิเสธมิใด้เช่นกันว่าท่านมิเคยเห็นอัลลอฮตาอาลาด้วยสายตา จนกระทั่งสามารถบรรยายว่าพระองค์มีคุณลักษณะเช่นไร  ในเหตุการณ์อิสเราะเมี๊ยะรอตท่านรอซูลก็ได้รับเกรียติจากอัลลอฮตาอาลาบินขึ้นไปบนฟากฟ้า และพระองค์ทรงเปิดเผยให้ท่านเห็นการลงโทษในนรก และความเป็นอยู่บนสวรรค์ แต่มิใด้ปรากฏในหลักฐานใดๆว่าท่านเคยเห็นอัลลอฮตาอาลาด้วยสายตา

42:51 อัชชูรออ
 

51. และไม่เป็นการบังควรแก่มนุษย์คนใดที่จะให้อัลลอฮฺตรัสแก่เขาเว้นแต่โดยทางวะฮียฺ หรือโดยทางเบื้องหลังม่าน หรือโดยที่พระองค์จะส่งทูตมา แล้วเขา (มะลัก) ก็จะนำวะฮียฺมาตามที่พระองค์ทรงประสงค์โดยบัญชาของพระองค์ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงปรีชาญาณ (*1*)

(1)  ในอายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงชี้แจงว่าพระองค์ตรัสแก่บ่าวของพระองค์ 3 วิธีด้วยกันคือ
1.การวะฮยูโดยทางดลใจหรือฝัน วิธี้นี้สำหรับบรรดานบี
2.เบื้องหลังม่าน วิธีนี้สำหรับนบีมูซาและนบีมูฮัมมัดโดยพระองค์ตรัสกับท่านในคืนอิสรอฮเมี๊ยรอต
3.โดยผ่านทางมะลัก(มาลาอีกัต)



จากบรรทัดฐานของนบีทั้งสองท่านนั้นทำให้เราสามารถยาเก็นได้ว่าคุณลักษณะของพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่ลี้ลับ และพระองค์ไม่ทรงอณุญาติให้ผู้ใดก็ตามที่เป็นมัคโลกนั้นจะมองเห็นหรือพรรณณาคุณลักษณะหรือรูปพรรณสัญฐานของพระองค์ได้เลยแม้แต่น้อย จึงไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่แนวทางใดแนวทางหนึ่งจะมาบรรยายคุณลักษณะของพระองค์เหมือนกับมัคโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์(มีมือ มีตา มีแขน มีขา มีผม)  วัลลอฮฮุอาคลัม

42:011 ซูเราะฮอัชชูรออ

11. พระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระองค์ทรงทำให้มีคู่ครองแก่พวกเจ้า จากตัวของพวกเจ้าเอง และจากปศุสัตว์ทรงให้มีคู่ผัวเมีย ด้วยเหตุนี้พระองค์ทรงแพร่พันธุ์พวกเจ้าให้มากมาย ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น(*1*)

(1)  คือพระองค์เป็นผู้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินโดยไม่มีแบบอย่างมาก่อนเลย และทรงทำให้พวกเจ้ามีคู่ครองคือเพศชายและเพศหญิง และปศุสัตว์ก็เช่นเดียวกัน พระองค์ทรงให้พวกเจ้ามีจำนวนมากมาย เพราะการสืบพันธุ์ หากพระองค์มิได้ทรงสร้างเพศชายและเพศหญิงแล้ว ก็จะไม่มีการแพร่พันธุ์และการเพิ่มจำนวนพลเมือง ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนอัลลอฮฺ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นสิ่งที่ถูกสร้างก็จะไม่เสมอเหมือนพระองค์ในทุกรูปแบบพระองค์ทรงได้ยินทุกคำพูดของปวงบ่าว ทรงรอบรู้การงานและสภาพการณ์ของพวกเขา

6:103 ซูเราะฮอัล-อันอาม

103. สายตาทั้งหลายย่อมไม่ถึงพระองค์(*1*)แต่พระองค์ทรงถึงสายตาเหล่านั้น(*2*) และพระองค์ก็คือผู้ทีรงปรานี ผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วน

(1)  คือไม่สามารถจะมองเห็นพระองค์ได้
(2)  พระองค์ทรงเห็นพวกเขาและสายตาของพวกเขา




จากหลักฐานที่มีอยู่ในอัลกุรอ่านพระองค์ทรงตรัสเกี่ยวกับพระองค์เองได้อย่างชัดเจน แต่ผู้เขียนอยากจะสรุปเพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจ คือ
“อัลลอฮตาอาลานั้นทรงมี(รูปธรรม)แต่รูปร่างของพระองค์ไม่เหมือนกับมัคโลกในดุนยา และไม่มีผู้ใดที่จะล่วงรู้ถึงรูปร่างลักษณะของพระองค์เว้นแต่ตัวของพระองค์เอง”  วัลลอฮฮุอาคลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

จากหลักฐานที่มีอยู่ในอัลกุรอ่านพระองค์ทรงตรัสเกี่ยวกับพระองค์เองได้อย่างชัดเจน แต่ผู้เขียนอยากจะสรุปเพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจ คือ
“อัลลอฮตาอาลานั้นทรงมี(รูปธรรม)แต่รูปร่างของพระองค์ไม่เหมือนกับมัคโลกในดุนยา และไม่มีผู้ใดที่จะล่วงรู้ถึงรูปร่างลักษณะของพระองค์เว้นแต่ตัวของพระองค์เอง”  วัลลอฮฮุอาคลาม


เดี๋ยวก่อน  คุณยกอัลกุรอานมาและยกฮะดีษ  แล้วใหนปราชญ์ร็อบบานีย์ที่เข้าใจเหมือนกับบทสรุปของคุณ  ที่ว่าอัลเลาะฮ์มีรูปร่าง  ทั้งที่ปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์มัซฮับทั้งสี่นั้น  ตัดสินว่าผู้ที่เชื่อว่าอัลเลาะฮ์มีรูปร่าง(แม้จะไม่เหมือนกับมัคโลค)นั้น บิดอะฮ์(ลุ่มหลง) บางทัศนะบอกว่า เป็นกาเฟร

ดังนั้นอายะฮ์อัลกรุอานที่คุณยกมา  ผมยอมรับ  แต่ความเข้าใจของคุณต่ออัลกุรอานที่คุณสรุปเองว่าอัลเลาะฮ์เป็นรูปร่างนั้น อะฮ์ลิสซุึนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ไม่ยอมรับครับ

หากคุณอยู่ในแนวทางซูฟีย์  ก็ถูกตัดขาดมะดัดและวาริดจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาน่ะครับ  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

ดังนั้นเรื่องของอัลเลาะฮ์  อย่าคิดและเข้าใจเองเลยครับ มันอันตราย

วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 10, 2011, 03:11 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
หนังสือของทางวะฮาบีย์หลายเล่มที่ผมอ่าน พยายามจะบอกว่า อัลลอฮฺนั้นมีรูปร่าง หรือลักษณะที่อาจดูผิวเผินนั้นคล้ายกับมัฅลูก แต่ก็มีการสันทับตอนท้ายว่า ไม่เหมือนมัฅลูก แล้วมันต่างยังงัยครับ กับบอกว่า นั่นคืออาคารสี่เหลี่ยม ห้ามเข้าใจเป็นอื่น แต่อาคารสี่เหลี่ยมนั้นไม่เหมือนอาคารสี่เหลี่ยมทั่วไป - วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
 :salam:

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮครับ

เมื่อสิ่งที่ผมเสนอไปหากถูกต้องในความสายตาของพระองค์ก็ขอให้พระองค์ประทานความจำเริญยิ่งๆขึ้นไป
แต่ถ้าผิดพลาดในสายตาของพระองค์ ก็ทรงประทานอภัยในความผิดพลาดและความหลงผิดของข้าพระองค์ด้วยเทอญ อามีน ยาร๊อบ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
:salam:

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮครับ

เมื่อสิ่งที่ผมเสนอไปหากถูกต้องในความสายตาของพระองค์ก็ขอให้พระองค์ประทานความจำเริญยิ่งๆขึ้นไป
แต่ถ้าผิดพลาดในสายตาของพระองค์ ก็ทรงประทานอภัยในความผิดพลาดและความหลงผิดของข้าพระองค์ด้วยเทอญ อามีน ยาร๊อบ

นะอูซิบิลลาฮ์ครับ

หากคุณไม่มีคุณสมบัติในการวินิจฉัยและเข้าใจตัวบทอัลกุรอานและฮะดีษด้วยตนเอง  ตามหลักศาสนานั้น  หากคุณนำเสนอบังเอิญถูก  ก็ถือว่าผิด  แต่หากนำเสนอผิด  ก็จะผิดไปกันใหญ่   ดังนั้นเรื่องศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องซีฟาตของอัลเลาะฮ์  ไม่ใช่จะมาลองผิดลองถูกครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
:salam:

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮครับ

เมื่อสิ่งที่ผมเสนอไปหากถูกต้องในความสายตาของพระองค์ก็ขอให้พระองค์ประทานความจำเริญยิ่งๆขึ้นไป
แต่ถ้าผิดพลาดในสายตาของพระองค์ ก็ทรงประทานอภัยในความผิดพลาดและความหลงผิดของข้าพระองค์ด้วยเทอญ อามีน ยาร๊อบ

นะอูซิบิลลาฮ์ครับ

หากคุณไม่มีคุณสมบัติในการวินิจฉัยและเข้าใจตัวบทอัลกุรอานและฮะดีษด้วยตนเอง  ตามหลักศาสนานั้น  หากคุณนำเสนอบังเอิญถูก  ก็ถือว่าผิด  แต่หากนำเสนอผิด  ก็จะผิดไปกันใหญ่   ดังนั้นเรื่องศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องซีฟาตของอัลเลาะฮ์  ไม่ใช่จะมาลองผิดลองถูกครับ


มาอัฟครับ ผมยังไม่ได้บอกเลยครับว่าสิ่งที่ผมเสนอไปผิดหรือถูกในสายตาของอัลลอฮ เพราะฉนั้นท่านอย่าตักโบรตัดสินเลยครับ/// ความหมายของผม ถ้าถูกก็อัลฮัมดุลิ้ลาฮ แต่ถ้าผิดก็อัสตาคฟิลุ้ลอฮอัลอาซีมครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
:salam:

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮครับ

เมื่อสิ่งที่ผมเสนอไปหากถูกต้องในความสายตาของพระองค์ก็ขอให้พระองค์ประทานความจำเริญยิ่งๆขึ้นไป
แต่ถ้าผิดพลาดในสายตาของพระองค์ ก็ทรงประทานอภัยในความผิดพลาดและความหลงผิดของข้าพระองค์ด้วยเทอญ อามีน ยาร๊อบ

นะอูซิบิลลาฮ์ครับ

หากคุณไม่มีคุณสมบัติในการวินิจฉัยและเข้าใจตัวบทอัลกุรอานและฮะดีษด้วยตนเอง  ตามหลักศาสนานั้น  หากคุณนำเสนอบังเอิญถูก  ก็ถือว่าผิด  แต่หากนำเสนอผิด  ก็จะผิดไปกันใหญ่   ดังนั้นเรื่องศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องซีฟาตของอัลเลาะฮ์  ไม่ใช่จะมาลองผิดลองถูกครับ


มาอัฟครับ ผมยังไม่ได้บอกเลยครับว่าสิ่งที่ผมเสนอไปผิดหรือถูกในสายตาของอัลลอฮ เพราะฉนั้นท่านอย่าตักโบรตัดสินเลยครับ/// ความหมายของผม ถ้าถูกก็อัลฮัมดุลิ้ลาฮ แต่ถ้าผิดก็อัสตาคฟิลุ้ลอฮอัลอาซีมครับ

ผู้ที่มีคุณสมบัติวินิจฉัยได้นั้น  หากผิดตามทัศนะของอัลเลาะฮ์  พระองค์ก็จะอภัยโทษให้  แต่หากถูกต้องตามทัศนะของอัลเลาะฮ์พระองค์จะตอบแทนสองเท่า  แต่หากไม่มีคุณสมบัติในการวินิจฉัย  ก็มีแต่ผิดครับตามหลักศาสนา(ไม่ใช่ตามหลักการส่วนตัวของกระผม)  แล้วกลับไปหาคำวินิจฉัยและความเข้าใจจากปราชญ์ร็อบบานีที่มีต่ออายะฮ์เหล่านั้น 

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องตะกั๊บบุร  ผมแค่บอกคำวินิจฉัยของอุลามาอฺเกี่ยวกับเรื่องการเชื่อว่าอัลเลาะฮ์มีรูปร่าง  ไม่ใช่ว่าผมตัดสินเอง  และผมก็ถามว่าคุณยกอายะฮ์มานั้นมีอุลามาอฺร็อบบานีคนใหนมาสนับสนุนแนวทางของคุณ  และผมก็บอกว่า  หากคุณไม่มีคุณสมบัติในการวินิจฉัย  ตามหลักศาสนาถือว่าผิด  แม้ว่าเผอิญวินิจฉัยถูก็ตาม  ก็ถือว่าผิด

อยากเป็นแพทย์รักษาคนป่วย  แต่ไม่มีคุณสมบัติ  เลยไปอ่านตำราแพทย์เอง  โดยไม่ได้ถูกรับรองว่ามีคุณสมบัติรักษาผู้อื่นใด  เมื่อไปรักษาผู้อื่น  ก็ถือว่าผิดกฏหมาย  แม้จะบังเอิญรักษาผู้อื่นหายก็ตาม  เพราะไม่มีคุณสมบัติตามมาตรฐาน  ในเรื่องศาสนายิ่งกว่านั้น  ขนาดวิชาฟิกห์  หากคนเอาวามที่ไม่มีคุณสมบัติ  แล้วไปวินิจฉัยเอาเอง  แล้วมีคนทักท้วงว่า  มีคุณสมบัติพอที่จะวินิจฉัยตัวบทโดยตรงหรือเปล่า  แต่ถูกตอบกลับไปว่า  ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าหากการวินิจฉัยของฉันถูกต้องในสายตาของอัลเลาะฮ์  ก็ขอให้ฉันจำเร็ญๆ  แต่ถ้าหากวินิจฉัยผิดในสายตาของอัลเลาะฮ์  ก็ขออภัยโทษต่อพระองค์  แบบนี้คนทั่วไปก็วินิจฉัยตัวบทกันเองแบบไม่ต้องมีคุณสมบัติก็ตามน่ะซิ 

แต่สำหรับผมนั้น หากไม่มีคุณสมบัติ  ผมก็จะกลับไปหาผู้รู้ อุลามาอฺร็อบบานีย์  และผมก็ทักท้วงคุณ  แล้วผมตะกั๊บบุรตรงใหน?  หรือว่า  หากมีใครสักคนมาบอกตักเตือนว่าคุณผิด  แสดงว่าผู้นั้นตะกั๊บบุรใช่ไหม?  แต่หลักความจริงแล้วกลับตรงกันข้ามด้วยซ้ำไป

ท่านอิหม่ามอัลฆ่อซาลีย์กล่าวว่า

  اَلْمُتَكَبِّرُ هُوَ الَّذِيْ وُعِظَ أَنِفَ
"คนตะกั๊บบุรนั้น  คือผู้ที่ถูกตักเตือน  แล้วเขางดการตอบรับ(ไม่ยอมรับฟัง)" หนังสือบิดายะตุลฮิดายะฮ์ หน้า 282-283

ดังนั้นถ้าหากคุณยกอายะฮ์อัลกุรอานมา แล้วสรุปเองว่าอัลเลาะฮ์มีรูปร่าง  ผมอยากถามว่าคุณไปเอาความเข้าใจจากปราชญ์ร็อบบานีคนใหน?  หรือว่าคุณมีคุณสมบัติเพียงพอในการวินิจฉัยตัวบทเกี่ยวกับเรื่องซีฟาตของอัลเลาะฮ์ใช่หรือไม่?  ฉะนั้นเชิญคุณนำเสวนาเชิงวิชาการได้เลยครับ  ไม่ใช่จะนึกคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องอัลเลาะฮ์แล้วจะมาโพสต์กันตามใจตนเองนะครับ

วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 10, 2011, 09:58 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
ชอบการอธิบายของบังจริงๆครับ  ;D ผู้รู้นี่พูดอะไรแล้วชัดๆเจนๆดีจังเลยนะครับผม

ทำหน้าอธิบายคุณสมบัติของผู้วินิจฉัยหน่อยดีไหมครับ  sad: 
ว่าต่าผู้วินิจฉัยนี้ใช่มุจตาฮิดรึเปล่าครับผม น่าจะใช่นะครับ  ;D
บังตักเตือน เค้ากลับมองว่าไปกล่าวหาไปซะงั้น ซ้ำยังต่อว่ากลับว่าตะกับโบรอีก - (ขออัลลอฮ์ตะอาลาให้พวกเราพ้นจากพฤติกรรมที่ไม่ดี)

นี่ไม่รู้จริงๆเหรอครับว่าผู้วินัจฉัยเนี่ย ไม่ง่ายนาครับ ... ชีวิตนี้ผมจะได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย  
ใหนจะต้องเข้าใจภาษาอาหรับอย่างดี, เข้าใจอัลกุรอ่านทั้งเล่ม, เข้าใจฮะดีษมากมาย, เข้าใจทรรษณะของบรรดาตาบีอิตตาบีอีน, เข้าใจการวินิจฉัยของผู้รู้ในแต่ละมัซฮับ .... อะไรอีกก็ไม่รู้มากมายก่ายกอง   
ผมตายตั้งแต่ภาษาอาหรับแล้วครับ  mycry

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 11, 2011, 10:20 AM โดย beechern »
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ ahmaad

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 15
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
อาการนายหนักน่ะ rachyds

 

GoogleTagged