ผู้เขียน หัวข้อ: บทความ : เรื่องราวและเรื่องเล่าต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน  (อ่าน 3907 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ as-satuly

  • พลังแห่งการศรัทธา
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 997
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด


บิสมิลลาฮิรฺรอห์มานิรอหีม
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งในความเมตตา และผู้ทรงยิ่งในความกรุณา

อัสสลามุอะลัยกุม วะรอห์มะตุลลอฮิ ตะอาลา วะบะรอกาตุฮฺ

ขอความสันติสุข และความเมตตา และความจำเริญจากเอกองค์อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา จงมีแด่พี่น้องมุสลิมีนและมุสลิมาตทุกๆท่าน

            อัลหัมดุลิลลาฮฺ...มวลการสรรเสริญทั้งสิ้นนั้น เป็นสิทธิของพระองค์อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

          อนึ่ง ในกระทู้นี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอนำเสนอเนื้อหาสาระวิชาความรู้ ภายใต้หัวข้อที่ว่า "บทความ  :  เรื่องราวและเรื่องเล่าต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน"  ซึ่งข้าพเจ้าได้เนื้อหาสาระมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีชื่อว่า อัลอะร่อบียะฮ์ บัยนะ ยะดัยก์ เล่ม 2 ของดร. อับดุรรอห์มาน บิน อิบรอหีม อัลเฟาซฺาน และคณะ พิมพ์ที่ มุอัสสะสะฮ์ อัลวักฺฟุ อัลอิสลามีย์  โดยที่ข้าพเจ้าได้ทำการเลือกนำเอาเนื้อหาสาระจากหนังสือเล่มนี้มาส่วนหนึ่ง  อันเป็นส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องราวและเรื่องเล่าทั่วไปที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน  และข้าพเจ้าก็ได้นำเนื้อหามาจากภาษาอาหรับ(จากหนังสือเล่มดังกล่าวนี้)มาแปลเป็นภาษาไทย  เพื่อว่าพี่น้องจะได้ศึกษาและจะได้อ่านจากเนื้อหาสาระนี้ ที่น่าจะทำให้เกิดข้อคิดและคุณประโยชน์แก่พี่น้องทั้งหลายได้บ้าง ไม่มากก็น้อย 
          ดังนั้น ข้าพเจ้าขอนำเสนอบทความต่างๆนี้ลงในกระทู้แห่งนี้ แบบทะยอยลงไปเรื่อยๆจนหมดเนื้อหา(นัศศ์)ในหนังสือเล่มดังกล่าวนี้   ด้วยเจตนารมณ์ของข้าพเจ้า ในการฝึกฝน(มุมารอสะฮ์)ในการแปล(ตัรฺญะมะฮ์)ภาษาอาหรับ(ลุฆ่อตุลอะร่อบียะฮ์)ของข้าพเจ้าเองด้วย และต้องการที่จะเผยแพร่(ดะอฺวะฮ์)ศาสนาอิสลามอีกด้านหนึ่งด้วย...อินชาอัลลอฮฺ ตะอาลา  และสุดท้าย ขอพร(ดุอาอ์)ต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงโปรดประทานความเมตตา(เราะห์มะฮ์)และคุณงามความดี(เนียะอฺมะฮ์)ต่างๆให้แก่พวกเรา และทรงโปรดชี้ทางนำ(ฮิดายะฮ์)สู่หนทางที่เที่ยงตรง(ศิรอฏ่อลมุสตะกฺีม)แก่พวกเรา และทรงโปรดคุ้มครองพวกเราด้วยเถิด...อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน...วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอะลัยกุม วะรอห์มะตุลลอฮิ ตะอาลา วะบะรอกาตุฮฺ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2009, 08:36 PM โดย as-satuly »

ออฟไลน์ as-satuly

  • พลังแห่งการศรัทธา
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 997
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด

ซฺัยนับและมัรฺยัม ผู้ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนต่อกัน



โปรดติดตามและศึกษาต่อไป.......(อีกแล้ว)....... ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2009, 05:48 PM โดย as-satuly »

ออฟไลน์ itoursab

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 mycry อีกแระ ชอบยั่วน้ำลาย ให้อยากแล้วจากไป แง่บๆ

ออฟไลน์ as-satuly

  • พลังแห่งการศรัทธา
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 997
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
mycry อีกแระ ชอบยั่วน้ำลาย ให้อยากแล้วจากไป แง่บๆ

รับทราบแล้วคร้าบ...อินชาอัลลอฮฺ  ผมขอเวลาหน่อยน่ะครับ เพราะว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่าง และไหนก็ต้องสอบกลางภาค และกิจกรรมของชมรมฯ และอีกทั้งภารกิจหน่วยองค์กรลับอีกครับ  ซึ่งผมเองได้พิมพ์มาแปะไว้ก่อน จะได้เตือนความจำบนความตั้งใจอ่ะน่ะ(จะได้ไม่ลืม)  ช่วยขอดุอาอ์ด้วยน่ะครับ  และหากว่า ผมว่างและไม่ติดพันธ์ภารกิจ(ที่สำคัญ)อะไรแล้วนั้น  ผมจะกลับมาพิมพ์ต่อแน่นอนครับ...(หากว่ายังมีลมหายใจอยู่)...วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอะลัยกุม วะรอห์มะตุลลอฮิ ตะอาลา วะบะรอกาตุฮฺ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมฝันว่าได้ไปมัสญิดนะบะวีย์ แต่ตัวมัสญิดมันจากที่เป็นจริงหน่อย แต่บรรยายก็พลุกพล่านไปด้วยผู้คนเหมือนของจริง
           ในฝันนั้น ผมจำได้ว่า กำลังปืนขึ้นอะไรสักอย่างเพื่อที่จะดูว่า กุบูรของท่านนบีย์ ศ็อลฯ อยู่ไหน บอกตรงๆ ว่าทุกวินาที ใจผมจดจ่อที่จะไปเยี่ยมกุบูรนบีย์ ศ็อลฯ ให้ได้ ในฝันนั้น ช่วงนั้นเป็นตอนกลางวัน กำลังจะเตรียมละหมาดญุมุอะฮ์กันอยู่ จากนั้น ผมก็นียะฮ์ว่าหลังละหมาดญุมุอะฮ์จะลองถามคนไปเรื่อยๆ ว่า กุบูนนบีย์ ศ็อลฯ ไปทางไหน ซึ่งจากที่ผมปืนเมื่อกี้นั้น ผมเห็นโดมมัสญิดที่ตรงตำแหน่งกุบุรนบีย์ ศ็อลฯ ด้วย ผมตื่นเต้นมาก มันเหมือนตื้นตันแบบบอกไม่ถูก เหมือนเราคิดถึงอย่างมาก และอยากจะไปให้ได้เดียวนั้นเลย
            สักพักต่อมา ก็มีการอฑานเข้าเวลาญุมุอะฮ์ จากนั้น ผมก็ไปเอาน้ำละหมาด เสร็จแล้ว ก็กำลังจะเดินไปที่ตัวมัสญิด เพื่อเข้าไปข้างใน แต่ในฝันนั้น ผมรู้สึกว่าตัวมัสญิดมันจะอยู่สูงมาก ต่างกับความเป็นจริง และตัวบันไดก็เป็นแบบขั้นๆ เล็กๆ ซึ่งหากเทียบความเอียงของตัวบันไดก็จะประมาณ 50 องศา ผมไม่รู้นะ ว่าทำไมบันไดถึงเป็นแบบนี้ แต่ทุกคนก็มุ่งมั่นขึ้นไป ไม่ได้บ่นอะไร ผมเองก็ขึ้นในลักษณะปืนเขาอะไรประมาณนี้อะครับ
            มาชาอัลลอฮฺ ปืนบันไดได้เกือบจะถึงพื้นที่ตัวมัสญิดแล้ว สักพักก็มีหญิงผมทองไม่รู้ประเทศไหน แต่เท่าที่ดูน่าจะเป็นคนจากแทบประเทศยุโรป หรือไม่ก็ตะวันตก แถมแต่งกายไม่สุภาพ เพราะเธอใส่เสื้อกล้าม อยู่ดีรีบปืนมาที่ผม แล้วมาแตะตัวผม และพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งผมไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร จากนั้น จิตใจผมก็มาครุ่นคิดว่า เมื่อกี้ไปผู้หญิงเมื่อกี้ มันมาแตะตัวผม ทำให้ผมน้ำละหมาดเสีย ผมก็ลังเลใจขึ้นมาทันทีว่า จะเอาอย่างไรดี จะลงไปเอาน้ำละหมาดใหม่ หรือจะนียะฮ์ว่าตามมัฑฮับหะนะฟีย์ดี ว่าหญิงชายแตะเนื้อต้องตัวกัน, น้ำละหมาดไม่เสีย แต่หากผมเลือกตามชาฟิอีย์ ผมอาจจะละหมาดญุมุอะฮ์ไม่ทัน เพราะคนมันเยอะมาก กว่าจะไปถึงที่อาบน้ำละหมาด แล้วกลับมาเข้ามาใหม่ก้ต้องใช้เวลา และก็กลัวว่าอาจจะเกิดเหมือนเมื่อกี้อีก ก็ต้องลำบากอีก ผมลังเลใจมากๆ แรกๆ ผมตัดสินใจจะยึดตามหะนะฟีย์ไปก่อน เพราะอยู่ในภาวะฉุกเฉิน แต่ดูๆ ไปแล้ว เวลายังทัน หากจะไปเอาน้ำละหมาดใหม่ จนในที่สุด ผมก็ตัดสินใจไปเอาน้ำละหมาดใหม่ แต่เมื่อผมไปถึงสถานที่อาบน้ำละหมาด อาบได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงอิกอมะฮ์ และต่อมาก็ได้ยินอิมามเริ่มตักบีเราะตุลอิหฺรอม แล้วอ่านฟาติหะฮ์ พี่น้องทราบไหม ในที่สุด ผมก้ละหมาดญุมุอะฮ์ไม่ทัน เพราะเมื่อเดินไปถึงตัวมัสญิด อิมามก็เกือบจะนำละหมาดเสร็จแล้ว ทำให้ผมต้องละหมาดซุฮฺริ์ตามปกติ
             ต่อมา ผมก็ละหมาดซุฮฺริ์จนเสร็จ สักพัก ความตั้งใจเดิมที่จะไปที่กุบุรนบีย์ ศ็อลฯ ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง แต่เสียดาย ผมตื่นขึ้นมาซะก่อน และวันนั้น เกือบเข้าเรียนคาบแรก 8 โมงเช้าของวันนั้นแทยไม่ทันแน่ะ แห่ๆ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
พูดเรื่องความฝัน...

เมื่อไม่กี่วันก่อน ฝันแปลก...
เพราะในฝันนั้น ฝันเห็นพวกผู้หญิงกำลังจับหญิงงามนางหนึ่ง
ให้แต่งชุดคลุมปกปิดทั้งตัว ยกเว้นใบหน้า แล้วยืนทำพิธีบางอย่าง
คล้ายๆกับการละหมาดของเรา...การแต่งกายก็แต่งคล้ายๆ
กับมุสลิมะฮฺ...คือมีผ้าคลุมฮิญาบด้วย เพียงแต่การแต่งกายดังกล่าว
เขาจะเน้นความสวยงาม เน้นแฟชั่นล้ำสมัย แล้วก็ทำการเริ่มละหมาด
คล้ายๆอารมณ์นำหญิงงามมาแต่งกายงามๆเพื่อละหมาด
แต่ลักษณะการละหมาดของหญิงงามคนนั้นไม่เหมือนกับที่เราๆทำกัน
สักเท่าไหร่ ที่คล้ายกันก็คือการก้มลงซูญูด

ก็เลยเดินเข้าไปถามแม่เฒ่า คนที่คอยจัดการเรื่องต่างๆให้หญิงงามคนนั้น
ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน...

พวกเขาบอกว่ากำลังสักการะพระเจ้า...
ก็เลยถามเขาว่า พระเจ้าของเขาเป็นยังไง...
เขาก็บอกว่า
พระเจ้าของเขามีองค์เดียว เขากำลังกราบไหว้พระเจ้าองค์เดียว

ตอนนั้นได้ทำให้คิดถึงอัลลอฮฺ...
เลยตั้งคำถามในใจ เพราะไม่กล้าถามออกไปตรงๆว่า
พวกเขาใช่มุสลิมเหมือนเราน่ะสิ เพราะเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน
กราบไหว้พระเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน

แต่ก็ให้ตกใจและหวาดหวั่นไม่ได้ว่า...
ทำไมเขาจึงทำไม่เหมือนเรา เขาละหมาดไม่เหมือนเราละหมาด
แม้จะคล้้ายๆกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน
แม้จะแต่งกายคล้ายๆกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน...
แล้วพวกเขาเป็นใคร...มุสลิมรึเปล่า...
เป็นพวกเดียวกับข้าน้อยหรือเปล่า...
แล้วทำไมเสื้อผ้าของหญิงงามคนนั้นแม้จะคลุมมิดชิด
แต่ตัวผ้าก็บางจนสามารถมองทะลุไปยังเนื้อหนังได้...
หลักการอิสลามนั้น ต้องการให้ผู้หญิงปกปิด
คุณค่าของฮิญาบคือการปกปิดมิใช่หรือ ไม่ใช่เน้นตรงความงามเสียหน่อย
เราเน้นเรื่องการปกปิดมิใช่หรือ...

ตอนนั้น...ได้แต่งงๆ ว่าตัวเองไปอยู่ที่ไหน...
แล้วพอจะให้เข้าไปร่วมทำพิธีกับพวกเขา
ก็ดันไม่แน่ใจ เกรงว่าถ้าเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาแล้ว
หากว่าพวกเขาเกิดไม่ใช่มุสลิมขึ้นมา ข้าน้อยก็จะต้องตกมุรตัด
เผลอๆอาจจะกลายเป็นการชิริกไปก็ได้...

ก็เลยมองหาที่ละหมาดสำหรับตัวเอง...



หลายครั้งเหมือนกันค่ะที่ฝันเกี่ยวกับเรื่องการละหมาด...
และส่วนใหญ่ก็จะฝันเกี่ยวกับการละหมาดที่ผิดแปลกไปจากที่พวกเราๆทำกันเสียด้วย...

เคยฝันเก่ียวกับคนจัดงานเลี้ยงในมัสยิด คนที่สนุกก็สนุกไป
คนที่ละหมาดก็ละหมาดไป...ในมัสยิดที่เดียวกันแท้ๆ แต่มุสลิมเรา
แบ่งแยกทำในสิ่งที่แตกต่างกัน...ราวกับอยู่กันคนละโลก ไม่สนใจกัน

มีการนำสิ่งไม่ดีเข้ามัสยิดบ้าง ฝันว่ามัสยิดนบีน้ำท่วมบ้าง...
ฝันว่าไม่มีคนรู้จักนบี จนต้องถามว่านบีคือใคร มุฮัมหมัดคือใคร...

ฝันถึงนวัตกรรมล้ำหน้าที่คนคลั่งไคล้ จนมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของมัน
ว่ามันคือลูกสมุนชัยตอน ที่เข้ามาทำลายเด็กๆของเรา...
โดยที่เราทำอะไรมันไม่ได้เลย...แม้แต่จะช่วยเด็กๆก็ทำได้ยาก...
ในฝันมีแต่ความกลัดกลุ้ม กังวลเกี่ยวกับเด็กๆที่เพิ่งเกิดมา...
ฝันเห็นผู้นำชั่วช้าเลวทรามที่เห็นแก่ตัว นำความวิบัติมาสู่หน้าแผ่นดิน
และสิ่งที่นำมานั้นคือตัวทำลายล้างลูกหลานของเรา...
และคนที่รู้เท่าทันก็มีน้อย น้อยจนกลายเป็นน้ำน้อยที่แพ้ไฟ...
คนดีต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน...เด็กๆร้องไห้หาพ่อแม่ให้ช่วย
แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้...

ตอนตื่นมา ภาพฝันพวกนั้นมันยังติดตา จนรู้สึกใจหาย
หากว่าฝันนั้นจะเกิดขึ้นจริงๆ...มันมีทั้งความหวาดหวั่น
หดหู่ เศร้า ร้อนรน โลกที่เห็นในฝันมันมีแต่ความวุ่นวาย
หาที่ที่สงบไม่ได้เลย...เด็กและคนแก่ตกอยู่ในอันตราย...
คนหนุ่มสาวหลงใหลอยู่กับอะไรบางอย่าง
สนุกสนานและเพลิดเพลิน
ทิ้งเด็กและคนแก่ไว้ไม่ใส่ใจ...ไม่ปกป้อง ไม่ดูแล...
เด็กนั้นเพิ่งเกิดมาได้เท่าไหร่ ก็ถูกลูกสมุนชัยตอนคอยจ้อง
จะครอบงำ เด็กๆมีแต่ความหวาดกลัว ไม่มีใครเข้าไปปกป้อง
หรือโอบกอดไว้หรือกันพวกเขาออกจากสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น

ส่วนคนแก่ที่แลเห็นสิ่่งเลวร้ายเหล่านั้น
ก็ไร้เรี่ยวแรง ไร้พละกำลังเกินกว่าจะต่อต้านพวกมัน
หรือสิ่งใหม่ๆที่ก้าวเข้ามาทำลายลูกหลานของพวกเขาได้

เด็กๆร้องขอการปกป้องจากพ่อแม่ ร้องขออ้อมกอด
ส่วนคนแก่ก็ไร้ค่าในสายตาพวกหนุ่มสาว...

พอมานั่งนึกๆดู...ถ้าเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ
เหมือนในฝันนั้นจริงๆ จะทำอย่างไร...

เป็นไปได้ไหมที่โลกเราจะวุ่นวายได้ขนาดนั้น...

ซึ่งจะว่าไปแล้ว โลกตอนนี้ก็แสนจะวุ่นวายเหลือเกิน!!!
แม้จะยังไม่เท่ากับที่เจอในภาพฝันก็ตาม...

ฝันเหล่านั้นทำให้ได้คิดว่า...

หากต้องการจะเป็นคนดี
และต้องการจะยืนหยัดอยู่บนหนทางของอัลลอฮฺแล้ว
เราต้องเหน็ดเหนื่อย และต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก
อย่างเลี่ยงไม่พ้นแน่...ไม่มีความสะดวกความสบาย ไม่มี...
ราวกับสองมือนั้นกำก้อนไฟเอาไว้...มันทั้งร้อนรน วุ่นวายใจ

เพราะคนดีคนที่มีอีหม่านในฝันนั้น...
พวกเขาจะต่อต้านและต่อสู้กับความวุ่นวายเหล่านั้น
ด้วยสองมือเปล่ากับจิตใจอันเข้มแข็งและมุ่งมั่น แน่วแน่เท่านั้น...
ด้วยสองแขนที่วิ่งเข้าไปโอบกอดเด็กๆไว้...แล้วด้วยสองเท้า
ที่พาพวกเด็กๆวิ่งหลบหนี...
ด้วยวาจาที่คอยตักเตือนและสอนสั่งในสิ่งดีและวิธีป้องกันตน
จากความชั่วร้ายที่มาประสบ...
ไม่มีอาวุธเลยแม้แต่ชิ้นเดียวในมือที่จะไปต่อกรกับสิ่งใหม่
ที่เลวร้ายเหล่านั้น...และคนชั่วช้าก็มีมากกว่าคนดีหลายเท่าตัว

คนดีจึงกลายเป็นคนส่วนน้อย ที่ไม่แตกต่างไปจากคนแปลกหน้า
ที่ทำในเรื่องที่คนอื่นเห็นว่าแปลก ไม่เหมือนชาวบ้านเขา...
คิดอ่านก็ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง...พวกเขาจึงรังเกียจ
และมองด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับคนไร้ค่า...
ภาพคนดีในฝันนั้นช่างแสนตกต่ำ จนไม่อาจคิดได้ว่า
มันจะเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 10, 2014, 02:15 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged