ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 29 สูเราะฮฺ อันอันกะบูต  (อ่าน 4963 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 50 - 51


คำอ่าน
50. วะกอลูเลาลา..อุน..ซิละ อะลัยฮิอายาตุม..มิรฺร็อบบิฮฺ กุลอิน..นะมัลอายาตุอิน..ดัลลอฮฺ วะอิน..นะมา..อะนะนะซีรุม..มุบีน
51. อะวะลัมยักฟิฮิม อัน..นา..อัน..ซัลนาอะลัยกัลป์กิตาบะ ยุตลาอะลัยฮิม อิน..นะฟีซาลิกะ ละเราะหฺมะเตา..วะซิกรอ ลิก็อวมียุอ์มินูน


คำแปล R1.
50. And they say: "Why are not signs sent down to him from his Lord? Say: "The signs are only with Allah, and I am only a plain Warner."
51. Is it not sufficient for them that we have sent down to you the Book (the Qur'an) which is recited to them? Verily, herein is mercy and a reminder (or an admonition) for a people who believe.


คำแปล R2.
50. และพวกเขา(ชาวมักกะฮฺ) กล่าวว่า “ไฉนจึงไม่มีสัญลักษณ์จากองค์อภิบาลของเขา ถูกประทานลงมาให้เขา(ในการอ้างตัวเป็นศาสดา)” เจ้าจงตอบพวกเขาเถิดว่า “อันที่จริงบรรดาสัญลักษณ์ทั้งหลายย่อมอยู่ที่อัลเลาะฮฺ และความเป็นจริง ตัวฉันเป็นเพียงผู้ตักเตือนอันแจ้งชัดเท่านั้นเอง”
51. ยังไม่เป็นการเพียงพอแก่พวกเขาอีกหรือ การที่เราได้ลงคัมภีร์(อัลกุรอาน)มายังเจ้า เพื่อจะได้อ่านให้พวกเขาฟัง เพราะความจริงในนั้นย่อมเป็นความเมตตาและเป็นคำเตือน(จากอัลเลาะฮฺ)แก่กลุ่มชนที่มีศรัทธา


คำแปล R3.
50. พวกเขากล่าวว่า “ทำไมจึงไม่มีสัญญาณจากพระผู้อภิบาลของเขาถูกส่งลงมายังเขา?” จงกล่าวเถิด “สัญญาณทั้งหลายนั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ และฉันเป็นเพียงผู้ตักเตือนดังที่เห็นกันอยู่เท่านั้น”
51. (สัญญาณหนึ่ง) ยังไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาอีกหรือที่จะได้ประทานคัมภีร์นี้แก่เจ้าให้มาอ่านแก่พวกเขา? แท้จริงในนั้นมีความเมตตาและการตักเตือนสำหรับหมู่ชนผู้ศรัทธา


คำแปล R4.
50. และพวกเขากล่าวว่า ทำไมสัญญาณ ต่าง ๆ จากพระเจ้าของเขาจึงมิถูกประทานมายังเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงสัญญาณเหล่านั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ และฉันเป็นผู้ตักเตือนอันกระจ่างแจ้งเท่านั้น
51. มิเพียงพอแก่พวกเขาดอกหรือที่เราได้ประทานคัมภีร์ให้แก่เจ้าซึ่งได้ถูกอ่านให้แก่พวกเขาฟัง แท้จริงในการนั้นแน่นอนย่อมเป็นความเมตตาและเป็นการตักเตือนแก่หมู่ชนผู้ศรัทธา


คำแปล R5.
๕๐. และพวกเขาชาวมักกะห์กล่าวว่า หากมุฮำมัดเป็นศาสนทูตจริงแล้วไซร้ไฉนเล่าจึงไม่มีสัญลักษณ์ที่เป็นปาฏิหารย์ถูกให้ลงมายังเขาจากองค์อภิบาลของเขา เช่นบรรดาศาสดาเมื่ออดีตได้รับ โอ้มุฮำมัด เจ้าจงกล่าวตอบพวกนั้นเถิดว่า ที่จริงบรรดาสัญลักษณ์อันเป็นปาฏิหาริย์นั้นอยู่ ณ อัลเลาะห์ สุดแท้แต่พระองค์จะทรงประทานแก่ผู้ใด และตัวข้าเองเป็นเพียงผู้ตักเตือนอันชัดแจ้งเท่านั้น หามีอำนาจและสิทธิใด ๆ ที่จะแสดงปาฏิหาริย์ดังที่พวกเจ้าต้องการไม่
๕๑. ยังไม่เพียงพอแก่พวกเขาอีกหรือที่เราได้ประทานคัมภีร์ อัลกุรอานมายังเจ้าซึ่งมันจะถูกอ่านให้พวกเขาได้รับฟังแท้จริงในการประทานคัมภีร์อัลกุรอานนั้นได้ประทานให้เพื่อเป็นความเมตตาและเป็นการตักเตือนแก่กลุ่มชนที่มีศรัทธา


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 52 - 55


คำอ่าน
52. กุลกะฟาบิลลาฮิ บัยนีวะบัยนะกุมชะฮีดา ยะอฺละมุมาฟิสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วัลละซีนะอามะนูบิลบาฏิลิ วะกะฟะรูบิลลาฮิ อุลา...อิกะฮุมุลคอสิรูน
53. วะยัสตะอฺญิลูนะกะบิลอะซาบิ วะเลาลา..อะญะลุม..มุสัม..มัลละญา...อะฮุมุลอะซาบ วะละยะอ์ติยัน..นะฮุม..บัฆตะเตา..วะฮุมลายัชอุรูน
54. ยัสตะอฺญิลูนะกะบิลอะซาบ วะอิน..นะญะฮัน..นะมะ ละมุหีเฏาะตุม..บิลกาฟิรีน
55. เยามะยัฆชาฮุมุลอะซาบุ มิน..เฟากิฮิม วะมินตะหฺติอัรฺญุลิฮิม วะยะกูลุ ซูกูมากุนตุม ตะอฺมะลูน


คำแปล R1.
52. Say (to them O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam): "Sufficient is Allah for a witness between me and you. He knows what is in the heavens and on earth." and those who believe in Batil (all false deities other than Allah), and disbelieve in Allah and (in his Oneness), it is they who are the losers.
53. And they ask you to hasten on the torment (for them), and had it not been for a term appointed, the torment would certainly have come to them. And surely, it will come upon them suddenly while they perceive not!
54. They ask you to hasten on the torment. And verily! Hell, of a surety, will encompass the disbelievers.
55. On the Day when the torment (Hell-fire) shall cover them from above them and from underneath their feet, and it will be said: "Taste what you used to do."


คำแปล R2.
52. จงประกาศเถิด “ย่อมเพียงพอโดยเฉพาะอัลเลาะฮฺองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงเป็นสักขีพยานระหว่างฉันกับพวกท่านทั้งหลาย พระองค์ทรงรอบรู้สรรพสิ่งในฟากฟ้าและแผ่นดิน” และบรรดาผู้ศรัทธาในสิ่งโมฆะและปฏิเสธอัลเลาะฮฺ พวกเหล่านั้นย่อมประสบความขอบคุณอย่างแน่นอน
53. และพวกเขาขอเร่งรีบต่อเจ้าในการได้รับโทษทัณฑ์(ที่เจ้าสัญญาว่าจะประสบแก่พวกเขา) และหากมิใช่เป็นกำหนดที่ถูกระบุไว้ตายตัวแล้วไซร้ แน่นอนการลงโทษนั้นก็จะต้องมาประสบแก่พวกเขาอย่างฉับพลันโดยพวกเขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ
54. พวกเขาขอเร่งรีบต่อเจ้าในการรับโทษทัณฑ์ และแท้จริงนรกญะฮันนัมนั้น ย่อมห้อมล้อมกับบรรดาผู้ไร้ศรัทธาอย่างแน่นอน
55. ในวันซึ่งการลงโทษได้ครอบคลุมพวกเขาไว้ ทั้งจากด้านบนและด้านใต้เท้าของพวกเขา และพระองค์ทรงดำรัสว่า “เจ้าทั้งหลายจงลิ้มรส(การลงโทษสมตาม)ที่พวกเจ้าเคยประพฤติไว้เถิด”


คำแปล R3.
52. (โอ้ นบี)จงกล่าวเถิด “เพียงพอแล้วที่อัลลอฮฺจะทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน พระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ส่วนบรรดาผู้เชื่อในความเท็จและปฏิเสธอัลลอฮฺจะเป็นผู้ที่ขาดทุน”
53. และพวกเขาต้องการให้เจ้ารีบนำการลงโทษมายังพวกเขา ถ้าหากว่าเวลาไม่ได้ถูกกำหนดไว้ การลงโทษก็อาจจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาแล้ว และแน่นอนที่สุด มันจะเกิดขึ้น(ในเวลาที่ถูกกำหนดไว้)อย่างฉับพลันในขณะที่พวกเขาไม่คาดคิดแม้แต่นิดเดียว
54. พวกเขาท้าทายเจ้าให้เร่งนำการลงโทษมาในขณะที่นรกได้ล้อมรอบบรรดาผู้ปฏิเสธไว้หมดแล้ว
55. (และพวกเขาจะได้รู้) ในวันที่การลงโทษจะครอบคลุมพวกเขาจากข้างบนและจากใต้เท้าของพวกเขา และจะกล่าวว่า “ทีนี้จงลิ้มรสสิ่งที่สูเจ้าได้กระทำไว้”


คำแปล R4.
52. จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยานระหว่างฉันและพวกท่าน พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และบรรดาผู้เชื่อในความเท็จและปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ชนเหล่านั้นแหละพวกเขาเป็นผู้ขาดทุน
53. และพวกเขาเร่งเร้าเจ้า ในเรื่องการลงโทษและหากมิใช่เวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว การลงโทษก็จะเกิดขึ้นแก่พวกเขาอย่างแน่นอนและมันจะเกิดขึ้น แก่พวกเขาโดยฉับพลันอย่างแน่นอนโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว
54. พวกเขาเร่งเร้าเจ้าในเรื่องการลงโทษและแท้จริงนรกญะฮันนัมนั้นเป็นที่สะกัดล้อมพวกปฏิเสธศรัทธาไว้อย่างแน่นอน
55. วันซึ่งการลงโทษจะครอบคลุมพวกเขาจากข้างบนพวกเขาและจากใต้เท้าของพวกเขาและพระองค์จะตรัสว่า พวกเจ้าจงลิ้มรสสิ่งที่พวกเจ้าได้ก่อกรรมกระทำไว้


คำแปล R5.
๕๒. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงประกาศเถิดว่า โดยอัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียวก็เป็นการเพียงพอแล้วที่จะทรงเป็นสักขีในระหว่างข้าและระหว่างพวกเจ้า เพื่อยืนยันว่าข้าเป็นศาสดาผู้ประกาศศาสนาของพระองค์ พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่มีในฟากฟ้าและแผ่นดินอย่างละเอียดลออ จนไม่มีสิ่งใดพึงเร้นไปจากความรับรู้ของพระองค์เลย และบรรดาผู้ศรัทธาต่อสิ่งโมฆะและเนรคุณต่ออัลเลาะห์  พวกเหล่านั้นเป็นผู้ขาดทุนอย่างแน่นอน และเมื่อถึงวันปรภพ พวกนั้นจะต้องเข้านรกเพื่อตอบสนองความชั่วช้าของตนเองที่เปลี่ยนแปลงสัจธรรมของพระเจ้า
๕๓. และพวกอาหรับชาวมักกะห์เขาเร่งเร้าเจ้าเกี่ยวกับการลงโทษเพื่อให้เกิดขึ้นโดยเร็ว หลังจากที่เจ้าได้คาดโทษไว้กับพวกเขา ซึ่งพวกเขาหาได้เชื่อถือไม่ ที่จริงพวกเขาเร่งเร้าก็เพื่อแสดงทีท่าสบประมาทและเย้ยหยันเท่านั้นเอง และมาดแม้นการลงโทษนั้นจะมิใช่กำหนดการอันแน่นอนที่เราได้ตั้งไว้แต่ดั้งเดิมแล้วว่าจะประสบแก่พวกเขาอย่างแน่นอนในกาลข้างหน้าแล้วไซร้ การลงโทษนั้นก็จะมาสู่พวกเขาโดยรวดเร็วตามที่พวกเขาเร่งเร้าไว้อย่างแน่นอน และที่จริงมันจะมาประสบแก่พวกเขาโดยกะทันหัน โดยพวกเขาไม่รูสำนึกมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อใด
๕๔. พวกเขาเร่งเร้าเจ้ากับการลงโทษและแท้จริงขุมนรกยะฮันนัมนั้นย่อมห้อมล้อมบรรดาผู้เนรคุณทั้งหลายอย่างแน่นอน
๕๕. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงระลึกเถิดถึงวันซึ่งการลงโทษได้ห้อมล้อมพวกเขาไว้ทั้งจากด้านบนและจากด้านใต้เท้าของพวกเขา นั่นคือไฟนรก และมลาอิกะห์ผู้รับมอบหมายเขาป่าวประกาศแก่ชาวนรกว่าพวกเจ้าจงลิ้มรสความทรมานจากการลงโทษอันสืบเนื่องมาจากที่พวกเจ้าเคยประพฤติไว้เมื่ออดีตกาล


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 56 - 59


คำอ่าน
56. ยาอิบาดิยัลละซีนะอามะนู..อิน..นะอัรฎีวาสิอะตุน..ฟะอียายะฟะอฺบุดูน
57. กุลลุนัฟสิน..ซาอิเกาะตุลเมาตฺ ษุม..มะอิลัยนาตุรฺญะอูน
58. วัลละซีนะอามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ ละนุเบาวิอัน..นะฮุม..มินัลญัน..นะติฆุเราะฟัน..ตัจญรีมิน..ตะหฺติฮัลอันฮารุ คอลิดีนะฟีฮา นิอฺมะอัจญรุลอามิลีน
59. อัลละซีนะเศาะบะรู วะอะลาร็อบบิฮิม ยะตะวักกะลูน


คำแปล R1.
56. O My slaves who believe! Certainly, spacious is My earth. Therefore worship Me (alone)."
57. Everyone shall taste the death. Then unto us you shall be returned.
58. And those who believe (in the Oneness of Allah Islamic Monotheism) and do righteous good deeds, to them we shall surely give lofty dwellings in Paradise, underneath which rivers flow, to live therein forever. Excellent is the reward of the workers.
59. Those who are patient, and put their trust (only) in their Lord (Allah).


คำแปล R2.
56. “โอ้มวลข้าทาสของข้าที่มีศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงแผ่นดินของข้านั้นไพศาลนัก ดังนั้นพวกเจ้าจงนมัสการเฉพาะข้าเถิด”
57. แต่ละชีวิต ย่อมได้ลิ้มรสความตาย หลังจากนั้นพวกเจ้าก็จะถูกนำตัวกลับมายังเรา
58. และบรรดาผู้มีศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงามนั้น แน่นอนเราจะให้พวกเขาได้พำนักอยู่ในปราสาทจากสรวงสวรรค์ ซึ่งมีธารน้ำหลายสายไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน พวกเขาเข้าประจำอยู่ในนั้นเป็นการถาวร มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่มวลผู้ประพฤติ(ความดี)ทั้งหลาย
59. (พวกเหล่านั้นคือ) บรรดาผู้มีความอดทน และมีความมอบหมายต่อองค์อภิบาลของพวกเขา


คำแปล R3.
56. โอ้บรรดาปวงบ่าวผู้ศรัทธาของฉัน แผ่นดินของฉันนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นจงเคารพภักดีแต่เฉพาะฉันเท่านั้น
57. ทุกชีวิตจะต้องได้ลิ้มรสความตายแล้วในที่สุดสูเจ้าก็จะถูกนำกลับมายังเรา
58. ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีนั้น เราจะให้พวกเขาได้พำนักอยู่ในวิมานแห่งสวรรค์ที่เบื้องล่างนั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาจะได้อยู่ในนั้นตลอดไป ช่างเป็นรางวัลอันประเสริฐแท้ ๆ สำหรับผู้กระทำความดี
59. สำหรับบรรดาผู้อดทนและวางใจในพระผู้อภิบาลของพวกเขาเท่านั้น


คำแปล R4.
56. โอ้ปวงบ่วงของข้า บรรดาผู้ที่ศรัทธาเอ๋ย แท้จริงแผ่นดินของข้านั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นเฉพาะข้าเท่านั้นพวกเจ้าจงเคารพภักดี
57. ทุก ๆ ชีวิตเป็นผู้ลิ้มรสความตายแล้วพวกเจ้าจะถูกนำกลับยังเรา
58. และบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย แน่นอนเราจะให้พวกเขาพำนักอยู่ในห้องพิเศษแห่งสวนสวรรค์ ณ เบื้องล่างมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล รางวัลของผู้กระทำความดีช่างประเสริฐแท้ ๆ
59. บรรดาผู้อดทนขันติและพวกเขามอบหมายไว้วางใจแด่พระเจ้าของพวกเขา


คำแปล R5.
๕๖. โอ้มวลข้าทาสของข้าที่มีศรัทธาทั้งหลายแท้จริงแผ่นดินของข้านั้นไพศาลนัก ดังนั้นพวกเจ้าจงนมัสการเฉพาะข้าเถิด
๕๗. ทุก ๆ ชีวิตย่อมได้ลิ้มรสความตาย หลังจากนั้นพวกเจ้าก็จะกลับมาหาเราในวันปรภพ เพื่อรับผลตอบแทนความประพฤติที่ล่วงพ้นมาเมื่อโลกก่อน
๕๘. และบรรดาผู้ศรัทธาและประพฤติความดีทั้งหลายเราจักให้พวกเขาได้พำนักในบรรดาปราสาทจากสรวงสวรรค์ ซึ่งมีธารน้ำต่าง ๆ ไหลอยู่เบื้องใต้ของมัน พวกเขาจะคงนิรันดรอยู่ในนั้น ไม่มีวาระที่จะออกจากนั้นได้ มันเป็นรางวัลอันยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้ประพฤติความดีทั้งหลายพึงประสบ
๕๙. พวกเหล่านั้นได้แก่บรรดาผู้มีขันติ สามารถอดทนการรังควานของเหล่าทุรชนได้เป็นอันดี และพวกเขามีความมอบหมายชีวิตของตนเองด้วยความไว้วางใจต่อองค์อภิบาลของพวกเขาเอง ซึ่งพระองค์จะทรงประทานโชคผลอันมหาศาลแก่พวกเขาโดยไม่อาจคำนวณได้


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 60 - 62


คำอ่าน
60. วะกะอัยยิม..มิน..ดา...บบะติลลาตะหฺมิลุริซเกาะฮา อัลลอฮุ ยัรฺซุกุฮา วะอียากุม วะฮุวัสสะมีอุลอะลีม
61. วะละอิน..สะอัลตะฮุม..มันเคาะละก็อสสะมาวาติวัลอัรเฎาะ วะชัคเตาะร็อชชัมสะ วัลเกาะมะเราะ ละยะกูลุน..นัลลอฮฺ ฟะอัน..นายุอ์ฟะกูน
62. อัลลอฮุ ยับสุฏุรฺริซเกาะลิมัย..ยะชา...อุ มินอิบาดิฮี วะยักดิรุละฮฺ อิน..นัลลอฮะ บิกุลลิชัยอินอะลีม


คำแปล R1.
60. And so many a moving (living) creatures there is, that carries not its own provision! Allah provides for it and for you. And He is the All-Hearer, the All-Knower.
61. If You were to ask them: "Who has created the heavens and the earth and subjected the sun and the moon?" they will surely reply: "Allah." How then are they deviating (as polytheists and disbelievers)?
62. Allah enlarges the provision for whom He wills of his slaves, and straitens it for whom (He wills). Verily, Allah is the All-Knower of everything.


คำแปล R2.
60. และยังมีอีกเป็นจำนวนมากสัตว์ที่ไม่สามารถบรรทุกโชคผลของมันเองเอาไว้ได้เลยแต่อัลเลาะฮฺทรงประทานโชคผลแก่มันและแก่พวกเจ้า และพระองค์ทรงได้ยินยิ่ง ทรงรอบรู้ยิ่ง
61. ขอยืนยัน หากแม้นเจ้าถามพวกเขาว่า ใครกันที่บันดาลฟากฟ้าและแผ่นดิน และที่ได้อำนวยประโยชน์ดวงตะวันและดวงเดือน(แก่พวกเขา) แน่นอนพวกเขาก็จะตอบว่า “อัลเลาะอฺ” แต่ไฉนเล่า พวกเขาจึงถูกผันแปร(จากศรัทธา)
62. อัลเลาะฮฺทรงเผื่อแผ่โชคผลแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ จากมวลข้าทาสของพระองค์ และพระองค์ทรงจำกัดแก่เขา(ตามพระประสงค์ของพระองค์) แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ยิ่งกับทุก ๆ สิ่ง


คำแปล R3.
60. สัตว์ตั้งกี่ชนิดที่มิได้แบกปัจจัยยังชีพมากับตัวมัน อัลลอฮฺต่างหากทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่มันและแก่สูเจ้าด้วย และพระองค์ทรงได้ยินทุกสิ่งและทรงรอบรู้ทุกสิ่ง
61. และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า “ใครสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และใครที่ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ใต้อำนาจ?” แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮฺ” ดังนั้นแล้วพวกเขายังถูกหลอกลวงอีกได้อย่างไร?
62. อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงประทานปัจจัยอันมากมายแก่บ่าวของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงประทานอย่างจำกัดแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ทุกสิ่ง

 
คำแปล R4.
60. และสัตว์ตั้งกี่ชนิดที่มันมิสามารถแสวงหาเครื่องยังชีพของมัน อัลลอฮฺประทานเครื่องยังชีพแก่พวกมัน และแก่พวกเจ้าและพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
61. และถ้าเจ้าถามพวกเขา ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และเป็นผู้ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น?
62. อัลลอฮฺทรงให้เครื่องยังชีพกว้างขวางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์และทรงให้คับแคบแก่เขาแท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง


คำแปล R5.
๖๐. และมีเป็นจำนวนมากมายสัตว์ที่ไม่สามารถจะบรรทุกปัจจัยยังชีพของตนเองติดตัวไปไหนมาไหนได้เพราะความอ่อนแอของพวกมัน ซึ่งประดุจเดียวกับที่พวกเจ้าได้อพยพจากมักกะห์ไปสู่มดนะห์ เมื่อถูกก่กวนอย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม แม้จะไม่สามารถนำทรัพย์สมบัติติดตัวไปด้วยก็อย่าได้กังวลเป็นอันขาด เพราะอัลเลาะห์จะประทานโชคผลแก่พวกมัน สัตว์เหล่านั้น และแก่พวกเจ้าทั้งมวลอย่างสมบูรณ์ และพระองค์ทรงได้ยิน ทรงรอบรู้ยิ่ง
๖๑. ขอสาบาน โอ้มุฮำมัด แม้นเจ้าถามพวกเนรคุณเหล่านั้นว่าใครบันดาลฟากฟ้าและแผ่นดิน และได้อำนวยดวงตะวันและดวงเดือนแก่พวกเขาให้ได้รับประโยชน์มหาศาลจากมันทั้งสอง แน่นอนพวกเขาก็จะกล่าวตอบพวกเจ้าว่า ผู้บันดาลสิ่งเหล่านั้นก็คืออัลเลาะห์นั่นเอง หามีคำตอบนอกเหนือไปจากนี้ไม่ แล้วไฉนพวกเขาจึงยังหันเหออกจากความเชื่อมั่นในเอกภาพของอัลเลาะห์ ทั้ง ๆ ที่ยอมรับมาก่อนเป็นอย่างดีในพระองค์
๖๒. อัลเลาะห์ทรงแผ่โชคผล(ปัจจัยยังชีพ)อันอุดมสมบูรณ์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบรรดาข้าทาสของพระองค์ และทรงจำกัดโชคผลดังกล่าวแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์โดยหามีผู้ใดคัดค้านหรือก้าวก่ายในอำนาจของพระองค์ไม่ แท้จริงอัลเลาะห์ย่อมรอบรู้ในทุก ๆ สิ่ง จะปิดบัง เปิดเผย เล็กน้อยหรือใหญ่โตก็ตาม


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 63 - 64


คำอ่าน
63. วะละอิน..สะอัลตะฮุม..มัน..นัซซะละมินัสสะมา...อิ มา...อัน..ฟะอะหฺยาบิฮิลอัรฺเฏาะ มิม..บะอฺดิเมาติฮา ละยะกูลุน..นัลลอฮฺ กุลิลหัมดุลิลลาฮฺ บัลอักษะรุฮุมลายะอฺกิลูน
64. วะมาฮาซิฮิลหะยาตุดดุนยา..อิลลาละฮฺวู..วะละอิบ วะอิน..นัดดาร็อลอาคิเราะตะ ละฮิยัลหะยะวาน เลากานูยะอฺละมูน


คำแปล R1.
63. If you were to ask them: "Who sends down water (rain) from the sky, and gives life therewith to the earth after its death?" They will surely reply: "Allah." Say: "All the praises and thanks be to Allah!" Nay! most of them have no sense.
64. And this life of the world is Only amusement and play! Verily, the home of the Hereafter, that is the life indeed (i.e. the eternal life that will never end), if they but knew


คำแปล R2.
63. ขอยืนยันหากแม้นเจ้าถามพวกเขาว่า “ใครกันที่หลั่งน้ำฝนลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นเพราะมัน ภายหลังจากแผ่นดินนั้นได้แห้งแล้งมาก่อน” แน่นอนพวกเขาจะตอบว่า “อัลเลาะฮฺ” แต่ทว่าพวกเขาส่วนมากหาได้ใช้ปัญญาไตร่ตรองไม่
64. และชีวิตทางโลกนี้หาใช่อื่นใดไม่ นอกจากเป็นเพียงความเพลิดเพลินและความสนุก(ชั่วแล่น)เท่านั้น และแท้จริงโลกหน้าย่อมจีรังที่สุดหากพวกเขารู้


คำแปล R3.
63. และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า “ผู้ใดทรงหลั่งน้ำฝนลงมาจากฟากฟ้าและทรงทำให้แผ่นดินมีชีวิตขึ้นมาโดยน้ำฝนนั้น?” แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮฺ” จงกล่าวเถิดว่า “การสรรเสริญทั้งหลายเป็นของอัลลอฮฺ” แต่ถึงกระนั้นพวกเขาส่วนใหญ่ก็ยังไม่ใช้สามัญสำนึก
64. และชีวิตแห่งโลกนี้มิใช่อื่นใดนอกไปจากการละเล่นและการบันเทิง ที่พำนักแห่งชีวิตที่แท้จริงนั้นคือโลกหน้า ถ้าพวกเขาได้รู้


คำแปล R4.
63. และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเล่าทรงหลั่งน้ำลงมาจากฟากฟ้าแล้วทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาหลังจากความแห้งแล้งของมัน แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า อัลลอฮฺ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) บรรดาการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ แต่ว่าส่วนมากพวกเขาไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ
64. และการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มิใช่อื่นใด เว้นแต่เป็นการละเล่นและการสนุกสนานร่าเริง และแท้จริงสถานที่ในปรโลกนั้น แน่นอนมันคือชีวิตที่แท้จริงหากพวกเขาได้รู้


คำแปล R5.
๖๓. และมาดแม้นเจ้าถามพวกเหล่านั้นว่าใครเล่าที่บันดาลให้มีน้ำฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้า และบันดาลให้แผ่นดินมีชีวิตขึ้น(มีต้นไม้งอกงาม) เพราะมัน ภายหลังจากความตาย(แห้งแล้ง) ของแผ่นดิน แน่นอนพวกเขาก็ตอบคำถามของเจ้าว่า ผู้บันดาลสิ่งดังกล่าวก็คืออัลเลาะห์นั่นเอง หามีผู้ใดอื่นไม่ โอ้มุฮำมัด เจ้าจงกล่าวเถิดว่า การสรรเสริญทั้งมวลย่อมเป็นเอกสิทธิ์ของอัลเลาะห์ โดยเฉพาะ หามีผู้ใดร่วมรับการสรรเสริญนั้น ๆ กับพระองค์ไม่ แต่พวกเขาส่วนมากไม่ใช้ปัญญาใครครวญให้ดี
๖๔. และมิใช่ชีวิตแห่งสกลภพนี้จักเป็นแก่นสารและความจีรังยั่งยืนใด ๆ ไม่ นอกจากมันเป็นเพียงความเพลิดเพลินและความสนุกเพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง แล้วมันก็ผ่านเลยไป และแท้จริงภพหน้านั้นย่อมจะจีรังยั่งยืนอย่างแน่นอน แม้นพวกเขารู้


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 65 - 66


คำอ่าน
65. ฟะอิซาเราะกิบูฟิลฟุลกิ ดะอะวุลลอฮะ มุคลิศีนะละฮุดดีน ฟะลัม..มานัจญาฮุมอิลัลบัรฺริ อิซาฮุมยุชริกูน
66. ลิยักฟุรูบิมาอาตัยนาฮุม วะลิยะตะมัตตะอู ฟะเสาฟะยะอฺละมูน


คำแปล R1.
65. And when they embark on a ship, they invoke Allah, making their faith pure for Him only, but when He brings them safely to land, behold, they give a share of their worship to others.
66. So that they become ingrate for that which we have given them, and that they take their enjoyment (as a warning and a threat), but they will come to know.


คำแปล R2.
65. แท้จริงเมื่อพวกเขาโดยสารในเรือพวกเขาก็จะวอนขอต่ออัลเลาะฮฺ ด้วยจิตใจนอบน้อมอันบริสุทธิ์ แต่ครั้นเมื่อพระองค์บันดาลความปลอดภัยแก่พวกเขาไปสู่ภาคพื้นดิน พลันพวกเขาก็ตั้งภาคี (ต่อไปดังเดิม)
66. เพื่อพวกเขาปฏิเสธในสิ่งที่เราได้มอบให้แก่เขา และเพื่อพวกเขาจะได้เสพสุข และพวกเขาก็จะได้รู้ (ในโอกาสต่อไปว่า จะได้รับการตอบแทนอย่างไรบ้าง)

 
คำแปล R3.
65. เมื่อพวกเขาขึ้นเรือพวกเขาได้วิงวอนต่ออัลลอฮฺสร้างความศรัทธาของพวกเขาให้บริสุทธิ์สำหรับพระองค์ แต่หลังจากนั้น เมื่อเรานำพวกเขามาสู่แผ่นดินอย่างปลอดภัย พวกเขาก็ตั้งภาคี
66. เพื่อที่จะเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา และเพื่อที่พวกเขาจะได้รื่นเริง(ชีวิตแห่งโลกนี้) แล้วไม่ช้าพวกเขาจะได้รู้


คำแปล R4.
65. ดังนั้นเมื่อพวกเขาขึ้นขี่เรือ พวกเขาวิงวอนต่ออัลลอฮฺเป็นผู้บริสุทธิ์ใจในการขอพรต่อพระองค์ ครั้นเมื่อพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้ขึ้นบก แล้วพวกเขาก็ตั้งภาคีต่อพระองค์
66. เพื่อพวกเขาจะเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา และเพื่อพวกเขาจะได้หลงประทานแก่พวกเขา และเพื่อพวกเขาจะได้หลงระเริงแล้วพวกเขาก็จะได้รู้


คำแปล R5.
๖๕. แท้จริงเมื่อพวกเขาโดยสารในเรือ ซึ่งต้องผจญและฝ่าฟันคลื่นลมในท้องทะเลทำให้เกิดความหวาดกลัวอันตรายอันอาจอุบัติขึ้นได้ พวกเขาก็วอนขออัลเลาะห์โดยบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในการขอนั้น แต่แล้วเมื่อพระองค์ยังความปลอดภัยแก่พวกเขาให้พวกเขาฝ่าฟันคลื่นลมอันวังเวงและน่ากลัวของท้องทะเลจนสามารถขึ้นสู่พื้นบกแห่งแผ่นดินได้ พลันพวกเขาก็ตั้งภาคีแห่งพระองค์ต่อไปดังเดิม
๖๖. เพื่อพวกเขาจะเนรคุณต่อความโปรดปรานอันเป็นสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา และได้ให้พ้นจากภัยของท้องทะเล และเพื่อพวกเขาจะได้ภิรมย์อยู่กับการชุมนุมกันกราบไหว้เทวรูปต่าง ๆ ที่จริงต่อไปพวกเขาจะได้รู้ว่าผลสุดท้ายพวกเขาจะประสบผลแห่งความประพฤติของพวกเขาอย่างไร

 
สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 67 - 69


คำอ่าน
67. อะวะลัมยะร็อวอัน..นา ญะอัลนาหะเราะมันอามิเนา..วะยุตะค็อฏเฏาะฟุน..นาสุ มินเหาลิฮิม อะฟะบิลบาฏิลิ ยุอ์มินูนะ วะบินิอฺมะติลลาฮิ ยักฟุรูน
68. วะมันอัซละมุมิม..มะนิฟตะรอ อะลัลลอฮิกะซิบัน เอากัซซะบะบิลหักกิ ลัม..มาญา...อะฮฺ อะลัยสะฟีญะฮัน..นะมะ มัษวัลลิลกาฟิรีน
69. วัลละซีนะญาฮะดู ฟีนาละนะฮฺดิยัน..นะฮุมสุบุละนา วะอิน..นัลลอฮะ ละมะอัลมุหฺสินีน


คำแปล R1.
67. Have they not seen that we have made (Makkah) a sanctuary secure, and that men are being snatched away from all around them? Then do they believe in Batil (falsehood - polytheism, idols and All deities other than Allah), and deny (become ingrate for) the graces of Allah?
68. and who does more wrong than He who invents a lie against Allah or denies the Truth (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam and his doctrine of Islโmic Monotheism and This Qur'an), when it comes to him? is there not a dwelling In Hell for disbelievers (in the Oneness of Allโh and In his Messenger Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam)?
69. As for those who strive hard in us (our Cause), we will surely guide them to our paths (i.e. Allah's Religion - Islamic Monotheism). and Verily, Allah is with the Muhsinun (good doers)."


คำแปล R2.
67. และพวกเขาไม่รู้หรือว่า เราได้บันดาลแผ่นดินมักกะฮฺอันหวงห้ามนั้นเป็นที่อันปลอดภัย ในขณะที่มวลมนุษย์จากรอบ ๆ พวกเขาถูกโฉบเฉี่ยว(จากพวกประทุษร้ายอยู่เนือง ๆ) แล้วพวกเขายังจะศรัทธาต่อสิ่งโมฆะและอกตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺอีกกระนั้นหรือ
68. และใครเล่าจะฉ้อฉลยิ่งไปกว่า ผู้ที่เสกสรรความเท็จแก่อัลเลาะฮฺ หรือผู้ที่กล่าวหาสัจจะว่าเป็นเท็จ เมื่อสัจจะนั้นได้มาสู่เขาแล้ว ในนรกยะฮันนัมมิใช่ที่อยู่ของพวกอกตัญญูดอกหรือ
69. และบรรดาผู้ต่อสู้ใน(วิถีทางของ)เรา แน่นอนเราจะชี้นำพวกเขาสู่แนวทางของเรา และแท้จริงอัลเลาะฮฺย่อมอยู่พร้อมกับมวลผู้ประพฤติดีเสมอ


คำแปล R3.
67. พวกเขาไม่เห็นหรือว่า เราได้ทำให้เขตหวงห้ามเป็นที่ปลอดภัยในขณะที่ผู้คนรอบ ๆ พวกเขาได้ถูกขับไล่ออกไป? กระนั้นแล้วพวกเขายังศรัทธาในความเท็จและปฏิเสธความโปรดปรานของอัลลอฮฺอีกกระนั้นหรือ
68. และผู้ใดเล่าที่ชั่วร้ายยิ่งไปกว่าคนที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺหรือปฏิเสธสัจธรรมเมื่อมันได้มาถึงเขาแล้ว? นรกมิใช่หรือที่เป็นสถานที่พักอันเหมาะสมสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธ?
69. ส่วนบรรดาผู้ต่อสู้ในหนทางของเรา เราจะนำทางพวกเขาไปยังทางของเรา และแท้จริงอัลลอฮฺทรงอยู่กับผู้ทำความดีทั้งหลาย

 
คำแปล R4.
67. พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า เราได้ทำเขตหวงห้ามให้เป็นที่ปลอดภัย ขณะที่ประชาชนรอบ ๆ พวกเขาถูกฆ่า ถูกลักพาตัวไป แล้วพวกเขายังจะศรัทธาต่อความเท็จ และพวกเขายังจะเนรคุณต่อความโปราดปรานของอัลลอฮฺอีกหรือ ?
68. และใครเล่าจะอธรรมยิ่งกว่าผู้กุความเท็จให้แก่อัลลอฮฺ หรือปฏิเสธสัจธรรมเมื่อมันได้มายังเขาที่พำนักในนรกญะฮันนัมมิใช่สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาดอกหรือ ?
69. และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย


คำแปล R5.
๖๗. พวกเขาไม่รู้หรือว่า แท้จริงเราได้บันดาลเมืองมักกะห์อันเป็นมาตุภูมิของพวกเขาเองเป็นที่หวงห้าม อีกทั้งเป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้คนทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่มนุษย์จากรอบ ๆ พวกเขานั้นถูกโฉบเฉี่ยวด้วยการถูกประทุษร้ายอยู่เป็นเนือง ๆแล้วพวกเขาจะยังศรัทธาในสิ่งโมฆะอันได้แก่เจว็ด เทวรูปต่าง ๆ และเนรคุณต่อความโปรดปรานของอัลเลาะห์อีกกระนั้นหรือ
๖๘. และใครเล่าที่จะอธรรมยิ่งไปกว่าบุคคลที่เสกสรรความเท็จแก่อัลเลาะห์ แน่นอนไม่มีใครอีกแล้วที่จะอธรรมยิ่งไปกว่าเขา หรือใครเล่าที่ว่าสัจธรรมเป็นความเท็จเมื่อมันได้มาสู่เขาแล้ว ในขุมนรก ยะฮันนัม มิใช่ที่อยู่ของเหล่าผู้เนรคุณดอกหรือ
๖๙. และบรรดาผู้ต่อสู้ในสิทธิของเรา แน่นอนเราจักชี้นำแก่พวกเขา ซึ่งแนวทางของเราและแท้จริงอัลเลาะห์ก็ย่อมพร้อมกับบรรดาผู้ประพฤติดีทั้งมวลด้วยการสงเคราะห์และประทานชัยชนะแก่พวกเขา



---------------------------------------------------------------------

(صدق الله العظيم) ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ
จบตอนที่ 29 สูเราะฮฺ อัลอันกะบูต
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

 

GoogleTagged