ขอบคูณน่ะคับ ทีเขียนผมอยากได้ดาลีลเยอ่ะน่ะคับขอเป็นจัดนักๆน่ะคับ ผมเขียนภาษาไทยไม่ค่อยได้ มีกลุ่มวาฮีบี โตตอบผมเรืองอากีดะห์ ผมของซือกีตาบด้วยน่ะ หน้าเท่าไร...คัยเขียน ผมเจ็บใจจิง....ๆ
:salam:ครับ ผมขออนุญาติแปลจากข้างบนนะครับ

ขอบคุณครับ ที่ได้เขียนมา(ในเว็ป) ผมอยากได้หลักฐาน(ดาลีล)เยอะๆนะครับ ขอเป็นหลักฐานที่ชัดเจน(จัดหนักๆ)
คือว่า ผมเขียนภาษาไทยไม่ค่อยได้ (ไม่ค่อยถนัดนัก) ได้มีกลุ่ม วาฮาบี โต้ตอบผมเรื่องอากีดะห์ แล้วถามผมถึงหลักฐานต่างๆ
ขอชื่อกีตาบ หน้าเท่าไหร่ ใครเป็นผู้แต่ง (ผมหาไม่ได้ ณ ตอนนั้น) ผมเจ็บใจจริงๆครับ วัสลาม

อันที่จริง การโต้ตอบเรื่องอากีดะห์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ การที่เราไม่สามารถจะอธิบายถึงหลักฐานต่างๆได้นั้น สมควรที่เราจะหลบเลี่ยงหรือเงียบเป็นการดีกว่า แล้วค่อยเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ยึดมั่นในสิ่งที่เรารู้เป็นการพอ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการโต้เถียงกัน อาจเป็นสาเหตุของความขัดแย้งในอนาคตก็ได้ ปล่อยให้ผู้รู้ที่แท้จริง เขาเสวนาไปเถอะ เราก็เพียงยอมรับความแตกต่างนั้นได้ ในเมื่อพวกท่าน(วาฮาบี)ขวนขวายในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นสัจธรรมที่แท้จริง เราก็ไม่สามารถบังคับให้เขายอมรับในสิ่งที่เรายึดถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและแท้จริง
เช่นกัน เขาก็ไม่สามารถบังคับเราให้ยึดถือในแนวเขาเหมือนๆกัน
เรายอมรับความเป็นเพื่อนของเขา(วาฮาบี) และเราก็ยอมรับในแนวทางของเขาว่าเป็นของเขา เพียงแค่เราไม่ตามแนวทางเขาเท่านั้น แต่เขาก็ต้องไม่บังคับเราให้เดินตามแนวทางเขา เพราะเราก็มีแนวทางของเรา เรายินดีที่คบหาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หากเขาต้องการถึงหลักฐานที่ชัดเจนในแนวทางของเรา เรายินดีพาไปหาผู้รู้ต่างๆ(ที่เราคุ้นเคย)ที่สามารถอธิบายถึงหลักฐานต่างๆ ได้ เพราะตอนนี้เรายังอ่อนเรื่องความรู้ไม่สามารถใขความกระจ่างแก่เขา(วาฮาบี)ได้ แต่เราไม่อยากรู้ถึงแนวทางของเขา(วาฮาบี)ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราพอใจในแนวทางของเราอยู่แล้ว เรายอมรับว่าการขวนขวายเป็นสิทธิของแต่ละคน และเราก็จะไม่ก่าวก่ายซึ่งกันและกัน(กรณีคนเอาวาม ส่วนผู้รู้เขาต้องอธิบายหรือบรรยายเรื่องศาสนา ผิดก็ผิด ถูกก็ว่าถูก ตามซาเราะห์ของอัลอิสลาม) สุดท้ายเรามาเป็นเพื่อนกัน อย่างน้อยๆเราก็ อิสลามด้วยกันไม่ใช่หรือ จริงใหมครับ วัสลาม