กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
สารบัญถามตอบปัญหาศาสนา
ฟอรั่ม
หน้าแรก
ค้นหา
ปฏิทิน
Contact
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
GoogleTagged
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
เสวนาเชิงวิชาการ
»
อัลกุรอาน
(ผู้ดูแล:
นูรุ้ลอิสลาม
,
Bangmud
) »
อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า:
1
2
[
3
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ (อ่าน 4521 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ
«
ตอบกลับ #30 เมื่อ:
มี.ค. 25, 2013, 07:49 AM »
0
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 118 - 119
คำแปล R1.
118. And unto those who are Jews, we have forbidden such things as we have mentioned to you (O Muhammad) before [in Surat-Al-An'am, (the Cattle), see Verse 6:146]. And we wronged them not, but they used to wrong themselves.
119. Then, verily! Your Lord for those who do evil (commit sins and are disobedient to Allah) in ignorance and afterward repent and do righteous deeds, verily, your Lord thereafter, (to such) is Oft-Forgiving, Most Merciful.
คำแปล R2.
118. และ(การลงโทษนั่นจะประสบ)แก่บรรดาพวกยะฮูดี ซึ่งเราได้เคยบัญญัติห้ามในสิ่งที่เราได้แถลงแก่เจ้ามาก่อนแล้ว (คือในโองการที่ 148 บทอัลอันอาม)และเรามิได้อธรรมแก่พวกเขา แต่ทว่าพวกเขาเป็นผู้อธรรมแก่ตัวพวกเขาเอง
119. หลังจากนั้น แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้าทรงอภัยต่อบรรดาจำพวกที่ประพฤติความชั่วร้ายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังจากนั้นพวกเขาก็สารภาพผิดภายหลังจากนั้น และพวกเขาปรับปรุงตัวเอง(ด้วยการปฏิบัติความดี) แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้า ภายหลังจากนั้นพระองค์ทรงให้อภัย อีกทั้งทรงเมตตายิ่ง
คำแปล R3.
118. และสำหรับพวกยิว เราได้ห้ามสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้บอกเล่าแก่เจ้าไว้ก่อนแล้วโดยเฉพาะ และไม่ใช่เราที่สร้างความลำบากนี้ให้แก่พวกเขา แต่พวกเขาเองต่างหากที่สร้างความยากลำบากแก่พวกเขาเอง
119. อย่างไรก็ตาม พระผู้อภิบาลของสูเจ้าเป็นผู้ทรงอภัยและผู้ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้สำนึกผิดและปรับปรุงตนเองหลังจากที่ได้ทำความชั่วไปแล้วเพราะความโง่เขลา
คำแปล R4.
118. และแก่บรรดาชาวยิว เราได้ห้ามสิ่งที่เราได้บอกแก่เจ้ามาแต่ก่อนแล้ว และเรามิได้อยุติธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาได้อยุติธรรมต่อตัวพวกเขาเอง
119. แต่แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น สำหรับบรรดาผู้กระทำการชั่วโดยไม่รู้ แล้วพวกเขาก็ลุแก่โทษหลังจากนั้น และฟื้นฟูแก้ไขให้ดี แท้จริงพระเจ้าของเจ้าหลังจากนั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
คำแปล R5.
เมื่อพระองค์ทรงบรรยายถึงสิ่งที่ทรงตราว่าเป็นสิ่งอนุญาตและสิ่งต้องห้ามสำหรับคณะชนผู้นับถือศาสนาอิสลามแล้วพระองค์ก็ได้ทรงบรรยายตามหลังด้วยเรื่องเกี่ยวกับข้อห้ามเฉพาะผู้เป็นชนชาวยะฮูดี พระองค์ตรัสว่า
๑๑๘. และโอ้มุฮำมัด
สำหรับบรรดาชนผู้เป็นยะฮูดีนั้น เราก็ได้ตราห้ามไว้ในสิ่งที่เราเคยบอกแก่เจ้า
(มุฮำมัด)มาก่อนในคัมภีร์อัล-กุรอานบทอัล-อันอาม โองการที่ ๑๔๑
และเรา
(อัลเลาะห์)
ก็มิได้ข่มเหงพวก
ยะฮูดี
เหล่านั้น
ให้ต้องฝืนรับข้อห้ามดังกล่าว
เลย พวกเหล่านั้นต่างหากที่ได้ข่มเหงตัวเอง
ด้วยการทรยศจนถึงกับเป็นเหตุให้ต้องตราข้อห้ามที่ว่านั้น
๑๑๙. โอ้มุฮำมัด
ครั้นแล้วองค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าทรงอำนวย
การอภัยอย่างยิ่ง และความปรานีอย่างยิ่ง
แก่บรรดาชนผู้ปฏิบัติชั่วช้า
โดยการถือภาคี (ชิริก)
เพราะโง่เขลา และ
ในที่สุด
หลังจาก
ปฏิบัติชั่วช้าแล้ว
นั้น
ผู้ปฏิบัติชั่วช้า
ก็ขอลุแก่โทษแล้วปรับตัว
เพื่อประพฤติการ
ให้ดีขึ้น แน่นอนหลังจาก
ความโง่เขลาดังกล่าวหรือการขอลุแก่โทษของผู้
นั้น องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้า
(มุฮำมัด)
ทรงเป็นองค์ยิ่งในการอภัย
ต่อพวกนั้น
ทรงเป็นองค์ปรานียิ่ง
ต่อพวกนั้น
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 120 - 122
คำแปล R1.
120. Verily, Ibrahim (Abraham) was an
Ummah
(a leader having all the good righteous qualities), or a nation, obedient to Allah,
Hanifa
(i.e. to worship none but Allah), and he was not one of those who were
Al-Mushrikun
(polytheists, idolaters, disbelievers in the Oneness of Allah, and those who joined partners with Allah).
121. (He was) thankful for his (Allah's) Graces. He (Allah) chose him (as an intimate friend) and guided him to a Straight Path (Islamic Monotheism, neither Judaism nor Christianity ).
122. And We gave him good in this world, and in the Hereafter he shall be of the righteous.
คำแปล R2.
120. แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นประชาชาติหนึ่งที่มีความภักดีต่ออัลเลาะฮฺ เป็นผู้มีภูมิธรรม และเขามิใช่ผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ตั้งภาคีทั้งหลาย
121. เขาเป็นผู้กตัญญูสำหรับสิ่งโปรดปรานต่าง ๆ ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงคัดสิ่งนั้นไว้ให้ และพระองค์ทรงชี้นำเขาสู่แนวทางอันเที่ยงตรง
122. และเราได้มอบความดีงามแก่เขา (อิบรอฮีม)ในโลกนี้ และแท้จริงเขาเป็นผู้หนึ่งจากมวลผู้ประพฤติดีในโลกหน้า
คำแปล R3.
120. แท้จริง อิบรอฮีมคือประชาคมในตัวเขาเอง เขาเชื่อฟังอัลลอฮฺ และหันหน้าไปหาพระองค์อย่างเดียวและเขาไม่ได้เป็นผู้ตั้งภาคี
121. เขาเป็นผู้กตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺเสมอ ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงเลือกเขาและแสดงทางนำที่เที่ยงตรงแก่เขา
122. และเราได้ประทานความดีงามให้แก่เขาในโลกนี้และแน่นอนที่สุด เขาจะได้อยู่กับบรรดาผู้มีคุณธรรมในโลกหน้า
คำแปล R4.
120. แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นแบบอย่างอันดีเลิศ เป็นผู้ภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้เที่ยงธรรม และเขามิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
121. เป็นผู้กตัญญูกตเวทีต่อความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเขา และทรงชี้แนะทางแก้เขาสู่ทางที่เที่ยงตรง
122. และเราได้ให้ความดี แก่เขาในโลกนี้และแท้จริงในปรโลกนั้น เขาจะอยู่ในหมู่คนดี ๆ อย่างแน่นอน
คำแปล R5.
๑๒๐.
แท้จริง
พระศาสดา
อิบรอฮีมเป็นผู้นำ
ที่ถูกเจริญรอยตามในคุณความดีทุก ๆ ประการ
เป็นผู้ภักดีต่ออัลเลาะห์ เป็นผู้แน่วแน่
อยู่ในศาสนาที่เที่ยงแท้
และเขา
(อิบรอฮีม)
มิใช่ผู้หนึ่งจากเหล่าชน
กาฟิร
ผู้ถือภาคีเลย
๑๒๑.
เป็นผู้สำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่พระองค์ทรงเลือกสรรเขา
(อิบรอฮีม)
ขึ้น
เป็นศาสดาและศาสนทูตแห่งพระองค์
และทรงชี้แนวธรรมแก่เขา
(อิบรอฮีม)
ให้ไปสู่วิถีทางอันเที่ยงแท้
๑๒๒.
ทั้งเรา
(อัลเลาะห์)
ยังให้เขา
(อิบรอฮีม)
ได้คุณธรรมในภาคภพนี้
ด้วยมีชนผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ ชมเชยสรรเสริญ
และแน่นอนในภาคปรถพ เขา
(อิบรอฮีม)
ย่อมเป็นผู้หนึ่งในเหล่าชนประพฤติชอบที่มีขั้นอันดับสูง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
Bangmud
ทีมงานบอร์ด
เพื่อนรัก (6_6)
กระทู้: 2821
Respect:
+127
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ
«
ตอบกลับ #31 เมื่อ:
มี.ค. 26, 2013, 10:26 AM »
0
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 120 - 122
คำแปล R1.
120. Verily, Ibrahim (Abraham) was an
Ummah
(a leader having all the good righteous qualities), or a nation, obedient to Allah,
Hanifa
(i.e. to worship none but Allah), and he was not one of those who were
Al-Mushrikun
(polytheists, idolaters, disbelievers in the Oneness of Allah, and those who joined partners with Allah).
121. (He was) thankful for his (Allah's) Graces. He (Allah) chose him (as an intimate friend) and guided him to a Straight Path (Islamic Monotheism, neither Judaism nor Christianity ).
122. And We gave him good in this world, and in the Hereafter he shall be of the righteous.
คำแปล R2.
120. แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นประชาชาติหนึ่งที่มีความภักดีต่ออัลเลาะฮฺ เป็นผู้มีภูมิธรรม และเขามิใช่ผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ตั้งภาคีทั้งหลาย
121. เขาเป็นผู้กตัญญูสำหรับสิ่งโปรดปรานต่าง ๆ ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงคัดสิ่งนั้นไว้ให้ และพระองค์ทรงชี้นำเขาสู่แนวทางอันเที่ยงตรง
122. และเราได้มอบความดีงามแก่เขา (อิบรอฮีม)ในโลกนี้ และแท้จริงเขาเป็นผู้หนึ่งจากมวลผู้ประพฤติดีในโลกหน้า
คำแปล R3.
120. แท้จริง อิบรอฮีมคือประชาคมในตัวเขาเอง เขาเชื่อฟังอัลลอฮฺ และหันหน้าไปหาพระองค์อย่างเดียวและเขาไม่ได้เป็นผู้ตั้งภาคี
121. เขาเป็นผู้กตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺเสมอ ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงเลือกเขาและแสดงทางนำที่เที่ยงตรงแก่เขา
122. และเราได้ประทานความดีงามให้แก่เขาในโลกนี้และแน่นอนที่สุด เขาจะได้อยู่กับบรรดาผู้มีคุณธรรมในโลกหน้า
คำแปล R4.
120. แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นแบบอย่างอันดีเลิศ เป็นผู้ภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้เที่ยงธรรม และเขามิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
121. เป็นผู้กตัญญูกตเวทีต่อความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเขา และทรงชี้แนะทางแก้เขาสู่ทางที่เที่ยงตรง
122. และเราได้ให้ความดี แก่เขาในโลกนี้และแท้จริงในปรโลกนั้น เขาจะอยู่ในหมู่คนดี ๆ อย่างแน่นอน
คำแปล R5.
๑๒๐.
แท้จริง
พระศาสดา
อิบรอฮีมเป็นผู้นำ
ที่ถูกเจริญรอยตามในคุณความดีทุก ๆ ประการ
เป็นผู้ภักดีต่ออัลเลาะห์ เป็นผู้แน่วแน่
อยู่ในศาสนาที่เที่ยงแท้
และเขา
(อิบรอฮีม)
มิใช่ผู้หนึ่งจากเหล่าชน
กาฟิร
ผู้ถือภาคีเลย
๑๒๑.
เป็นผู้สำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่พระองค์ทรงเลือกสรรเขา
(อิบรอฮีม)
ขึ้น
เป็นศาสดาและศาสนทูตแห่งพระองค์
และทรงชี้แนวธรรมแก่เขา
(อิบรอฮีม)
ให้ไปสู่วิถีทางอันเที่ยงแท้
๑๒๒.
ทั้งเรา
(อัลเลาะห์)
ยังให้เขา
(อิบรอฮีม)
ได้คุณธรรมในภาคภพนี้
ด้วยมีชนผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ ชมเชยสรรเสริญ
และแน่นอนในภาคปรถพ เขา
(อิบรอฮีม)
ย่อมเป็นผู้หนึ่งในเหล่าชนประพฤติชอบที่มีขั้นอันดับสูง
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 123 - 126
คำแปล R1.
123. Then, we have inspired you (O Muhammad Saying): "Follow the Religion of Ibrahim (Abraham) Hanifa (Islamic Monotheism - to worship none but Allah) and he was not of the
Mushrikun
(polytheists, idolaters, disbelievers, etc.).
124. The Sabbath was only prescribed for those who differed concerning it, and verily, your Lord will judge between them on the Day of Resurrection about that wherein they used to differ.
125. Invite (mankind, O Muhammad) to the Way of your Lord (i.e. Islam) with wisdom (i.e. with the divine inspiration and the Qur'an) and fair preaching, and argue with them in a way that is better. Truly, your Lord knows best who has gone astray from his path, and He is the best aware of those who are guided.
126. And if you punish (your enemy, O you believers in the Oneness of Allah), then punish them with the like of that with which you were afflicted. But if you endure patiently, verily, it is better for
As-Sabirin
(the patient ones, etc.) .
คำแปล R2.
123. หลังจากนั้นเราได้ดลโองการแก่เจ้า (มุฮัมมัด)ว่า “เจ้าจงประพฤติตามศาสนาของอิบรอฮีมผู้มีภูมิธรรมเถิด และเขาหาใช่พวกหนึ่งจากผู้ตั้งภาคีไม่
124. อันที่จริงได้ถูกบัญญัติวันเสาร์ (วันปลดปล่อยของชาวยิว ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางศาสนาของพวกนี้) แก่บรรดาพวก (ยะฮูดี) ที่มีการพิพาทกันในเรื่องนั้น และแท้จิงองค์อภิบาลของเจ้า ทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในวันชาติหน้าในสิ่งที่พวกเขาได้เคยพิพาทกัน
125. จงเรียกร้องไปสู่แนวทางแห่งองค์อภิบาลของเจ้าด้วยวิทยญาณและคำตักเตือนที่ดี และจงตอบโต้พวกเขาโดยใช้หลักการที่ดีที่สุด แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้าทรงรอบรู้ในบุคคลที่หลงไปจากแนวทางของพระองค์และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งในมวลผู้ได้รับการชี้นำทั้งหลาย
126. และมาดแม่นพวกเจ้าจะทำร้าย(พวกศัตรูเป็นการตอบแทน) พวกเจ้าก็จงทำร้ายพวกนั้นเหมือนเช่นพวกเจ้าถูกทำร้ายมาก่อน(อย่าให้เกินเลยไปกว่านั้น) ขอยืนยัน! ถ้าพวกเจ้าอดทนไว้ได้ สิ่งนั้นก็จะเป็นความประเสริฐล้ำแก่บรรดาผู้อดทนทั้งหลาย
คำแปล R3.
123. แล้วเราก็ได้มีวะฮีย์แก่เจ้าว่า “จงปฏิบัติตามแนวทางของอิบรอฮีมอย่างมุ่งมั่นแต่เพียงอย่างเดียว” เขาไม่ได้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ตั้งภาคี
124. เกี่ยวกับเรื่องสับบะโตนั้น เราได้กำหนดสิ่งนี้แก่บรรดาผู้มีความขัดแย้งกันในเรื่องการปฏิบัติ แน่นอน พระผู้อภิบาลของสูเจ้าจะตัดสินระหว่างพวกเขาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังขัดแย้งกัน
125. (โอ้ นบี) จงเชิญชวนมายังแนวทางของพระผู้อภิบาลของเจ้าด้วยวิทยปัญญาและการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยมารยาทที่ดี แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงรู้ดีที่สุดว่าใครได้หลงอกไปจากทางของพระองค์ และทรงรู้ดีที่สุดว่าใครเป็นผู้อยู่ในหนทางที่ถูกต้อง
126. และถ้าสูเจ้าจะแก้แค้นตอบแทนก็จงแก้แค้นตอบแทนเท่าที่สูเจ้าถูกกระทำเท่านั้น แต่ถ้าสูเจ้าอดทนมันจะเป็นการที่สุดสำหรับบรรดาผู้อดทน
คำแปล R4.
123. แล้วเราได้วะฮีแก่เจ้าว่า จงปฏิบัติตามศาสนาของอิบรอฮีมผู้เที่ยงธรรม และเขามิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
124. แท้จริง วันเสาร์ได้ถูกกำหนดขึ้นแก่บรรดาผู้ขัดแย้งกันในเรื่องนั้น และแท้จริงพระเจ้าของเจ้าจะตัดสินระหว่างพวกเขาอย่างแน่นอนในวันกิยามะฮฺ ในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น
125. จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า แท้จริงพระเจ้าของพระองค์และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง
126. และหากพวกเจ้าจะลงโทษ(ฝ่ายปรปักษ์)ก็จงลงโทษเยี่ยงที่พวกเจ้าได้รับโทษ และหากพวกเจ้าอดทน แน่นอน มันเป็นการดียิ่งสำหรับบรรดาผู้อดทน
คำแปล R5.
๑๒๓.
ครั้นแล้วเรา
(อัลเลาะห์)
ได้ดลกระแสโองการลงมายังเจ้า
(มุฮำมัด) สั่ง
ว่า “เจ้าจงเจริญตามศาสนาแห่งอิบรอฮีมโดยแน่วแน่”
อยู่ในศาสนาที่เที่ยงแท้
ด้วยว่าเขา
(อิบรอฮีม)
นั้น มิใช่คนหนึ่งในเหล่าชนผู้ถือภาคี
ทั้งฝ่ายยะฮูดีและฝ่ายนะซอรอเลย
๑๒๔.
แท้จริงวันเสาร์ได้ถูกกำหนดขึ้นสำหรับ
เป็นวันสำคัญที่ต้องยกย่องของบรรดา
ชน
ยะฮูดี ผู้
ซึ่งขัดแย้งกัน
กับมูซาพระศาสดาของพวกตนเกี่ยวกับวันเสาร์นี้ มีเนื้อความกล่าวว่า พวกยะฮูดีถูกบัญชาให้หยุดกิจการในวันศุกร์เพื่อให้เกียรติ ทั้งเพื่อให้ได้มีโอกาสปฏิบัติการภักดีในวันนี้ แต่พวกยะฮูดีกลับไม่พอใจ บอกว่า “พวกเราไม่ต้องการหยุดทำกิจการในวันศุกร์” พวกนี้สมัครใจเลือกเอาวันเสาร์ พวกนี้จึงถูกห้ามการทำประมงในวันเสาร์แต่ก็ฝ่าฝืนกัน พวกนี้จึงถูกสาบเป็นลิงนานสามวัน จากนั้นก็สาบสูญไป
แน่แท้องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้า
(มุฮำมัด)
จะทรงตัดสินท่ามกลางพวกเหล่านั้น ณ วันกิยามะห์ในข้อที่พวกเหล่านั้นขัดแย้งกัน
กับพระศาสดาของตนเกี่ยวกับเรื่องที่พระองค์ทรงบัญชาให้หยุดกิจการประมงในวันเสาร์ ซึ่งพระองค์จะทรงตอบสนองกุศลแก่ผู้ปฏิบัติตาม แต่จะทรงเอาโทษกับผู้ซึ่งฝ่าฝืนทรยศต่อพระองค์ด้วยการทำลายความสำคัญของวันเสาร์
๑๒๕. โอ้มุฮำมัด
เจ้าจงชักชวน
ปวงชน
ให้ไปสู่วิถีทางแห่ง
ศาสนาของอัลเลาะห์
องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าด้วยอัล-กุรอานและด้วยคำตักเตือน
จากอัล-กุรอานหรือด้วยถ้อยคำ
ที่สุภาพอ่อนโยน ทั้งเจ้าจงโต้คำกับ
มนุษย์
เหล่านั้นด้วยถ้อยคำอันประเสริฐ
เป็นต้นว่าใช้ถ้อยคำชักชวนปวงชนไปยังอัลเลาะห์ และไปสู่หลักฐานอันแสดงถึงอานุภาพของพระองค์
แน่แท้
อัลเลาะห์
องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้า(มุฮำ
มัด)
นั้นทรงทราบดีถึงผู้ซึ่งหลงห่างจากวิถีทางอันเที่ยงแท้แห่งพระองค์ และพระองค์ทรงทราบดีถึงเหล่าชนผู้ได้รับแนวธรรม
ไปสู่วิถีทางอันเที่ยงแท้ แล้วพระองค์จะทรงสนองผลแห่งกรรมแก่พวกเหล่านั้นอีกด้วย
มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้
โองการต่อไปนี้ประทานมาในกรณีที่ท่านฮำซะห์ถูกฆ่า ณ สมรภูมิอุฮุดในปีที่สามแห่งฮิจเราะห์ศักราช ท่านผู้นี้คืออาของศาสนทูตมุฮำมัด ซล. ทั้งเป็นพี่น้องร่วมนม และเป็นญาติทางสายมารดากับศาสนทูตมุฮำมัดด้วย ฮำซะห์มีอายุแก่กว่าศาสนทูตมุฮำมัด ๒ ปี ขณะที่ฮำซะห์ถูกฆ่าแล้วนั้น มุฮำมัดประกาศคำสาบานว่า แน่นอนฉันจะแก้แค้นแทนท่านคนเดียวด้วยกาฟิรถึงเจ็ดสิบ
๑๒๖.
และถ้าหากพวกเจ้าจะลงโทษ
เหล่ากาฟิร
ก็จงลงโทษ
พวกกาฟิร
ให้เหมือนกับที่พวกเจ้าเคยถูกลงโทษเถิด
พวกเจ้าอย่าได้ลงโทษพวกกาฟิรเจ็ดสิบคน เพราะเหตุที่พวกเจ้าถูกลงโทษเพียงคนเดียวเลย ดังนั้นมุฮำมัดจึงต้องยอมผิดสาบาน พร้อมกับเสียค่าชดเชย พระองค์ตรัสว่า
หากพวกเจ้าอดใจไว้ได้แล้วไซร้ ก็ย่อมจะดียิ่งสำหรับเหล่าผู้อดใจ
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 127 - 128
คำแปล R1.
127. And endure you patiently (O Muhammad), your patience is not but from Allah. And grieve not over them (polytheists and pagans, etc.), and be not distressed because of what they plot.
128. Truly, Allah is with those who fear Him (keep their duty unto Him) , and those who are
Muhsinun
(good-doers, - see the footnote of V.9:120).
คำแปล R2.
127. และเจ้าจงอดทนเถิด และหาใช่ว่าความอดทนของเจ้าจะสำเร็จได้(โดยตัวเอง)ไม่ นอกจากโดยอนุมัติของอัลเลาะฮฺเท่านั้น และเจ้าอย่าเศร้าโศกเนื่องเพราะพวกเขา(ไม่ศรัทธาในคำประกาศของเจ้า) และเจ้าอย่าได้มีความคับแค้นใจในสิ่งที่พวกเขาวางแผนร้าย (ทำลายเจ้า เพราะอัลเลาะฮฺทรงคลี่คลายและช่วยเหลือตลอดเวลา)
128. แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงอยู่กับฝ่ายที่มีความยำเกรงและบรรดาที่ประพฤติดีทั้งมวล
คำแปล R3.
127.
(โอ้ นบี)
จงปฏิบัติภารกิจของเจ้าต่อไปด้วยความอดทน และเจ้าจะอดทนได้ก็ด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮฺเท่านั้น จงอย่าเศร้าโศกเสียใจต่อการกระทำของพวกเขา และจงอย่าท้อแท้ต่อแผนการของพวกเขา
128. แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงอยู่กับบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์และบรรดาผู้ที่กระทำความดี
คำแปล R4.
127. และจงอดทนเถิด และการอดทนของเจ้าจะมีขึ้นไม่ได้ เว้นแต่ด้วย(การเตาฟีกของ) อัลลอฮฺ และอย่าเศร้าโศกต่อพวกเขา และอย่าคับใจในสิ่งที่พวกเขาวางกลอุบาย
128. แท้จริง อัลลอฮฺทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรง และบรรดาผู้กระทำความดี
คำแปล R5.
๑๒๗.
และ
โอ้มุฮำมัด
เจ้าจงอดใจไว้เถิด ความอดใจของเจ้านั้น จะมีขึ้นก็แต่โดยอัลเลาะห์
ทรงเป็นผู้อำนวยความแน่วแน่แก่เจ้า
เท่านั้น แล้วเจ้าอย่าได้เศร้าสลด
ด้วยเหตุ
เพราะพวก
กาฟิร
เหล่านั้น
ไร้ศรัทธาเลย ซึ่งเจ้าก็ปรารถนาอย่างยิ่ง ในอันจะให้พวกกาฟิรมีศรัทธา
ทั้งเจ้าอย่าได้หนักใจเลยต่อกลอุบายที่พวก
กาฟิร
เหล่านั้นมี
ว่า จะฆ่าเจ้าบ้าง จะกักขังเจ้าบ้าง และจะเนรเทศเจ้าออกนอกประเทศบ้าง ข้านี่แหละจะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าให้ได้ชัยชนะเหล่าชนกาฟิร
๑๒๘.
แท้จริงอัลเลาะห์นั้นทรง
ให้ความช่วยเหลือและความปรานี
อยู่ฝ่ายบรรดาชนผู้เกรงกลัว
การแก้มือที่เกินควรและความชั่วนานา
และ
อยู่กับฝ่าย
บรรดาชนผู้ประพฤติดีงาม
โดยปฏิบัติตามใช้และงดเสียจากสิ่งที่ห้าม และโดยอดใจรอความช่วยเหลือกับความมีชัยจากพระองค์ได้อีกด้วย
ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ ( صدق الله العطيم )
จบตอนที่ 16 อันนะหฺลุ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า:
1
2
[
3
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
»
เสวนาเชิงวิชาการ
»
อัลกุรอาน
(ผู้ดูแล:
นูรุ้ลอิสลาม
,
Bangmud
) »
อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ
GoogleTagged
55819444
อันนะห
respect
com
sunnahstudents
ตอนที่
หากพว
แปลว่า
allah
bmk
62922401
النحل
nothing
53899372
decisions
กุรอาน
without
อันนะ
google