ผู้เขียน หัวข้อ: จริงหรือที่เธอผินจาก อิสลามสู่ร่มพุทธบริษัท  (อ่าน 3382 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด

 :salam:







ประวัติ
ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ที่กรุงเทพมหานคร
สนใจฝึกสมาธิภาวนาตามหลักพระพุทธศาสนา
เนื่องจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็น
คือ เรื่องกุญแจเซ็น และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ
เกิดความประทับใจว่าการฝึกสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให ้
พ้นทุกข์ได้ จึงศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังจากพระราชวุฒาจารย์
(หลวงปู่ดูลย์อตุโล) และพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
ค้นพบองค์ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของจิตหลักการฝึกจิตและผลของการฝึกจิต
แล้วนำมาเผยแพร่ โดยการพิมพ์และแปลหนังสือธรรมะของครูบาอาจารย์
และถ่ายทอดความรู้โดยการอบรมให้แก่ครู – อาจารย์
นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป
ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาสังคมไทย ให้พ้นภัยวิกฤติด้านต่าง ๆ ที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ดร.ดาราวรรณ ถือกำเนิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม ประพฤติ
ปฏิบัติตามหลักของศาสนาอย่างเคร่งครัด
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีบิดามารดาเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความซื่อสัตย์
และความขยันหมั่นเพียร มีคุณปู่เป็นผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าม)
อุปนิสัยส่วนตัวชอบความสงบ ชอบพิธีกรรมทางศาสนา
โดยเฉพาะการสวดมนต์ภาวนาทางบ้านได้ส่งให้เรียนในโรงเรียนศาสนา
ในระดับชั้นประถมศึกษาและเรียนพิเศษด้านศาสนาตอนเย็นหลังเลิกเรียน
จึงมีความรู้ศาสนาอิสลามแตกฉานได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนโรงเรียน
เข้าแข่งขันตอบปัญหาและปาฐกถาธรรมทางศาสนาได้รับรางวัลชนะเลิศ
และรองชนะเลิศ

แม้จะมีความรู้และศรัทธาในศาสนาอิสลาม
แต่ก็เก็บความสงสัยในคำสอนหลายเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้และไม่สามารถถามผู้รู้ได้
เนื่องจากเป็นข้อห้ามของศาสนา ต่อมาได้อ่านหนังสือ
เกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็นอยู่ ๒ เล่ม คือเรื่องกุญแจเซ็น
และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอของท่านติช นัท ฮันท์ พระภิกษุชาวเวียตนาม
แล้วเกิดความประทับใจว่า การปฏิบัติสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให้พันทุกข์
เมื่อศึกษาและปฏิบัติแล้วพบว่า ถูกกับอุปนิสัย
จึงมีความเลื่อมใสศรัทธาที่พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์
มีเหตุผลและเน้นสอนให้เราพึ่งตนเองและเชื่อหลักธรรม

ดร.ดาราวรรณ ได้เริ่มการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
เมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยเริ่มจากการปฏิบัติจิตภาวนา
ได้ฝึกฝนกับอุบาสิกาสะอาด เกษมสันต์ ที่วัดน้อยนพคุณ กรุงเทพฯ
จากนั้นเมื่อย้ายมารับตำแหน่งศึกษาสิเทศก์
กรมสามัญศึกษาเขตการศึกษา 11 ที่จังหวัดนครราชสีมา
ได้เข้าอบรมกรรมฐานกับคุณ
แม่สิริ กรินไชย 2 ครั้ง ๆ ละ 7 วัน

ใน ปี พ.ศ. 2523 – 2526 ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ โดยไปรายงานผลการปฏิบัติ
และซักถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
แนวทางที่หลวงปู่อบรมให้เน้นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการตามดูจิต
ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกจริตมากที่สุด ปี พ.ศ. 2526 ก่อนหลวงปู่มรณภาพ
ประมาณ 2 เดือน
ท่านสั่งให้ไปสอนผู้อื่นเพราะจิตชำนาญแล้ว
นอกจากการสอนอบรมแล้วยังได้แปลธรรมะของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
เรื่อง “จิตคือพุทธะ” เป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่ให้นักปฏิบัติต่างชาติ
โดยได้พิมพ์แจกทันงานพระราชทานเพลิงศพของปู่ดูลย์ อตุโล
ในปี พ.ศ. 2527
ช่วง ปี พ.ศ. 2523 – 2542 ได้ศึกษาและ
ปฏิบัติธรรมอย่างใกล้ชิดกับพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งท่านได้ให้คำสอนทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติอย่างละเอียดมาก
ได้รับการไว้วางใจให้จัดทำหนังสือธรรมะเผยแพร่มาตลอดปีละ 1 – 2 ครั้ง ๆ ละ
10,000 – 50,000 เล่ม ได้แก่ ธรรมวิสัชนาหลวงพ่อสอนธรรม ฐานิยปูชา
มอบธรรม นำพร เป็นต้น

การศึกษาจิต : องค์ความรู้แห่งการดับทุกข์
สิ่งที่ ดร.ดาราวรรณ ได้ค้นพบความจริงแห่งการดังทุกข์ คือ“จิต”
ซึ่งเป็นพลังแฝงอยู่ในกาย มีหน้า ที่สั่งกาย และบันทึกผลงาน
การทำ พูด คิด ไว้เป็นประจุกรรม (พลังกุศลกรรม และอกุศลกรรม)ซึ่งเป็นข้อมูล
หรือหน่วยความจำที่มีปริมาณมหาศาล จิตเป็นอมตธาตุ
เป็นธาตุที่ไม่ตาย เมื่อกายตาย จิตจะทิ้งกายไปหาที่อยู่ใหม่ (ภพภูมิ)
ตามพลังขับเคลื่อนของจิตว่าจะไปทางฝ่ายกุศลหรืออกุศล จะทำให้จิตมีสิ่งรู้
ทำสติให้มีสิ่งระลึกต้องฝึกจิตหรือการทำสมาธิภาวนา
ครูดาราวรรณได้ศึกษาและปฏิบัติตามหลวงพ่อพุทธ ฐานิโย ซึ่งแยก

สมาธิเป็น ๒ แบบ คือ
๑. สมาธิในวิธีการ หมายถึง การปฏิบัติสมาธิที่มีรูปแบบ เช่น
การนั่งกำหนดลมหายใจบริกรรมภาวนา การเดินจงกรม เป็นต้น
ซึ่งเป็นการปฏิบัติอยู่วงจำกัด เมื่อมีเวลาเป็นส่วนตัว
๒. สมาธิในชีวิตประจำวัน หรือ สมาธิสาธารณะ
เป็นการปฏิบัติสมาธิในชีวิตประจำวันด้วยการกำหนดสติอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด
ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ทำได้ทุกสถานการณ์ ทุกกาลเวลา และทุกสถานที่
เมื่อฝึกจิตได้แล้ว จิตจะมีพลังสติสัปชัญญะมากจะก่อให้เกิดปัญหาในระดับต่าง ๆ
กล่าวคือ
- ปัญญาระดับสูง การรู้เท่าทันกิเลส ตัณหา อุปาทาน
จนสามารถตัด อาสวกิเลสได้
- ปัญญาระดับกลางการรู้เท่าทันจิต มีภูมิต้านทานต่อสิ่งยั่วยุ
สิ่งกระทบต่าง ๆ เมื่อมีสิ่งยั่วยุ (จากภายในหรือภายนอกก็ตาม) ให้ทำ
- ปัญญาระดับต้น เป็นความชาญฉลาดทางสติปัญญาที่ใช้
ในการเรียนการงานต่าง ๆ ทำให้ประสบผลสำเร็จสูง มีความผิดพลาดน้อย

การที่ ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เป็นบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญา
ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
เป็นผู้สร้างสรรค์และสืบสานภูมิปัญญาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
จนเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อทำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษา
ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
ตามนัยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542

ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม อายุ ๕๑ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔
ที่กรุงเทพมหานครเป็นบุตรของ ร.ต.มุขและนางเกยูร เด่นอุดม
สถานภาพโสด
ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่ 256 ถนนมิตรภาพ
ซอย 15 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000

การศึกษา
- ปริญญาตรี อักษรศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2512 - 2515)
- ปริญญาโท อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (251? - 2521)
- ปริญญาเอก Ph.D ภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Grenoble ประเทศฝรั่งเศส
(252? - 2529)

เกียรติคุณที่ได้รับ
- พ.ศ. 2540 ได้รับรางวัล “เสมาธรรมจักร”
ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม
จากกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ
- พ.ศ. 2545 ครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 2 ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี



อ้างอิง 

http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_26.html

ออฟไลน์ yfa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 175
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
        :salam: อืมม
                 


          อัชฮะดุ อันลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮ วะอัชฮะดุอันนะ มุฮัมมะดัร รอซู้ลุลอฮ
บ่าวผู้ต่ำต้อย

ออฟไลน์ multi

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 413
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
อาการหนักแล้วนั่น

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ peacemaker

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 35
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
แบบนี้ต้องประหารชีวิตอย่างเดวครับ ตามนบีได้บอกไว้(ขอให้เค้าได้รับทางนำจากอัลลอฮอีกทีนุงเถอะ อามีน)
ดุนยาไม่ช่ายเป๊ปซี่ อย่าเต็มที่กับมันมากนัก

ออฟไลน์ iqwan

  • ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลเลาะฮ์ มุฮำมัดดุ้รร่อซูลุ้ลลอฮฺ
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 168
  • เพศ: ชาย
  • มาซาอั้ลลอฮฺ
  • Respect: +23
    • ดูรายละเอียด
 :salam: นะอูซุบิ้ลลาฮิมินซาลิก fouet:
ลาเฮาละว่ะลากู ว่ะตะอิ้ลลาบิ้ลลาฮิ้ลอะลียิ้ลอะซีม
อินนาลิ้ลลาฮฺ ว่ะอินนาอิไลฮิรอญิอูน
อั้ลลามะอฺบูดุบิฮักกิ้ลฟิ้ลวุยู๊ดอิ้ลลั้ลลอฮฺ

ทุกๆปัญหา มีทางแก้...ถ้าแก้ไม่ได้ นั่นไม่ใช่ปัญหา
" Any Problem can Solve...if can't Solve
that not the Problem"

ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
จะไปประหารเขาน่ะ ก็ต้องพิจารณาดูกลุ่มของมุสลิมเองด้วยว่า สนใจคนอื่นกันมากแค่ไหน ทำไมเขาถึงบอกว่าอิสลามถามไม่ได้ ห้ามถาม อันนี้เนี่ย จะไปโทษเขาอย่า่งเดียวก็ไม่ถูก

ผมยังจำได้จนทุกวันนี้ ผมชอบเรื่อง นบี ซอฮาบะฮ์ วันกิยามะฮฺ เรื่องมหัศจรรย์ต่างๆ พอไปถามผู้รู้เรื่องศาสนา ดันบอกมาว่า ทำไมไม่ถามเรื่องละหมาด ถามวิธีละหมาดให้สมบูรณ์

ตอนนั้นผมอยากจะตะโกนใส่หน้าจริงๆ ว่า กรูไม่อยากรู้เรื่องละหมาดครับในตอนนั้น กรูอยากรู้เรื่องนบี มันเสริมศรัทธา ฟังแล้วมันทำให้รู้สึกดีกับศาสนา ถ้าไม่รู้ไม่ต้องเสรื่อกตอบก็ได้ บอกมาว่าไม่รู้จะได้ไม่ถามอีก


มันเป็นเรื่องเหมือนจะเล็กน้อย แล้วผมเป็นเด็กไม่เอาไหม ไม่เอาถ่าน ไม่สนใจการละหมาด แต่บอกตรงๆ ว่าเรื่องนี้มันเป็นพื้นฐานของศรัทธา เด็กที่เรียน กุรอ่าน เรียนละหมาดที่มัสยิด มีกี่% ที่ละหมาดครบ 5 เวลา รักละหมาด สนใจละหมาด?

ก็เพราะสอนแต่เรื่องละหมาด แต่ไม่ได้ปูพื้นเรื่องศรัทธาไง

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ โชคดีที่คุณพ่อเล่าเรื่องศาสนาเหล่านี้ให้ฟัง คุณแม่ก็หาหนังสือเกี่ยวกับอิสลามมาให้อ่าน แล้วโตมาผมได้เจอกลุ่มสันติชน (กลุ่มอาจารย์บรรจง บินกาซัน ซึ่งตอนเด็กผมก็อ่านหนังสือของเขานี่แหละ) ในเน็ตนะ ผมถึงได้อ่านเรื่องเสริมศรัทธา เรื่องที่อ่านแล้วทำให้มีความสุขกับศาสนา เลยยังไม่ค่อยหลุดไปไหนมาก

นี่เป็นเรื่องที่มักถูกมองข้าม ถูกละเลยไป ทำให้เด็กหลายคนอาจจะมีปัญหาก็ได้

ผมอ่านเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงตัวเองสมัยเด็กขึ้นมาทันทีเลย จุดเล็กๆ มันนำมาซึ่งเรื่องใหญ่มากๆ ได้ เพราะความขี้เกียจจะตอบของ ผู้รู้บางคนมันอาจจะเป็น "สาเหตุ" ที่ส่งผลกับคนบางคนไปทั้งชีวิตก็ได้ ใครจะไปรู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 11, 2011, 12:31 PM โดย ActionMask »

ออฟไลน์ คนรู้น้อย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
 fouet: ยายโดนนักแน่ สำหรับผม ศาสนาอิสลามเท่านั้นเพราะ ผมชอบที่จะให้พระเจ้าคุ้มครอง ให้ความเมตตา ซึ่งก็คืออัลลอฮ์ฯ

และเป็นผู้เดียวเท่านั้น ผมไม่ชอบที่จะต้องไปเคารพคนนู้น คนนี้ ถึงจะได้การช่วยเหลือ  ผมชอบที่จะเคารพคนเดียว และสามารถ

ช่วยเหลือผมได้ทุกเรื่อง นี่สิ! ถึงเรียกของจริง


ออฟไลน์ iqwan

  • ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลเลาะฮ์ มุฮำมัดดุ้รร่อซูลุ้ลลอฮฺ
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 168
  • เพศ: ชาย
  • มาซาอั้ลลอฮฺ
  • Respect: +23
    • ดูรายละเอียด
จะไปประหารเขาน่ะ ก็ต้องพิจารณาดูกลุ่มของมุสลิมเองด้วยว่า สนใจคนอื่นกันมากแค่ไหน ทำไมเขาถึงบอกว่าอิสลามถามไม่ได้ ห้ามถาม อันนี้เนี่ย จะไปโทษเขาอย่า่งเดียวก็ไม่ถูก

ผมยังจำได้จนทุกวันนี้ ผมชอบเรื่อง นบี ซอฮาบะฮ์ วันกิยามะฮฺ เรื่องมหัศจรรย์ต่างๆ พอไปถามผู้รู้เรื่องศาสนา ดันบอกมาว่า ทำไมไม่ถามเรื่องละหมาด ถามวิธีละหมาดให้สมบูรณ์

ตอนนั้นผมอยากจะตะโกนใส่หน้าจริงๆ ว่า กรูไม่อยากรู้เรื่องละหมาดครับในตอนนั้น กรูอยากรู้เรื่องนบี มันเสริมศรัทธา ฟังแล้วมันทำให้รู้สึกดีกับศาสนา ถ้าไม่รู้ไม่ต้องเสรื่อกตอบก็ได้ บอกมาว่าไม่รู้จะได้ไม่ถามอีก


มันเป็นเรื่องเหมือนจะเล็กน้อย แล้วผมเป็นเด็กไม่เอาไหม ไม่เอาถ่าน ไม่สนใจการละหมาด แต่บอกตรงๆ ว่าเรื่องนี้มันเป็นพื้นฐานของศรัทธา เด็กที่เรียน กุรอ่าน เรียนละหมาดที่มัสยิด มีกี่% ที่ละหมาดครบ 5 เวลา รักละหมาด สนใจละหมาด?

ก็เพราะสอนแต่เรื่องละหมาด แต่ไม่ได้ปูพื้นเรื่องศรัทธาไง

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ โชคดีที่คุณพ่อเล่าเรื่องศาสนาเหล่านี้ให้ฟัง คุณแม่ก็หาหนังสือเกี่ยวกับอิสลามมาให้อ่าน แล้วโตมาผมได้เจอกลุ่มสันติชน (กลุ่มอาจารย์บรรจง บินกาซัน ซึ่งตอนเด็กผมก็อ่านหนังสือของเขานี่แหละ) ในเน็ตนะ ผมถึงได้อ่านเรื่องเสริมศรัทธา เรื่องที่อ่านแล้วทำให้มีความสุขกับศาสนา เลยยังไม่ค่อยหลุดไปไหนมาก

นี่เป็นเรื่องที่มักถูกมองข้าม ถูกละเลยไป ทำให้เด็กหลายคนอาจจะมีปัญหาก็ได้

ผมอ่านเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงตัวเองสมัยเด็กขึ้นมาทันทีเลย จุดเล็กๆ มันนำมาซึ่งเรื่องใหญ่มากๆ ได้ เพราะความขี้เกียจจะตอบของ ผู้รู้บางคนมันอาจจะเป็น "สาเหตุ" ที่ส่งผลกับคนบางคนไปทั้งชีวิตก็ได้ ใครจะไปรู้
:salam:นี่เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และควรเอาใจใส่ ดังที่ ActionMask โพสท์นั้น เมื่ออ่านผ่านๆก็เป็นแค่โพสท์ธรรมดาๆ แต่เมื่ออ่านแล้วตรึกตรอง
จะรู้ทันทีว่าปันหาเป็นเช่นนั้นจริงๆ ย่ะซากั้ลลอฮุคอยรอน คุณ ActionMask ขอพระองอั้ลเลาฮ์(ซ.บ.)รับดุอาของคุณ และของพี่น้องมุสลิมทุกคนครับ
อั้ลลามะอฺบูดุบิฮักกิ้ลฟิ้ลวุยู๊ดอิ้ลลั้ลลอฮฺ

ทุกๆปัญหา มีทางแก้...ถ้าแก้ไม่ได้ นั่นไม่ใช่ปัญหา
" Any Problem can Solve...if can't Solve
that not the Problem"

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
:salam:






....

แม้จะมีความรู้และศรัทธาในศาสนาอิสลาม
แต่ก็เก็บความสงสัยในคำสอนหลายเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้และไม่สามารถถามผู้รู้ได้
เนื่องจากเป็นข้อห้ามของศาสนา ต่อมาได้อ่านหนังสือ
...

อ้างอิง 

http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_26.html

            ท่านไปเรียนอีท่าไหนละครับ ถึงเชื่อว่า เรื่องศาสนาเค้าถามกันไม่ได้ ศาสนาห้าม มั่วแล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่าท่านเรียนศาสนาแบบไหนอะครับ เพราะศาสนาอิสลามสอนว่า จะเชื่ออะไรต้องมีหลักฐาน เมื่อไม่รู้ก็ต้องถาม แล้วให้ถามผู้รู้ ในอัลกุรฺอานและอัสสุนนะฮ์ก็ยืนยันเ่ช่นนี้ ยังจะดันมาบอกว่า ถามไม่ได้ ศาสนาห้าม เหอๆ วัลอิยาฑุบิลลาฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้เราและท่านอยู่ในแนวทางของอัลลอฮฺด้วยเทอญ และขอทรงป้องกันเราและท่านจากความหลงผิดทั้งมวล อามีน ยา ร็อบบัลอาละมีน ...
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Napat

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 201
  • "อย่าสิ้นหวังในความเมตตาของพระองค์"
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
ลาอิลาฮา อิลลัลลอฮฺ

แล้วบุคคลพวกนี้ไปไหนเสียนิ มีบิดามารดาเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความซื่อสัตย์
และความขยันหมั่นเพียร มีคุณปู่เป็นผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าม)


// ณ. มุมหนึ่ง ปลายนา หลังคามุงจาก //«اتَّقِ اللَّهَ حَيْثُمَا كُنْتَ، وَأَتْبِعِ السَّيِّئَةَ الْحَسَنَةَ تَمْحُهَا، وَخَالِقِ النَّاسَ بِخُلُقٍ حَسَنٍ»

ความว่า “ท่านจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม และจงตามหลังความชั่วด้วยการปฏิบัติความดีเพื่อลบล้างมัน(ความชั่ว) และจงคลุกคลีกับผู้คนทั้งหลายด้วยคุณลักษณะนิสัยที่ดีงาม”
บันทึกโดยอัตติรมิซีย์

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

ดร ท่านนี้มีเบอร์มือถือด้วยน่ะครับ ใครอยากถามเหตุผลลองโทรไปดู ท่านทิ้งเบอร์ไว้ในกูเกิล

 

GoogleTagged