นัฟเกาะห์ เป็นวายิบหรือไม่

[al-firdaus~*]

คือเขารับผิดชอบนะ และคนในครอบครัวก็ยินดีที่เขาจะรับผิดชอบเท่านี้
เท่านี้ของเขา อาจดูว่าน้อย  เผลอๆในสายตาของคนอื่น ดูเหมือนว่าไม่รับผิดชอบ

ก๊ะว่าสำคัญที่คนในครอบครัวต้องมีความตออัต  มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นกำลังใจให้กัน
โดยเฉพาะภรรยา สมควรที่จะต้องตออัตสามี เชื่อใจสามีว่าเขากำลังเสียสละ และตัวภรรยาก็ต้องเสียสละเช่นกัน
ที่สำคัญ  ทุกคนในครอบครัวต้องมีส่วนร่วมที่จะมีการพูดคุยกัน ปรึกษาหารือกัน ในยามที่จะออกทำงานศาสนา

อันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่อง ละทิ้งครอบครัวแบบไม่ดูดำดูดีนะคะ เพราะไม่เคยเจอก็เรยไม่ทราบ

[fathai4]

        ที่ผมเห็นมาเป็นส่วนมากคือ พี่น้องดะอฺวะนั้น ผู้เป็นสามีจะหารายได้คนเดียว เลี้ยงทั้งครอบครัว ส่งลูกเรียน รับส่งลูกจากบ้าน-มักตับ(โรงเรียนศาสนาระดับต้น)

เรียนจบสามัญชั้นประถม 6 แล้ว ส่งเข้าเป็นนักเรียนประจำในโรงเรียนที่สอนฮาฟิซ อาเหล่มที่มัรกัส จบแล้วก็ส่งไปเรียนเมืองนอก อาหรับ อินเดีย ปากี เซ้าท์อาฟริกา

ศรีลังกา ฯลฯ ลูกผู้หญิง เรียนในโรงเรียนที่สอนผู้หญิงของมัรกัส จบแล้วต่อที่ตัรบียะฮฺ บ้านป่า หรือโรงเรียนผู้หญิงของครูอาหลี ที่สงขลา หรือที่อื่นๆ ให้ความสำคัญกับการเรียนศาสนาของภรรยาและลูกมาก สละเพื่อการนี้เป็นอันมาก แล้วยังแบ่งเวลาให้กับการเยี่ยมพี่น้อง การละหมาดสุนัต การคิดมัด(การช่วยเหลือทุกด้านที่เป็นประโยชน์)ให้กับบาแล มัสยิดและมัรกัส เป็นอย่างนี้กันส่วนมากครับ สรุปว่าทำงานหนักกว่าคนทั่วไปเสียอีก จขกท.ช่วยแสดงหลักฐานด้วยครับ บีเฉินก็อย่าพูดลอยๆ รวมๆ ไร้หลักฐานนะครับ

[Sunni Partisan]

         หลักการของขบวนการดะวะห์ คือหลักการเดียวกันกับอิสลาม ขบวนการดะวะห์มีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูศาสนาและแบบอย่างของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม หาใช่ทำลายไม่ ดังนั้นสิ่งใดที่ศาสนาใช้ให้ปฏิบัติตาม ขบวนการดะวะห์ก็ย่อมใช้ให้ปฏิบัติตาม และสิ่งใดที่ศาสนาห้าม ขบวนการดะวะห์ก็ย่อมห้ามด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเอี๊ยะลานก่อนที่จะมีการบะยานว่า "ความสำเร็จของมนุษย์อยุ่ในศาสนา ใครก็ตามที่นำศาสนาไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เขาจะได้รับความสำเร็จทั้งโลกนี้และโลกหน้า" ได้ชี้ให้เห็นถึงหลักการของดะวะห์ที่จำต้องตั้งอยุ่บนพื้นฐานของศาสนา ดังนั้น เมื่อศาสนาได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนะฟะเกาะห์ ดะวะห์ก็ให้ความสำคัญกับนะฟะเกาะห์เช่นกัน


         ส่วนคำพูดที่ได้มีผู้หยิบยกมาข้างต้นนั้น ไม่ว่าจะมีคนดะวะห์พูดสิ่งนั้นจริงหรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ความคิด(ที่ผิด)ส่วนบุคคล ฉนั้น จะนำคำพูดของดะวะห์ท่านนั้นมาตัดสินว่า นี้เป็นเป็นหลักการของขบวนการดะวะห์ ย่อมมิได้เด็ดขาด


                                                                 วัลลอฮุอะลาวะอะลัมบิซซอวาบ

[Beechern]

คือเขารับผิดชอบนะ และคนในครอบครัวก็ยินดีที่เขาจะรับผิดชอบเท่านี้
เท่านี้ของเขา อาจดูว่าน้อย  เผลอๆในสายตาของคนอื่น ดูเหมือนว่าไม่รับผิดชอบ

ก๊ะว่าสำคัญที่คนในครอบครัวต้องมีความตออัต  มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นกำลังใจให้กัน
โดยเฉพาะภรรยา สมควรที่จะต้องตออัตสามี เชื่อใจสามีว่าเขากำลังเสียสละ และตัวภรรยาก็ต้องเสียสละเช่นกัน
ที่สำคัญ  ทุกคนในครอบครัวต้องมีส่วนร่วมที่จะมีการพูดคุยกัน ปรึกษาหารือกัน ในยามที่จะออกทำงานศาสนา

อันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่อง ละทิ้งครอบครัวแบบไม่ดูดำดูดีนะคะ เพราะไม่เคยเจอก็เรยไม่ทราบ

ผมก็ไม่ได้ว่าสักหน่อยว่าครอบครัวตออัตแล้วจะทำไม่ได้อะ ...
ท่านหญิงคอดีจะฮ์ก็เป็นแบบอย่างให้เห็นอยู่ ... 
แต่ปัญหาคือ ... จะมีสักกี่คนกัน ...?

[Beechern]

ที่สำคัญ .... อย่ามองข้ามประเด็นความรับผิดชอบของผู้ชายสิครับ ..... มันเป็นความจริงอะครับ ... อิสลามเรา ให้ยอมรับความจริงนี่ครับ ....

[ActionMask]

ปัญหาคงอยู่ที่คนพูดน่ะแหละ

ผมไม่รู้ว่าทำไมบางคนถึงกระหายอยากให้คนอื่นออกกันจริงจัง แล้วในความกระหายนั้น ก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นไปด้วยความห่วงใย แต่แค่อยากทำตามระบบ หรือทำตามเป้าในการให้คนออกเยอะๆ เท่านั้น

ผมชอบนะคุยกับดาวะห์ เพราะยังไงเขาก็มาเรื่องศาสนา มีความสุขที่ได้คุยด้วย

แต่เวลาชวนออก น้อยคนที่ทำให้รับรู้ได้ว่าออกไปแล้วดี ส่วนใหญ่ เขาแค่อยากให้ออกไปเท่านั้น ออกไปทำไม ออกไปแล้วดียังไง ห่วงใยมากเลยอยากให้ออกนั้น ผมไม่รู้สึกว่าเขาหวังดี หรือห่วงใยจริงจัง รู้สึกแต่ว่า เขาพยายามหว่านล้อมให้ออกเท่านั้นเอง

ตรงนี้แหละตครับ ทำให้เกิดแรงต้าน ยิ่งอาจจะเลยเถิดไปจนถึงกับว่าๆ คนที่ไม่ออกว่า ไม่รักศาสนา เห็นดุนยาสำคัญ ไปนั่นเลย

ผมยังสงสัย ทำให้อยากให้ออกขนาดนั้น วาญิบก็ไม่ใช่ แต่พูดซะยังกับไม่ออกไม่ได้แบบนั้น

[ActionMask]

แต่ถึงขั้นที่ เจ้าของกระทู้ยกมานี่ ยังไม่เคยเจอแรงแบบนั้น

เจอแต่ว่า ถึงเวลาออกเขาเน้นให้ออก ไม่ว่าจะมีภาระอะไรก็ให้ออก พยายามตัด ซึ่งผมก้ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพยายามออกขนาดนั้นให้ตรงตามเวลา ซึ่งมันนอาจจะเป็นแนวคิดของพวกเขาก็ได้ ผมเองคงไม่คิดแบบนั้น

เรื่องของใครก็ของคนนั้นแล้วกัน เนอะ

เพราะจากที่ไ้ด้คุย ทั้งคนดาวะห์ในตัวจังหวัด หรือดาวะห์ระดับอาวุโส ทำให้รับรู้ว่า มีอีกหลายอย่างในนั้น บางครั้งเราอาจจะเข้าใจผิด บางครั้งเราอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ดาวะห์ที่เราเจอไม่ใช่คนส่วนใหญ่ หรืออาจจะไม่ใช่คนทั้งหมดของระบบ

เท่าที่ทราบ ดาวะห์เป็นกลุ่มหนึ่งที่ ผู้รู้ ได้วางระบบไว้ เพื่อพยายามให้เข้าถึงเป้าหมายทางศาสนามากที่สุด โดยเอาหลักศาสนาเป็นสำคัญ เป็นการหารือโดยผู้รู้ อุลามะห์ ไม่ใช่คิดเอง เออเองเล่นๆ ผมจึงไม่ได้ต่อต้านอะไร คิดว่าพวกเขาก็พยายามเพื่อศาสนาเหมือนกันไม่ได้มีเจตนาร้าย



การบายานที่เล่ามา คงเป็นจากตัวของคนบายานเองมากกว่ามังครับ หลักการของดาวะห์คงไม่ใช่แบบนั้น

[Beechern]

นะ .... กระทู้นี้ .... ผมติดลบกระจุยกระจาย  ....
แม้กระทั่งที่บอกว่า ท่านหญิงคอดีจะฮ์เป็นแบบอย่างที่ดีในการตออัตต่อสามี
สนับสนุนท่านศาสดาในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของนางที่มี ยังติดลบ
ก็ ... ทัศนคติของคนที่กดลบไป คิดเอาเอง  

คนที่ทำดีอยู่แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ... นี่เรากำลังพูดถึงหัวข้อของกระทู้อยู่ไม่ใช่รึ?
พวกแนวคิดละทิ้งลูกเมีย ขายทรัพย์สมบัติทิ้งหมด .. ชีวิตนี้ออกดะวะอฺอย่างเดียว... ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยรึ?

แต่ผมยังอยากให้ดูเนื้อหาในฮิกัมให้ดีๆ ... เอาคำแนะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์สิครับ ..
อย่าทำให้ความรู้นั้นไร้ประโยชน์กับตัวเองเลย

[Beechern]

Ilham อยู่ใหนเนี่ย ... โผล่หัวมาหน่อยเดะ .... ไม่มีคู่หูเล้ยย ....   

[al-firdaus~*]

Ilham อยู่ใหนเนี่ย ... โผล่หัวมาหน่อยเดะ .... ไม่มีคู่หูเล้ยย ....   

โอ๋ๆๆๆๆๆ  ^^

[al-firdaus~*]

นะ .... กระทู้นี้ .... ผมติดลบกระจุยกระจาย  ....
แม้กระทั่งที่บอกว่า ท่านหญิงคอดีจะฮ์เป็นแบบอย่างที่ดีในการตออัตต่อสามี
สนับสนุนท่านศาสดาในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของนางที่มี ยังติดลบ
ก็ ... ทัศนคติของคนที่กดลบไป คิดเอาเอง 

คนที่ทำดีอยู่แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ... นี่เรากำลังพูดถึงหัวข้อของกระทู้อยู่ไม่ใช่รึ?
พวกแนวคิดละทิ้งลูกเมีย ขายทรัพย์สมบัติทิ้งหมด .. ชีวิตนี้ออกดะวะอฺอย่างเดียว... ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยรึ?

แต่ผมยังอยากให้ดูเนื้อหาในฮิกัมให้ดีๆ ... เอาคำแนะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์สิครับ ..
อย่าทำให้ความรู้นั้นไร้ประโยชน์กับตัวเองเลย

บางทีเรื่องเดียวกัน แต่เราเสวนาแตกยอด  ก็เรยทำให้ต่างคนต่างมองกันคนละมุม จิงป่าว?^^

[Beechern]

นะ .... จิง ... เพราะคนเรามันไม่สมบูรณ์แบบไง ^^

[fathai4]

ปัญหาคงอยู่ที่คนพูดน่ะแหละ

ผมไม่รู้ว่าทำไมบางคนถึงกระหายอยากให้คนอื่นออกกันจริงจัง แล้วในความกระหายนั้น ก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นไปด้วยความห่วงใย แต่แค่อยากทำตามระบบ หรือทำตามเป้าในการให้คนออกเยอะๆ เท่านั้น

ผมชอบนะคุยกับดาวะห์ เพราะยังไงเขาก็มาเรื่องศาสนา มีความสุขที่ได้คุยด้วย

แต่เวลาชวนออก น้อยคนที่ทำให้รับรู้ได้ว่าออกไปแล้วดี ส่วนใหญ่ เขาแค่อยากให้ออกไปเท่านั้น ออกไปทำไม ออกไปแล้วดียังไง ห่วงใยมากเลยอยากให้ออกนั้น ผมไม่รู้สึกว่าเขาหวังดี หรือห่วงใยจริงจัง รู้สึกแต่ว่า เขาพยายามหว่านล้อมให้ออกเท่านั้นเอง

ตรงนี้แหละตครับ ทำให้เกิดแรงต้าน ยิ่งอาจจะเลยเถิดไปจนถึงกับว่าๆ คนที่ไม่ออกว่า ไม่รักศาสนา เห็นดุนยาสำคัญ ไปนั่นเลย

ผมยังสงสัย ทำให้อยากให้ออกขนาดนั้น วาญิบก็ไม่ใช่ แต่พูดซะยังกับไม่ออกไม่ได้แบบนั้น
 ------------------------------------------------------------------------       
       เขาคงบอกคุณแล้ว แต่คุณไม่เก็ต ออกไปเพื่อสละให้กับศาสนา เพื่อปรับปรุงอีหม่านและอาม้าลของเราเองซึ่งจะมีผลไปถึงครอบครัว

และอุมมะฮฺทั่วโลก คำตอบต่อคำถามคาใจมันจะชัดเจนเองถ้าได้ออก คนที่ได้ออกแล้ว มีประสบการณ์แล้วเขารู้กันอย่างนี้ครับ อย่าหา

เหตุผลที่จะไม่ออกต่อไปเลยครับ

[fathai4]

 

คนที่ทำดีอยู่แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ... นี่เรากำลังพูดถึงหัวข้อของกระทู้อยู่ไม่ใช่รึ?
พวกแนวคิดละทิ้งลูกเมีย ขายทรัพย์สมบัติทิ้งหมด .. ชีวิตนี้ออกดะวะอฺอย่างเดียว... ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยรึ?

------------------------------------------------------------------------------------
 บีเฉินกำลังโกหกใส่พี่น้องดะอ.วะทั้งโลกอยู่นะครับ ผมไม่เคยพบว่ามีใครที่ในอุมมะฮฺดะอฺวะตับลีฆเป็นพวกแนวคิดละทิ้งลูกเมีย ขายทรัพย์สมบัติทิ้ง

หมด .. ชีวิตนี้ออกดะวะอฺอย่างเดียว คำพูดของบีเฉินเป็นการโกหกอย่างน่าละอาย แต่คงไม่รู้ตัวว่ากำลังโกหก

[ActionMask]

ประเด็นคือมันไม่ใช่ วาิญิบ มันไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่เน้นซะ ยังกับถ้าไม่ทำไม่ได้ ผมไม่หาเหตุผลไม่ออกหรอกนะครับ เพราะถ้าผมไม่อยากออก ขี้เกียจออก ผมก็ไม่ออก ไม่ใช่ว่า มาชวนแล้วผมต้องหาเหตุไม่ออก การออกไม่ใช่ ไปทำฮัจญ์ถึงต้องหาเหตุผล

แล้วที่ออกก็เหมือนกันถ้าจะไป ผมคงไปเพราะ ไปปฏิบัติศาสนามากกว่า

ส่วนคำตอบจะชัดเจนเองถ้าได้ออก ผมคงบอกได้ว่า มีคนเคยชวนผมก็เคยไป ก็ไม่มีอะไรนะครับ ดีที่ได้ปฏิบัติศาสนา ได้อยู่ในมัสยิด ทบทวน ฝึกในสิ่งที่ไม่ได้ทำ แต่ถ้าเป็นการปรับปรุงอีหม่านไหม? คิดว่ายังไม่ใช่คำตอบครับ ยังไม่ประทับใจขนาดนั้น

แต่ที่พูดคือ ผู้ที่บายาน อย่างที่เจ้าของกระทู้นี่แหละครับ กำลังพูดเกินกว่าที่ศาสนาอนุญาตหรือเปล่า? ปัญหานี้ กลุ่มดา่วะห์จะแก้ไขอย่างไร ในการบายานที่เกินขอบเขตแบบนี้? หรือว่าสอนกันแบบนี้จริง? เพราะผมเองก็ฟังบายานบ่อยๆ เรียกได้ว่าฟังตลอด ก็ยังไม่เคยเจอบายานให้ทิ้งทุกอย่างเพื่อออก

ที่เคยคือเมื่อถึงเวลาแล้วต้องออก มีปัญหายังไงก็ต้องออก ประมาณนั้นมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ก็คงไม่ต่อต้านหรือไม่ทัดทานคนจะออก เพราะคงจะคนละแนวคิดกัน