บัง ยังไงR1 R2 R3
โปรดดูกระทู้แรกสุดของหัวข้อนี้
เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)
สูเราะฮฺ อัลอะหฺกอฟ อายะฮฺที่ 21 - 25คำอ่าน21. วัซกุรฺอะคออาด อิซอัน..ซะเราะก็อวมะฮู บิลอะหฺกอฟิ วะก็อดเคาะละติน..นุซุรุ มิม..บัยนิยะดัยฮิ วะมินค็อลฟิฮี ..อัลลาตะอฺบุดู..อิลลัลลอฮฺ อิน..นี..อะคอฟุ อะลัยกุม อะซาบะเยามิน อะซีม
22. กอลู..อะญิอ์ตะนา ลิตะอ์ฟิกะนา อันอาลิฮะตินา ฟะอ์ตินาบิมา ตะอิดุนา..อิน..กุน..ตะ มินัศศอดิกีน
23. กอละอิน..นะมัลอิลมุอิน..ดัลลอฮฺ วะอุบัลลิฆุกุม..มาอุรฺสิลตุบิฮี วะลากิน..นี..อะรอกุม ก็อวมัน...ตัจญฮะลูน
24. ฟะลัม..มาเราะเอาฮุ อาร็อม..มุสตักบิละ เอาดิยะติฮิม กอลูฮาซาอาริฎุม..มุมฏิรุนา บัลฮุวะมัสตะอฺญัลตุม..บิฮฺ รีหุน..ฟีฮา อะซาบุนอะลีม
25. ตุดัม..มิรุ กุลละชัยอิม..บิอัมริ ร็อบบิฮา ฟะอัศบะหู ลายุรอ..อิลลามะสากินุฮุม กะซาลิกะ นัจญซิลก็อวมัลมุจญริมีนคำแปล R1.21. And remember (Hud) the brother of 'Ad, when he warned his people in Al-Ahqaf (the curved sand-hills in the southern part of Arabian Peninsula). And surely, there have passed away warners before him and after him (saying): "Worship none but Allah; Truly, I fear for you the torment of a mighty Day."
22. They said: "Have you come to turn us away from our Aliha (gods)? Then bring us that with which you threaten us, if you are one of the truthful!"
23. He said: "The knowledge (of the time of its coming) is with Allah only, and I convey to you that wherewith I have been sent, but I see that you are a people given to ignorance!"
24. Then, when they saw it as a dense cloud coming towards their valleys, they said: "This is a cloud bringing us rain!" Nay, but it is that (torment) which you were asking to be hastened! a wind wherein is a painful torment!
25. Destroying everything by the command of its Lord! So they became such that nothing could be seen except their dwellings! Thus do we recompense the people who are Mujrimun (polytheists, disbelievers, sinners, etc.)!คำแปล R2.21. และเจ้าจงระลึกถึง (นบีฮู๊ดผู้เป็น) วงศ์ญาติของพวกอ๊าด เมื่อเขาได้ทำการตักเตือนกลุ่มชนของเขาที่ (อาศัยอยู่ในแผ่นดิน) “อัลอะฮฺกอฟ. และได้มีบรรดาศาสดา ผู้ตักเตือนล่วงพ้นมาก่อนหน้าเขา และหลังจากเขา (มาตักเตือนว่า) ท่านทั้งหลายอย่าได้นมัสการสิ่งใด นอกจากอัลเลาะฮฺแท้จริงฉันกลัวการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่จะประสบแก่พวกท่าน”
22. พวกเขากล่าว (โต้นบีฮู๊ด) ว่า “ท่านมาหาพวกเพื่อจะได้หันเหเราจากพระเจ้าของเรากระนั้นหรือ? ท่านจงนำ (การลงโทษ) ที่ท่านสัญญาแก่เราไว้ (ว่าจะประสพแก่เรามาให้ปรากฏสิ) หากท่านเป็นผู้หนึ่งในจำนวนผู้สัตย์จริง
23. นบีฮู๊ดกล่าวตอบพวกเขาว่า “อันที่จริงความรู้ (เกี่ยวกับกำหนดของการลงโทษและอื่นนั้น ๆ) เป็นของอัลเลาะฮฺ และฉันเพียงแต่เผยแพร่สิ่งที่ฉันได้ถูกส่งตัวมา (ให้ทำการเผยแพร่เท่านั้น) แต่ฉันเห็นว่าพวกท่านนั้นเป็นกลุ่มชนที่โง่เขลา (จึงไม่ยอมรับคำประกาศของฉัน)
24. ต่อมาเมื่อพวกนั้นเห็นการลงโทษได้ลงมาเป็นเมฆแผ่กว้าง ซึ่งมุ่งตรงมายังหุบเขา (ที่อยู่) ของพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า “นี่เป็นเค้าเมฆที่จะให้ฝนแก่พวกเรา” มิใช่หรอ! ความจริงมันคือการลงโทษที่พวกเจ้าของเร่งให้มันอุบัติขึ้นเร็ว ๆ ต่างหาก มันคือลมซึ่งในนั้น คือการลงโทษอันทรมานยิ่ง
25. มันเป็นลมที่จะทำลายทุก ๆ สิ่งให้วอดวาย โดยพระบัญชาแห่งองค์อภิบาลของมัน แล้วพวกเขาก็มีสภาพ (ถูกทำลายล้างจน) มองไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจากบ้านเรือนของพวกเขาเท่านั้น เช่นนั้น! เราตอบแทนแก่กลุ่มชนที่ทำบาป คำแปล R3.21. และจงบอกกล่าวให้เขาได้รู้ถึงเรื่องราวพี่น้องคนหนึ่งของพวกอ๊าด (นั่นคือฮูด) เมื่อเขาได้เตือนผู้คนของเขาที่อัลอะฮฺกอฟ และผู้ตักเตือนเช่นนั้นก็ได้มีมาก่อนและหลังจากเขาโดยกล่าวว่า “พวกท่านจงอย่าเคารพสักการะสิ่งใดอื่นนอกไปจากอัลลอฮฺ เพราะฉันกลัวแทนพวกท่านถึงการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่”
22. พวกเขากล่าวว่า “ท่านมาหาเราเพื่อให้เราหันห่างออกจากพระเจ้าทั้งหลายของเรากระนั้นหรือ? เอาละ ถ้าเช่นนั้นจงนำการลงโทษที่ท่านขู่ไว้มาซิถ้าท่านพูดจริง”
23. เขากล่าวว่า “ความรู้เรื่องนี้อยู่ที่อัลลอฮฺ ฉันเพียงแต่บอกพวกท่านตามที่ฉันได้ถูกส่งมา แต่ฉันเห็นว่าพวกท่านเป็นหมู่ชนที่งมงาย”
24. ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเมฆดำเคลื่อนมายังหุบเขา พวกเขาก็กล่าวว่า “นี่คือเมฆที่กำลังจะนำฝนมาให้เรา” เปล่าเลย แต่นี่เป็นสิ่งที่สูเจ้าเร่งเร้าที่จะให้เกิดต่างหาก นี่คือลมพายุที่กำลังนำการลงโทษอันเจ็บปวดมา
25. มันจะทำลายทุกสิ่งตามคำบัญชาของพระผู้อภิบาลของมัน หลังจากนั้นก็จะไม่มีอะไรหลงเหลือให้เห็นนอกไปจากสถานที่พักอันว่างเปล่าของพวกเขา นั่นแหละที่เราตอบแทนผู้ทำความผิดคำแปล R4.21. จงรำลึกถึง (ฮูด) พี่น้องคนหนึ่งของพวกอ๊าด ขณะที่เขากล่าวเตือนหมู่ชนของเขาที่เนินเขาอัลอะฮิก๊อฟ และแน่นอน บรรดาผู้ตักเตือน (ร่อซูล) ก่อนหน้าเขาและภายหลังเขา (ได้กล่าวตักเตือนว่า) พวกท่านอย่าเคารพอิบาดะฮฺผู้ใดนอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงฉันกลัวแทนพวกท่านถึงการลงโทษแห่งวันอันยิ่งใหญ่
22. พวกเขากล่าวว่า ท่านมาหาพวกเราเพื่อจะหันห่างพวกเรา จากการเคารพสักการะพระเจ้าทั้งหลายของเรากระนั้นหรือ ? ดังนั้นจงนำ (การลงโทษ) ตามที่ท่านได้สัญญากับเราไว้ หากท่านอยู่ในหมู่ผู้สัตย์จริง
23. เขา (ฮูด) กล่าวว่า แท้จริงความรู้ (เรื่องการลงโทษ) นั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ และฉันขอประกาศแก่พวกท่านตามที่ฉันได้ถูกส่งมาเพื่อการนี้ แต่ฉันเห็นว่าพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้งมงาย
24. ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเมฆทึบเคลื่อนมายังที่ราบลุ่มในหมู่บ้านของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า นี่คือเมฆที่จะให้น้ำฝนแก่เรา เปล่าเลยมันคือสิ่งที่พวกเจ้าเร่งขอให้เกิด มันคือลมพายุ ในนั้นมีการลงโทษอันเจ็บปวด
25. มันจะทำลายทุกสิ่งตามพระบัญชาของพระเจ้าของมันแล้วพวกเขาก็กลายเป็นไม่มี อะไรให้แลเห็นนอกจากบ้านพักอาศัยของพวกเขาเท่านั้น เช่นนี้แหละเราจะตอบแทนหมู่ชนผู้กระทำผิดคำแปล R5.๒๑. และเจ้าจงระลึกเถิด โอ้มุฮำมัดถึงนบีฮูด ผู้เป็นพี่น้องแห่งประชาชาติอ๊าด เมื่อเขาได้ประกาศเตือนพวกพ้องของเขาขณะที่พวกนั้นอยู่ที่ทุ่งอัลอะห์ก็อฟอันเป็นสถานที่หนึ่งในเมืองยะมัน และความจริงบรรดาศาสนทูตผู้ตักเตือนได้ผ่านพ้นไปก่อนหน้าเขาและหลังจากเขาเป็นจำนวนมาก โดยเขาประกาศแก่พวกของเขาว่า พวกท่านอย่านมัสการผู้ใดทั้งสิ้นนอกจากอัลเลาะห์ เพราะแท้จริงฉันกลัวว่าพวกท่านจะประสบการลงโทษในวันปรภพอันยิ่งใหญ่ หากพวกท่านนมัสการสิ่งอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์
๒๒. พวกเขากล่าวโต้แย้งนบีฮู๊ดว่า นี่ท่านมาหาพวกเราเพื่อจะบ่ายเบนพวกเราออกจากพระเจ้าต่าง ๆ ของพวกเรากระนั้นหรือ ดังนั้นท่านจงนำมาให้เราได้เห็นประจักษ์ชัด ซึ่งสิ่งที่ท่านได้สัญญาคาดโทษไว้แก่เราว่าจะประสบสิ่งนั้นหากพวกเราไม่ศรัทธา ข้อสัญญาคาดโทษนั้นก็คือการต้องรับโทษจากอัลเลาะห์ เนื่องเพราะการนมัสการสิ่งอื่น ๆ หากท่านเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้มีความจริงในคำประกาศ
๒๓. นบีฮู๊ดเขากล่าวว่า อันที่จริงความรู้เกี่ยวกับการลงโทษดังกล่าวไว้นั้นอยู่ที่อัลเลาะห์ สุดแต่พระองค์จะทรงกำหนดลักษณะและระยะเวลาในการลงโทษดังกล่าว และตัวฉันนี้มีหน้าที่เพียงทำการเผยแพร่สิ่งที่ฉันถูกสื่อให้เท่านั้นเอง และแต่ทว่าฉันเห็นพวกท่านเป็นกลุ่มที่โฉดเขลาดื้อรั้นเป็นอย่างยิ่ง คงไม่นานหรอกพวกท่านจะต้องถูกลงโทษแน่ ๆ
๒๔. ต่อมาเมื่อพวกเขาเห็นโทษนั้นเป็นก้อนเมฆทมึนกำลังมุ่งมายังทุ่งที่อยู่ของพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่านี้เป็นก้อนเมฆที่จะหลั่งน้ำฝนแก่เรา แต่ความเป็นจริงมันนั้นคือโทษที่พวกเจ้าเร่งเร้านั่นเอง หาใช่ก้อนเมฆที่จะให้ฝนธรรมดาไม่ มันเป็นลมที่มีโทษอันทรมานอยู่ในนั้น
๒๕. มันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้วินาศย่อยยับโดยคำบัญชาแห่งพระผู้อภิบาลของมัน จากนั้นลมพายุดังกล่าวก็กระหน่ำพวกเขา ทำลายชีวิตของทุกคนไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงหรือเด็ก ๆ ก็ตาม มันหอบเอาตัวคนขึ้นไปบนอากาศและเนื้อตัวของพวกเขาก็ถูกแรงหมุนของลมฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตายหมดเหลืออยู่เพียงนบีฮู๊ดกับฝ่ายศรัทธาชนจำนวนสี่พันคนเท่านั้น ดังนั้นสภาพของพวกเขาจึงกลับกลายจากที่อยู่กันเป็นหมู่ชนอันหนาแน่นมาอยู่ในสภาพซึ่งมองไม่เห็นอะไรเลยเมื่อผ่านเมืองของพวกเขานอกจากที่อยู่อาศัยของพวกเขาเท่านั้นซึ่งกลายไปเป็นเมืองร้างไปโดยฉับพลันเพราะการลงโทษดังกล่าว เช่นนี้แหละที่เราจะตอบแทนกลุ่มทรชนทั้งหลาย