ขอปรึกษาพี่น้องที่นี่หน่อยครับเรื่องการศึกษาต่อมหาวิทยาลัยหน่อย

[hiddenmin]

แล้วก็ยังมีพี่น้องเราที่อยากจะเรียนจบเร็วๆ เหมือนกัน

[ฮุ้นปวยเอี๊ยง]

เรียนมหาลัยไหนก็ได้ให้ละหมาดถูกก็พอ ขนาดแค่ฟาติหะห์อ่านเน้น 18 ที่ ฉันก็ไปไม่ไหวล่ะ ^^
นั่งตะชะึฮุดอีก TT

[al-firdaus~*]

หลากหลายความคิดจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีประสบการณ์นะคะ นับว่าดีมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว หากมีลูกมีหลาน อยากส่งให้เรียนศาสนา เรียนอัลกุรอาน ท่องจำอัลกุรอาน
เพราะเล็งเห็นว่า ณ สังคมละแวกบ้านในปัจจุบัน  อิหม่านลูกหลานเราถูกต้มพร้อมใบท่อมมึนเมาเกินเยียวยา
หมดจากโต๊ะอิหม่านชุดนี้แล้ว  ภายภาคหน้าไม่รู้หมู่บ้านจะอยุ่กันอย่างไร เพราะหาโต๊ะอิหม่านยากเหลือเกิน
คนปัจจุบันแสวงหาดุนยาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่แข็งขันในอาคิเราะฮ์
เราจะไม่รอช้า ต้องรีบส่งลูกส่งหลานเรียนศาสนา หากไม่สามารถ  การปลูกฝังอิหม่านให้แก่พวกเขาจะ้เป็นเกราะป้องกัน แม้จะอยู่หรือเรียนในที่ใดก็ตาม

นิไม่ค่อยเล่นเท่าไร แต่ทักเมื่อไร นิตอบได้ทันที

อย่างกับว่า นิอัพเดททั้งวันแน่ะ ไม่จร๊งไม่จริงค่ะ !!!

[คนรู้น้อย]

หลากหลายความคิดจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีประสบการณ์นะคะ นับว่าดีมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว หากมีลูกมีหลาน อยากส่งให้เรียนศาสนา เรียนอัลกุรอาน ท่องจำอัลกุรอาน
เพราะเล็งเห็นว่า ณ สังคมละแวกบ้านในปัจจุบัน  อิหม่านลูกหลานเราถูกต้มพร้อมใบท่อมมึนเมาเกินเยียวยา
หมดจากโต๊ะอิหม่านชุดนี้แล้ว  ภายภาคหน้าไม่รู้หมู่บ้านจะอยุ่กันอย่างไร เพราะหาโต๊ะอิหม่านยากเหลือเกิน
คนปัจจุบันแสวงหาดุนยาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่แข็งขันในอาคิเราะฮ์
เราจะไม่รอช้า ต้องรีบส่งลูกส่งหลานเรียนศาสนา หากไม่สามารถ  การปลูกฝังอิหม่านให้แก่พวกเขาจะ้เป็นเกราะป้องกัน แม้จะอยู่หรือเรียนในที่ใดก็ตาม

นิไม่ค่อยเล่นเท่าไร แต่ทักเมื่อไร นิตอบได้ทันที

อย่างกับว่า นิอัพเดททั้งวันแน่ะ ไม่จร๊งไม่จริงค่ะ !!!

จริงอย่างที่ นิว่าเลยครับปัจจุบันแย่จริงๆแต่ที่ดีก็มีนะแต่น้อย ผมเองก็ไม่ดีนะเมื่อก่อนไม่ค่อยละหมาดเลยเล่นแต่เกมส์ ^^ เดี่ยวนี้ปรับปรุงตัวเองแล้ว มองไปในอดีตขาดทุนย่อยยับเลยเรา

ตัวผมตอนนี้ก็อยากเรียนศาสนานะแต่ไม่ทันแล้วละมั้ง เป็นคนไม่ฉลาดหลักแหลม กลัวจะเรียนแล้วเอาไปสอนคนอื่นผิดได้จะเกิดโทษเอาได้ ก็หวังว่าในอนาคตจะมีโต๊ะอีหม่ามที่ดีเยอะๆ

[คนรู้น้อย]

เรียนมหาลัยไหนก็ได้ให้ละหมาดถูกก็พอ ขนาดแค่ฟาติหะห์อ่านเน้น 18 ที่ ฉันก็ไปไม่ไหวล่ะ ^^
นั่งตะชะึฮุดอีก TT

เหอะๆ ผมไปเรียนบ้านสมเด็จก็คิดว่าดีแล้วละ คงเป็นพระประสงค์ของพระองค์ ผมได้อยู่ใกล้ชิดกับสังคมมุสลิมแถมมีมัสยิดอีก ว่างๆก่อนเรียนจะได้ไปละหมาดได้ ^^ แหล่มมากๆ

[Al Fatoni]

ใครที่คิดว่าตัวเองชอบคล้อยตามกระแส ประมาณว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือไม่เป็น ก็อยากให้เลือกที่เรียนดีๆ นะครับ เพราะมันจะมีผลต่อตัวคุณโดยตรง และอาจส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตคุณได้

        ในทางกลับกัน หากคิดว่าควบคุมตัวเองได้ คนแบบนี้ เรียนไปเหอะครับที่ไหน เขาก็อยู่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะรอดจะเสมอไป เพราะปัจจุบันหากยากนักที่จะไม่คล้อยตามสังคม ยิ่งอยู่ในสังคมที่มีสิ่งยั่วยุเยอะซะด้วย อันนี้ก็ขอให้ตระหนักในการเลือกที่เรียนด้วยนะครับ ไม่อยากให้เป็นเหมือนเพื่อนๆ ของผมหลายๆ คน ที่ก่อนเข้ากับตอนจบมหาลัย เป็นคนละคนเลย แต่น่าเสียใจที่ว่า คนละคนในทางที่แย่ลง วัลอิยาฑุบิลลาฮฺ ...

[tatcha_jah ~♪]

พี่เองก็เคยผ่านความคิดแบบน้องมานะ...
"โอ๊ย..เรียนสาขานี้..คณะนี้จบมาจะมีงานทำหรือป่าวนะ"

พี่จะบอกว่า...เมื่อน้องเลือกแล้ว...ก็เต็มที่กับมันนะค่ะ...สู้ๆ
จบมาแล้วจะหางานได้ไม่ได้อย่าไปกลัว...เรามีดุอาเป็นอาวุธ
ดุอากันอีกที...เรามีพระองค์...จะกลัวอะไร...สู้ๆ  fighting!!! >_<

[คนรู้น้อย]

ใครที่คิดว่าตัวเองชอบคล้อยตามกระแส ประมาณว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือไม่เป็น ก็อยากให้เลือกที่เรียนดีๆ นะครับ เพราะมันจะมีผลต่อตัวคุณโดยตรง และอาจส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตคุณได้

        ในทางกลับกัน หากคิดว่าควบคุมตัวเองได้ คนแบบนี้ เรียนไปเหอะครับที่ไหน เขาก็อยู่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะรอดจะเสมอไป เพราะปัจจุบันหากยากนักที่จะไม่คล้อยตามสังคม ยิ่งอยู่ในสังคมที่มีสิ่งยั่วยุเยอะซะด้วย อันนี้ก็ขอให้ตระหนักในการเลือกที่เรียนด้วยนะครับ ไม่อยากให้เป็นเหมือนเพื่อนๆ ของผมหลายๆ คน ที่ก่อนเข้ากับตอนจบมหาลัย เป็นคนละคนเลย แต่น่าเสียใจที่ว่า คนละคนในทางที่แย่ลง วัลอิยาฑุบิลลาฮฺ ...

ผมก็กลัวนะ ก็ดุอาอ์กับอัลลอฮตลอด ในอดีตเล่นแต่เกมส์แค่นี้ขาดทุนย่อยยับแล้ว แล้วก็นับวันสัญญากียามัตก็เยอะเหลือเกิน กลัวความดีไม่พอ

[คนรู้น้อย]

พี่เองก็เคยผ่านความคิดแบบน้องมานะ...
"โอ๊ย..เรียนสาขานี้..คณะนี้จบมาจะมีงานทำหรือป่าวนะ"

พี่จะบอกว่า...เมื่อน้องเลือกแล้ว...ก็เต็มที่กับมันนะค่ะ...สู้ๆ
จบมาแล้วจะหางานได้ไม่ได้อย่าไปกลัว...เรามีดุอาเป็นอาวุธ
ดุอากันอีกที...เรามีพระองค์...จะกลัวอะไร...สู้ๆ  fighting!!! >_<

ใช่เลยครับ เรามีพระองค์ ผมเลยไม่กลัวที่จะเรียนที่นี่ ^^

[al-firdaus~*]

 

ยาซากัลลอฮอุค็อยร็อน สำหรับทุกความคิดเห็นครับ

ผมตัดสินใจแล้วครับ เรียนแบบเดิมแหละ เพราะผมได้เนียตไปแล้วต้องแน่วแน่ อย่าลังเล ที่เหลือมอบหมายต่ออัลลอฮครับ

หากพิจารณาถึงความรู้ในแง่ของความเลื่อมล้ำ โดยคำนึงถึงความต้องการที่ไม่เท่าเทียมกันนั้น ท่านจะพบว่า วิชาการทางโลก เช่น แพทย์ศาสตร์ วิศวะ และวิชาเกี่ยวกับอุตสาหะกรรม เป็นต้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าวิชาการศาสนาบางส่วนตามมาตรฐานของศาสนา ดังกล่าวเช่น ในเมือง ๆ หนึ่ง มีผู้คนมากมายที่มีความชำนาญในวิชาการศาสนา แต่ไม่มีจำนวนที่เพียงพอ จากผู้มีความชำนาญในด้านวิชาการทางโลก

ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า ?วิชาการศาสนา? ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของวิชาการที่เฉพาะเจาะจงในตัวของมัน เพราะบางครั้ง วิชาการทางโลกที่พวกกาเฟรหรือพวกปฏิเสธมีความเจริญก้าวหน้ายิ่งกว่านั้น ซึ่งในบางสภาวการณ์มันอาจจะผนวกเข้าไปร่วมอยู่ในวิชาการของศาสนา คือ เป็นวิชาการที่อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ทรงบัญญัติใช้ให้บ่าวของพระองค์ทำการศึกษา และบางครั้งวิชาการหนึ่งที่ดูอย่างผิวเผินแล้ว เป็นวิชาการทางศาสนา แต่มีสาเหตุหนึ่งที่มาทำให้มันเข้าไปอยู่ในประเภทของวิชาการของดุนยา

ท่านอิมาม อัลฆอซาลีย์ ได้อธิบายไว้ว่า ?เท่าไหร่แล้ว ที่เมือง ๆ หนึ่ง ไม่มีนักการแพทย์สักคนเดียว นอกจากผู้ไม่ใช่มุสลิมที่มาอาศัยอยู่ และไม่อนุญาตให้รับการเป็นพยานของพวกเขาเกี่ยวกับประเด็นทางด้านนิติบัญญัติอิสลามที่เกี่ยวข้องในเชิงการแพทย์ หลังจากนั้น ท่านก็จะไม่เห็นบุคคลใดเลยที่จะให้ความสนใจกับหลักการแพทย์ โดยที่พวกเขาทำการหักโหมในการร่ำเรียนวิชานิติศาสตร์อิสลาม(ฟิกห์) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับประเด็นปัญหาข้อขัดแย้งหรือปัญหาต่าง ๆ ที่มีการถกเถียงกัน ในเมืองนั้นก็เต็มไปด้วยบรรดานักนิติศาสตร์อิสลามที่เน้นให้ความสนใจกับการไขปัญหาศาสนา(ฟัตวา) หรือตอบคำถามจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น...ดังนั้น อย่างไรเหล่า ที่บรรดานักนิติศาสตร์ของศาสนา อนุโลมในการมุ่งเน้นให้ความสนใจเรื่องฟัรดูกิฟายะฮ์ที่ชนกลุ่มหนึ่งได้กระทำการศึกษาไว้แล้ว โดยที่(พวกเขา)ละเลยสิ่งที่ยังไม่มีผู้ใดทำการศึกษา ?! ...มันช่างห่างไกล(สัจจะธรรม)เหลือเกิน มันช่างห่างไกล(สัจจะธรรม)เหลือเกิน , วิชาการศาสนาได้ล่มสลายในคราบของนักปราชญ์ที่ชั่ว ดังนั้น อัลเลาะฮ์ ตะอาลา เท่านั้น คือผู้ที่ถูกขอความช่วยเหลือ ไปยังพระองค์คือผู้เป็นที่พึ่งจากการให้พระองค์ทรงคุ้มครองเราจากการหลอกลวงอันนี้ ที่ทำให้พระองค์ผู้ทรงเมตตามีความโกรธกริ้วและทำให้ชัยฏอนหัวเราะ?



ความรู้ที่มีคุณประโยชน์ที่ทำให้รัศมีนี้แผ่กว้างนั้น ย่อมไม่มีการแบ่งแยกระหว่าง วิชาการทางโลกและวิชาการทางศาสนา เพราะท่านทราบดีแล้วว่า เป้าหมายและเจตนา คือองค์ประกอบของวิชาความรู้ทั้งหลาย และทำให้ความรู้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือความรู้ที่มีประโยชน์และความรู้ที่เป็นโทษ ซึ่งความรู้ที่มีประโยชน์นั้น ย่อมเป็นความรู้สำหรับวันโลกหน้า ถึงแม้ว่าลักษณะความรู้นั้น จะอยู่ในรูปแบบของทางโลกก็ตาม และความรู้ที่ทำให้เกิดโทษหรือไม่มีประโยชน์ ย่อมเป็นความรู้สำหรับดุนยา ถึงแม้ว่าลักษณะความรู้นั้น อยู่ในรูปแบบของวิชาการศาสนาก็ตาม ดังนั้น เป้าหมายและเจตนา คือมาตราวัดในคุณลักษณะของวิชาความรู้

ความรู้ที่แท้จริงคือรัศมีที่แผ่คลุมอยู่ในหัวใจ(บทเรียนฮิกัม)

[anti-bid'ah]

 

อยากจะให้คำแนะนำนิดหนึ่งสำหรับผู่ที่คิดจะเรียน หรือกำลังจะหรือกำลังเรียนในปีสุดท้ายของหลักสูตร

จงพึงระวังวันที่ท่านสำเร็จการศึกษาให้มาก  เรื่องนี้ผมและเพื่อนๆเจอกับตัวเองมาแล้ว จริงอยู่ผมสอบเสร็จภาคเรียนสุดท้ายของหลักสูตร

ประมาณกลางเดือนมีนาคม ๒๕๕๔  ท่านทั้งหลายคิดว่าผมมีโอกาสแค่ไหนที่จะเรียนต่อในระดับสูง เช่น ป  โท

  โดยทั่วไปแล้ว  มหาวิทยาลัยส่วนมาก(อาจทั้งหมด) จะเปิดรับสมัครเพื่อเรียนต่อ ป โท  ระหว่างช่วง มีนาคม เมษายน และ

พฤษภาคม  ทั้งผู้ที่ต้องการจะเรียนใน ป โท นั้นต้องสำเรจการศึกษาก่อนการเปิดภาคเรียน(ใช่หรือไม่)


ปรากฏว่าผมมีปัญหาในเรื่องนี้เพราะ คณะกรรมการสภาของมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยที่ผมเรียน ป ตรี จะมีการประชุมอนุมัติ

ในปลายเดือนมิถุนายน ดังนั้นวันที่สภามหาลัยประชุมอนุมัติวันนั้นคือวันที่จะทราบผลว่าจะสำเร็จการศึกษาหรือไม่ ถ้าสำเรจก็จะสำเรจในวัน

ที่มีการอนุมัติ 

จะเหนได้ว่า สอบเสร็จเรียนร้อยตั้งแต่เดือนมีนาคม

แต่สำเรจการศึกษาเดือนมิถุนายน  มันจะเป็นช่วงที่เลยการรับสมัคร ป โท

ดังนั้นผมจึงอดเรียน ป โท(ต้องรอเรียนปีหน้า) และเพื่อนผม อด ทำงาน (เพราะเท่ากับว่าผมและเพื่อยังไม่จบ ป ตรี จนกว่าสภามหาลัยจะอนุมัต

 ซึ่งวันที่มหาลัยจะอนุมัตนั้นก็ยาวนานซะเหลือเกิน คือปลายมิถุนายน)

เรื่องนี้อาจเป็นอุทาหรณืแก่คนที่กำลังเรียนปีสุดท้ายว่าพวกท่านต้องหาแนวทางอย่างไร เพื่อจะไม่กระทบต่อการเรียนต่อและทำงานในอนาคต 

[Bangmud]

 

ไม่ต้องรอให้จบก็ได้ครับ ขอให้เรียนอยู่ในปีสุดท้ายและมีกำหนดว่าจะจบในปีการศึกษานั้นก็สมัครได้ทันที
คุณสมบัติของนักศึกษาที่จะเรียนต่อปริญญาโทของทุกมหาวิทยาลัยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ว่า

เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้ายของหลักสูตร
โดยมีกำหนดที่จะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษาปัจจุบัน

เราสามารถดำเนินเรื่องการสมัครการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ได้เลย โดยใช้ทรานสคริปต์เท่าที่มีอยู่ (ถึงปีสาม) ถ้าได้รับการคัดเลือก เมื่อสภามหาวิทยาลัยอนุมัติปริญญาแล้วค่อยนำทรานสคริปต์ฉบับสมบูรณ์ไปให้มหาวิทยาลัยทีหลัง

ในตอนนี้ก็ยังสมัครเรียนปริญญาโทได้อยู่(เฉพาะหลักสูตรที่มีผู้สมัครไม่เต็ม) ลองเสิร์ชเอาจากเวบของมหาวิทยาลัยนั้น

วัสสลาม

[hiddenmin]

ดังนั้นผมจึงอดเรียน ป โท(ต้องรอเรียนปีหน้า) และเพื่อนผม อด ทำงาน (เพราะเท่ากับว่าผมและเพื่อยังไม่จบ ป ตรี จนกว่าสภามหาลัยจะอนุมัต

เรื่องสมัครงานนั้น ตะกี้คุยกับพี่ป.โทคนนึง เขาบอกว่าเอาหนังสือเอกสารอื่นก่อนก็ได้เช่นทรานสคริป เพราะอนุมัติจบมันช้า

[anti-bid'ah]

ไม่ต้องรอให้จบก็ได้ครับ ขอให้เรียนอยู่ในปีสุดท้ายและมีกำหนดว่าจะจบในปีการศึกษานั้นก็สมัครได้ทันที
คุณสมบัติของนักศึกษาที่จะเรียนต่อปริญญาโทของทุกมหาวิทยาลัยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ว่า

เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้ายของหลักสูตร
โดยมีกำหนดที่จะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษาปัจจุบัน

เราสามารถดำเนินเรื่องการสมัครการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ได้เลย โดยใช้ทรานสคริปต์เท่าที่มีอยู่ (ถึงปีสาม) ถ้าได้รับการคัดเลือก เมื่อสภามหาวิทยาลัยอนุมัติปริญญาแล้วค่อยนำทรานสคริปต์ฉบับสมบูรณ์ไปให้มหาวิทยาลัยทีหลัง

ในตอนนี้ก็ยังสมัครเรียนปริญญาโทได้อยู่(เฉพาะหลักสูตรที่มีผู้สมัครไม่เต็ม) ลองเสิร์ชเอาจากเวบของมหาวิทยาลัยนั้น

วัสสลาม

ประโยคนี้แหละครับที่ทำให้ผมเรียน ป โท ไม่ได้  เพราะตราบใดที่ไม่การอนุมัติจากสภามหาลัย แสดงว่ายังไม่สำเร็จการศึกษา

แม้ว่าจะมีใบแสดงผลการเรียนตลอดทั้งหลักสูตรก็ตามที  (ในการสมัครทหารเกณใช้หลักเกณนี้เช่นกัน) มหาลัยอื่นๆส่วนใหญ่

จะสำเรจการศึกษาในเดือนมีนาคม เพื่อรองรับความต้งการของผู้จบที่จะใช้ในการสมัครเรียน หรือทำงาน

[คนรู้น้อย]

ไม่ต้องรอให้จบก็ได้ครับ ขอให้เรียนอยู่ในปีสุดท้ายและมีกำหนดว่าจะจบในปีการศึกษานั้นก็สมัครได้ทันที
คุณสมบัติของนักศึกษาที่จะเรียนต่อปริญญาโทของทุกมหาวิทยาลัยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ว่า

เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้ายของหลักสูตร
โดยมีกำหนดที่จะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษาปัจจุบัน

เราสามารถดำเนินเรื่องการสมัครการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ได้เลย โดยใช้ทรานสคริปต์เท่าที่มีอยู่ (ถึงปีสาม) ถ้าได้รับการคัดเลือก เมื่อสภามหาวิทยาลัยอนุมัติปริญญาแล้วค่อยนำทรานสคริปต์ฉบับสมบูรณ์ไปให้มหาวิทยาลัยทีหลัง

ในตอนนี้ก็ยังสมัครเรียนปริญญาโทได้อยู่(เฉพาะหลักสูตรที่มีผู้สมัครไม่เต็ม) ลองเสิร์ชเอาจากเวบของมหาวิทยาลัยนั้น

วัสสลาม

ประโยคนี้แหละครับที่ทำให้ผมเรียน ป โท ไม่ได้  เพราะตราบใดที่ไม่การอนุมัติจากสภามหาลัย แสดงว่ายังไม่สำเร็จการศึกษา

แม้ว่าจะมีใบแสดงผลการเรียนตลอดทั้งหลักสูตรก็ตามที  (ในการสมัครทหารเกณใช้หลักเกณนี้เช่นกัน) มหาลัยอื่นๆส่วนใหญ่

จะสำเรจการศึกษาในเดือนมีนาคม เพื่อรองรับความต้งการของผู้จบที่จะใช้ในการสมัครเรียน หรือทำงาน

แย่เลยนะครับ จะได้เรียน ปริญญาโทแบบเร็วๆ กลายเป็นต้องรออีกปี  ทำงานกันช้ามากพวกราชการ