อัสลามุอลัยกุมครับ
ต่างคน ต่างมีเรื่องราวของตัวเองต่างๆนา แล้วแต่สถานะของแต่ละคน ผมก็คนหนึ่งที่มีเรื่องราวมากมายในชีวิต แต่ก็มีเฉพาะบางเหตุการณ์ที่สามารถเป็น ตัวอย่างแก่คนอื่นๆได้บ้างไม่มากก็น้อย
วันหนึ่งผมได้จอดรถข้างทางเข้าบ้าน ญาติ ทางอาจจะแคบไปนิดแต่ถ้าคนที่ขับรถทั่วไปจะผ่านได้ แต่เผอิญวันนั้นฝนตกหนัก เพื่อนผมได้ขับรถผ่าน แล้วก็ครูด ทำให้รถทั้ง2 เป็นรอยทางยาว ความที่เพื่อนเพิ่งขับรถได้ไม่นานนักประกอบกับ เพิ่งซื้อรถมือ2 มาใหม่ๆ(คันแรกของเขา) ทำให้ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ได้บอกผมว่ารถสีกันจนถลอก ผมเองก็ไม่ได้ดูรถตัวเอง ประกอบกับรถไม่ได้ล้างทำให้มองเห็นไม่ชัด ผ่านไป 1 อาทิตย์ ญาติโทรมาบอกว่า รถผมถูกสี รถเพื่อนผมเอาไปซ่อม หมดประมาณ 4000 บาท ผมตกใจลองเช็คดูรอบๆรถ ปรากฎว่ามีรอยถลอก พอสมควร หลังจากนั้นผมก็ไปบ้านเพื่อน ก็คุยกัน ก็ถามรายละเอียดต่างๆ ด้วยความเป็นเพื่อนก็ไม่รู้จะพูดยังไง (ว่าเขาต้องชดใช้ความเสียหายให้กับผม) ตกลงว่าต่างคนต่างซ่อมของตัวเองไป ผมก็ถามไปว่ามีประกันไหม เขาว่าไม่มี ส่วนตัวผมนั้นมี ประกัน ชั้น3ธรรมดา (ซ่อมเฉพาะคู่กรณี) ลองมาคิดๆดู ก็ตกลงว่า เรียกประกันละกัน (เอาเป็นว่าผมผิดเองที่จอดขวางเลยเส้นขาวของถนน ซึ่งตามกฎหมายแล้วผมก็ผิดเพราะจอดเข้าในส่วนที่เป็นถนนสารธารณะ) แต่เวลามันผ่านไปหลายวันแล้ว ก็ถามเพื่อนไปว่า รถทำหรือยัง เขาเช็คดูทางอู่ ปรากฎว่า รถยังไม่ทำ ผมก็ดีใจ (เพราะผมจะได้เอาค่าซ่อมที่เพื่อนซ่อมรถเขามาซ่อมรถผมถ้าประกันดำเนินการซ่อมรถเพื่อนให้ เพราะผมเป็นฝ่ายผิด) หลังจากนั้นผมก็มาที่อู่ แต่ปรากฎว่าช่างไม่อยู่ แต่ภรรยาเขาอยู่ ผมก็ดูรถเพื่อน(รอยถลอก) แล้วก็กลับเลย พอวันรุ่งขึ้น ผมก็ขับรถไปที่อู่เพื่อเจอกับนายหน้าประกัน เพื่อเขาจะได้เก็บหลักฐานต่างๆ ส่งบริษัท แต่ ผิดคาด ผมมองดูรถเพื่อนอย่างตกใจแทบล้มทั้งยืน อ้าวช่างไหงเป็นอย่างนี้ไปได้ ปรากฎว่าช่างได้ลงมือซ่อม โดยลบรอยถลอกออกไปหมดแล้ว มาซาอัลเลาะห์(ตามความประสงค์ของพระองค์อัลเลาะห์(ซบ)) ผมตกใจพูดไม่ออก เพราะนายหน้าประกันบอกว่าดำเนินการไม่ได้แล้วเพราะไม่มีหลักฐานในการชน(รอยถลอกโดนลบไปแล้ว) สุดท้ายก็ต้องยอมรับชะตากรรม(บททดสอบ) โดยกลับบ้าน จุดถ่าน ตั้งเตาบารากู่ย้อมใจไป
จริงๆ มันไม่มีอะไรสำคัญมาก หรือจริงจังกับมันหรอก แต่ เสมือนกับว่า เราได้ตั้งความหวังไว้100 เปอร์เซน คิดว่ายังไงก็ไม่พลาด แต่กลับพลาดไปกระทันหัน ก็เลยผิดหวัง ถ้าคิดในแง่ศาสนาก็สามารถคิดได้ว่า ความแน่นอนในส่วนสิ่งถูกสร้างช่างไม่มั่นคงเอาเสียเลย แล้วไฉนเราถึงได้ตั้งความหวังกับสิ่งถูกสร้างมากไปนัก โดยบางครั้งเราก็กระทำเสมือนกับจะคงอยู่ถาวรบนโลกดุนยาใบนี้ ไม่ได้นึกถึงความตายที่ไม่มีใครปฎิเสธมันได้ สุดท้ายเราก็ต้องกลับไปสู่อ้อมอกของแม่ที่แท้จริงคือดิน และกลับสู่พระองค์อัลเลาะห์(ซบ) ที่มั่นคงถาวรไม่เปลี่ยนแปลง ตรงนี้ก็เป็นเหตุว่าทำไมชาวซูฟีย์(ที่มีเกียรติทั้งหลาย) นั้นถึงได้รำลึกถึง พระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา เพราะเขายึดมั่นกับสิ่งที่ถาวรไม่สลายคือ พระผู้เป็นเจ้านั้นเอง
สุดท้ายที่จะบอก มีแค่ รอบคอบในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น ควรมีสติในการจะทำอะไรๆให้ดีๆ เพราะความไม่รอบคอบของผมนั้นเองที่เป็นเหตุให้เกิดผลแบบนี้ (คือผมไม่บอกภรรยาช่างไปว่า อย่าเพิ่งซ่อมรถจนกว่านายหน้าประกันจะมาเท่านั้นเอง ขอรับ ) วัสลาม
