ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)  (อ่าน 21715 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته وطيباته

เมื่อเกือบสิบที่ผ่านมา  ได้ผมเจอวารสารเล่มหนึ่งซึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว  ซึ่งเป็นวารสารเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม  หากจะนับถึงปัจจุบันนี้  คงมีอายุ เกือบ 20 ปีแล้วมั้งครับ  วารสารดังกล่าวเก่ามาก ๆ แต่ผมได้เปิดอ่านดู  ปรากฏว่ามีบทความของท่าน อ.การีม วันแอเลาะ เรื่อง  "ก่อนสิ้นศาสดาฯ"  ผมจึงทำการคัดลอกลงแผ่นกระดาษ  โดยตัดข้อความบางส่วน  เนื่องจากมันเยอะมาก  แม้ผมจะคัดสรุปตัดไปบ้างเล็กน้อย  แต่คงไม่ทำให้เสียอรรถรสและลึกซึ้งในการบรรจงเขียนของท่านอาจารย์ การีม  อินชาอัลเลาะฮ์

การนำเสนอเชิงประวัติศาสตร์ "ก่อนสิ้นศาสดาฯ" นี้  ผมขอนำเสนอไปเรื่อย ๆ ในช่วงที่มีเวลาว่างครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 31, 2006, 08:15 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
0
จะรออ่านครับ บัง

อินชาอัลลอฮ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 18, 2006, 03:54 PM »
0
ก่อนสิ้นศาสดาฯ

อันมนุษย์ต้องมีวันสิ้นสุดไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม  เช่นกันกับท่านศาสดามุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งเป็นสามัญชนธรรมดา  อันต้องจากลาอุมมะฮ์อันเป็นสุดที่รักของท่าน  กาลเวลาได้ผ่านไปตั้งแต่เริ่มภาระกิจของท่าน  จนถึงวาระสุดท้ายที่ท่านได้ทิ้งแบบฉบับอันมีคุณค่าแก่มนุษย์ชาติอันสมบูรณ์แบบ

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "วันนี้เป็นวันที่ฉันได้ทำให้ศาสนาสมบูรณ์สำหรับพวกท่านแล้ว  เป็นวันที่ฉันได้ให้เนี๊ยะมัตแก่พวกท่านอย่างครบถ้วนแล้ว  และวันที่ฉันยินดีให้อิสลาม  เป็นครรลองในการดำเนินชีวิตของพวกท่าน"

มีรายงานจากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าเมื่อโองการนี้ได้ถูกประทานลงมา  ท่านซัยยิดินาอุมัรถึงกับร้องไห้  ซึ่งท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้พูดกับอุมัรว่า  โอ้...อุมัร  เหตุใดท่านจึงร้องไห้  อุมัรกล่าวว่า  ฉันร้องไห้เพราะพวกเราได้รับทราบข้อมูลในเรื่องศาสนาเพิ่มเติมเมื่อศาสนาสมบูรณ์แล้ว  ก็จะไม่มีสิ่งใด ๆ อีกนอกจากจะค่อย ๆ เสื่อมลง  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้บอกกับท่านอุมัรว่า  ความจริงเป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ

มีรายงานจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อีกว่า  โองการนี้ถูกประทานลงมาเมื่อตอนหลังละมาดอัสริของวันอารอฟะฮ์  ซึ่งตรงกับวันศุกร์ในขณะที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กำลังบำเพ็ญฮัจญ์ครั้งสุดท้าย (ฮัจย์วิดาอ์) ในขณะที่โองการนี้ถูกประทานลงมานั้น  ท่านนบีวุกูฟอยู่บนหลังอูฐ  และหลังจากโองการนี้ถูกประทานลงมาแล้ว  ไม่มีโองการใด ๆ จากอัลกุรอานที่เกี่ยวกับข้อกำหนด (ฟัรดู) ประทานลงมาอีก  ในตอนที่โองการนี้ได้  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า  ฉันมิอาจจะประคองตัวเพื่อรับความเข้าใจในความหมายของโองการนี้ได้  จึงนั่งประคองบนหลังอูฐจนในที่สุดอูฐก็ต้องนอนลงกับพื้น  แล้วญิบรีล อะลัยฮิสลาม  ได้มาหาท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมกับบอกว่า  โอ้  มุฮัมมัด  ท่านจงเรียกซอฮาบะฮ์ของท่านมาชุมนม  และท่านจงบอกกับพวกเขาว่า  ฉัน (ญิบรีล) จะไม่มาพบกับท่านอีกแล้วหลังจากวันนี้
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 18, 2006, 04:23 PM »
0

เมื่อท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เดินทางกลับจากมักกะฮ์  สู่มะดีนะฮ์  ท่านก็ได้เรียกซอฮาบะฮ์  ท่านก็ได้เรียกซอฮาบะฮ์ของท่านมาชุมนุม  แล้วท่านก็ได้อัญเชิญอัลกุรอานโองการนี้ให้แก่บรรดาซอฮาบะฮ์  แล้วท่านก็ได้บอกกับบรรดาซอฮาบะฮ์  แล้วท่านก็ได้บอกกับบรรดาซอฮาบะฮ์ตามที่ญิบรีลได้สั่งให้บอก  ปรากฏว่าบรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหมดต่างมีความดีใจและต่างกล่าวว่า  ศาสนาของเราสมบูรณ์แล้ว  ส่วนท่านอบูบักร  เมื่อได้ฟังจากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้ว  ท่านก็รีบเดินทางกลับบ้านปิดประตูใส่กลอน  ท่านอยู่ในนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน  บรรดาซอฮาบะฮ์ต่างได้ยินเสียงท่านอบูบักรร้อง  จึงได้ไปรวมตัวกันที่บ้านของอบูบักร

พวกเขาได้ถามท่านอบูบักรว่าทำไมท่านจึงร้องไห้  ในขณะที่ทุกคนเขาดีใจกันพี่อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ได้ประกาศถึงความสมบูรณ์ของอิสลาม  อบูบักรกล่าวว่า "โอ้บรรดามิตรสหายพวกท่านไม่ทราบกันหรือว่าอะไรจะเกิดขึ้น  พวกท่านไม่ได้ยินกันหรือว่า  เมื่อสิ่งใดบรรลุสู่ความสมบูรณ์สูงสุดแล้ว  และนั่นย่อมหมายถึง หะซันและฮุเซ็น  กำลังจะกำพร้า (กำพร้าปู่) บรรดาภรรยานบีกำลังจะเป็นหม้าย"  ปรากฏว่าบรรดาซอฮาบะฮ์ต่างร้องไห้  และเมื่อผู้คนได้ยินเสียงร่ำไห้จึงได้ถามท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ว่า  โอ้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  พวกเราไม่ทราบว่าบรรดาซอฮาบะฮ์เหล่านั้นร้องไห้กันเพราะอะไร?  ปรากฏว่าท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี  และรีบเดินไปยังบ้านของท่านอบูบักร  ซึ่งท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเองจึงได้ถามว่า  พวกท่านร้องไห้กันทำไม

ท่านอะลีจึงกล่าวตอบว่า  ฉันได้ยินท่านอบูบักรกล่าวว่า ฉัน(อบูบักร) ได้ยินโองการนี้บ่งบอกว่า  ท่านใกล้ที่จะจากเราไปแล้วใช่ไหม?  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า  อบูบักรเข้าใจถูกต้องแล้วและกล่าวอีกว่า  ใกล้จะถึงเวลที่ฉันต้องพรากจากพวกท่านไปแล้ว  เมื่ออบูบักรได้ยินคำกล่าวของท่านนบี 
ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็ถึงกับร้องไห้โฮ...
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Kamarutdin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 19
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
"ขอเอกองค์ อัลลอฮุ ซบ ทรงประสาทพรให้แก่ท่านนบี มูฮัมมัด  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมและบรรดาอัครสาวกของท่านด้วยเทอญ อามีน  "


รอติดตามอยู่นะครับ al-azhary
"เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอนมัสการ และ
 เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ"

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
0
"ขอเอกองค์ อัลลอฮุ ซบ ทรงประสาทพรให้แก่ท่านนบี มูฮัมมัด  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมและบรรดาอัครสาวกของท่านด้วยเทอญ อามีน  "



อามีน

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 07:10 AM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ชีวประวัติ  "ก่อนสิ้นศาสดาฯ"  ทำให้เรารักนบีมุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  หากเราอ่านแล้วไม่รู้สึกรักท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็คงจะแย่มาก ๆ  ดังนั้น  เราจงมาสร้างความรู้สึกรักต่อท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่เป็นวายิบในทุกจังหวะของการดำเนินชีวิต  ด้วยการอ่านประวัติบางตอนของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กันเถอะครับ 

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 07:28 AM »
0
แล้วร่างกายของเขาก็ทรุดลงกับพื้น  ทำให้อะลี  และบรรดาซอฮาบะฮ์ถึงกับร้องไห้กันรุนแรงมากขึ้น  ปรากฏว่าการยืนยันของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เกี่ยวกับความเข้าใจของอบูบักรในประการนี้  ทำให้ภูเขา , มวลมะลาอิกะฮ์บนฟากฟ้า , สิงสาราสัตว์ทั้งบนบก , ในน้ำ  และในอากาศต่างก็ร้องไห้  หลังจากนั้น   ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้สัมผัสมือกับบรรดาซอฮาบะฮ์ทุกคนพร้อมกับบอกอำลา  พลางร้องไห้  และให้คำตักเตือน  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  มีชีวิตอยู่หลังจากโองการนี้ถูกประทานลงมาเพียง 81 วัน

ก่อนที่ท่านนบี   ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะเสียชีวิตไม่นานนัก  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ขึ้นแสดงธรรมบนมิบัร  ท่านได้แสดงคุตบะฮ์พร้อมกับน้ำตาและหัวใจที่ยำเกรง  ร่างกายของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  สั่นระริก  ท่านได้แจ้งข่าวดีแก่ผู้ประพฤติดี  และแจ้งข่าวร้ายแก่ผู้ประพฤติชั่ว  มีรายงานจากท่านอิบนุอับบาสเล่าว่า  เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จะสิ้นชีวิต  ท่านได้ใช้ให้บิลาลทำการอะซานแรกบรรดาซอฮาบะฮ์มาละหมาด  บรรดามุฮาญิรีน  และชาวอันศอรก็ได้มาร่วมละหมาด 2 ร่อกะอัต  พร้อมกับท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ที่มัสยิด  เสร็จแล้วท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ขึ้นมิมบัรสรรเสริญอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮ์  แล้วแสดงธรรม  ซึ่งเป็นคุตบะฮ์ที่สุดจะบรรยายด้วยหัวใจ  และด้วยดวงตาที่ไหลโชกไปด้วยน้ำตา  ท่านกล่าวว่า "โอ้บรรดามุสลิมทั้งหลาย  ฉันเคยเป็นนบีของพวกท่าน , เคยเป็นผู้ตักเตือนพวกท่าน , เคยเป็นผู้เชิญชวนพวกท่านสู่อัลเลาะฮ์  ซุบหานะฮ์  ด้วยความปรารถนาดีของพระองค์  ฉันเคยเป็นประดุจพี่น้องที่คานตามกันมากับพวกท่าน , ฉันเคยเป็นพ่อที่มีแต่ความรักและมีความปรารถนาดีต่อท่านทั้งหลาย  ดังนั้น  ใครมีสิ่งที่ให้อภัยฉันไม่ได้  ขอได้โปรดเรียกสิทธิของท่านกลับคืน  ก่อนที่ฉันจะถูกพิพากษาในวันกิยามะฮ์  ซึ่งก็ไม่มีใครทวงสิทธิใด ๆ จนกระทั่งท่านได้พูดถึงเรื่องสิทธิซ้ำถึงสามครั้ง
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 08:16 AM »
0
ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งมีนามว่าอุกาซะฮ์ บิน มั๊วะซิน  ได้ออกมายืนต่อหน้าท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้วกล่าวว่า  หากท่านพูดในเรื่องสิทธิอย่างเมื่อครู่นี้  เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง  ฉันก็จะทวงคืนในวันสงครามบะดัร  อูฐซึ่งเป็นพาหนะที่ฉันได้ขี่ได้เคียงข้างอูฐซึ่งเป็นพาหนะของท่าน  ฉันได้ลงจากหลังอูฐเพื่อที่จะให้ร่างกายของฉัน  ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ท่านมากที่สุด  ดังนี้เพื่อที่ฉันจะได้ลงบนขาอ่อนของท่าน  เผอิญในวันนั้นท่านได้ยกแส้ขึ้นเพื่อตีอูฐให้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น แต่ปรากฏว่า  แส้นั้นได้หวดลงบนหลังของฉัน  ขณะนั้นฉันไม่ทราบว่า  ท่านต้องการที่จะตีฉันหรือตีอูฐ

ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ฟังคำกล่าวของอุกาซะฮ์แล้ว  ท่านยังกล่าวว่าเป็นไปได้หรือ  ที่ร่อซูลุลเลาะฮ์  จะใช้แส้ตีท่าน  โอ้ อุกาซะฮ์  แล้วท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็สั่งท่านบิล้าลว่า  โอ้  บิล้าล  ท่านจงไปเอาแส้ที่บ้านของฟาติมะฮ์มาให้ฉัน  บิล้าลก็เดินเอามือกุมศีรษะออกไปจากมัสยิดพร้อมกับกล่าวว่า  นี่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กำลังจะถูกแก้แค้นหรือนี่!  บิล้าลจึงมาเคาะประตูบ้านฟาติมะฮ์  และแจ้งกว่าฟาติมะฮ์ว่า  โอ้ฟาติมะฮ์  ฉันมาเอาแส้ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซึ่งบิดาของท่านจะเอาแส้ไปให้ตีเพื่อชำระความแค้น  ฟาติมะฮ์รำพึงว่า  ใครหนอที่มีจิตใจจะแก้แค้นท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  และบิล้าลก็เอาแส้จากฟาติมะฮ์เดินไปในมัสยิด  และเอาแส้ให้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  เมื่อท่านรับแส้แล้วก็ส่งให้แก่อุกาซะฮ์

เมื่ออะบูบักรและอุมัรได้เห็นเหตุการณ์  ดังนั้นทั้งสองจึงได้ยืนขึ้นพร้อมกล่าวว่า  โอ้อุกาซะฮ์  เราทั้งสองยืนต่อหน้าท่านแล้ว  ขอท่านจงตีเราแทนท่านร่อซูลุลเลาะฮ์เถอะ  ท่านอย่าได้ตีท่านร่อซูลุลเลาะฮ์เลย  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า  อะบูบักรและอุมัรท่านทั้งสองจงนั่งลง  อัลเลาะฮ์ทรงรู้ดีในเจตนาของท่านทั้งสอง  แล้วท่านอะลีก็ยืนขึ้นอีกและหันไปพูดกับอุกาซะฮ์ว่า  ทั้งชีวิตของฉัน  ฉันอยู่กับท่านร่อซูลุลเลาะฮ์มาโดยตลอด  ขอให้ตีฉันแทนท่านร่อซูลุลเลาะฮ์เถิด  นี่คือหลังและนี่คือท้องของฉัน  จงตีฉันด้วยมือของท่าน  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์จึงกล่าวว่า  โอ้อะลี  อัลเลาะฮ์ทรงรู้ดีในเจตนาของท่าน และฮาซันและฮุเซ็นได้ยืนขึ้นพร้อมกล่าวว่า  โอ้อุกาซะฮ์  ท่านก็รู้จักเราดีไม่ใช่หรือ? ว่าเราทั้งสองเป็นหลานของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์   ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ได้พูดกับหลานทั้งสองว่า  จงนั่งลงโอ้สุดที่รักของฉัน

และท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  โอ้ อุกาซะฮ์  ท่านจงตีฉันหากฉันได้ตีท่านในวันนั้น  อุกาซะฮ์ กล่าวว่า  โอ้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  วันที่ท่านตีฉันนั้น  ฉันไม่ได้สวมเสื้อ  และท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ก็ถอดเสื้อออก  บรรดาพี่น้องมุสลิมต่างส่งเสียงร้องไห้  และเมื่ออุกาซะฮ์ได้เห็นความขาวของผิวกายท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  อุกาซะฮ์ได้ก้มลงจูบ  ที่กลางหลังของท่านนบี   ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  พร้อมกล่าวว่า  นี่เป็นการไถ่ความผิด  เพื่อวิญญานของฉัน  โอ้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  จะมีใครหรือที่จะใจถึงในการล้างแค้นท่าน  การที่ฉันได้ทำทุกอย่างไปก็เพื่อเรือนร่างของฉันจะได้สัมผัสก็เรือนร่างของท่าน  ทั้งนี้ก็เพื่อพระผู้อภิบาล  จะได้ปกป้องฉันให้คลาดแคล้วจากขุมนรก

และทันใดนั้น  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  พึงทราบโดยทั่วกันว่า  ใครอยากที่จะเห็นชาวสวรรค์ก็จงมองบุรุษผู้นี้  ว่าแล้วบรรดามุสลิมทั้งหลายต่างก็ได้กอดจูบระหว่างตาของอุกาซะฮ์  และกล่าวกันว่า  สวรรค์เป็นของท่าน  ท่านเป็นผู้บรรลุตำแหน่งอันสูงส่งตำแหน่งของผู้ที่อยู่กับท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในสรวงสวรรค์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 10:01 PM »
0
มีสมาชิกบางท่านส่งข้อความส่วนตัวมาถึง  คิดว่าเรื่อง "ก่อนสิ้นศาสดาฯ"  ได้จบลงแล้ว  จริงแล้ง  ผมเพิ่งนำเสนอได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเอง   เมื่อผมนำเสนอหมดแล้ว  ผมก็จะบอกว่าจบแล้ว  และเมื่อจบแล้ว  ผู้ใดจะนำไปเผยแพร่  หรือติดตามบร์อดเพื่อให้ผู้อื่นได้อ่านกัน  ก็ตามสบายเลยครับ แต่อ้างอิงที่มาด้วยน่ะครับ  :)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 10:06 PM »
0
มีสมาชิกบางท่านส่งข้อความส่วนตัวมาถึง  คิดว่าเรื่อง "ก่อนสิ้นศาสดาฯ"  ได้จบลงแล้ว  จริงแล้ง  ผมเพิ่งนำเสนอได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเอง   เมื่อผมนำเสนอหมดแล้ว  ผมก็จะบอกว่าจบแล้ว  และเมื่อจบแล้ว  ผู้ใดจะนำไปเผยแพร่  หรือติดตามบร์อดเพื่อให้ผู้อื่นได้อ่านกัน  ก็ตามสบายเลยครับ แต่อ้างอิงที่มาด้วยน่ะครับ  :)

ครับผม

 :)

ออฟไลน์ Kamarutdin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 19
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 11:00 PM »
0
อัสลามมุอลัยกุม ทุกท่าน
  ;D ;D ;D กระผมเองแระครับนึกว่าจบซะแล้ว งั้นรอติดตามต่อนะครับ
"เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอนมัสการ และ
 เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ"

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธ.ค. 20, 2006, 11:33 PM »
0
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว   เราก็มาต่อกันเลยครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2006, 12:29 AM »
0

ท่านอิบนุมัสอูด  กล่าวว่า  เมื่อใกล้ที่ท่านร่อซูลุลเลาะอ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จะอำลาจากเราไป  พวกเราได้รวมตัวกันอยู่ที่บ้าน  อาอิชะฮ์  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้เหลือบมองดูพวกเราด้วยน้ำตา  พร้อมกล่าวว่า  ขออัลเลาะฮ์ทรงประทานความสุขให้แก่พวกท่านทั้งหลาย

ฉันขอเตือนพวกท่านให้มีความยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์  ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์  ขณะนี้ใกล้เวลาที่จะต้องพรากจากกันแล้ว  ใกล้ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับคืนสู่อัลเลาะฮ์  สู่สวรรคอันเป็นสถานที่พำนักอันนิรันดร์  เมื่อถึงตอนนั้นฉันขอให้อะลีเป็นผู้อาบน้ำศพของฉัน  ให้อัลฟัดลุ บิน อับบาส และ อุซามะฮ์ บิน เซด  เป็นผู้ช่วยรดน้ำ  ขอให้กาฝั่นฉัน  ด้วยผ้าของฉันที่มีอยู่  หากเป็นความต้องการของพวกท่าน  หรือไม่ก็ด้วยผ้าสีขาวจากเยเมน  และเมื่อพวกท่านได้อาบน้ำศพของฉันแล้ว  พวกท่านจงวางศพของฉันไว้บนเตียงในบ้านของฉัน  และขอให้พวกท่านปล่อยฉันตามลำพังสักระยะหนึ่ง  พึงทราบเถิดว่า  อัลเลาะฮ์คือผู้แรกที่ประทานเราะฮ์มะฮ์ให้แก่ศพของฉันถัดไปก็ยิบรีล  พร้อมกับมาลิกุลเม้าท์  และมวลมะลาอีกะฮ์ตามลำดับ  และก็ให้พวกท่านเข้ามาละหมาดให้ฉันเป็นคณะ ๆ

เมื่อพวกเขาได้ยินว่า  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กำลังจะจากพวกเขาไป  ต่างก็ส่งเสียงร้องไห้  พลางรำพึงว่า โอ้  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านคือร่อซูลของพวกเรา , ท่านคือดวงประทีปของพวกเรา , ท่านคือศูนย์รวมจิตใจของพวกเรา  เมื่อท่านจากเราไป  พวกเราจะพึ่งใคร  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า  ฉันได้ทอดทิ้งไว้แล้วจากทางที่สว่างไสว  และได้ถอดทิ้งไว้กับสิ่งตักเตือนให้พวกท่านแล้วสองสิ่ง  คือ อัลกุรอาน และ ซุนนะฮ์  และหากหัวใจของพวกท่านแข็งกระด้าง หรือดื้อดึง  พวกท่านจงทำให้นิ่มนวลโดยพิจารณาถึงความตาย

ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ล้มป่วนในเดือนซ่อฟัร  ซึ่งท่านป่วยอยู่เพียง 18 วัน  อากาเริ่มแรกนั้นท่านปวดศีรษะ  เมื่อถึงวันจันทร์ต้นสัปดาห์นั้น   อาการป่วยของท่านเริ่มหนักขึ้น  ขณะนั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่บิล้าล  ทำการอะซานซุบฮิ  เมื่ออะซานเสร็จแล้ว  บิล้าลได้ไปยืนที่ประตูบ้านของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  พร้อมกับให้สลามว่า  ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ฟาติมะฮ์กล่าวว่า  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กำลังพะวงอยู่กับตัวเอง บิล้าลจึงเดินเข้าไปในมัสยิด  โดยไม่เข้าใจคำพูดของฟาติมะฮ์เลย
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ก่อนสิ้นศาสดาฯ (โดยท่าน อ.การีม วันแอเลาะ)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธ.ค. 21, 2006, 12:59 AM »
0

เมื่อใกล้อรุณรุ่ง  ซึ่งหมายถึงเวลาซุบฮิจะจากไป  บิล้าลได้ไปยืนหน้าบ้านของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  อีกครั้งหนึ่ง  และได้กล่าวสลามเหมือนครั้งแรกซึ่งในครั้งนี้  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ยินเสียงของบิล้าล  จึงได้กล่าวว่า  จงเข้ามาเถิดบิล้าลเอ๋ย  ขณะนี้ฉันกำลังพะวงอยู่กับตัวเองอาการป่วยของฉันยิ่งทวีขึ้น  โอ้  บิล้าล  ท่านจงบอกให้อบูบักร  นำละหมาดไปก่อน  บิล้าลได้เอามือกุมศีรษะเดินออกจากบ้านของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  พร้อมกับกล่าวว่า  เราหมดหวังโอ้แม่ของฉัน  ทำไมแน่ต้องให้ฉันเกิดมาด้วย  เมื่อบิล้าลเดินเข้ามาในมัสยิดอีกครั้งหนึ่ง  ก็ได้กล่าวแก่อบูบักรว่า  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้มีคำสั่งให้ท่านทำหน้าที่เป็นผู้นำละหมาดซึ่งขณะนี้  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กำลังพะวงอยู่กับตัวของท่านมาก  เมื่ออบูบักรได้หันไปมองเมี๊ยะหฺรอบของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านมองไม่เห็นท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยืนทำหน้าที่ของท่านเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา  ท่านอบูบักรถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น  ไม่สามารถประคองตัวให้ยืนเพื่อทำหน้าที่แทนร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้  ท่านร้องไห้ด้วยเสียงอันดังำทให้มุสลิมทุกคนที่รอการนำละหมาดจากท่านอบูบักรต่างก็ได้ร้องให้ตามท่านอบูบักรไปด้วย  ความโกลาหลได้เกิดขึ้น  เสียงร่ำไห้เสียงทางไถ่ถึงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ผสมผสานกับไป  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้มารอละหมาด  จึงได้ถามฟาติมะฮ์ว่า  นั้นเป็นเสียงร้องไห้จากที่ใหน  ฟาติมะฮ์  ตอบว่า  นั้นเป็นเสียงของบรรดาพี่น้องมุสลิมที่อรการละหมาด  เพราะวันนี้  พวกเขาไม่มีท่านทำหน้าที่นำการละหมาดให้แก่พวกเขา  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้เรียกอะลีและอัลฟัดลุ บิน อับบาส  ให้เข้ามาใกล้ ๆ แล้วท่านก็ให้ทั้งสองช่วยพยุงร่างของท่านเข้าไปในมัสยิดเพื่อร่วมละหมาดซุบฮิ  ในวันนั้นซึ่งตรงกับวันจันทร์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged