แล้วร่างกายของเขาก็ทรุดลงกับพื้น ทำให้อะลี และบรรดาซอฮาบะฮ์ถึงกับร้องไห้กันรุนแรงมากขึ้น ปรากฏว่าการยืนยันของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เกี่ยวกับความเข้าใจของอบูบักรในประการนี้ ทำให้ภูเขา , มวลมะลาอิกะฮ์บนฟากฟ้า , สิงสาราสัตว์ทั้งบนบก , ในน้ำ และในอากาศต่างก็ร้องไห้ หลังจากนั้น ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สัมผัสมือกับบรรดาซอฮาบะฮ์ทุกคนพร้อมกับบอกอำลา พลางร้องไห้ และให้คำตักเตือน ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีชีวิตอยู่หลังจากโองการนี้ถูกประทานลงมาเพียง 81 วัน
ก่อนที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะเสียชีวิตไม่นานนัก ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขึ้นแสดงธรรมบนมิบัร ท่านได้แสดงคุตบะฮ์พร้อมกับน้ำตาและหัวใจที่ยำเกรง ร่างกายของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สั่นระริก ท่านได้แจ้งข่าวดีแก่ผู้ประพฤติดี และแจ้งข่าวร้ายแก่ผู้ประพฤติชั่ว มีรายงานจากท่านอิบนุอับบาสเล่าว่า เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะสิ้นชีวิต ท่านได้ใช้ให้บิลาลทำการอะซานแรกบรรดาซอฮาบะฮ์มาละหมาด บรรดามุฮาญิรีน และชาวอันศอรก็ได้มาร่วมละหมาด 2 ร่อกะอัต พร้อมกับท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่มัสยิด เสร็จแล้วท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขึ้นมิมบัรสรรเสริญอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮ์ แล้วแสดงธรรม ซึ่งเป็นคุตบะฮ์ที่สุดจะบรรยายด้วยหัวใจ และด้วยดวงตาที่ไหลโชกไปด้วยน้ำตา ท่านกล่าวว่า "โอ้บรรดามุสลิมทั้งหลาย ฉันเคยเป็นนบีของพวกท่าน , เคยเป็นผู้ตักเตือนพวกท่าน , เคยเป็นผู้เชิญชวนพวกท่านสู่อัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮ์ ด้วยความปรารถนาดีของพระองค์ ฉันเคยเป็นประดุจพี่น้องที่คานตามกันมากับพวกท่าน , ฉันเคยเป็นพ่อที่มีแต่ความรักและมีความปรารถนาดีต่อท่านทั้งหลาย ดังนั้น ใครมีสิ่งที่ให้อภัยฉันไม่ได้ ขอได้โปรดเรียกสิทธิของท่านกลับคืน ก่อนที่ฉันจะถูกพิพากษาในวันกิยามะฮ์ ซึ่งก็ไม่มีใครทวงสิทธิใด ๆ จนกระทั่งท่านได้พูดถึงเรื่องสิทธิซ้ำถึงสามครั้ง