ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 43 อัซซุครุฟ  (อ่าน 4547 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 55 - 56


คำอ่าน
55. ฟะลัม..มา..อาสะฟูนัน..ตะก็อมนามินฮุม ฟะอัฆร็อกนาฮุมอัจญมะอีน
56. ฟะญะอัลนาฮุม สะละเฟา..วะมะษะลัลลิลอาคิรีน


คำแปล R1.
55. So when they angered us, we punished them, and drowned them all.
56. And we made them a precedent (as a lesson for those coming after them), and an example to later generations.


คำแปล R2.
55. ครั้นเมื่อพวกเขาได้ยั่วให้เรากริ้ว(ด้วยการทรยศในคำสั่งของเรา) เราจึงจัดการลงโทษพวกเขา โดยให้พวกเขาทั้งหมดจมน้ำทะเลตาย
56. และเราบันดาลพวกเขาให้เป็นตัวอย่างและอุทาหรณ์แก่คนรุ่นหลังต่อไป


คำแปล R3.
55. ในที่สุดเมื่อพวกเขาทำให้เรากริ้ว เราก็ลงโทษพวกเขาและทำให้พวกเขาจมน้ำทั้งหมด
56. และได้ทำให้พวกเขากลายเป็นอดีตและเป็นบทเรียนสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป


คำแปล R4.
55. เมื่อพวกเขาได้ทำให้เรากริ้ว เราได้ตอบแทนพวกเขาอย่างสาสม แล้วเราได้ให้พวกเขาจมน้ำทั้งหมด
56. และเราได้ทำให้พวกเขาเป็นอดีตที่ล่วงเลยไปและอุทาหรณ์แก่คนรุ่นต่อไป ๆ ไป


คำแปล  R5.
๕๕. ต่อมาเมื่อพวกเขาได้ยั่วยุเราด้วยการแสดงความก้าวร้าวและคัดค้านคำประกาศของนบีมูซา เราก็ลงโทษพวกเขา โดยจัดการให้พวกเขาจมน้ำตายทั้งหมดในทะเล เมื่อพวกเขาติดตามขบวนการของนบีมูซาซึ่งหนีขึ้นฝั่งไดสำเร็จและพวกเขาต้องถูกทะเลประกบกลับทำให้ทุกคนเสียชีวิตจนหมดสิ้น
๕๖. แท้จริงเราไดบันดาลพวกเขาให้เป็นตัวอย่างและอุทาหรณ์แก่ชนรุ่นหลัง ๆ ได้ศึกษาวิเคราะห์วิจัยพฤติกรรมและผลที่ทุกคนได้รับเพื่อตระหนักถึงความมีศรัทธา




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 57  - 60


คำอ่าน
57. วะลัม..มาฎุริบับนุมัรฺยะมะ มะษะลัน อิซาก็อวมุกะ มินฮุยะศิดดูน
58. วะกอลู..อะอาลิฮะตุนาค็อยรุนอัมฮู มาเฎาะเราะบูฮุละกะอิลลาญะดะลา บัลฮุมก็อวมุนเคาะศิมูน
59. อินฮุวะอิลลาอับดุน อันอัมนา อะลัยฮิ วะญะอัลนาฮุ มะษะลัลลิบะนี...อิสรอ...อีล
60. วะเลานะชา...อุ ละญะอัลนามิน..กุม..มะลา...อิกะตัน..ฟิลอัรฺฎิ ยัคลุฟูน


คำแปล R1.
57. And when the son of Maryam (Mary) is quoted as an example [i.e. 'Iesa (Jesus) is worshipped like their idols), behold! Your people cry aloud (laugh out at the example).
58. And say: "Are our Aliha (gods) better or is he ['Iesa (Jesus)]?" they quoted not the above example except for argument. Nay! But they are a quarrelsome people. [(See VV. 21:97-101) - the Qur'an.]
59. He ['Iesa (Jesus)] was not more than a slave. We granted our favour to him, and we made him an example to the Children of Israel (i.e. his creation without a father).
60. And if it were Our will, we would have [destroyed you (mankind) all, and] made angels to replace you on the earth. [Tafsir At-Tabari, Vol:25, Page 89].


คำแปล R2.
57. และเมื่ออีซาบุตรมัรยัมได้ถูกยกมาเป็นอุทาหรณ์(โดยพวกตั้งภาคีทั้งหลายเพื่อโต้แย้งกับนบีมุฮัมมัด โดยกล่าวว่านบีอีซานั้น ถูกกราบไหว้โดยชาวคริสต์ โดยหลักที่นบีมุฮัมมัดประกาศ ทั้งชาวคริสต์และนบีอีซาต้องลงนรก แต่นบีมุฮัมมัดกลับยกย่องนบีอีซา) เมื่อพวกพ้องของเจ้า(ผู้โต้แย้งเหล่านั้น)ต่างก็เปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจเนื่องมาจากนั้น
58. และพวกเขากล่าวว่า “พระเจ้าต่าง ๆ ของเราประเสริฐกว่า หรือว่าตัวเขาประเสริฐกว่า?” ที่จริงพวกเขามิได้ยกอุทาหรณ์นั้นขึ้นมาเสนอเจ้า(เพื่อเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น)นอกจากเป็นการโต้แย้งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น! พวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ชอบการโต้ถียง
59. ความจริงแล้วเขา(อีซา)นั้นมิใช่ใครอื่นเลยนอกจากเป็นบ่าวที่เราได้ประทานความโปรดปรานแก่เขา และเราได้บันดาลเขาให้เป็นอุทาหรณ์แก่พวกวงศ์วานของอิสรออีล
60. และหากเราประสงค์ เราก็(ทรงอำนาจที่จะ)บันดาลให้มลาอิกะฮฺมาจากพวกเจ้าเพื่อสืบแทน(พวกเจ้า)ในแผ่นดิน


คำแปล R3.
57. และเมื่อได้มีการหยิบยกเอาลูกของนางมัรฺยัมขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ผู้คนของเจ้าก็โห่ร้องกันออกมา
58. และพวกเขากล่าวว่า “พระเจ้าทั้งหลายของพวกเราดีกว่าหรือว่าเขา?” พวกเขามิได้ยกคำเปรียบเทียบนี้ขึ้นมาเพื่ออื่นใดนอกจากเพียงเพื่อจะเถียงเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นพวกชอบโต้เถียง
59. ลูกของมัรฺยัมมิได้เป็นอะไรนอกจากบ่าวคนหนึ่ง ซึ่งเราได้ประทานความโปรดปรานแก่เขา และเป็นตัวอย่างแห่งอำนาจของเราสำหรับวงศ์วานอิสรออีล
60. หากเราประสงค์ เราก็สามารถสร้างมลาอิกะฮฺจากสูเจ้ามาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินนี้ก็ได้


คำแปล R4.
57. และเมื่ออีซา ดูซิหมู่ชนของเจ้าก็โห่ร้องด้วยความขบขัน
58. และพวกเขากล่าวว่า พระเจ้าทั้งหลายของเราดีกว่าหรือว่าเขา (อีซา) พวกเขามิได้เปรียบเทียบเรื่องนี้แก่เจ้าเพื่ออื่นใดนอกจากการโต้เถียง ยิ่งกว่านั้นพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ชอบการโต้เถียงอีกด้วย
59. เขา (อีซา) มิใช่ใครคนอื่นนอกจากเป็นบ่าวคนหนึ่ง ซึ่งเรา (อัลลอฮฺ) ได้ให้ความโปรดปรานแก่เขา และเราได้ทำให้เขาเป็นแบบอย่างที่ดีแก่วงศ์วารของอิสรออีล
60. และหากเราประสงค์เราจะตั้งให้มี มะลาอีกะฮฺขึ้นจากในหมู่พวกเจ้าให้เป็นผู้สืบช่วงในแผ่นดินนี้


คำแปล  R5.
๕๗. และเมื่อนบีอีซาผู้เป็นบุตรของมัรยัมได้ถูกนำมาเป็นอุทาหรณ์โดยพวกกาฟิรมุซริกที่กล่าวโต้แย้งคำตรัสของอัลเลาะห์ซึ่งตรัสว่า อันสิ่งที่พวกเจ้ากราบไหว้นั้นเป็นไม้จากนรกยะฮันนัม พวกนั้นก็ตอบว่า เรายินดีที่บรรดาพระเจ้าที่เรากราบไหว้นั้นอยู่ในนรกพร้อมกับอีซา เพราะอีซาก็เป็นบุคคลที่ถูกกราบไหว้โดยนัซรอนีย์ นอกจากอีซาก็ยังมีอุซัยร์และมลาอิกะห์ ซึ่งพวกอาหรับทำการกราบไหว้บูชากัน พลันกลุ่มชนของเจ้าก็เปล่งเสียงหัวเราะเนื่องจากคำพูดนั้น
๕๘. และพวกเขากล่าวว่า พระเจ้าของเราหรือเขาที่ประเสริฐกว่า พวกเขามิได้นำเขามาเป็นอุทาหรณ์ต่อเจ้าเพื่อประโยชน์หรือเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นนอกจากเพื่อการโต้แย้งเท่านั้น แต่ทว่าพวกเขาเป็นกลุ่มชนผู้ก้าวร้าว
๕๙. เขานั้นหาใช่อื่นใดไม่ นอกจากเป็นบ่าวคนหนึ่งซึ่งเราได้โปรดปรานแก่เขาและเราได้บันดาลเขาให้เป็นอุทาหรณ์แก่บุตรหลานของอิสรออีล
๖๐. และหากเรามีความประสงค์ เราก็ย่อมดลบันดาลให้มลาอิกะห์ทำการสืบทอดจากพวกเจ้าในแผ่นดินโดยให้พวกเจ้าสูญสิ้นชาติ และมีมลาอิกะห์มาแทนที่พวกเจ้า เพื่อพวกนั้นจะได้ทำแต่ความดี แต่สภาพดังกล่าวหาได้เป็นความประสงค์ของเราไม่



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 01, 2011, 02:59 PM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 61 - 64


คำอ่าน
61. วะอิน..นะฮูละอิลมุลลิสสาอะติ ฟะลาตัมตะรุน..นะบิฮา วัตตะบิอูน ฮาซาศิรอฏุม..มุสตะกีม
62. วะลายะศุดดัน..นะกุมุชชัยฏอนุ อิน..นะฮูละกุมอะดูววุม..มุบีน
63. วะลัม..มาญา...อะอีสา บิลบัยยินาติ กอละก็อดญิอ์ตุกุม..บิลหิกมะติ วะลิอุบัยยินะละกุม..บะอฺฎ็อลละซีตัคตะลิฟูนะฟีฮฺ ฟัตตะกุลลอฮะวะอะฏีอูน
64. อิน..นัลลอฮะฮุวะร็อบบี วะร็อบบุกุม  ฟะอฺบุดูฮฺ ฮาซาศิรอฏุม..มุสตะกีม


คำแปล R1.
61. And he ['Iesa (Jesus), son of Maryam (Mary)] shall be a known sign for (the coming of) the Hour (Day of Resurrection) [i.e. 'Iesa's (Jesus) descent on the earth]. Therefore have no doubt concerning it (i.e. the Day of Resurrection). And follow Me (Allah) (i.e. be obedient to Allah and do what He orders you to do, O mankind)! This is the Straight Path (of Islamic Monotheism, leading to Allah and to his Paradise).
62. And let not Shaitan (Satan) hinder you (from the right religion, i.e. Islamic Monotheism), verily, he (Satan) to you is a plain enemy.
63. And when 'Iesa (Jesus) came with (Our) clear proofs, he said: "I have come to you with Al-Hikmah (Prophethood), and in order to make clear to you some of the (points) In which you differ, therefore fear Allah and obey Me,
64. "Verily, Allah! He is my Lord (God) and your Lord (God). So worship Him (Alone). This is the (only) Straight Path (i.e. Allah's Religion of true Islamic Monotheism)."


คำแปล R2.
61. และแท้จริงเขา(อีซา)นั้น เป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับกาลอวสานโลก ดังนั้นพวกเจ้าอย่าสงสัยในเรื่องนั้น และพวกเจ้าจงตามฉัน นี่เป็นแนวทางอันเที่ยงตรง
62. และจงอย่าให้มารร้ายมาขัดขวางพวกเจ้า(ต่อการตามหลักศาสนาอิสลาม) เพราะว่ามันเป็นศัตรูอันแจ้งชัดที่สุดสำหรับพวกเจ้า
63. และเมื่ออีซาได้นำหลักฐานอันชัดเจนมา(ยังกลุ่มชนของเรา) เขาประกาศว่า “แท้จริงฉันได้นำวิทยญาณมายังพวกท่าน และเพื่อฉันจะได้ชี้แจงแก่พวกท่านบางอย่างที่พวกท่านมีการพิพาทกัน ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลเลาะฮฺ และจงภักดีต่อฉันเถิด”
64. “แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงเป็นองค์อภิบาลของฉันและองค์อภิบาลของพวกท่าน ดังนั้นท่านทั้งหลายจงนมัสการพระองค์เถิด! นี่เป็นแนวทางอันเที่ยงตรงที่สุด”


คำแปล R3.
61. ความจริงแล้วเขาเป็นเครื่องหมายแห่งยามอวสาน ดังนั้นเจ้าอย่าได้สงสัยใด ๆ และจงปฏิบัติตามฉัน นี่คือแนวทางอันเที่ยงตรง
62. จงอย่าให้ชัยฏอนขัดขวางเจ้าจากสิ่งนี้ แท้จริง มันเป็นศัตรูของเจ้าอย่างเปิดเผย
63. และเมื่ออีซามาพร้อมกับสัญญาณต่าง ๆ อันชัดแจ้ง เขาได้กล่าวว่า “ฉันได้นำวิทยปัญญามายังพวกท่าน และได้มาทำให้พวกท่านเข้าใจความจริงในสิ่งที่พวกท่านขัดแย้งกัน ดังนั้นจงเกรงกลัวอัลลอฮฺและเชื่อฟังฉัน
64. แท้จริง อัลลอฮฺคือพระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่านด้วยเช่นกัน ดังนั้น จงเคารพภักดีพระองค์ นี่คือแนวทางอันเที่ยงตรง


คำแปล R4.
61. และแท้จริงเขา (อีซา) แน่นอนเป็นเครื่องหมายแห่งยามอวสาน ดังนั้นเจ้าอย่าได้สงสัยในเรื่องนี้ แต่จงปฏิบัติตามฉัน นี้คือแนวทางอันเที่ยงตรง
62. และอย่าให้ชัยฏอนมาขัดขวางพวกเจ้า แท้จริงมันเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้า
63. และเมื่ออีซาได้มาพร้อมด้วยหลักฐานทั้งหลายอันชัดแจ้ง เขากล่าวว่า แน่นอนฉันได้มาหาพวกท่านพร้อมด้วยการเป็นนะบีและบทบัญญัติแห่งอินญีล และเพื่อฉันจะได้ชี้แจงแก่พวกท่านให้กระจ่างแจ้งในบางเรื่องที่พวกท่านขัด แย้งกัน ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังปฏิบัติตามฉันเถิด
64. แท้จริงอัลลอฮฺนั้น พระองค์คือพระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้นจงเคารพภักดีพระองค์เถิด นี่คือแนวทางอันเที่ยงตรง


คำแปล  R5.
๖๑. และแท้จริงเขานั้นเป็นเครื่องหมายหนึ่งในกาลสลายของโลกนี้ เพราะเมื่อโลกใกล้สลายมีดัจยาลลงมาล่อลวงมนุษย์และนบีอีซาก็จะลงมาปราบดัจยาล ดังนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าได้สงสัยในสิ่งนั้นเพราะมันต้องอุบัติขึ้นแน่ และเจ้าทั้งหลายจงตามฉัน นี้คือแนวทางอันเที่ยงตรง
๖๒. และพวกเจ้าอย่าให้มารร้ายกันพวกเจ้าออกจากแนวทางของอิสลาม เพราะแท้จริงมันเป็นศัตรูอันชัดแจ้งของพวกเจ้า
๖๓. และเมื่อนบีอีซา ได้นำหลักธรรมและปาฏิหาริย์ที่แจ้งชัดมาประกาศและแสดงให้พวกนั้นประจักษ์เขาพูดว่า ฉันได้นำความรอบรู้มาสู่พวกท่าน และเพื่อฉันจะได้ชี้แจงต่อพวกท่านถึงบางอย่างที่พวกท่านมีการพิพาทกันเอง ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลเลาะห์และจงภักดีต่อพระองค์เถิด
๖๔. แท้จริงอัลเลาะห์นั้นพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของฉันและเป็นพระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้นท่านทั้งหลายจงนมัสการพระองค์เถิด นี้เป็นแนวทางอันเที่ยงตรง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 65 - 67


คำอ่าน
65. ฟัคตะละฟัลอะหฺซาบุมิม..บัยนิฮิม ฟะวัยลุลลิลละซีนะเซาะละมู มินอะซาบิเยามินอะลีม
66. ฮัลยัน..ซุรูนะอิลลัสสาอะตะ อัน..ตะอ์ติยะฮุม..บัฆตะเตา..วะฮุมลายัชอุรูน
67. อัลอะคิลลา...อุเยามะอิซิม..บะอฺฎุฮุม ลิบะอฺฎิน อะดูววุน อิลลัลมุตตะกีน


คำแปล R1.
65. But the sects from among themselves differed. So woe to those who do wrong (by ascribing things to 'Iesa (Jesus) that are not true) from the torment of a painful Day (i.e. the Day of Resurrection)!
66. Do they only wait for the Hour that it shall come upon them suddenly, while they perceive not?
67. Friends on that Day will be foes one to another except Al-Muttaqun (pious - see V.2:2).


คำแปล R2.
65. แต่แล้วบรรดากลุ่มต่าง ๆ ก็มีการพิพาทกันระหว่างพวกเขากันเอง ดังนั้นความหายนะจึงประสบแก่บรรดาผู้อธรรม เนื่องจากโทษทัณฑ์แห่งวันอันทรมานยิ่ง
66. พวกเขาไม่ได้เฝ้าคอย นอกจากกาลอวสานโลก ที่จะประสบแก่พวกเขาโดยฉับพลันและพวกเขาไม่รู้สึกตัว
67. บรรดามิตรสหายในวันนั้นต่างก็เป็นศัตรูซึ่งกันและกัน ยกเว้นบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น


คำแปล R3.
65. แต่(ถึงแม้คำสอนของเขาจะชัดเจนแล้ว) นิกายต่าง ๆ ก็ยังขัดแย้งกันเอง ดังนั้น ความหายนะจากการลงฌทษแห่งวันอันเจ็บปวดจะเกิดขึ้นกับบรรดาผู้ทำความชั่ว
66. คนเหล่านี้รอคอยแต่เพียงยามอวสานที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างฉับพลันในขณะที่พวกเขาไม่รู้กระนั้นหรือ?
67. เมื่อวันนั้นมาถึง มิตรสหายทั้งหลายจะเป็นศัตรูกัน ยกเว้นบรรดาผู้ยำเกรงอัลลอฮฺ


คำแปล R4.
65. นิกายต่าง ๆ ได้ขัดแย้งกันในระหว่างพวกเขา ดังนั้นความหายนะจงประสบแด่บรรดาผู้อธรรมเนื่องจากการลงโทษแห่งวันอันเจ็บปวด
66. พวกเขามิได้คอยสิ่งใดนอกจากยามอวสาน ซึ่งมันจะมาหาพวกเขาอย่างกะทันหันโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว
67. ในวันนั้นบรรดามิตรสหายจะเป็นศัตรูกัน นอกจากบรรดาผู้ยำเกรง (อัลลอฮฺ)


คำแปล  R5.
๖๕. แต่แล้วบรรดากลุ่มต่าง ๆ ระหว่างพวกเขาก็ยังพิพาทกันในกรณีของนบีอีซา บ้างว่า นบีอีซาเป็นพระเจ้า บ้างว่าเป็นบุตรของพระเจ้า บ้างว่าเป็นหนึ่งในพระเจ้าสามองค์ บ้างว่าเป็นเพียงทูตพระเจ้า กลุ่มที่หนึ่งได้แก่นิกายยะอกูบียะห์ กลุ่มที่สองนิกายมัสกูซียะห์ กลุ่มที่สามมะละกานียะห์ และกลุ่มที่สี่เป็นกลุ่มศรัทธาชนที่ถูกต้องถ่องแท้ ดังนั้นความหายนะจึงเป็นของบรรดาผู้อธรรมที่ยึดมั่นผิด ๆ ในตัวนบีอีซา ซึ่งพวกเขาต้องประสบความหายนะ เนื่องจากโทษทัณฑ์ในวันกิยามะห์อันทรมานยิ่ง
๖๖. พวกเขามิได้รออะไรทั้งสิ้นนอกจากกาลสลายของโลก ซึ่งมันจะอุบัติกับพวกเขาอย่างกะทันหัน โดยพวกเขาไม่รู้สึกตัว
๖๗. บรรดาผู้เป็นเพือ่นกันในวันนั้นต่างจะเป็นศัตรูที่ทุ่มเถียงและซัดทอดความผิดแก่กันและกัน ยกเว้นบรรดาผู้ยำเกรงอัลเลาะห์ และประพฤติตัวในทำนองคลองธรรมโดยเคร่งครัดเท่านั้น ?จะมีความรักซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้นและถาวร ไม่ซัดทอดและไม่เป็นศัตรูกันเอง




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 68 - 73


คำอ่าน
68. ยาอิบาดิ ลาค็อวฟุนอะลัยกุมมุลเยามะ วะลาอัน..ตุมตะหฺซะนูน
69. อัลละซีนะอามะนู บิอายาตินา วะกานูมุสลิมีน
70. อุดคุลุลญัน..นะตะ อัน..ตุมวะอัซวาญุกุม ตุหฺบะรูน
71. ยุฏอฟุอะลัยฮิม..บิฎิหาฟิม..มิน..ซะฮะบิว..วะอักวาบ วะฟีฮามาตัชตะฮีฮิลอัน..ฟุสุ วะตะลัซซุลอะอฺยุน วะอัน..ตุมฟีฮาคอลิดูน
72. วะติลกัลญัน..นะตุลละตี..อูริษตุมูฮา บิมากุนตุมตะอฺมะลูน
73. ละกุมฟีฮาฟากิฮะตุน..กะษีเราะตุม..มินฮาตะอ์กุลูน

 
คำแปล R1.
68. (It will be said to the true believers of Islamic Monotheism): My worshipers! No fear shall be on you this day, nor shall you grieve,
69. (You) who believed in Our Ayat (proofs, verses, lessons, signs, revelations, etc.) and were Muslims (i.e. who submit totally to Allah's will, and believe in the Oneness of Allah - Islamic Monotheism).
70. Enter Paradise,y and your wives, in happiness.
71. Trays of gold and cups will be passed round them, (there will be) therein all that the one's inner-selves could desire, all that the eyes could delight in, and you will abide therein forever.
72. This is the Paradise which you have been made to inherit because of your deeds which you used to do (in the life of the world).
73. Therein for you will be fruits in plenty, of which you will eat (as you desire).


คำแปล R2.
68. (อัลเลาะฮฺทรงตรัสแก่พวกเขาว่า) “โอ้ข้าทาสของข้า! วันนี้ไม่มีสิ่งน่ากลัวใด ๆ สำหรับพวกเจ้าอีกแล้ว และพวกเจ้าจะไม่เสียใจ(ไปจนตลอด)”
69. (พวกเหล่านั้น)ล้วนเป็นพวกที่มีศรัทธากับบรรดาโองการของราและวพกเขาล้วนเป็นผู้สวามิภักดิ์
70. “พวกเจ้าจงเข้าสวรรค์อย่างมีความสุขเถิด รวมทั้งคู่ครองของพวกเจ้าด้วย”
71. พวกเหล่านั้นมีถาดและแก้วที่ทมาจากทองคำ ถูกนำมาวนเวียน(บริการพวกเขา) และในนั้นมีสิ่งที่อารมณ์ต้องการ และสายตามองด้วยความเสน่หา และพวกเจ้าได้เข้าประจำในนั้นโดยนิรันดร
72. “และสวรรค์นั้น เป็นที่ถูกสืบทอดแก่พวกเจ้า เพราะ(ความดี)ที่พวกเจ้าได้ประพฤติไว้”
73. “ในนั้นมีผลไม้อันมากมายสำหรับพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้รับประทานจากมัน”

 
คำแปล R3.
68. (เมื่อวันนั้นมาถึง จะมีการกล่าวแก่พวกเขาว่า) “บ่าวทั้งหลายของฉัน วันนี้ไม่มีความหวาดกลัวอันใดสำหรับสูเจ้าและสูเจ้าจะไม่ต้องเศร้าใจ
69. บรรดาผู้ที่ศรัทธาในสัญญาณทั้งหลายของเรา และผู้นอบน้อมยอมตนทั้งหลาย
70. จงเข้าไปในสวรรค์เถิด ทั้งตัวของสูเจ้าและคู่ครองของสูเจ้า สูเจ้าจะได้รับความสุข
71. ที่นั่นจะมีจานทองคำและถ้วยน้ำเวียนรอบพวกเขา และที่นั่นพวกเขาจะได้รับทุกสิ่งที่จิตใจของเขาปรารถนา และสายตาของพวกเขาชื่นชมยินดี (และพวกเขาจะถูกกล่าวว่า) “จงพำนักอยู่ในนั้นตลอดไป
72. สูเจ้าได้รับสวนสวรรค์เป็นมรดกตามที่สูเจ้าได้กระทำไว้
73. ที่นี่ผลไม้มากมายให้สูเจ้าได้กิน”


คำแปล R4.
68. โอ้ปวงบ่าวของข้าเอ๋ย ไม่มีความหวาดกลัวอันใดแก่พวกเจ้าในวันนี้ และพวกเจ้ามิต้องเศร้าสลดใจ
69. บรรดาผู้ศรัทธาต่อสัญญาณทั้งหลายของเรา และพวกเขาเป็นผู้นอบน้อม
70. พวกเจ้าจงเข้าไปในสวนสวรรค์ ทั้งตัวของพวกเจ้าและคู่ครองของพวกเจ้าอย่างแช่มชื่นแจ่มใส
71. จะมีจานทำด้วยทองคำและแก้วน้ำถูกนำมาเวียนรอบ ๆ พวกเขา และในสวนสวรรค์นั้น จะมีสิ่งที่จิตใจของพวกเขาต้องการและสายตาของพวกเขาชื่นชมยินดี และพวกเจ้าจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล
72. และนั่นคือสวนสวรรค์ ซึ่งพวกเจ้าได้ถูกให้รับเป็นมรดกตามที่พวกเจ้าได้กระทำ (ความดี) ไว้
73. ในสวนสวรรค์นั้นจะมีผลไม้มากมายสำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าจะได้กินส่วนหนึ่งจากมัน


คำแปล  R5.
๖๘. อัลเลาะห์ได้ตรัสแก่พวกที่ยำเกรงว่าโอ้ข้าทาสแห่งข้า ในวันนี้ไม่มีความประหวั่นใด ๆ สำหรับพวกเจ้า และพวกเจ้าจะไม่เศร้าโศกอีกต่อไป
๖๙. บรรดาผู้ศรัทธามั่นในโองการของเราโดยพวกเขาเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่ออัลเลาะห์และประพฤติตามบทบัญญัติของพระองค์โดยเคร่งครัด
๗๐. พวกเจ้าทั้งหลายจงเข้าสวรรค์เถิด พวกเจ้าและบรรดาคู่ครองของพวกเจ้าจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์ในนั้น
๗๑. พวกเขาจะถูกนำชามและถ้วยที่ทำมาจากทองวนเวียนอยู่กับพวกเขาตลอดเวลาที่เขาต้องการ ซึ่งสมบูรณ์ไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ขาดแคลน และในนั้นมิสิ่งที่อารมณ์อยากใคร่ และสายตามีความสุขที่ได้มองและพวกเจ้าทั้งหลายจะอยู่ในนั้นโดยถาวร
๗๒. และสวรรค์นั้นซึ่งพวกเจ้าได้รับมรดกเป็นมรรคผลแก่พวกเจ้าเนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าได้พากเพียรไว้
๗๓. สำหรับพวกเจ้าในนั้นมีผลไม้มากมายซึ่งบางอย่างเจ้าก็รับประทานมัน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 74 - 77


คำอ่าน
74. อิน..นัลมุจญริมีนะ ฟีอะซาบิญะฮัน..นะมะ คอลิดูน
75. ลายุฟัตตะรุ อันฮุม วะฮุมฟีฮิ มุบลิสูน
76. วะมาเซาะลัมนาฮุม วะลากิน..กานูฮุมุซซอลิมีน
77. วะนาเดายามาลิกุ ลิยักฎิ อะลัยนาร็อบบุก กอละอิน..นะกุม..มากิษูน


คำแปล R1.
74. Verily, the Mujrimun (criminals, sinners, disbelievers, etc.) will be in the torment of Hell to abide therein forever.
75. (The torment) will not be lightened for them, and they will be plunged into destruction with deep regrets, sorrows and in despair therein.
76. We wronged them not, but they were the Zalimun (polytheists, wrong-doers, etc.).
77. And they will cry: "O Malik (Keeper of Hell)! Let your Lord make an end of us." He will say: "Verily you shall abide forever."


คำแปล R2.
74. แท้จริงบรรดาคนบาปทั้งหลายย่อมอยู่ในการลงโทษของนรกยะฮันนัมโดยนิรันดร
75. พวกเขามิได้รับการผ่อนผัน(ในการลงโทษเลย)และพวกเขาจะอยู่ในนั้นอย่างหมดอาลัยใยดี(ต่อตัวเอง)
76. และเรามิได้อธรรมต่อพวกเขาเลย แต่พวกเขาต่างหากที่อธรรม(แก่ตัวเอง)
77. และพวกเขาร้องเรียกว่า “โอ้มาลิก! ขอให้องค์อภิบาลของท่านจงตัดสินให้พวกเราตายไปเสียพ้น ๆ เถิด (เพื่อเราจะได้ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป)” มาลิก (ผู้จัดการนรก) กล่าวว่า “แท้จริงพวกท่านจะต้องอยู่อย่างถาวร(ในนรกนี้เอง)”


คำแปล R3.
74. ส่วนผู้กระทำความผิดนั้น พวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษในนรกตลอดกาล
75. พวกเขาจะไม่ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และในนั้นพวกเขาจะมีแต่ความสิ้นหวัง
76. เรามิได้อธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาเองต่างหากที่อธรรมต่อตัวเอง
77. พวกเขาจะร้องออกมาว่า “โอ้ มาลิก โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายไปเถิด” เขาจะตอบว่า “พวกท่านจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป”


คำแปล R4.
74. แท้จริงบรรดาผู้กระทำความผิด (ผู้ปฏิเสธศรัทธา) นั้นจะอยู่ในการลงโทษในนรกญะฮันนัมตลอดกาล
75. การลงโทษนั้นจะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขา และในการลงโทษนั้นพวกเขาเป็นผู้หมดหวัง
76. และเรามิได้อธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาต่างหากที่เป็นผู้อธรรมต่อตัวเอง
77. และพวกเขาจะร้องเรียกขึ้นว่า โอ้มาลิก (ยามเฝ้าประตูนรก) โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายเสียเถิด เขา (มาลิก) จะกล่าวว่า แท้จริงส่วนมากของพวกเจ้าเป็นผู้พำนักอยู่ตลอดไป


คำแปล  R5.
๗๔. แท้จริงเหล่าทุรชนย่อมได้รับการลงโทษถาวรในนรกยะฮันนัม เนื่องจากความประพฤติอันเลวทรามและความเนรคุณของพวกเขาเอง
๗๕. พวกเขามิได้รับการผ่อนผันโทษแต่ประการใด ๆ และพวกเขาอยู่ในนั้นอย่างเงียบงันไม่เอื้อนเอ่ยวาจา และแสดงพฤติกรรมใด ๆ เพราะความรันทดท้อแท้ และสิ้นหวังในชะตากรรมของตนเอง
๗๖. และเรามิได้อธรรมแก่พวกเขาเลย แต่พวกเขาเองต่างหากที่อธรรมแก่ตัวเองเพราะไม่ยอมรับศรัทธาในศาสนาอิสลาม
๗๗. และพวกเขาร้องเรียกว่า โอ มาลิกผู้ควบคุมนรกขอให้องค์อภิบาลของท่านรีบพิพากษาพวกเราเถิดโดยให้พวกเราสิ้นชีวิตไปเสีย เพื่อจะได้พ้นทรมาน จากนั้นมาลิกเขากล่าวว่า พวกเจ้าต้องอยู่ในนั้นตลอดไปโดยง่ายดาย เพื่อได้รับความทนทุกข์ทรมานให้สาสมกับที่ได้เนรคุณมาก่อน




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 78 - 80


คำอ่าน
78. ละก็อดญิอ์นากุม..บิลหัก วะลากิน..นะอักษะเราะกุม ลิลหักกิการิฮูน
79. อัมอับเราะมู..อัมรอน..ฟะอิน..นามุบริมูน
80. อัมยะหฺสะบูนะ อัน..นาลานัสมะอุ สิรฺเราะฮุม วะนัจญวาฮุม บะลา วะรุสุลุนาละดัยฮิม ยักตุบูน


คำแปล R1.
78. Indeed we have brought the truth (Muhammad with the Qur'an), to you, but Most of you have a hatred for the truth.
79. Or have they plotted some plan? Then we too are planning.
80. Or do they think that we hear not their secrets and their private counsel? (Yes we do) and Our Messengers (appointed angels in charge of mankind) are by them, to record.


คำแปล R2.
78. (อัลเลาะฮฺตรัสว่า) “ขอยืนยัน! แท้จริงเราได้นำมาซึ่งสัจธรรมแก่พวกเจ้า (โดยให้มีศาสนทูตมาประกาศสัจธรรมนั้น) แต่ทว่าพวกเจ้าส่วนมากได้รังเกียจสัจธรรม(จึงต้องรับโทษเช่นนั้น)”
79. ยิ่งไปกว่านั้น! พวกเขาได้วางแผนการอย่างเด็ดขาด (เพื่อทำลายศาสนทูตนบีมูฮำมัด) ดังนั้นเราจึงได้จัดการวางแผน (ย้อนพวกเขาและ) ทำลายพวกเขาในที่สุด
80. สมควรหรือที่พวกเขาคิดว่า เราไม่ได้ยินความลับของพวกเขา และการซุบซิบของพวกเขา? แต่ทว่า! บรรดาทูต (มลาอิกะฮฺ) ของเราทำการบันทึก(คำสนทนาและพฤติการณ์ต่าง ๆ )ในพวกเขา(ตลอดเวลา)


คำแปล R3.
78. เราได้นำความจริงมายังท่านแล้ว แต่พวกท่านส่วนมากรังเกียจความจริง”
79. หรือว่าพวกเขาได้ตัดสินใจวางแผนไว้แล้วใช่ไหม? ดีละ เราก็จะวางแผนของเราด้วยเช่นกัน
80. พวกเขาคิดกรือว่าเราไม่ได้ยินการพูดกันอย่างลับ ๆ และการกระซิบของพวกเขา มลาอิกะฮฺของเราอยู่ข้าง ๆ ของพวกเขาคอยจดบันทึกอยู่


คำแปล R4.
78. โดยแน่นอนเราได้นำความจริงมายังพวกเจ้าแล้ว แต่ส่วนมากของพวกเจ้าเป็นผู้ชิงชังความจริง
79. หรือว่าพวกเขาได้ตกลงวางแผนในเรื่องใด ดังนั้นแน่นอนเราก็ได้ตกลงวางแผนเช่นกัน (ที่จะทำลายแผนของพวกเขา)
80. หรือพวกเขาคิดว่า เราไม่ได้ยินความลับของพวกเขา และการประชุมลับของพวกเขาแน่นอน (เราได้ยิน) และทูตของเราอยู่กับพวกเขา เพื่อบันทึก


คำแปล  R5.
๗๘. ที่จริงเราได้นำสัจธรรมมาสู่พวกเจ้าแต่ว่าคนส่วนมากของพวกเจ้ากลับรังเกียจสัจธรรมนั้น
๗๙. หรือว่าพวกชาวเนรคุณมักกะห์เหล่านั้นได้สนับสนุนงานประกาศสัจธรรมของนบีมุฮำมัดความจริงก็เปล่าทั้งสิ้นเราต่างหากเป็นผู้สนับสนุนงานดังกล่าวโดยทำลายพวกเนรคุณ จนงานของนบีมุฮำมัดได้บรรลุสู่ผลสำเร็จที่สุด
๘๐.  หรือว่าพวกเขาจะคิดว่าเราไม่ได้ยินความลับของพวกเขาที่แฝงเร้นอยู่ในพวกเขาโดยแอบวางแผนที่จะทำร้ายนบีมุฮำมัด และความเปิดเผยของพวกเขาที่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งในการก้าวร้าว และขัดขวางการทำงานของนบีมุฮำมัด ความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นแผนลับหรือเปิดเผยก็ตาม อัลเลาะห์ย่อมทราบดี และบรรดาทูตมลาอิกะห์หะฟะเซาะห์ที่ทำหน้าที่พิทักษ์ของเราได้อยู่กับพวกเขาทำการบันทึกการกระทำต่าง ๆ อย่างละเอียดละออ




สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 81 - 83


คำอ่าน
81. กุลอิน..กานะ ลิรฺเราะหฺมานิวะลัด ฟะอะนะ เอาวะลุลอาบิดีน
82. สุบหานะร็อบบิสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ ร็อบบิลอัรฺชิ อัม..มายะศิฟูน
83. ฟะซัรฺฮุม ยะคูฎู วะยัลอะบูหัตตา ยุลากูเยามะฮุมุลละซี ยูอะดูน


คำแปล R1.
81. Say (O Muhammad): "If the Most Beneficent (Allah) had a son (or children as you pretend), then I am the first of Allah's worshippers [who deny and refute this claim of yours (and the first to believe in Allah alone and testify that He has no children)]." [Tafsir At-Tabari].
82. Glorified be the Lord of the heavens and the earth, the Lord of the Throne! Exalted is He from all that they ascribe (to Him).
83. So leave them (Alone) to speak nonsense and play until they meet the Day of theirs, which they have been promised.


คำแปล R2.
81. จงประกาศเถิด! “หากแม้นพระผู้ทรงเมตตามีบุตรจริงแล้วไซร้ แน่นอน ดังนั้นฉันนี่แหละจะเป็นคนแรกที่ทำการนมัสการ”
82. องค์อภิบาลแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน องค์อภิบาลแห่งบัลลังก์ ทรงบริสุทธิ์ยิ่งนักเกินกว่าสิ่งที่พวกเขาบรรยายคุณลักษณะไว้
83. ดังนั้นเจ้าจงปล่อยพวกเขาไว้ให้พวกเขาหลงผิดไปเองเถิด และให้พวกเขารื่นเริงไปเถิด จนกระทั่งพวกเขาจะพบกับวันของพวกเขา ตามที่พวกเขาถูกสัญญาไว้


คำแปล R3.
81. (มุฮัมมัด) จงบอกพวกเขาเถิดว่า “ถ้าหากพระผู้ทรงกรุณาปรานีมีบุตร ฉันจะเป็นคนแรกที่เคารพสักการะเขา”
82. มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระผู้ทรงอภิบาลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระเจ้าแห่งบัลลังก์เหนือสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างถึงพระองค์
83. ดังนั้น จงปล่อยพวกเขาให้หมกมุ่นอยู่ในความเท็จและการละเล่น จนกว่าพวกเขาจะพบวันของพวกเขาซึ่งได้ถูกสัญญาไว้


คำแปล R4.
81. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ถ้าหากพระผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงมีโอรส ดังนั้นฉันจะเป็นคนแรกในหมู่ผู้เคารพภักดีทั้งหลาย
82. มหาบริสุทธิ์แด่พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระเจ้าแห่งบัลลังก์ (ทรงบริสุทธิ์) จากสิ่งพวกเขากล่าวอ้าง
83. ดังนั้นเจ้าจงปล่อยพวกเขาให้มั่วสุมและหลงระเริง จนกว่าพวกเขาจะได้พบกับวัน (กิยามะฮฺ) ของพวกเขา ซึ่งพวกเขาถูกสัญญาไว้


คำแปล  R5.
๘๑. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงประกาศเถิด หากแม้นอัลเลาะห์ผู้ทรงเมตตามีบุตรแล้วไซร้ ตัวฉันเองนี่แหละที่จะเป็นผู้ทำการนมัสการบุตรของพระองค์เป็นคนแรก
๘๒. มหาบริสุทธิ์ยิ่งนัก พระผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ทรงบริสุทธิ์เกินกว่าสิ่งที่พวกเขาบรรยายคุณลักษณะเกี่ยวกับพระองค์
๘๓. ดังนั้นโอ้มุฮำมัดเจ้าจงปล่อยพวกเขาไว้เถิด แล้วพวกเขาก็จะเพ้อเจ้อคำพูดอันโมฆะ และไร้สาระและสำเริงอยู่กับความสุขชั่วแล่นของโลกนี้จนกว่าพวกเขาจะได้พบวันแห่งพวกเขาตามที่พวกเขาถูกสัญญาไว้นั่นคือวันกิยามะห์ซึ่งพวกเขาจะต้องได้รับโทษตามสัญญาทุกประการ




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 84 - 86


คำอ่าน
84. วะฮุวัลละซี ฟิสสะมา...อิ อิลาฮู..วะฟิลอัรฺฎิอิลาฮฺ วะฮุวัลหะกีมุลอะลีม
85. วะตะบาเราะกัลป์ละซี ละฮูมุลกุสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วะมาบัยนะฮุมา วะอิน..ดะฮู อิลมุสสาอะติ วะอิลัยฮิตุรฺญะอูน
86. วะลายัมลิกุลละซีนะ ยัดอูนะมิน..ดูนิฮิชชะฟาอะตะ อิลลามัน..ชะฮิดะบิลหักกิ วะฮุมยะอฺละมูน


คำแปล R1.
84. It is He (Allah) who is the only Ilah (God to be worshipped) in the heaven and the only Ilah (God to be worshipped) on the earth. And He is the All-Wise, the All-Knower.
85. And blessed be He to whom belongs the Kingdom of the heavens and the earth, and all that is between them, and with whom is the knowledge of the Hour, and to whom you (all) will be returned.
86. And those whom they invoke instead of Him have no power of intercession; except those who bear witness to the truth (i.e. believed in the Oneness of Allah, and obeyed his Orders), and they know (the facts about the Oneness of Allah) .


คำแปล R2.
84. และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า(ที่ต้องได้รับการนมัสการ)ทั้งในฟากฟ้าและในแผ่นดิน และพระองค์ทรงปรีชาญาณยิ่ง ทรงรอบรู้ยิ่ง
85. และทรงความจำเริญ พระผู้ทรงอำนาจแห่งฟากฟ้าและแผ่นดิน รวมทั้งสรรพสิ่งระหว่างทั้งสอง และพระองค์ทรงรอบรู้ใน(กำหนดของ)กาลปาวสานโลก(แต่เพียงพระองค์เดียว) และพวกเจ้าต้องกลับคืนไปสู่พระองค์อย่างแน่นอน
86. และบรรดาผู้วอนนมัสการสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระองค์ ย่อมไม่มีอำนาจสงเคราะห์(แก่ผู้ใดได้) ยกเว้นผู้สักขียืนยันในหลักสัจธรรม (ด้วยการศรัทธาในอัลเลาะฮฺเพียงองค์เดียวโดยแท้จริง) และพวกเขารู้(อย่างมั่นคงในหลักการที่ตนศรัทธา มิใช่ศรัทธาตามผู้อื่น ซึ่งคนพวกนี้แหละที่มีสิทธิ์สงเคราะห์ผู้อื่นได้)


คำแปล R3.
84. และพระองค์เท่านั้นคือพระเจ้าในชั้นฟ้าทั้งหลายและพระเจ้าแห่งแผ่นดิน และพระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้
85. มหาจำเริญคือพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างนั้น พระองค์เท่านั้นที่มีความรู้เรื่องยามอวสาน และยังพระองค์ที่สูเจ้าจะถูกนำกลับไป
86. บรรดาผู้ที่เขาวิงวอนนอกไปจากพระองค์นั้นไม่มีอำนาจที่จะขอไถ่โทษ นอกไปจากผู้ยืนยันสัจธรรมด้วยความรู้


คำแปล R4.
84. และพระองค์คือพระผู้เป็นเจ้าแห่งชั้นฟ้า และพระผู้เป็นเจ้าแห่งแผ่นดิน และพระองค์เป็นเจ้าแห่งแผ่นดิน และพระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้
85. ความเจริญสุขจงมีแด่พระผู้ซึ่งอำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และ ณ ที่พระองค์นั้นคือความรอบรู้แห่งยามอวสาน และยังพระองค์เท่านั้นที่พวกเจ้าจะถูกนำกลับไป
86. และบรรดาผู้ที่วิงวอนขอสิ่งอื่นจากพระองค์นั้น จะไม่มีอำนาจในการขอชะฟาอะฮฺ นอกจากผู้ยืนยันเป็นพยานด้วยความจริง และพวกเขารู้ดี


คำแปล  R5.
๘๔. และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ต้องได้รับนมัสการในชั้นฟ้า และทรงเป็นพระเจ้าในแผ่นดิน และพระองค์ทรงปรีชาญานยิ่ง ทรงรอบรู้ยิ่ง
๘๕. และทรงไว้ซึ่งความมงคลอัลเลาะห์ผู้ทรงสิทธิแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสรรพสิ่งที่มีอยู่ในระหว่างทั้งสองนั้นและความรอบรู้เกี่ยวกับวาระแห่งการอุบัติของกาลสลายแห่งโลกหน้าเป็นของพระองค์ไม่มีใครสามารถทราบได้และพวกเจ้าต้องกลับสู่พระองค์เพื่อรอรับคำพิพากษาของพระองค์
๘๖. และบรรดาเจว็ด หรือวัตถุบูชาอื่นใดที่พวกเขาวอนขอนอกเหนือจากพระองค์อัลเลาะห์ยกเว้นบุคคลที่ปฏิญาณตน ด้วยคำปฏิญาณอันเป็นสัจจะนั่นคือ “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ มุฮัมมะดุรฺรอซูลุลเลาะห์” และพวกเขาย่อมรู้ดีในสิ่งที่พวกเขายึดมั่นและรับรอง นั่นคือพวกนัสรอนีกราบไหว้นบีอีซา พวกยะฮูดี กราบไหว้อุซัยร และพวกอาหรับบะนูมุลีห์กราบไหว้มลาอิกะห์




สูเราะฮฺ อัซซุครุฟ อายะฮฺที่ 87 - 89


คำอ่าน
87. วะละอิน..สะอัลตะฮุม..มันเคาะละเกาะฮุม ละยะกูลุน..นัลลอฮุ ฟะอัน..นายุอ์ฟะกูน
88. วะกีลิฮี ยาร็อบบิ อิน..นะฮา...อุลา...อิก็อวมุลลายุอ์มินูน
89. ฟัศฟะหฺอันฮุม วะกุลสะลาม ฟะเสาฟะยะอฺละมูน


คำแปล R1.
87. And if you ask them who created them, they will surely say: "Allah". How then are they turned away (from the Worship of Allah, who created them)?
88. (Allah has knowledge) of (Prophet Muhammad's) saying: "O my Lord! Verily, these are a people who believe not!"
89. So turn away from them (O Muhammad), and say: Salam (peace)! But they will come to know.


คำแปล R2.
87. ขอยืนยัน! แท้จริงหากพวกเจ้าถามพวกเขาว่า “ใครเล่าที่บันดาลพวกเขา?” แน่นอนที่สุด พวกเขาต้องตอบว่า “อัลเลาะฮฺ!” แล้วไฉนเล่า พวกเขาจึงถูกผันแปร(จากการศรัทธาพระองค์)?
88. และ(พระองค์ทรงรอบรู้)คำพูดของเขา(มูฮำมัดที่ว่า) “โอ้ผู้ทรงอภิบาล! แท้จริงพวกเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา(ทั้งสิ้น)”
89. (อัลเลาะฮฺทรงตรัสตอบแก่นบีมูฮำมัดว่า) “ดังนั้นเจ้าจงเมินเฉย(อย่าถือโทษ)พวกเขาเถิด และจงพูดว่า สันติสุข! (จงประสบแก่พวกท่าน) แล้วพวกเขาจะได้รู้ในโอกาสต่อไป(ว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนประการใดบ้าง)


คำแปล R3.
87. และถ้าหากเจ้าถามพวกเขาว่าใครเป็นผู้สร้างพวกเขามา พวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮฺ” แล้วพวกเขาก็ยังหันไปทางอื่นอีกหรือ?
88. และด้วยคำพูดนี้ของรอซูล “ข้าแต่พระผู้อภิบาล คนเหล่านี้คือหมู่ชนผู้ไม่ศรัทธา”
89. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงอดทนต่อพวกเขาและกล่าว “สันติจงมีแด่ท่าน” ในไม่ช้าพวกเขาจะได้รู้


คำแปล R4.
87. และถ้าพวกเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ แล้วทำไมเล่าพวกเขาจึงหันเหออกไปทางอื่น
88. และจะมีเสียงกล่าวของเขาว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงชนเหล่านั้นเป็นหมู่ชนที่ไม่ศรัทธา
89. ดังนั้น เจ้าจงให้อภัยแก่พวกเขา และจงกล่าวว่าศานติ แล้วพวกเขาก็จะรู้


คำแปล  R5.
๘๗. และหากแม้นเจ้าซักถามพวกเขาว่าใครกันหนอที่บันดาลพวกเขาให้เกิดมาแน่นอนพวกเขาจะกล่าวตอบว่า อัลเลาะห์เป็นผู้ทรงบันดาลแต่แล้วไฉนเล่าพวกเขาจึงหันออกจากการนมัสการพระองค์ทั้ง ๆ ที่ยอมรับว่าพระองค์ทรงบันดาล
๘๘. และมุฮำมัดเขากล่าวว่า โอ้ผู้ทรงอภิบาล แท้จริงพวกเหล่านี้เป็นกลุ่มชนที่ไม่ยอมรับศรัทธาในสัจธรรมของพระองค์
๘๙. ดังนั้น ขอพระองค์ได้โปรดยกโทษแก่พวกเขาด้วยเถิด และขอพระองค์ได้ทรงโปรดประทานสันติสุขแก่พวกเขาด้วยเถิดแล้วต่อไปพวกเขาก็รู้เองว่าที่พวกเขาคัดค้านนั้นเป็นความโง่เขลาของพวกเขาเอง


----------------------------------------------------------------------

ดำรัสแห่งอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 43 อัซซุครุฟ



 

GoogleTagged