ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดใจมุสลิมะห์มาเลย์ ยอมถูกโบยดีกว่าถูกลงโทษในวันแห่งการตัดสิน  (อ่าน 4931 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

salam

เปิดใจมุสลิมะห์มาเลย์ ยอมถูกโบยดีกว่าถูกลงโทษในวันแห่งการตัดสิน!  



“พวกเรายินดีถูกโบยเพราะที่อาคิเราะห์ (โลกหน้า) โทษที่แท้จริงจะหนักกว่าโทษในโลกนี้”  

นี่คือความในใจที่เปิดเผยออกมาในวันศุกร์ (19 กุมภาพันธ์) ของหญิงทั้งสามคนผู้ยินดีรับโทษโบยตามหลักศาสนาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ เรือนจำหญิงกาจัง ทั้งสามคนมีประสบการณ์คล้ายกันคือ การมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดหลักศาสนาจนกระทั่งมีลูกนอกสมรส   โดยผู้หญิงทั้งสามที่มีอายุระหว่าง 18 - 20 กว่าปี ต่างยอมรับโทษสำหรับความผิดพลาดของพวกเธอบนโลกนี้ เมื่อได้ยอมมอบตัวแก่สำนักงานศาสนาอิสลามแห่งเขตการปกครองสหพันธรัฐ (Jawi) ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชายผู้เป็นคู่รักของพวกเธอต่างต้องเข้ารับโทษเช่นเดียวกัน ณ เรือนจำชายกาจัง ในวันเดียวกันกับพวกเธอ  ผู้หญิงหนึ่งคนในสามคนนี้ที่ถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กล่าวว่า "โทษโบยเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากต่อชาวมุสลิมที่ได้กระทำความผิดเช่นเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ลุ่มหลงในบาป"

        
“ดิฉันเคยได้ยินเรื่องโทษโบยต่อผู้ทำซีนา (มีเพศสัมพันธ์โดยไม่แต่งงาน) แต่ดิฉันก็คิดว่าทางการคงแค่ปรับเท่านั้น และไม่คาดคิดว่าจะมีการลงโทษโบยจริง ๆ”
“ดิฉัยยังคงลุ่มหลงในบาปต่อมาจนกระทั่งพบว่าตัวเองตั้งท้อง ตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็ไม่ได้ทำซีนาอีกเลยและสัญญากับคู่รักว่าจะแต่งงานกัน หลังจากคลอดลูกแล้ว”
“หลังจากคลอดลูกซึ่งตอนนี้มีอายุได้เกือบหนึ่งขวบแล้ว ดิฉันและคู่รักได้เข้ามอบตัวต่อสำนักงานศาสนาฯ ในช่วงต้นปีนี้”
เธอผู้มีอายุ 20 กว่าปีกล่าว โดยขอเรียกแทนตัวเองว่า “อายู” (นามสมมติ) ในขณะให้สัมภาษณ์แก่นักข่าว

        
รมว.กิจการภายใน ดาโต๊ะศรีฮิชัมมุดดิน ตุน ฮุสเซน ได้ยอมรับว่า ผู้หญิงทั้งสามได้ถูกลงโทษโบยตามมาตรา 23(2) พรบ.ความผิดอาญาชารีอะห์เขตการปกครองสหพันธรัฐปี 1997
(การมีเพศสัมพันธ์ผิดหลักศาสนา) ซึ่งตัดสินโดยศาลสูงชารีอะห์กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างช่วงเดือนธันวาคม 2009 - มกราคม 2010  ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการลงโทษโบยตามกฎหมายชารีอะห์ต่อผู้หญิงในประเทศนี้ นอกจากนี้ ยังมีผู้กระทำความผิดชายที่เข้ารับโทษโบยหกครั้งในวันเดียวกับพวกเธอด้วยฐานความผิดเดียวกันด้วย

อายูที่เข้ารับโทษจำคุกสองเดือนและได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ สมัครใจมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เธอได้ผ่านมาแล้ว เธอกล่าวว่า การยอมรับดังกล่าวล้วนเกิดมาจากความรู้สึกรับผิดชอบในฐานะชาวมุสลิมคนหนึ่ง ที่ไม่ต้องการให้ใครกระทำความผิดเช่นเดียวกับเธออีก เธอซึ่งถูกปรับเป็นเงิน 1,000 ริงกิต (ประมาณ10,000บาทไทยค่ะ)และโทษโบยสี่ครั้งได้ยอมรับว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ในขณะถูกโบย แต่มันกลับส่งผลลึกถึงภายในชีวิตของเธอโดยทำให้เธอได้กลายเป็นชาวมุสลิมที่ดีขึ้นกว่าในอดีต

“ประสบการณ์ เพียงไม่กี่นาทีนี้ได้เปิดโลกทัศน์และจิตใจของดิฉันอย่างแท้จริงว่า ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ การจะมีชีวิตอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับพระองค์”

“ดิฉันสำนึกผิดจริง ๆ และไม่อยากกลับไปทำบาปเช่นนั้นอีก และอยากจะขออภัยจากพระองค์” เธอกล่าว

      
ประสบการณ์เดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นกับผู้กระทำผิดหญิงที่ขอเรียกตัวเองว่า “อัยซะห์” วัย 18 ปีด้วย อัยซะห์ได้เข้ามอบตัวต่อสำนักงานศาสนาฯ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หลังจากที่ลูกซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ผิดหลักศาสนาของเธอเสียชีวิตลงเนื่องจากคลอดก่อนกำหนด หญิงคนนี้ได้รับโทษจำคุกหกเดือน ปรับ 3,000 ริงกิตและโบยหกครั้ง

“ดิฉันเสียใจเมื่อได้อ่านข่าวคนทิ้งเด็กทารกที่นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ดิฉันรู้ว่าตั้งครรภ์ ดิฉันไม่เคยแม้แต่จะคิดจะฆ่าเด็กผู้บริสุทธิ์เลย”

“ในความคิดของดิฉัน คนที่ฆ่าเด็กทารกได้กระทำบาปครั้งใหญ่ และขอให้อัลลอฮฺทรงโปรดให้ทางสว่างแก่พวกเขาด้วย” เธอกล่าว


ในขณะเดียวกัน ผู้กระทำความผิดอีกคนที่ขอเรียกตัวเองว่า “นูร์” อายุ 20 กว่าปี ได้มองว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกเลือกเพราะได้มีโอกาสเข้ารับโทษในโลกนี้จากความผิดพลาดของตนเอง

“ดิฉันไม่ได้มองว่าสิ่งที่ดิฉันผ่านมา (ถูกโบย) เป็นการลงโทษ แต่สำหรับดิฉันแล้ว มันเป็นโอกาสให้ดิฉันได้สำนึกผิดและกลับมายังทางที่ถูกที่ควร”

“สำหรับดิฉันแล้ว นี่เป็นสัญลักษณ์ของความรักจากอัลลอฮฺต่อตัวดิฉันที่ได้ผ่านการทดสอบนี้ และดิฉันหวังว่าประชาชนจะนำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียน” เธอกล่าว

นูร์ซึ่งมีลูกวัยสามขวบจากความสัมพันธ์ผิดหลักศาสนากับคู่รักของเธอยอมรับว่า ต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจแต่งงานเพราะเธอขาด “วาลี” (ผู้ปกครองเจ้าสาว)
 
“เป็นเวลาหกปีที่พ่อของดิฉันหายตัวไป แต่บาปทั้งหมดที่ดิฉันกระทำนี้ไม่ได้มีสาเหตุจากเรื่องนี้ มันมาจากตัวฉันเอง” เธอกล่าว

นูร์ได้รับโทษจำคุก 30 วัน และโบยหกครั้ง โดยไม่มีโทษปรับ



รายงานโดย: ศูนย์อินโดจีนศึกษา วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 05, 2010, 06:01 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด



ยาอัลลอฮ์...
ด้วยกับบาปของข้าพระองค์ 
ข้าพระองค์ไม่สามารถจะกลับไปหาพระองค์ได้
ขอพระองค์ได้โปรดอภัยให้กับข้าพระองค์ด้วยเถิด
แท้จริงแล้ว ไม่มีผู้ใดที่จะอภัยโทษได้ เว้นแต่พระองค์เท่านั้น
ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองจากพระองค์จากสิ่งที่เป็นความชั่ว ด้วยเถิด
อามีนยาร็อบ...

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
มาเลย์ยังทำไม่สมบูรณ์นะ โทษตามจริงต้องโบย100ที ไม่มีคุก ไม่มีปรับ แล้วนี้อะไรแค่6ทีเอง คุณครูตีเด็กประถมยังเยอะกว่านั้นอีก และดูรูปแล้ว ไม่เห็นจะแรงอย่างที่ผมจินตนาการไว้เลย
แต่ก็...ดี ดีที่ยังหลงเหลือกลิ่นไอแห่งอิสลามอยู่ ไม่ขาดหายไปซะทีเดียว การปฏิวัติต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป สักวัน บ้านเราคงจะสามารถมีการใช้ชารีอัตได้โดยสมบูรณ إن شاءالله และวาญิบบนพวกท่านๆๆๆทุกๆคนที่จะต้องทำให้กฎหมายอิสลามถูกประกาศใช้บนหน้าแผ่นดินให้ได้
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ muzaheh

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 157
  • เพศ: ชาย
  • eVerything mUst Go...
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
 salam
แล้วอย่างนี้คนบ้านเราจะทำยังงัยกันละ...
จะเข้ามอบตัวกับครัยได้บ้าง
...
ไม่ค่อยเห็นครัยเข้ามอบตัวเลยเนอะ

 no:
...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ...

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
salam
แล้วอย่างนี้คนบ้านเราจะทำยังงัยกันละ...
จะเข้ามอบตัวกับครัยได้บ้าง
...
ไม่ค่อยเห็นครัยเข้ามอบตัวเลยเนอะ

 no:

อยากทำนัก ก็รับบาปไปสิ ไม่อย่างนั้น ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเมื่อให้ได้มาซึ่งการประกาศใช้กฎหมายอิสลามบนหน้าแผ่นดิน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
 salam

เป็นการตัดสินที่ยุติธรรมจ่ะ
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

มีเรื่องมาเล่าให้อ่านกันค่ะ เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้โดยตรงเลยทีเดียว
อ่านแล้วซาบซึ้งมากค่ะ...


หญิงคนนึงทำบาปมากมาย และนางพร้อมจะพลีชีวิตของนาง
เพื่อที่จะได้รับการขัดเกลาให้สะอาด
นางได้ไปหาท่านรอซู้ลุลลอฮฺด้วยความโศกเศร้้าเสียใจ
และสิ่งเดียวที่นางต้องการก็คือการชำระบาปของนางให้หมดไป
เราลองมาดูเรื่องราวของนาง

หญิงผู้นี้เป็นคนในตระกูลอัลฆอมิดีและแต่งงานแล้ว
แต่นางทำผิดประเวณีและตั้งครรภ์ นางได้ไปหาท่านรอซู้ลุลลอฮฺ
และขอให้ท่านขัดเกลานางให้สะอาด โดยการใช้กฎหมายลงโทษ
ที่อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดไว้ นั่นคือ การถูกขว้างด้วยหินจนตาย

เรารู้ว่าท่านรอซูลุลลอฮฺเป็นผู้มีความเมตตา
ดังนั้น ท่านจึงบอกให้นางลืมเรื่องนี้เสียและกลับบ้านไป

อย่างไรก็ตาม หญิงคนนี้ก็ยังยืนยันว่านางต้องการที่จะได้รับการชำระ
ตัวตนให้สะอาด นางรู้ดีว่าการอภัยโทษแก่บาปของนางจะเกิดขึ้น
ก็โดยการที่นางได้รับการลงโทษตามที่อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดไว้เท่านั้น

ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงได้ขอให้นางกลับไปก่อน และกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อนางคลอดบุตรแล้ว หลังจากที่นางคลอดบุตร นางได้กลับมาหาท่านรอซูลุลลอฮฺทันที
แต่ท่านรอซูลุลลอฮฺก็ให้นางกลับไปบ้าน โดยบอกให้นางกลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่นางได้ให้นมลูกเป็นเวลาสองปีแล้ว

เป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก หลังจากที่ลูกของนางหย่านมแล้ว
นางได้กลับมาหาท่านรอซูลุลลอฮฺอีก และกล่าวทวนสิ่งที่นางได้พูดไว้ว่า

"ท่านรอซูลุลลอฮฺ จงชำระตัวตนของฉันให้สะอาดด้วยเถิด"

ดังนั้น ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงได้ส่งลูกของนางให้แก่สาวกคนหนึ่ง
และได้สั่งประหารนางด้วยการขว้างด้วยหินจนตาย
(ซึ่งเป็นการลงโทษหญิงแต่งงานที่มีชู้)

หลังจากนั้น ท่านก็นมาซให้แก่ศพของหญิงผู้นั้น
ก่อนนมาซ อุมัรฺ บินคอฏฏอบ ได้ถามท่านรอซูลุลลอฮฺว่า

"ท่านจะนมาซให้ศพของนางหรือทั้งๆที่นางทำชู้?"

ท่านรอซู้ลได้ตอบว่า

"นางได้สำนึกผิดและขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺจนถึงขนาดที่ว่า
หากเอาความสำนึกผิดของนางแบ่งให้แก่ชาวเมืองมาดีนะห์ 70 คน
มันก็มากเกินพอที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าสวรรค์"

ดูเอาเองก็แล้วกันว่า ความกล้าหาญของนาง ความสำนึกผิดด้วยความบริสุทธิ์ใจของนาง
และความต้องการที่จะได้รับการให้อภัยโทษนั้น
ได้ทำให้นางได้รับฐานะอันสูงส่งเช่นใด....




ที่มา: จากหนังสือ ไข่มุกแห่งวิทยปัญญา โดย: อุมมุลค็อยร์
บรรจง บินกาซัน : แปล



ยอมรับเลยว่า...ช่างเป็นการตัดสินที่ยุติธรรมอย่างที่สุด
และสวยงามที่สุด...ท่านรอซุลุลลอฮฺนั้นคือผู้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีงาม
ในทุกๆเรื่องอย่างหาที่ติมิได้เลย...

เพราะเรา...มุสลิมนัั้น ยังคาดหวังถึงสิ่งดีงามในโลกหน้า
การมาอยู่ ณ ดุนยานี้ แค่เพียงจะหมดลมหายใจเท่านั้น
โลกหน้านั้นนิรันดร์กว่า สวยงามกว่่า และน่าอยู่กว่าที่นีี่มาก

ทุกชีวิตที่เกิดมาต้องได้ลิ้มรสกับความตาย
และต้องคืนกลับสู่อัลลอฮฺ...

ดังนั้น เหตุการณ์ข้างบนจึงเป็นการคืนกลับอย่างสวยงาม


วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 15, 2013, 06:57 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged