อ้างจากคุณนูรุ้ลอิสลาม ที่มั่วและไม่ค่อยยกหลักฐาน
ในส่วนหนังสือที่ท่านอ้างมาคือ "หนังสือ อัลหาวีย์ ฟี อัลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 234 " ผมเองก็ไม่ค่อยสันทัดวิชาการแบบท่านสักเท่าไหร่ (ก็เคยบอกไปแล้ว)
ที่จริง ถ้าท่านจะอ้างถึงเรื่องที่ท่านอ้างมา ก็อ้างฮาดีษซอเฮียะบุคอรี/มุสลิม จะไม่ดีกว่าเหรอครับ? ให้มันเห็นๆ กันไปเลย ผมและพี่น้อง จะได้หาเปิดดูกันง่ายๆ หน่อย
6. ล่าสุดครับ วะฮาบีย์ชอบอ้างสะลัฟ แต่เวลามีหลักฐานว่าซอฮาบะฮ์และสะลัฟได้กระทำนั้น วะฮาบีย์ก็จะเลื้อยเป็นปลาไหลโดยบอกว่า "ก็อ้างฮาดีษซอเฮียะบุคอรี/มุสลิม จะไม่ดีกว่าเหรอครับ? " คือประเด็นใหนที่ตนเองจนแต้ม ก็จะบอกว่าเอาหลักฐานจากหะดิษบุคอรีมุสลิมเท่านั้นและดีกว่า แล้วที่วะฮาบีย์มักกะฮ์เขาทำกันน่ะ มันมีในหะดิษบุคอรีและมุสลิมหรือเปล่า เช่น ละหมาดตะฮัจยุดเป็นญะมาอะฮ์ในมัสยิดหะรอมทั้งที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่เคยทำในเดือนรอมะฏอนซึ่งในบุคอรีและมุสลิมมีเหรือเปล่า? เวลาจะละหมาดตะรอวิห์ก็จะมีคนกล่าวว่า ซ่อลาตุลญะมาอะฮ์ร่อฮิมะกุมุลลอฮ์ แล้วในซอฮิห์บุคอรีและมุสลิมหรอเปล่า? อ่านกุนูตวิติรเสียยืดยาวซึ่งถ้อยคำส่วนมากไม่มีระบุจากท่านนบี(ซ.ล.)แล้วในบุคคอรีและมุสลิมมีระบุไว้หรือเปล่า? อ่านดุอาอ์ค่อตัมอัลกุรอานในละหมาดคืนที่ 27 - 28 ของเดือนร่อมะฏอน แล้วมีหะดิษบุคคอรีและมุสลิมระบุไว้เปล่า?
แยกคำถามเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
ซึ่งผมจะตอบเท่าที่ผมมีความสามารถ และตรวจพบหลักฐานโดยจะยกหลักฐานจาก ตัวบทและคำแปลภาษาไทย "หะดีษเศาะฮิหฺ มุสลิม" เล่ม 1 แปลโดย จารึก เซ็นเจริญ ,มุฮัมหมัด พายิบ สำนักพิมพ์ อัล-อีหม่าน
(เล่มแปลไทยสีเขียว) เพื่อประโยชน์ในการค้นหาโดยง่ายของพี่น้องมุสลิมที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้
ท่านนูรุ้ลอิสลามถามว่า
1."แล้วที่วะฮาบีย์มักกะฮ์เขาทำกันน่ะ มันมีในหะดิษบุคอรีและมุสลิมหรือเปล่า เช่น ละหมาดตะฮัจยุดเป็นญะมาอะฮ์ในมัสยิดหะรอมทั้งที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่เคยทำในเดือนรอมะฏอนซึ่งในบุคอรีและมุสลิมมีเหรือเปล่า?"
ตอบ : มีหลักฐานการละหมาดในเวลากลางคืนพร้อมกับท่านนบีฯ ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม
อ้างจากส่วนที่ 18 "การละหมาดสุนัตและดุอาอฺของท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ในช่วงกลางคืน" หน้า 365 ฮาดีษลำดับที่ 737
"จากอิบนุ อับบาสเล่าว่า คืนหนึ่งฉันได้พักค้างอยู่ที่บ้านน้าสาวของฉัน คือมัยมูนะฮฺ ท่านนบี ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้ตื่นขึ้นมาในช่วงกลางคืน
ทำธุระของท่าน(หมายถึงปัสสาวะ) ล้างหน้า ล้างมือแล้วนอนอีก ต่อมาก็ตื่นอีก ท่านไปที่ถุงหนังใส่น้ำ แก้เชือกผูกออก ต่อมาท่านได้อาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์
โดยใช้น้ำน้อยแต่ก็สมบูรณ์ ต่อจากนั้นท่านก็ได้ละหมาด ฉันเองก็ลุกขึ้นละหมาดทำอย่างที่ท่านทำ โดยฉันไม่อยากให้ท่านรู้ว่า ฉันกำลังสังเกตท่านอยู่
ฉันจึงได้อาบน้ำละหมาด เมื่อท่านได้ละหมาด ฉันก็ได้ยืนละหมาดอยู่ทางซ้ายท่าน ท่านได้จับมือฉันย้ายฉันมาไว้ทางขวาท่าน ฉันได้ละหมาดตามท่านรสูล
ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม อย่างสมบูรณ์ในคืนนั้นสิบสามรอกาอัต ต่อมาท่านก็ได้เอนนอนแล้วหลับไปจนกรน เมื่อท่านหลับจนกรนนั้น ได้ยินเสียงบิล้าล
อะซานเพื่อละหมาดศุบุฮฺ ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้ลุกขึ้นละหมาด โดยไม่ได้อาบน้ำละหมาดใหม่ และท่านขอในดุอาอฺว่า อัลลอฮุมมัจอัล.........
...........นูรอน "โอ้-อัลลอฮฺ ขอได้โปรดให้หัวใจของฉันเป็นรัศมี ดวงตาของฉันเป็นเช่นรัศมี หูของฉันเป็นเช่นรัศมี ด้านขวา ซ้าย บน ล่าง หน้า หลังของฉัน
เป็นรัศมี และขอได้โปรดให้รัศมีเป็นเช่นความยิ่งใหญ่แห่งฉันด้วยเถิด" "
ฮาดีษลำดับที่ 738 หน้า 366
"จากกุรัยบฺ ผู้เคยเป็นทาสของอิบนุ อับบาสเล่าว่า อิบนุ อับบาส ได้เคยบอกกับเขาว่า คืนหนึ่งฉันได้พักค้างคืนที่บ้านของมัยมูนะฮฺ ผู้เป็นอุมมุล มุอฺมินีนซึ่ง
เป็นน้าสาวของเขา เล่าว่า ฉันได้นอนพักอยู่บนหมอนชั่วคราว ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้นอนพักเอนหลังอยู่ โดยมีครอบครัวของท่าน(ภรรยา)
นอนตามขวางอยู่ ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม นอนไปจนถึงครึ่งคืน ก่อนหรือหลังเล็กน้อย ท่านก็ตื่นขึ้น เอามือลูบหน้า (เพื่อให้หายง่วง) ต่อจาก
นั้นก็อ่านสิบอายะฮฺสุดท้ายของสูเราะฮฺอาลิอิมรอน แล้วจึงเดินไปที่ถุงหนังน้ำเก่าๆ ท่านอาบน้ำละหมาดอย่างสวยงามหมดจด แล้วละหมาดสุนัต อิบนุ อับบาส
กล่าวว่า ฉันเองก็ยืนขึ้นละหมาด ฉันทำเช่นเดียวกับที่ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ทำ (หมายถึงเรื่องอาบน้ำละหมาดและอื่นๆ) เสร็จแล้วก็ไปยืนข้างๆ
ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้เอามือขวาของท่านมาจับที่ศรีษระของฉัน จับที่หูดึงให้ฉันย้ายไปทางขวา ท่านได้ละหมาดสองรอกาอัต อีกสอง
รอกาอัต อีกสองรอกาอัต อีกสองรอกาอัต อีกสองรอกาอัต และอีกสองรอกาอัต ต่อจากนั้นได้ละหมาดวิติรฺ แล้วนอนเอนกายพัก จนกระทั่งมุอัซซินได้มา
ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม จึงได้ละหมาดสุนัต สองรอกาอัตอย่างเร็ว และได้ออกมาที่มัสยิด และได้ละหมาดศุบุฮฺ"
อ้างจากส่วนที่ 19 "การอ่านนานในละหมาดกลางคืน" หน้า 372 ฮาดีษลำดับที่ 744
"จากหุซัยฟะฮ์ (อิบนุ อัลยะมาน)เล่าว่า
คืนหนึ่งฉันได้ละหมาดพร้อมกับท่านนบี ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัมท่านเริ่มต้น (ในรอกาอัตแรกหลังฟาติหะฮฺ) ด้วยสูเราะฮฺ อัลบะกอเราะฮ์ ฉันคิดว่า ท่านรอซู้ล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม จะรุกัวอฺ ขณะที่อ่านได้ร้อยอายะฮฺแล้ว
ท่านก็ยังอ่านต่อไป (ท่านยังไม่รุกัวอฺ) ฉันจึงคิดว่าท่านคงอ่านสูเราะฮฺสำหรับรอกาอัตแรก ฉันคิดว่าท่านจะรุกัวอฺเมื่อได้อ่านจบสูเราะฮฺ ต่อมาก็เริ่มอ่านสูเราะฮฺ
อันนิสาอฺอีก แล้วอ่านสูเราะฮฺอาลิอิมรอนเป็นลำดับต่อมา โดยท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม อ่านอย่างชัดถ้อยคำ เมื่อท่านอ่านถึงอายะฮฺที่กล่าวสดุดีตัสบีหฺ
ท่านจะกล่าวตัสบีหฺ เมื่ออ่านถึงอายะฮฺที่เกี่ยวกับการขอ ท่านก็จะขอ และอ่านผ่านอายะฮฺที่ขอความคุ้มครอง ท่านก็จะขอความคุ้มครอง ต่อจากนั้นก็รุกัวะอฺ ซึ่งท่าน
รุกัวะอฺอย่างยาวนาน ปรากฏว่ารุกัวะอฺของท่านนั้นยาวนานเกือบเท่าเมื่อยืน ต่อจากนั้น(เอียะอฺติดาล) ท่านก็จะกล่าวว่า สะมิอัลลฮุ ลิมัน หะมิดะหฺ ต่อมาก็ยืนนาน
(ในช่วงเอียะอฺติดาล) เกือบเท่ากับรุกัวะอฺ แล้วจึงสุญูดโดยกล่าวในช่วงสุญูดว่า สุบหานะร็อบบิยัลอะอฺลา ซึ่งความนานในสุญูดนั้นใกล้เคียงกับการยืน"
และฮาดีษลำดับที่ 745 หน้า 373
"จากอับดุลลอฮฺเล่าว่า ครั้งหนึ่งฉันได้ละหมาดพร้อมกับท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ท่านละหมาดนานจนฉันคิดไปในทางที่ไม่ดีต่างๆ นานา
เขาเล่าอีกว่าถึงขนาดมีคนถาม(เขา)ว่า ที่ฉันคิดไม่ดีนั้นคืออะไร เขาเล่าว่า ฉันตอบว่า ฉันคิดจะนั่งลงและปล่อยท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ไว้"
2."เวลาจะละหมาดตะรอวิห์ก็จะมีคนกล่าวว่า ซ่อลาตุลญะมาอะฮ์ร่อฮิมะกุมุลลอฮ์ แล้วในซอฮิห์บุคอรีและมุสลิมหรอเปล่า?"
ตอบ : การกล่าว "ซ่อลาตุลญะมาอะฮ์ร่อฮิมะกุมุลลอฮ์" อันนี้ผมไม่แน่ใจ เพราะผมยังไม่เจอหลักฐาน อาจจะมีระบุหรือไม่ระบุไว้ก็ได้ วัลลอฮูอะลัม
แต่เข้าใจว่าที่มีบางที่ปฏิบัติ ก็อาจจะด้วยกับหลักฐานดังต่อไปนี้ และเป็นหลักฐานการละหมาดญามาอะฮ์ในเดือนรอมฏอนสำหรับข้อแรกด้วย
อ้างจากส่วนที่ 16 "ละหมาดสุนัตตะรอวีหฺ" หน้า 364 ฮาดีษที่ 735
"จากอุรวะฮฺ อิบนุ อัซซุบัยรฺ เล่าว่า อาอิชะฮฺได้บอกกับเขาว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกจากบ้านช่วงกลางดึก ท่านได้ละหมาดที่มัสยิด
โดยมีผู้คนหลายคนร่วมละหมาดกับท่าน ครั้นรุ่งเช้าผู้คนพากันพูดถึงเรื่องนี้ ผู้คนก็พากันมารวมกันมากขึ้น(ในคืนต่อมา) ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม
ได้ออกมาเป็นคืนที่สอง พวกเขาได้ละหมาดร่วมกับท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม รุ่งเช้าอีก(วันที่สาม) ผู้คนก็พากันกล่าวถึงเรื่องนี้ คนที่มามัสยิดในคืนที่สาม
ก็มากขึ้น ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกมา พวกเขาได้ร่วมละหมาดกับท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ครั้นถึงคืนที่สี่มัสยิดเต็มไปด้วยผู้คน
ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ยังไม่ได้ออกมาหาพวกเขา(ที่มัสยิด) ผู้คนคิดว่าได้รับความสำเร็จต่างพูดกันว่า "ละหมาด" แต่ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม
ก็ไม่ได้ออกมาหาพวกเขา จนกระทั่งท่านได้ออกมาละหมาดศุบุฮฺ ครั้นเมื่อละหมาดศุบุฮฺเสร็จ ท่านได้หันมาหาประชาชน พลางกล่าวตะซะฮุดและกล่าว อัมมาบะอฺด
อันที่จริงความประสงค์ของพวกท่าน ในช่วงเวลากลางคืน(ที่ผ่านมานั้น) ไม่ได้ก่อให้เกิดความวิตกอะไรกับฉันหรอก นอกจากฉันเกรงว่า ละหมาดสุนัตกลางคืน
(เดือนรอมะฎอน) จะก่อให้เกิดเป็นฟัรฎูกับพวกท่าน ซึ่งพวกท่านจะพากันลำบาก"
3."อ่านกุนูตวิติรเสียยืดยาวซึ่งถ้อยคำส่วนมาก ไม่มีระบุจากท่านนบี(ซ.ล.)แล้วในบุคคอรีและมุสลิมมีระบุไว้หรือเปล่า?"
ตอบ : การอ่านดุอาอฺกุนูตนั้นเป็นการอ่านเพื่อขอดุอาอฺให้แก่มุอฺมินทั้งหลาย แต่สาปเเช่งพวกที่ปฎิเศษทั้งหลายด้วย
ซึ่งการอ่านนี้จะอ่านในภาวะเมื่อประชาชาติมุสลิมอยู่ในอันตราย เช่น ในสงคราม ถูกกดดันหรือขมขู่ ฯลฯ แล้วแต่ละกรณี
จึงไม่มีบทคำอ่านที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นประชาชาติมุสลิมกำลังประสบกับภาวะใด และยังมีทัศนะหลายทัศนะ
โดยอ้างอิงจากหลักฐานฮาดีษเหล่านี้
อ้างจากส่วนที่ 7 "กุนูต" หน้า 321 ฮาดีษที่ 635
"จากอบู ฮุรอยเราะฮฺเล่าว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม เคยปฏิบัติใน ละหมาดศุบุฮฺ เมื่อเสร็จจากการอ่าน (ทั้งฟาติหะฮฺและสูเราะฮฺหนึ่งเเล้ว)
ตักบีรฺ โดยที่เงิยศรีษระ(จากรุกัวะอฺ)ว่า สะมิอัลลอฮุ ลิมัน หะมิดะฮฺ ร็อบบะนา วะละกัลหัมดฺ แล้วจึงกล่าวขณะที่ยืนตรงว่า อัลลอฮุมมะอันญิลวะลีด......
.............................วะรสูละฮฺ "โอ้-อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้โปรดให้ความปลอดภัยแก่อัลละลีด อิบนุ อัลวะลีด ,สะละมะฮฺ อิบนุ ฮิซาบ ,อัยยาซ อิบนุ อบี
รอบีอะฮฺ และบรรดาผู้ศรัทธามั่นที่อ่อนแอทั้งหลายด้วยเถิด โอ้-อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้โปรดให้เกิดความเข้มแข็งด้วย แรงกดดันของพระองค์ท่านต่อ
พวกมุฎอรฺด้วยเถิด และได้โปรดให้ปีของพวกเขาประดุจดังปีของนบียูสุฟด้วยเถิด โอ้-อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้โปรดงดความเมตตาต่อพวกลิหฺยาน ริอฺล ซักวาน
และอุศอยยะฮฺด้วยเถิด เพราะกลุ่มเหล่านี้ทรยศต่ออัลลอฮฺและรสูลของพระองค์" ต่อจากนั้นมีผู้เล่าว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้งดอ่านดังกล่าว
เมื่ออายะฮฺกุรอ่านที่ว่า "การนั้นหาใช่เป็นหน้าที่ของท่านแต่ประการใดไม่ ไม่ว่าพระองค์จะทรงรับการสารภาพผิดแก่พวกนั้น หรือจะทรงลงโทษพวกนั้นก็ตาม
เพราะแท้จริงพวกเขาเป็นผู้ฉ้อฉล" (3:128) "
ฮาดีษที่ 636 หน้า 322
"จากอบู ฮุรอยเราะฮฺเล่าว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันจะต้องนำเสนอ(รูปแบบ) การละหมาดของท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ต่อพวกท่านอย่างแน่นอน
(ในรูปแบบนั้น) อบู ฮุรอยเราะฮฺได้กูนูตทั้งในละหมาดซุฮุรฺ อิชาอฺและศุบุฮฺ โดยได้ขอดุอาอฺให้กับมุอฺมินทั้งหลาย แต่สาปแช่งพวกที่ปฏิเศษทั้งหลายด้วย"
ฮาดีษที่ 637 หน้า 323
"จากมุหัมหมัดเล่าว่า ฉันได้กล่าวถามอนัสว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม เคยกุนูตในละหมาดศุบุฮฺหรือไม่ อนัสตอบว่า (ท่านได้กุนูต) หลังจากรุกัวะอฺ
(ในรอกาอัตที่สอง)"
ฮาดีษที่ 638 หน้า 323
"จากอนัส อิบนุ มาลิกเล่าว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม ได้กุนูตในละหมาดศุบุฮฺ หลังจากรุกัวะอฺ(รอกาอัตที่สอง) เป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยขอให้
(อัลลอฮฺทรงลงโทษ) กับกลุ่มริอฺลและซักวานรวมทั้งกลุ่มอุศอยยะฮฺด้วย ซึ่งพวกนี้ได้ทรยศต่ออัลลอฮฺและรสูลของพระองค์"
ฮาดีษที่ 639 หน้า 323
"จากอัลบัรรออฺ อิบนุ อาซิบ เล่าว่า ท่านรสูล ซ็อลล็อลลอฮูอลัยฮิวะซัลลัม เคยกุนูตทั้งในละหมาดศุบุฮฺ และมัฆริบ (1)"
หมายเหตุ (1) ปัญหาเรื่องกุนูต
ก. ตามแนวทางของซาฟิอี ถือเป็นสุนัตในทุกๆ ละหมาดศุบุฮฺ ในละหมาดอื่นๆ นอกจากศุบุฮฺแล้วมี 3 ทัศนะ
- สุนัตเมื่อประชาชาติมุสลิมอยู่ในภาวะอันตราย เช่น ในสงคราม โรคระบาด ความหิวโหย ถูกกดดันหรือข่มขู่ ฯลฯ เช่นนี้ให้กุนูตในทุกๆ ละหมาดวาญิบ
- กุนูตในละหมาดวาญิบทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะปกติหรือภาวะอันตราย
- ไม่กุนูตในทุกละหมาด
ข. ช่วงกุนูตคือเมื่อเงยขึ้นจากรุกัวะอฺในรอการอัตสุดท้าย
ค. การอ่านดุอาอฺกุนูต สุนัตให้ยกสองมือแต่ไม่สุนัตให้ลูบใบหน้ามีเพียงบางทัศนะที่เห็นว่าอนุญาตให้ลูบหน้า และห้ามยกมือ แต่ทุกทัศนะเห็นว่าการลูบอก
ถือเป็นมักรุฮฺ ดุอาอฺกุนูตนั้นไม่มีดุอาอฺเฉพาะ ดุอาอฺที่ว่า "อัลลอฮุมมะฮฺดินี...................." เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย แต่ที่ถูกต้องคือ กุนูตนั้นเป็นเพียงสุนัต
และมิได้เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ละหมาดสมบูรณ์แต่ประการใด (ดูซะเราะฮฺ นะวะวี เล่มที่ 2 หน้า 319)
4."อ่านดุอาอ์ค่อตัมอัลกุรอานในละหมาดคืนที่ 27 - 28 ของเดือนร่อมะฏอน แล้วมีหะดิษบุคคอรีและมุสลิมระบุไว้เปล่า?"
ตอบ : สำหรับข้อนี้ผมก็ไม่ทราบ แล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติ และไม่เคยได้ยิน (ถ้าไม่ได้ปล่อยให้ผ่านหูไปโดยไม่ได้ฟัง)
ขอให้ท่านบอกรายละเอียดมาให้มากกว่านี้ เพื่อผมจะได้นำไปถามผู้รู้ท่านต่างๆ และจะได้นำไปค้นหาหลักฐานต่อไป
เพราะเท่าที่ทราบและเท่าที่เห็น ก็พบแต่เพียงว่า (อย่างเต็มที่) ก็อ่านอัลกุรอ่านคืนละยุซ จนจบสุดท้ายเมื่อคืนสุดท้ายของเดือนรอมฏอนเท่านั้น
ไม่เคยพบตามที่ท่านบอกมาแต่อย่างใด...จึงยินดีอย่างยิ่งถ้าท่านจะให้รายละเอียดที่มากขึ้นเกี่ยวกับคำถามนี้.....