ผู้เขียน หัวข้อ: อาจารย์ท่านใดบ้างในเมืองไทยที่ท่านพี่น้องชื่นชอบในดวงใจ?  (อ่าน 34532 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อิดริส

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 77
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มีอาจารย์ที่ชื่นชอบอยู่ 2 ท่านครับ 1 คือโต๊ะครูย๊ะโกบ สุมาลี ปอเนาะทุ่งจีน นครศรี เนื่องจากเคยศึกษาในปอเนาะท่านเลยได้รับทราบบุคลิกของท่านจากบรรดาลูกศิษย์ของท่านและลูกหลานท่านและโต๊ะครูอีกท่านคือโต๊ะครูแอเกาะยาวเหตุผลเนื่องจากปัจจุบันกำลังศึกษาหาวิชาความรู้กับลูกศิษย์ของลูกศิยษ์ท่านเลยได้รับทราบว่าท่านเป็นคนมีการอมัตและมีจริยวัตรที่อ่อนน้อมถ่อมตนครับ วัสลาม จากศิษย์หลายสำนัก
การเงียบคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
มีอาจารย์ที่ชื่นชอบอยู่ 2 ท่านครับ 1 คือโต๊ะครูย๊ะโกบ สุมาลี ปอเนาะทุ่งจีน นครศรี เนื่องจากเคยศึกษาในปอเนาะท่านเลยได้รับทราบบุคลิกของท่านจากบรรดาลูกศิษย์ของท่านและลูกหลานท่าน

น้องเว๊บมาสเตอร์เคยเล่าให้ฟังถึง โต๊ะครูยะโกบ สุมาลีครับ  ท่านมีลูกศิษย์เอกของสองท่านที่ทรงความรู้ คือท่านอาจารย์ โต๊ะครูอะลี และท่านอาจารย์มุฮัมมัด นูร (โต๊ะครูแหวน - หากจำไม่ผิด) ซึ่งทั้งสองท่านนี้ถอดแบบบุคลิกจากโต๊ะครูยะโกบ สุมาลีครับ  และน้องเว๊บมาสเตอร์ก็ได้หนังสือมันเต๊ก (ตรรกศาสตร์) ชัรห์ซัลลัม  ของโต๊ะครู อะลี มาด้วยครับ  ผมเห็นลายมือของท่านแล้วขลังดี  ผมนั้นชอบฟังประวัติโต๊ะครูมากๆ

ออฟไลน์ al-um

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 154
  • الأم
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 บรรดาโต๊ะครูรุ่นเก่าที่เราทั้งหลายได้เอ๋ยกันมาแล้ว ทั้งวิธีปฏิบัติตน ที่น่าจะเปนแบบอย่างแก่โต๊ะครูสมัยนี้กันอย่างไรบ้างครับ  ;D ;D
*للزكريا    الأنصاري*
      อุลามะในทัศนะวะฮาบีย์บางคนได้ทิ้งขวางความรู้ความคิดเห็นหรือผลงานของอุลามะฮ์ผู้นำมัซฮับทั้ง 4   แบบไม่ใยดี แต่กลับมาชื่นชอบทัศนะใหม่ที่มาทีหลัง ว่า ถูกต้องที่สุด..จนมันได้กลายเป็น...บิดอะดอลาละที่ลุ่มหลง.แบบตะอัศศุบ..ในทัศนะตนเองแบบสุดโต่ง แบบไม่น่าให้อภัย  และคิดว่า  ทัศนะใหม่ของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง ....นะอูซุบิ้ลลา

ออฟไลน์ kaka

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอ้าลัยกุม

อาจารย์ซักรียา  กาเหย็ม
เป็นทั้งครูและพ่อคนที่สอง
(แล้วจะหาเวลาไปเยี่ยมบาบาที่ปอเนาะนะ  อย่าพิ่งน้อยใจ ระลึกถึงบาบาเสมอ)  :)

วัสลาม

อยากทราบประวัติของท่าน อาจารย์ซักรีย กาเหย็ม  แบบพอสังเขป ครับ

บาบาซักรียา  กาเหย็ม  (โต๊ครูยา  ปอเนาะบ้านลุ่ม  อ.สะเดา )
ท่านจบการศึกษาจากนครมักกะฮ์  เท่าที่ทราบมาท่านเคยเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งไคโรมาก่อน
ลูกชายท่านคนหนึ่งก็จบจากสถาบันเก่าแก่แห่งนี้เหมือนกัน
kaka  ถือเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายในการเรียนกีตาบ ในระบบปอเนาะ เพราะ kaka  ต้องนั่งดูเพื่อนไปเรียนหนังสือไทย
ในขณะที่ตัวเองนั่งท่องกีตาบ
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสอนสายสามัญ-ศาสนา  ณ ตอนนี้
นี่คือเวบไซต์ของโรงเรียนสังคมอิสลามวิทยา 

  http://www.banloom.com/

วัสลาม


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ลูกชายท่านคนหนึ่งก็จบจากสถาบันเก่าแก่แห่งนี้เหมือนกัน
kaka  ถือเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายในการเรียนกีตาบ ในระบบปอเนาะ เพราะ kaka  ต้องนั่งดูเพื่อนไปเรียนหนังสือไทย

ผมรู้จักลูกชายของท่าน บาบอซะการียา น่ะครับ  และน้องชายของเขาอีกคนก็กำลังจะจบแล้วด้วย  อัลฮัมดุลิลลาฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
มีอาจารย์ที่ชื่นชอบอยู่ 2 ท่านครับ 1 คือโต๊ะครูย๊ะโกบ สุมาลี ปอเนาะทุ่งจีน นครศรี เนื่องจากเคยศึกษาในปอเนาะท่านเลยได้รับทราบบุคลิกของท่านจากบรรดาลูกศิษย์ของท่านและลูกหลานท่าน

บรรดาลูกศิษย์ของโต๊ะครูย๊ะโกบ  สุมาลี  ที่โดดเด่นคือ  ท่านโต๊ะครู  อะลี  (วังน้ำเย็น)  และโต๊ะครูแหวน (มุฮัมมัดนูร) ประเสริฐดำ    ซึ่งทั้งสองท่านนี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากโต๊ะครูย๊ะโกบโดยตรง  จนเป็นหนึ่งในอุลามาอ์ของภาคใต้ตอนบน 

บรรดาสานุศิษย์จะเล่าให้ผมฟังว่า โต๊ะครูแหวนนั้น  ท่านจะอยู่กับหนังสือตลอด  หากจะพูดคุยกับท่านนั้น  ท่านจะไม่คุยเรื่องดุนยานอกจากจะคุยแต่เรื่องอาคิเราะฮ์เท่านั้น   ผมเคยไปคุฏบะฮ์วันศุกร์ในมัสยิดที่ท่านได้ทำการสอนหนังสือ    เมื่อละหมาดเสร็จก็เข้าไปให้สลามพูดคุยและผมก็ถามมัสอะละฮ์ที่ค้างคาใจกับท่าน  ก็อัลฮัมดุลิลลาฮ์   คนอาเล็มมักจะสามารถคลี่คลายข้อข้องใจได้เสมอ

ส่วนโต๊ะครูอะลี (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์)  ผมได้ไปเยี่ยมและไปพูดคุยกับท่านบ่อยมาก  ท่านเป็นนักทำอิบาดะฮ์ที่หาตัวจับยากคนหนึ่งเลยทีเดียว    ผมเคยถามท่านว่า  "ท่านเคยฝันเห็นนบีบ้างไหม"  ท่านโต๊ะครูตอบว่า "เคยฝันเห็นซิ"   พอได้ยินเช่นนั้นผมก็ไม่กล้าถามต่อแล้ว   สานุศิษย์เอกของท่านเล่าให้ผมฟังว่า  บางครั้งท่านจะทำอิบาดะฮ์ในป่าสวนยาง   คืนลัยล่าตุลก๊อดดัรท่านจะเห็นบรรดาต้นไม้ทำการสุยูดต่ออัลเลาะฮ์    ในเดือนรอมะฏอนคืนหนึ่งท่านได้ฝันว่า   ท่านกำลังเดินขึ้นบันใดไปสู่ชั้นฟ้า   ซึ่งเป็นบันใดที่มีรัศมี  มีบรรดาอุลามาอ์ต่างจูงท่านเดินขึ้นไปด้วย    เมื่อตื่นขึ้นท่านจึงสั่งให้ปลุกเด็กปอเนาะทั้งหมดให้ขึ้นมาละหมาดตะฮัจญุดเพื่อวอนขอดุอาอ์ต่ออัลเลาะฮ์ในค่ำคืนนั้น 

โต๊ะครูอะลีเคยบอกผมว่า  หากท่านสุขภาพดีจะเดินทางขึ้นมาอียิปต์เพื่อมาเยี่ยมกุบูรของอิมามอัชชาฟิอีย์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ   แต่เมื่อไม่นานมานี้ท่านได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะฮ์แล้วครับ 

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
มีอาจารย์ที่ชื่นชอบอยู่ 2 ท่านครับ 1 คือโต๊ะครูย๊ะโกบ สุมาลี ปอเนาะทุ่งจีน นครศรี

ชีวประวัติท่านอัลมัรฮูม ฮัจยียะโกบ สุมาลี
   
     ท่านเป็นอูลามะอฺ (นักปราชญ์) คนหนึ่งของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในรัฐกลันตัน แต่ได้รับการศึกษาและมีครอบครัวในกลันตัน ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอูลามะอฺที่ได้สละเวลา ความรู้ เพื่อการอบรมสั่งสอนสังคมมุสลิม จนเป็นที่ยอมรับนับถือจากมุสลิมทั้งในประเทศมาเลเซียและประเทศไทย

     อาจารย์ฮัจยียะโกบ สุมาลี มีชื่อเต็มว่า ยะโกบ บิน อิสมาแอล บินอับดุร เราะห์มาน เป็นอูลามะอฺที่เชี่ยวชาญในการสอน และมีความสามารถสูงในหลายสาขาวิชาความโดดเด่นของท่านเป็นที่ยอมรับของมุสลิมในสมัยนั้น ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้ทำการสอนในมัสยิดกลางเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และมัสยิดฮารอมนครมักกะฮ์ ซาอุดิอาระเบีย ผลจากการสอนของท่านทำให้ท่านมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมากที่ได้เจริญตามแนวทางของท่านเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านต่อไป

กำเนิด

ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบ สุมาลี ได้ถือกำเนิดในวันศุกร์ เดือนมีนาคม พ.ศ.2435 เวลา 12.00 น.ที่บ้านใหม่ สี่แยกตลาดแขก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มารดาของท่านมีนามว่า อาซียะห์

การศึกษา

ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 7 ปี ท่านได้เริ่มเรียนคัมภีร์อัลกุรอ่าน และเรียนจบในขณะที่ท่านมีอายุได้เพียง 10 ปี ปู่ของท่านได้มองเห็นถึงความฉลาด จึงได้ส่งหลานรักไปเรียนต่อในเมืองอัลฟัลฎอนี (จังหวัดปัตตานี) ซึ่งในขณะนั้นเป็นที่รู้จักและยอมรับของมุสลิมว่าเป็นศูนย์กลางแหล่งความรู้ของมุสลิมในแหลมมลายู สถานที่แรกที่ท่านไปศึกษาคือ ปอเนาะฮัจยีอิบรอฮิม บือแนกูแว ซึ่งเป็นปอเนาะที่ได้รับการยอมรับจากสังคมมุสลิมเป็นอย่างสูงแห่งหนึ่งในสมัยนั้น

การศึกษาหาความรู้ศาสนา ไม่ใช่เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ง่ายในเวลาอันสั้น ด้วยเหตุนี้เองท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบจึงหมั่นเพียรและมานะอดทน ไม่ว่าจะต้องตรากตรำและ ต้องท่องจำตำราในหลายสาขาวิชา และปัญหาสำคัญคือ ปัญหาด้านภาษา ซึ่งท่านมีพื้นภาษามลายูน้อย ในขณะที่อาจารย์ใช้ภาษามลายูในการบรรยาย ท่านได้ศึกษาที่ปอเนาะแห่งนี้เป็นเวลานานถึง 14 ปี ด้วยความสามารถทั้งในด้านการเรียนและการเป็นผู้นำของท่านในระหว่างการศึกษาที่นี่ อาจารย์ของท่านจึงได้แต่งตั้งท่านให้เป็นหัวหน้ามูตอลาอะห์ ทำหน้าที่สอนให้กับศิษย์รุ่นน้อง และท่านก็ได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี เป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์อิบรอฮีม อาจารย์จึงเสนอให้ท่านไปศึกษาต่อ ณ ปอเนาะโต๊ะครูกนาลี รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย อูลามะอฺผู้มีชื่อเสียงสูงสุดในคาบสมุทรมลายูในสมัยนั้น

ในปีพ.ศ.2456 ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 21 ปี ท่านก็ได้เดินทางไปศึกษากับโต๊ะครูกนาลี เพียงในเวลาไม่กี่ปี โต๊ะครูกนาลีได้ให้ความใว้วางใจให้เเป็นตัวแทนท่านในการตอบปัญหาศาสนาอยู่เสมอ จากการบอกเล่าของบรรดาศิษย์ของโต๊ะครูกนาลีได้เล่าว่า ปัญหาศาสนาที่มีผู้มาสอบถามโต๊ะครูกนาลีนั้น โต๊ะครูกนาลีมักมอบหมายให้ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบเป็นผู้ตอบแทนท่านเป็นส่วนใหญ่

การสอน

หลังจากการศึกษาที่ปอเนาะโต๊ะครูกนาลี 5 ปี ท่านจึงได้รับความไว้วางใจอีกครั้งจากโต๊ะครูกนาลีให้ได้ไปสอน ณ มัสยิดกลาง (มัสยิดมูฮัมมาดีย์) เมืองโกตาบารู มัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของบรรดานักปราชญ์แทบทั่วสารทิศ ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบได้เริ่มสอนในมัสยิดแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2462 เป็นอาจารย์ประจำพร้อมกับอาจารย์ของท่าน (โต๊ะครูกนาลี) และนักปราชญ์อีกหลายคน ชีวิตของท่านในเมืองโกตาบารูหมดไปกับการสอนหนังสือ เริ่มเช้าตรู่ของทุกวันจรดเที่ยง หลังซุอริท่านกลับบ้านพักผ่อน แล้วกลับมาสอนอีกครั้งหลังอัสริ สอนจนถึงเย็น ช่วงค่ำก็สอนหนังสือมิได้เว้น ในระหว่างสอนท่านมักจะสอดแทรกคติสอนใจและมีการเล่าเรื่องคลายเครียดสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานบ้างในบางครั้ง จึงทำให้บรรดาศิษย์ไม่เบื่อหน่ายในการเรียน และชอบที่จะเรียนกับท่าน

บุคลิกภาพ

ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบ มีบุคลิกลักษณะถ่อมตน ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ชอบโพกผ้าสารบั่น เมื่ออยู่บ้านมักจะสวมเสื้อคอกลม เมื่อออกจากบ้านจะมีเสื้อนอกคอตั้งสวมทับ มีเข็มขัดเส้นใหญ่สีเขียวคาดทับผ้าโสร่ง เดินถือไม้เท้าทักทายผู้คน ท่านชอบการคบหาสมาคมกับคนรอบด้าน เป็นคนรักการอ่านหนังสือและสอนหนังสือ ชอบการถกเถียงปัญหาด้านศาสนา ชีวิตประจำวันของท่านส่วนใหญ่ถ้าไม่สอนหนังสือ ท่านก็มักจะอยู่กับตำรา

ตามคำบอกเล่าจากฮัจยีฮุสเซน สุมาลี เมื่อใดที่ท่านมีเวลาว่าง เมื่อไม่ได้สอน และไม่ได้อยู่กับตำรา ท่านก็มักจะไปตกปลากับบรรดาศิษย์ เมื่อได้ปลามา ท่านจะเป็นคนปรุงอาหารให้บรรดาศิษย์ได้ทานกันอย่างทั่วถึง หลังจากนั้นก็จะสอนและถกเถียง ตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาศาสนากัน ท่านเป็นคนร่าเริง จึงเป็นที่รักยิ่งของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย

ภารกิจ

ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบ สุมาลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาอูลามะอฺของรัฐกลันตัน ด้วยรัฐบาลกลันตันได้เล็งเห็นถึงความรู้และบทบาทที่ท่านได้สละให้กับมุสลิมกลันตันมาโดยตลอด ท่านได้ประสิทธิ์ประศาสน์วิชาความรู้ จนกระทั่งมีศิษย์เป็นจำนวนมาก มีทั้งที่เป็นอูลามะอฺในสังคมที่รับผิดชอบภารกิจงานศาสนา ท่านฮัจยียะโกบ สุมาลี ได้ใช้ชีวิตกับการเผยแพร่อิสลามจนเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่ว ในบรรดาศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียงในขณะที่สอนที่โกตาบารู ได้แก่ เช็ค อิดรีส มัรบาวี ผู้แต่งกอมูส (พจนานุกรม) มัรบาวี, ฮัจยี ฮะซัน ยูนุส (ผู้พิพากษารัฐยะโฮ), ฮัจยี อุสมาน ดาวูด (ผู้พิพากษารัฐปาหัง) เป็นต้น

หลังจาก 17 ปีผ่านไปกับการทำหน้าที่สอนศาสนาในมัสยิดกลาง โกตาบารู ในปีพ.ศ. 2479 ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบพร้อมกับลูกชายคนแรกของท่านคือฮัจยีฮุสเซน สุมาลี ได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์ ขณะที่อยู่ในนครมักกะฮ์ ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบได้ถูกเรียกร้องให้ทำการสอนหนังสือในมัสยิดฮารอม ท่านจึงสอนอยู่ที่มัสยิดฮารอม นครมักกะฮ์เป็นเวลา 3 ปี ปีพ.ศ.2482 ท่านเดินทางกลับเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และท่านเห็นว่ามาตุภูมิของท่านที่นครศรีธรรมราชยังไม่มีสถานที่สอนศาสนาเหมือนกับที่ปัตตานีและโกตาบารูรัฐกลันตัน ท่านจึงตั้งใจเดินทางกลับมาตุภูมิ เพื่อรับผิดชอบภารกิจในฐานะที่เป็นผู้รู้ที่ต้องรับผิดชอบสังคมมุสลิมตลอดไป

ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านได้เริ่มสอนที่บ้านตาลเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นต้องย้ายสถานที่สอนหลายครั้งตามคำเชิญของชาวบ้าน จากบ้านตาลย้ายไปสอนที่บ้านนาเคียน เป็นเวลา 5 ปี ย้ายไปบ้านวัดโหนด 1 ปี แล้วมาสร้างปอเนาะถาวรที่บ้านทุ่งจีน ในการสอนประจำที่ปอเนาะบ้านทุ่งจีนนั้น ท่านยังคงต้องเดินทางไปสอนตามหมู่บ้านต่างๆอยู่เสมอ นอกจากการสอนแล้ว ท่านยังรับหน้าที่เป็นประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย

สำหรับการสอนที่ปอเนาะนั้น ท่านได้มอบให้ลูกชายของท่าน คือ ฮัจยีฮุสเซน สุมาลี รับผิดชอบในการสอนแทนท่าน

ครอบครัว

ในระหว่างที่ท่านทำการสอนที่มัสยิดกลางโกตาบารูนั้น ท่านได้แต่งงานครั้งแเรกกับฮัจยะฟาตีมะฮ์ บินตี ฮัจยีดาวุด บุตรีของฮัจยีดาวุด ซึ่งเป็นสมาชิกสภาอูลามะอฺของรัฐกลันตันและสอนที่มัสยิดดังกล่าวด้วย ท่านมีบุตรกับฮัจยะฮ์ ฟาตีมะฮ์ 7 คน (ชาย 5 คน หญิง 2 คน) และแต่งงานครั้งที่ 2 ที่นครมักกะฮ์กับฮัจยะฮ์ไซหนับ บินตี ฮัจยีหมัดดียะฮ์ มีบุตรชาย 1 คน (ต่อมาได้หย่ากัน) และแต่งงานครั้งที่ 3 กับฮัจยะฮ์ซารีป๊ะฮ์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีบุตร 10 คน (ชาย 9 คน หญิง 1 คน)

กลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์อัลเลาะห์

ตลอดชีวิตของท่าน ท่านได้ใช้ชีวิตเพื่อการศึกษา เพื่อสังคมมุสลิมโดยการอบรมสั่งสอนจนลมหายใจสุดท้าย ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบ สุมาลี ได้ถึงแก่กรรมในเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2514 ด้วยโรคความดันโลหิตสูง รวมอายุของท่าน79 ปี

ท่านอาจารย์ฮัจยียะโกบไม่ได้แต่งหนังสือไว้มากนัก เพราะท่านใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการสอนหนังสือมากกว่าการเขียนหนังสือ เท่าที่มีก็เพียงบทความสั้นๆ ที่ไม่ได้พิมพ์ ส่วนหนังสือของท่านที่ได้พิมพ์เป็นหนังสือ มีนามว่า "นูร อัล ซาลาม" แต่งเสร็จในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2478 พิมพ์ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย หนังสือของท่านที่แต่งขึ้นนี้มีเรื่องเกี่ยวกับรุก่นอีหม่าน ซีฟัตวายิบ สำหรับอัลเลาะห์และรอซูล และยังมีเกี่ยวกับการชักจูงให้มนุษย์ได้ประกอบแต่ความดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งอิสลาม เพื่อจะได้เป็นบ่าวที่ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์

โรงเรียนมุสลิมสันติธรรมปอเนาะโต๊ะครูแก่
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
อจ.ที่กล่าวมาทั้งที่อยู่ภาคกลาง ภาคใต้..ส่วนทมากผมเองเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านครับบางคนก็เคยจับมือสลามทักทายแต่บางคนก็ได้ยิยและพเห็นแค่ทางสื่อต่างๆๆ

เอ..แล้วอาจารย์ที่มีชื่อเสียงแถวภาคเหนือและภาคอีสานนละครับมีใครบ้าง............ชักอยากรู้แล้วซิ..

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ก็ดีเหมือนกันนะครับที่เราจะได้รู้จักบรรดาอาจารย์กันมากขึ้นแม้จะไม่ได้เจอกันก็ตาม  ขอให้ได้ยินชื่อเสียงก็พอแล้วคร๊าบบบบบบบบ  :D

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
โต๊ะครูปอเนาะดาลอ  ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาจารย์ผม  ประวัติพอสังเขปเป็นไงบ้างครับอยากฟังเหมือนได้  ได้ข่าวว่ามีจารเข้เผือกด้วย

ออฟไลน์ al-um

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 154
  • الأم
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
แล้วยังมีประวัติทีท่โต๊ะครูดาลอสมันึงโค่นต้นตะเคียนใครรู้บ้างเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
 ;) ;)
*للزكريا    الأنصاري*
      อุลามะในทัศนะวะฮาบีย์บางคนได้ทิ้งขวางความรู้ความคิดเห็นหรือผลงานของอุลามะฮ์ผู้นำมัซฮับทั้ง 4   แบบไม่ใยดี แต่กลับมาชื่นชอบทัศนะใหม่ที่มาทีหลัง ว่า ถูกต้องที่สุด..จนมันได้กลายเป็น...บิดอะดอลาละที่ลุ่มหลง.แบบตะอัศศุบ..ในทัศนะตนเองแบบสุดโต่ง แบบไม่น่าให้อภัย  และคิดว่า  ทัศนะใหม่ของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง ....นะอูซุบิ้ลลา

ออฟไลน์ อิดริส

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 77
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
โต๊ะครูเดช  กำพวน เป็นผู้จัดระเบียบความรู้ทางศาสนาให้ชาวระนองเป็นลูกศิษย์โต๊ะครูยะโกบทุ่งจีนรุ่นเดียวกับครูแหวนและใครมีพจนานุกรมไทย-มาลายูบ้างครับหรือมีขายที่ไหนบ้างครับอยากหาซื้อไว้สักเล่มเอาไว้แปลเวลาอ่านภาษามลายูแล้วติดนะครับ ติดต่อผ่านเวปนี้ได้ครับ อ่านทุกวัน
การเงียบคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด

ออฟไลน์ kaka

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ลูกชายท่านคนหนึ่งก็จบจากสถาบันเก่าแก่แห่งนี้เหมือนกัน
kaka  ถือเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายในการเรียนกีตาบ ในระบบปอเนาะ เพราะ kaka  ต้องนั่งดูเพื่อนไปเรียนหนังสือไทย

ผมรู้จักลูกชายของท่าน บาบอซะการียา น่ะครับ  และน้องชายของเขาอีกคนก็กำลังจะจบแล้วด้วย  อัลฮัมดุลิลลาฮ์

ใช่  ลืมน้องฮาซันไปได้ไง  อัลฮัมดุลิลลาฮ์  น้องฮาซันเป็นเด็กดีเรียนเก่งมาโดยตลอด  :)

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เราเชย อยู่คนเดียว ไม่มีชื่ออาจารย์ มาฝากเค้าเลย
 ;D ;D  รู้จักแต่ อาจารย์ แม่  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 18, 2007, 05:58 PM โดย หนูอยากรู้ »
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ kaka

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เราเชย อยู่คนเดียว ไม่มีชื่ออาจารย์ มาฝากเค้าเลย
 ;D ;D  รู้จักแต่ อาจารย์ แม่  ;D

ยังดีที่คุณหนูอยากรู้  ไม่รู้จักแม่อาจารย์ด้วย 
ไม่งั้นคงรู้ว่า คุณหนูอยากรู้ อยู่ในวัยไหน  ;D

 

GoogleTagged